ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หมอธี เผยจีนประสบปัญหา เจอโควิด-19 ระบาดรอบ 2 รักษายากกว่าเดิม
    w=540&h=282&url=https%3A%2F%2Fspcdn.springnews.co.th%2Fwp-content%2Fuploads%2F2020%2F03%2Fp1-209.jpg
    ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ศาสตราจารย์สาขาประสาทวิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวโดยระบุว่า…

    ที่ประเทศจีนหลังจากที่ประเทศสะอาดแล้วเกิดระลอกใหม่ จากต่างประเทศซึ่ง “อาจจะ” รักษายากกว่าธรรมดา น่าจะบ่งบอกถึงการปรับตัวของไวรัสจากการแพร่ไปยังพื้นที่อื่นๆ และในระยะเวลาต่างๆ และแสดงหน้าตาในรูปแบบที่เปลี่ยนไป

    เนื้อหาทางด้านล่างนี้ มีท่านผู้รู้สรุปมาครับ ขอบคุณมากๆ:

    เริ่มเกิดระบาด Covid-19 ขึ้นแล้วในประเทศจีน เป็นรอบที่ 2 ซึ่งคาดว่าน่ารุนแรงกว่าเดิม
    เพราะในการระบาดรอบที่สองนี้ ยาฟาวิพิราเวียร์ ( Favipiravir) ที่เคยใช้อยู่เดิมในรอบแรก
    เพียงอย่างเดียว น่าจะเอาไม่อยู่ เพราะเจ้าไวรัสนี้คงจะมีการพัฒนาตัวเองเพื่อการอยู่รอดของเจ้าตัวเชื้อไวรัสโควิดเอง

    การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของวันนี้จำนวน 74 เคสที่หลายหน่วยงานที่รับผิดชอบได้ประเมินว่า… สถานการณ์น่าเป็นห่วง
    เพราะที่เกิดขึ้นมาของ 74 รายใหม่ไม่ได้จากที่เดียวกันแต่เกิดขึ้นในลักษณะที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ประกอบด้วย
    31 เคส เกิดในปักกิ่ง
    14 เคส เกิดในกวางโจว
    9 เคส เกิดในเซียงไฮ้
    5 เคส เกิดในฟูเจี๋ยน
    4 เคส เกิดในเทียนจิน
    3 เคส เกิดในจิงซู
    2 เคส เกิดในซินเจียงและเสฉวน
    1 เคส เกิดใน Shanxi, Liaoning, Shandong and Chongqing
    และคาดว่า
    กว่า 80% ไม่ได้คัดกรอง

    The post หมอธี เผยจีนประสบปัญหา เจอโควิด-19 ระบาดรอบ 2 รักษายากกว่าเดิม appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์
    https://www.springnews.co.th/social/636771
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เอาใจ แรงงานนอกระบบ กรมการจัดหางาน ปล่อยกู้ยืม 3 แสนบาท
    &w=540&h=282&url=https%3A%2F%2Fspcdn.springnews.co.th%2Fwp-content%2Fuploads%2F2020%2F03%2Fooo-7.jpg
    วันนี้ (26 มี.ค. 63) – นายสุชาติ พรชัยวิเศษกุล อธิบดีกรมการจัดหางาน เปิดเผยว่า กรมการจัดหางาน เร่งส่งเสริมอาชีพให้กับแรงงานนอกระบบ ที่ว่างงาน ในรูปแบบของการรับงานไปทำที่บ้าน โดยให้ผู้ที่สนใจเป็นผู้รับงานได้รวมกลุ่มกัน โดยผู้จ้างงานจะส่งงานให้ผู้รับงานไปทำที่บ้านได้ทำการผลิต ประกอบ บรรจุ ซ่อมหรือแปรรูปสิ่งของ ตามที่ได้ตกลงกับผู้จ้างงานไว้ที่บ้านของตนเองหรือสถานที่ที่มิใช่สถานประกอบกิจการของผู้จ้างงาน ซึ่งเมื่อทำเสร็จแล้วจะส่งคืนสิ่งของหรือผลิตภัณฑ์ให้กับผู้จ้างงาน และได้รับค่าตอบแทนจากผู้จ้างงาน ลักษณะงานจะเป็นงานที่ไม่ใช้เทคโนโลยีซับซ้อน เรียนรู้ง่าย ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ใช้แรงงานคนทำการผลิตมากกว่าเครื่องจักร เป็นการผลิตในครัวเรือนเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งการให้งานของผู้จ้างงานจะเป็นการตัดขั้นตอนบางขั้นตอนหรือชิ้นส่วนของงานบางชิ้นจากกระบวนการผลิตในสถานประกอบกิจการไปทำการผลิตหรือผลิตทั้งหมด เช่น งานตัดเย็บ (เสื้อผ้า กระเป๋า ผ้าห่ม พรมเช็ดเท้า เสื้อผ้าตุ๊กตา ถุงมือ เปล เครื่องนอน เป็นต้น) งานประดิษฐ์ (ดอกไม้ประดิษฐ์ ตุ๊กตา เครื่องประดับ ร้อยลูกปัด) งานปัก ถัก ทอ (ถักวิกผม ทอผ้า ทอพรม ทอเสื่อ ปักผ้าคลุมผม ปักเลื่อม เป็นต้น) งานหัตถกรรม (จักสานต่างๆ ทำไม้กวาด เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น) อุปโภค/บริโภค รวมทั้งของใช้อื่นๆ

    นอกจากนี้ ยังมีกองทุนเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน ซึ่งเป็นกองทุนหมุนเวียนเพื่อให้ผู้รับงานไปทำที่บ้านได้กู้ยืมไปซื้อวัตถุดิบและอุปกรณ์การผลิต หรือขยายการผลิตเพื่อสร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างยั่งยืน โดยคุณสมบัติของผู้กู้จะต้องเป็นผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน และมีผลการดำเนินการและมีรายได้จากการรับงานไปทำที่บ้านหรือมีหลักฐานการรับงานไปทำที่บ้านจากผู้จ้างงาน ซึ่งมีทั้งประเภทบุคคลและกลุ่มบุคคล โดยประเภทบุคคลต้องมีทรัพย์สินหรือเงินทุนไม่น้อยกว่า 5,000 บาท ส่วนประเภทกลุ่มบุคคลจะต้องมีผู้นำกลุ่มและสมาชิกกลุ่มกู้ร่วมกันไม่น้อยกว่า 5 คน มีทรัพย์สินหรือเงินทุนในการดำเนินกิจกรรมของกลุ่มรวมกันไม่น้อยกว่า 10,000 บาท วงเงินกู้สำหรับบุคคลไม่เกิน 50,000 บาท ระยะเวลาชำระคืนภายใน 2 ปี ขณะที่กลุ่มบุคคลมีวงเงินกู้ไม่เกิน 300,000 บาท ระยะเวลาชำระคืนภายใน 5 ปี อัตราดอกเบี้ยต่ำร้อยละ 3 ต่อปี และมีระยะเวลาพักชำระหนี้เงินต้นไม่เกิน 4 เดือน

    “ตั้งแต่ปี 2548 ที่เริ่มดำเนินการ จนถึงขณะนี้ มีผู้รับงานไปทำที่บ้านที่จดทะเบียนกับกรมการจัดหางานแล้วจำนวน 947 ราย/กลุ่ม (292ราย 655 กลุ่ม) สมาชิกรวมจำนวน 5,904 คน ปล่อยกู้ไปแล้ว 451 ราย/กลุ่ม (17 ราย 434 กลุ่ม) จำนวนเงิน 44,686,000 บาท สำหรับปี 2563 นี้ ได้รับอนุมัติให้ปล่อยกู้ จำนวน 7,000,000 บาท ปล่อยกู้ไปแล้ว 14 ราย/กลุ่ม (5 ราย 9 กลุ่ม จำนวนเงิน 1,740,000 บาท) ยังมีเงินคงเหลือที่สามารถปล่อยกู้ได้อีกจำนวน 5,260,000 บาท ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่ สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10 สำนักงานจัดหางานจังหวัดในท้องที่ที่ผู้รับงานไปทำที่บ้านได้จดทะเบียนไว้กับกรมการจัดหางาน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกระทรวงแรงงาน โทร.1506 กด 2 กรมการจัดหางาน” อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าว

    The post เอาใจ แรงงานนอกระบบ กรมการจัดหางาน ปล่อยกู้ยืม 3 แสนบาท appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์
    https://www.springnews.co.th/thailand/636736
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โควิด-19 คร่าชีวิตชาวสเปนกว่า 3,000 ราย แซงหน้าจีนแล้ว
    =540&h=282&url=https%3A%2F%2Fspcdn.springnews.co.th%2Fwp-content%2Fuploads%2F2020%2F03%2Fspain12.jpg
    กระทรวงสาธารณสุขสเปน แถลงว่า นับถึงวันที่ 25 มี.ค. 63 จำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ในประเทศแตะที่ 3,434 คน หลังจากเพิ่มขึ้น 738 คนในรอบวันที่ผ่านมา ขณะที่จำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นกว่า 5,500 คนมาอยู่ที่ 47,610 คน

    ยอดเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมีขึ้นในช่วงที่สเปนเข้าสู่การล็อกดาวน์ทั่วประเทศเป็นวันที่ 11 เพื่อพยายามยับยั้งการระบาดของไวรัสมรณะนี้

    สเปนนับเป็นประเทศที่ 2 ที่มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 แซงหน้าจีนแผ่นดินใหญ่ ต่อจากอิตาลีซึ่งขณะนี้มีผู้เสียชีวิตกว่า 6,800 คน เทียบกับจีนที่มีผู้เสียชีวิต 3,281 คน
    https://www.springnews.co.th/global/636767
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รับมือ ‘โควิด 19’ เซอร์เบีย ตั้ง รพ. ชั่วคราวขนาด 3 พันเตียงตามคำแนะนำจีน
    %2F2020%2F03%2F%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B5%E0%B8%A2.jpg
    แถลงการ์จากกระทรวงกลาโหมเซอร์เบียระบุว่ากองทัพเซอร์เบียได้ตระเตรียมเตียงผู้ป่วยภายในศูนย์จัดแสดงสินค้าเบลเกรด เมื่อวันอังคาร (24 มี.ค.) เพื่อรองรับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่อาจเพิ่มขึ้น

    อเล็กซานดาร์ วูลิน รัฐมนตรีกระทรวงฯ และทีมเจ้าหน้าที่การแพทย์ของจีน 6 คน ซึ่งเดินทางมาช่วยต่อสู้โรคระบาดในเซอร์เบีย ได้ตรวจตราปฏิบัติการดังกล่าว โดยมีการฆ่าเชื้อโรคก่อนประกอบเตียงทั้งหมด 3,000 หลัง

    “เราได้เตรียมพร้อมเตียงราว 3,000 หลัง เพื่อรองรับผู้ป่วยหากโรคระบาดขยายวงกว้าง” วูลินกล่าว พร้อมเสริมว่ามีการปรึกษากับคณะแพทย์จากจีน เพื่อความมั่นใจว่าโรงพยาบาลชั่วคราวแห่งนี้มีสิ่งจำเป็นครบถ้วน

    วูลินเผยว่ากองทัพเซอร์เบียจะดูแลความปลอดภัยของสถานพยาบาลชั่วคราวแห่งนี้ สถานที่ต่างๆ ที่มีพลเรือนพำนักอยู่เพื่อการกักกันโรค รวมถึงค่ายผู้อพยพ สถาบันดูแลสุขภาพขนาดใหญ่ และด่านข้ามพรมแดน

    ก่อนหน้านี้วูลินได้พบปะกับคณะผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ของจีน ซึ่งเดินทางเยือนสถาบันการแพทย์ทหารเพื่อบรรยายเกี่ยวกับโรคโควิด-19

    ปัจจุบันเซอร์เบียตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 จำนวน 303 ราย โดยรัฐบาลประกาศดำเนินมาตรการตรวจสอบและคัดแยกผู้ป่วยแล้ว

    https://www.springnews.co.th/global/636770
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ออสเตรเลีย ยอดคนป่วย โควิด 19 พุ่งทะลุ 2 พันรายแล้ว
    F03%2F%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%AA%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%A2.jpg
    ขณะนี้ยอดผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันว่าติดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของออสเตรเลีย พุ่งสูงกว่า 2,000 รายแล้ว

    ข้อมูลล่าสุดจากสำนักงานสาธารณสุขของออสเตรเลียเผยว่าจนถึงช่วงเช้าวันพุธ (25 มี.ค.) ออสเตรเลียมีผู้ป่วยทั้งสิ้น 2,252 ราย เพิ่มขึ้นร้อยละ 23 จาก 1,823 ราย ที่รายงานไปเมื่อช่วงเช้าของวันอังคาร (24 มี.ค.)

    หากจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 23 ต่อวันเช่นนี้ต่อไป ยอดผู้ป่วยของออสเตรเลียจะพุ่งสูงถึง 5,000 ราย ในวันอาทิตย์นี้ (29 มี.ค.) ซึ่งหมายความว่าผู้ป่วยเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 350 ภายใน 7 วัน

    ปัจจุบันรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW) รายงานยอดผู้ป่วยแล้ว 1,029 ราย กลายเป็นรัฐแรกในรัฐและดินแดนทั้ง 8 แห่งของออสเตรเลียที่มีผู้ป่วยทะลุ 1,000 ราย

    ช่วงคืนวันอังคารที่ผ่านมา (24 มี.ค.) รัฐบาลออสเตรเลียสั่งห้ามการเดินทางระหว่างประเทศและยกระดับข้อจำกัดการรวมตัวกันของผู้คนให้เข้มงวดยิ่งขึ้น พร้อมทั้งออกประกาศเตือนไม่ให้จัดกิจกรรมกลางแจ้ง ที่มีคนเข้าร่วมมากกว่า 10 คน ซึ่งรวมถึงงานศพและงานแต่งงาน

    นายกรัฐมนตรีสกอตต์ มอร์ริสัน แถลงในวันพุธ (25 มี.ค.) ว่าตนและผู้นำของรัฐและดินแดนต่างๆ “ตระหนักดี” ถึง “มูลค่ามหาศาลที่ต้องเสียไปกับมาตรการเหล่านี้”

    “ผมขอย้ำต่อประชาชนออสเตรเลียอีกครั้งว่าบรรดาผู้นำ คณะรัฐมนตรี และตัวผม มิได้บรรลุมติเหล่านี้โดยง่ายดาย” เขากล่าวพร้อมย้ำว่า “เราดำเนินมาตรการเหล่านี้ เพื่อปกป้องชีวิต (ของประชาชน)”
    https://www.springnews.co.th/global/636746
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สหรัฐฯ จะถึงจุดพีค ของการระบาดโควิด 19 ในอีก 3 สัปดาห์ ขณะที่ติดเชื้อแล้วกว่า 6 หมื่นราย
    8%B1%E0%B8%90-%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%9419_%E0%B8%95%E0%B8%B2%E0%B8%A2-944-FB.jpg
    ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาของสหรัฐฯ ไอรา ลองกินี ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยรัฐฟลอริดา แนะศูนย์ควบคุมโรคของสหรัฐฯ คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตในประเทศ จะถึงจุดพีค ในอีก 3 สัปดาห์ ความเสียหายจะเกินขึ้นมาก และสิ่งที่ทำได้อาจเป็นเพียงแค่แยกกลุ่มเสี่ยงออกมา และอนุญาตให้คนส่วนใหญ่กลับไปทำงาน

    ลองกินีระบุว่า ผลกระทบจากสถานการณ์ที่จะเลวร้ายลง เป็นไปได้ 2 แบบ อย่างแรกคือจำนวนผู้ป่วยวิกฤตท่วมท้นระบบบริการสุขภาพ ที่ตอนนี้ก็แทบจะรับมือผู้ป่วยหนักไม่ไหว อย่างที่ 2 คือ อาจต้องทำแบบที่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวก่อนหน้านี้ว่าคงต้องข้อจำกัดการเดินทางในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

    ประธานาธิบดี ทรัมป์ กล่าวกับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่า เขาหวังว่า สหรัฐฯ อาจกลับมาเปิดเหมือนเดิมเดือนหน้า ก่อนช่วงวันอีสเตอร์ “อีสเตอร์เป็นวันพิเศษสำหรับผม… และโบสถ์ทั่วประเทศจะหนาแน่นไปด้วยผู้คน”

    นอกจากนี้ ทรัมป์ยังเตือนว่าถ้าประเทศไม่กลับสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด สหรัฐฯจะเข้าสู่ภาวะถดถอย หรือความตกต่ำทางเศรษฐกิจครั้งใหญ่

    ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐฯ พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วถึงกว่า 66,000 รายแล้ว เป็นอันดับสามของโลก ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 944 ราย โดยพื้นที่ที่มีการระบาดหนักที่สุดคือนิวยอร์ก ที่มีผู้ติดเชื้อแล้วถึงกว่า 3 หมื่นราย และเสียชีวิต 285 ราย

    ทางการนิวยอร์กระบุว่า ถึงตอนนี้ มีเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ รวมถึงที่เกษียณอายุไปแล้ว อาสาเข้ามาช่วยตามสถานพยาบาลต่างๆ ถึงราว 40,000 คน และในอีกไม่ช้า ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจถึง 30,000 เครื่อง ซึ่งตอนนี้มีอยู่ราว 4,000 เครื่อง อย่างไรก็ตาม ได้ทำการจัดซื้อเพิ่มแล้วอีก 7,000 เครื่อง

    ขอบคุณภาพ: xinhuathai

    The post สหรัฐฯ จะถึงจุดพีค ของการระบาดโควิด 19 ในอีก 3 สัปดาห์ ขณะที่ติดเชื้อแล้วกว่า 6 หมื่นราย appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์
    https://www.springnews.co.th/global/636741
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สถาบันสิ่งทอวางมาตรฐานผ้าทำหน้ากาก
    dFQROr7oWzulq5FZUErYaA6CvafCrQJh2X55mpuKd26fppBqFPa3uqvtHU0oMeuin4G.jpg
    นายชาญชัย สิริเกษมเลิศ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ เปิดเผยว่า สถาบันฯได้ออกประกาศมาตรฐานและคุณสมบัติในการผลิตหน้ากากอนามัยชนิดผ้า เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมาตรฐานดังกล่าวจะใช้กับผ้าทุกชนิดที่ผู้ประกอบการต้องการนำมาผลิต เพื่อเรียกความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ต้องการซื้อไปใช้ในชีวิตประจำวัน ผู้ที่มาขอใบรับรองมาตรฐานของผ้าที่จะนำไปตัดเย็บ หากผ่านการตรวจสอบก็มีสิทธิใช้เครื่องหมาย Smart Fabric (หน้ากากผ้า) ที่สถาบันฯจะออกใบรับรองให้

    “มาตรฐานและคุณสมบัติของผ้าที่ได้กำหนดไว้มีอาทิ สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก 0.5 ไมครอน ไม่น้อยกว่า 65% และยังสามารถกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ได้, การซึมผ่านได้ของอากาศ (1-50 ซีซี ต่อพื้นที่ตารางเซนติเมตรต่อวินาที) โดยหากอากาศยิ่งผ่านได้มากประสิทธิภาพ การป้องกันฝุ่นละอองไอจามก็จะยิ่งน้อยลง, ความคงทนของสีต่อการซักอยู่ระดับปานกลาง, คุณภาพของสีสารเคมีที่ใช้ย้อมและคุณภาพผ้า ต้องปลอดภัยไม่มีสารก่อมะเร็งผู้ประกอบการสามารถยื่นเรื่องและชนิดผ้าให้สถาบันตรวจสอบ โดยใช้เวลา 7 วัน”.

    https://www.thairath.co.th/news/bus...LFceJo1u7eVs4I0SxD_oho1Z4zGsPtv2TIg9OxDR7EWyc
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หมายเหตุประเทศไทย : อู่ฮั่นหลังพิชิตสงครามไวรัส ขยะทางการแพทย์ล้นเมือง
    dFQROr7oWzulq5FZUErgOc1gvI9thn4ed2xKrXDB6kadQodeRZ1jolOq5MsjvkWwtYs.jpg
    โคโรนา ไวรัสโควิด–19 สร้างความสะพรึงกลัวไปทั้งโลก นับจากนี้พฤติกรรมการใช้ชีวิตของมนุษย์จะไม่เหมือนเดิมอีก อย่างน้อยก็จนกว่าจะมีการพัฒนาวัคซีนสำเร็จ องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ร่วมงานกับคณะนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเร่งพัฒนาวัคซีน มีความก้าวหน้าอย่างดี แต่ยังต้องใช้เวลาอีกไม่ต่ำกว่า 1 ปี จึงจะนำออกมาใช้กับประชาชนได้ เพราะต้องมีการทดลองทางคลินิก และผ่านการอนุมัติด้านความปลอดภัย

    ส่วนจีนซึ่งมีข้อมูลและความเข้าใจเกี่ยวกับไวรัสตัวนี้มากที่สุด มีข่าวว่าคิดค้นวัคซีนได้แล้ว อยู่ระหว่างทดลองทางคลินิก ทดสอบกับอาสาสมัครจากเมืองอู่ฮั่น เชื่อว่าจะพัฒนาเป็นวัคซีนอย่างสมบูรณ์ภายในสิ้นปีนี้

    จีนเป็นประเทศแรกที่บอบช้ำจากไวรัสโควิด กว่าจะเอาชนะได้ก็สังเวยชีวิตผู้คนไปไม่น้อย วันนี้อู่ฮั่นกลับมาเปิดเมืองได้แล้ว อย่างไรก็ตาม สงครามไวรัสครั้งนี้ได้ทิ้ง ซากขยะทางการแพทย์กองมหึมา เป็นปัญหาที่ต้องตามจัดการให้เรียบร้อย

    เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ รายงานอ้างการเปิดเผยของกระทรวงสิ่งแวดล้อมจีนว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ส่งผลให้ปริมาณขยะทางการแพทย์ ใน 28 เมืองใหญ่ทั่วประเทศ เพิ่มสูงจนเกินขีดความสามารถที่จะทำลายทิ้ง โดยเฉพาะเมืองอู่ฮั่น มีขยะทางการแพทย์มากกว่าช่วง เวลาปกติ 6 เท่า หรือกว่า 240 ตันต่อวันในช่วงพีกของการแพร่ระบาด เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ 40 ตันต่อวัน


    นายเจ้า คุนหยิง ผอ.ฝ่ายรับมือเหตุฉุกเฉินกระทรวงสิ่งแวดล้อม เผยว่า รัฐบาลมีคำสั่งนำ เครื่องกำจัดขยะการแพทย์เคลื่อนที่ 46 เครื่อง มาใช้งานที่เมืองอู่ฮั่น พร้อมเร่งสร้าง โรงงานกำจัดขยะทางการแพทย์ เพิ่มเติมภายใน 15 วัน ซึ่งโรงงานแห่งใหม่จะรองรับปริมาณขยะได้ 30 ตันต่อวัน จะทำให้การกำจัดขยะทางการแพทย์ในอู่ฮั่นเพิ่มจาก 50 ตันต่อวัน เป็น 263 ตันต่อวัน

    พอจะเห็นสัญญาณเตือนภัยกันแล้วใช่ไหมครับ “หน้ากากอนามัย” ก็เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยปกติแพทย์พยาบาลใส่ตอนปฏิบัติหน้าที่ในโรงพยาบาล ใช้เสร็จก็ทิ้งใน ถังขยะเฉพาะสำหรับขยะทางการแพทย์ แล้วบริษัทรับกำจัดขยะจะนำไปทำลายทิ้งด้วยวิธีพิเศษ ต้องผ่านการฆ่าเชื้อก่อนเผาเพื่อป้องกันเชื้อโรคกระจายออกสู่สาธารณะ

    ตอนนี้คนไทยทั้งประเทศใช้หน้ากากอนามัยป้องกันไวรัสกันทั่ว ปัญหาคือไม่รู้ว่าใครติดเชื้อบ้าง และเวลาทิ้งก็ทิ้งรวมกับขยะทั่วไป ไม่มีการคัดแยกทิ้งเป็นขยะปนเปื้อนเชื้อโรค

    ผมเห็นข่าวคนไทยมีน้ำใจช่วยบริจาคหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ อุปกรณ์ทางการแพทย์แทบทุกวัน ขอยอมรับว่าไม่ได้รู้สึก เอะใจอะไรเลยตอนที่ คุณทวี และคุณไพบูลย์ จุลศักดิ์ศรีสกุล รองประธานกรรมการ คิงส์แพ็ค อินดัสเตรียล จำกัด สองพี่น้องเจ้าของถุงพลาสติกยี่ห้อ Hero ไปบริจาค ถุงพลาสติกสีแดงสำหรับ ใส่ขยะอุปกรณ์ทางการแพทย์ 1 ล้านชิ้น ให้แก่กระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลทั่วประเทศ แค่มีคำถามแว้บขึ้นในหัวว่าต้องใช้ถึง 1 ล้านชิ้นเชียวหรือ แต่พอได้รู้ข่าวขยะพิษในอู่ฮั่นก็เข้าใจกระจ่างทันทีว่าถุงขยะสีแดงที่บริจาคไป 1 ล้านชิ้น ก็ยังไม่เพียงพออยู่ดี และเป็นห่วงว่า โรงงานกำจัดขยะทางการแพทย์ในประเทศจะมีเพียงพอกับปริมาณขยะหรือเปล่า

    ตอนนี้บ้านเรากำลังหน้าสิ่วหน้าขวานเร่งควบคุมการแพร่ระบาด ภาครัฐคงไม่มีเวลาและสรรพกำลังมาป้องกันปัญหาขยะทางการแพทย์ล้นเมือง ผมอยากขอให้พวกเราชาวบ้านช่วยกันคนละไม้คนละมือ เอาหน้ากากอนามัยแยกทิ้งขยะต่างหากดีไหมครับ.

    https://www.thairath.co.th/news/for...ns0UjNRdBOEXeS0gLrYEIvwLI9pE2RTF32IkncOwAPnjE
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ช็อก รองหัวหน้าผู้แทนอังกฤษในฮังการี เสียชีวิต หลังติดเชื้อโควิด-19
    รองหัวหน้าคณะผู้แทนสหราชอาณาจักรในฮังการี เสียชีวิตแล้ว หลังจากเขาติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่กำลังแพร่กระจายไปทั่วโลก
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

    www.thairath.co.th%2Fmedia%2FdFQROr7oWzulq5FZUErYadcueQAH9r9zovWrgAa0KijWUVBo7myrqPniIXl7I3LOwzy.jpg

    https://www.thairath.co.th/news/for...PoJviR3Mw3Z2OwhNVd1PYXuyGlRPhTz3AyOvFSdbCjLL8
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ลุงวัย 63 จู่ๆ ไข้ขึ้นกลางสถานีรถไฟหาดใหญ่ จนท.เร่งพาไปรพ.ตรวจโควิด-19
    พบผู้ป่วยอาการเข้าข่ายติดเชื้อโควิด-19 ที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ เจ้าหน้าที่ต้องใส่ชุดป้องกันนำตัวไปตรวจสอบที่รพ.หาดใหญ่
    Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

    www.thairath.co.th%2Fmedia%2FdFQROr7oWzulq5FZUErYadhMAsrltVOmjv2Mj6J1O1FOpAdUM7Ty9Wg7S66mREqeYQg.jpg

    https://www.thairath.co.th/news/loc...62Ud_1CIq86Zzc6PaY9ekMa9mwR2laouSMz_X2ORVmFuc
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    GISTDA สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน)

    #ภูมิอากาศ VS #โควิด-19
    47324581888_o.jpg?_nc_cat=109&_nc_sid=8024bb&_nc_ohc=KsMR5T2Gwa4AX8pbEpz&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg
    ก่อนหน้านี้ เชื่อว่าหลายคนต่างคาดหวังไว้ว่า อากาศร้อนในเดือนเมษายนที่กำลังจะมาถึงนี้จะเป็นพระเอกขี่ม้าขาวมาช่วยบรรเทาสถานการณ์การระบาดของเชื้อโคโรน่าไวรัส หรือ โควิด-19 แต่กลับต้องมาอกหักเมื่อองค์การอนามัยโลกออกมาประกาศเมื่อต้นเดือนมีนาคมว่า “ไม่พบหลักฐานว่าอากาศร้อนจะสามารถยับยั้งไวรัสได้”
    .
    เพียงหลังจากนั้นไม่นาน มีนักวิจัยจำนวนหนึ่งศึกษาหาความสัมพันธ์ระหว่างการดำรงอยู่ของไวรัสและลักษณะสภาพภูมิอากาศ โดยอาศัยเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศร่วมกับข้อมูลจากแหล่งที่มีความน่าเชื่อถือ มาดูกันว่าผลการศึกษาจะทำให้เราเข้าใจโควิด-19 มากขึ้นเพียงใด
    .
    จากการศึกษาร่วมกันระหว่างนักวิทยาศาสตร์จากอเมริกาและอิหร่าน โดยใช้ข้อมูลภูมิอากาศของกลุ่มเมืองที่เกิดการระบาดของไวรัสโคโรน่าอย่างหนัก เปรียบเทียบกับกลุ่มเมืองที่ไม่เกิดการระบาด และหาความสัมพันธ์ของอุณหภูมิและความชื้นที่มีผลต่อการอยู่รอดและการแพร่กระจายของโคโรน่าไวรัส บนสมมุติฐานที่ว่า “สภาพภูมิอากาศอาจจะเป็นปัจจัยสำคัญในการแพร่กระระบาดของ COVID-19”
    .
    ผลการศึกษาได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา พบว่าเมื่อพิจารณารูปแบบระบาดของไวรัสโคโรน่าในเชิงพื้นที่หรือบนแผนที่ (ดูแผนที่ประกอบ >> http://bit.ly/2U1O9EI) จะเห็นว่ามีลักษณะการกระจายตัวในแนวทิศตะวันออก-ตะวันตก ไปตามเมืองที่ตั้งอยู่ประมาณช่วงละติจูดที่ 30 - 50 องศาเหนือ ได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น จีน อิหร่าน อิตาลี(ตอนเหนือ) สเปน ฝรั่งเศส และ ทางตอนเหนือของอเมริกา
    .
    กลุ่มประเทศที่กล่าวมาทั้งหมด ล้วนเป็นพื้นที่ที่มีสภาพอากาศที่คล้ายคลึงกัน ณ ช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกัน โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยช่วงต้นปีอยู่ที่ประมาณ 5 - 11 องศาเซลเซียส (บริเวณแถบโทนสีเขียวบนแผนที่อุณหภูมิพื้นผิวโลก ช่วงเดือน พ.ย. 61 - มี.ค. 62 >> http://bit.ly/2IU94Dl) และมีความชื้นสัมบูรณ์อยู่ที่ 4-7 กรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งรูปแบบการกระจายตัวของพื้นที่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ที่เป็นตามเงื่อนไขของ ที่ตั้ง อุณหภูมิและความชื้นดังกล่าวข้างต้น นับได้ว่ามีความสอดคล้องกับพฤติกรรมของเชื้อไวรัสตามฤดูกาลตัวอื่นๆ ที่ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ
    .
    นอกจากนั้นยังพบว่า ณ ช่วงเวลาเดียวกันในพื้นที่ทางตอนเหนือของกลุ่มประเทศที่กล่าวมาข้างต้น หรือในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า 5 องศาถึงติดลบ อาทิ รัสเซียและมองโกเลีย เป็นต้น พบว่ามีการระบาดของเชื้อไวรัสน้อยมาก เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศในแถบอุณหภูมิเฉลี่ยระหว่าง 5-11องศา หรือแม้กระทั่งทางตอนใต้ลงมาในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่า 11 องศา หรือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก็มีจำนวนตัวเลขผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตน้อยกว่าอีกด้วย
    .
    นักวิทยาศาสตร์ยังแนะนำเพิ่มเติมอีกว่า จากข้อมูลการศึกษาดังกล่าวเมื่อมาประยุกต์ใช้กับแบบจำลองสภาพอากาศ จะทำให้ทราบพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงต่อการระบาดของ COVID-19 ในอนาคตอันใกล้นี้ได้ ซึ่งก็ได้แก่กลุ่มประเทศดังต่อไปนี้ แถบแมนจูเรีย ประเทศจีน, แถบเอเชียกลาง, แถบยุโรปตะวันออก, ยุโรปกลาง, เกาะอังกฤษ, สหรัฐอเมริกาทางแถบตะวันออกเฉียงเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือและรัฐบริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนนาดา (บริเวณแถบโทนสีเขียวขอบดำบนแผนที่อุณหภูมิพื้นผิวโลก ช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย. 62 >> http://bit.ly/3a5Gye4 )
    .
    เนื่องจากช่วงนี้แถบประเทศซีกโลกเหนือกำลังเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ อุณหภูมิโดยทั่วไปในซีกโลกเหนือจะค่อยๆสูงขึ้น ส่งผลให้อากาศเย็นถอยขึ้นไปทางเหนือเป็นผลให้กลุ่มประเทศดังกล่าวกลายเป็นพื้นที่เสี่ยง ซึ่งสอดคล้องกับการศึกษาของนักวิจัยชาวโปรตุเกสที่ได้พัฒนาแบบจำลองสภาพภูมิอากาศรายเดือนที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของโคโรน่าไวรัส และพบค้นพบว่าคนที่อาศัยในเขตอากาศอบอุ่นถึงอากาศหนาวมีความเสี่ยงมากกว่าเขตแห้งแล้งและเขตอากาศร้อนชื้น
    .
    แบบจำลองดังกล่าวได้รับการเผยแพร่เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 ซึ่งพัฒนาจากข้อมูลอุณหภูมิพื้นผิวโลกและข้อมูลปริมาณน้ำฝนของแต่ละเดือนในรอบหนึ่งปี (ดูแบบจำลอง >> http://bit.ly/3d9ezMz ) พบว่าเขตที่มีสภาพอากาศเหมาะสมต่อการเจริญเติบโตและแพร่กระจายของไวรัสโคโรน่าภายนอกร่างกายมนุษย์ คือบริเวณที่เป็นช่วงรอยต่อระหว่างเขตอากาศอบอุ่นและอากาศหนาว และปัจจุบันสภาพอากาศดังกล่าว มีแนวโน้มเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือ
    .
    จากผลการศึกษา สามารถสรุปได้ว่ามาตรการการกักตัวที่นำมาใช้ในกลุ่มประเทศที่อยู่ในแถบภูมิภาคเขตแห้งแล้งจะได้ผลที่ดีกว่ากลุ่มประเทศในเขตอบอุ่นถึงเขตหนาว และแน่นอนว่าภูมิอากาศเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของการดำรงอยู่ของไวรัสนอกร่างกายมนุษย์ แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆที่เราต้องระวังเพื่อควบคุมไวรัสให้ได้ เช่น ความหนาแน่นของประชากร การเชื่อมโยงและพฤติกรรมของมนุษย์
    .
    ส่วนเขตร้อนชื้นซึ่งประเทศไทยก็อยู่ในเขตนี้ หากพิจารณาสภาพอากาศแบบกลางแจ้ง พบว่าเป็นสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยให้โคโรน่าไวรัสจะสามารถเติบโตได้อย่างเต็มที่หากอยู่นอกร่างกายมนุษย์ ส่งผลให้การแพร่ระบาดไม่รวดเร็วและรุนแรงเหมือนในเมืองในแถบซีกโลกเหนืออย่างที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้หมายความจะไม่มีความเสี่ยงเลย เพราะสภาวะอากาศในอาคารหรือห้องปรับอากาศก็เป็นปัจจัยเสริมให้ไวรัสแพร่กระจายได้อยู่ดี
    .
    มาถึง ณ วันนี้ อาจจะยังเร็วไปหากเราจะบอกว่าแบบจำลองดังกล่าวมีความน่าเชื่อถือ เนื่องจากเพิ่งจะพัฒนาขึ้นมาได้ไม่นาน ยังคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะในการพิสูจน์ความถูกต้อง แต่นักวิจัยได้ให้ความสำคัญกับการตอบสนองในยามวิกฤติต้องการความรวดเร็วเป็นสำคัญ เพื่อเป็นข้อมูลให้ผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจ ลดความเสี่ยง ลดสูญเสีย และลดตัวเลขผู้เสียชีวิต
    .
    หากแบบจำลองดังกล่าวเป็นจริง นับได้ว่าประเทศไทยเราก็โชคดีเพราะทำเลที่ตั้งทางภูมิศาสตร์อีกครั้งหนึ่ง คือไม่ตั้งอยู่ในโซนสภาพอากาศที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส แม้ว่าความร้อนที่แผดเผาในช่วงเมษาจะหยุดการระบาดไม่ได้แต่อย่างน้อยก็ช่วยชะลอความรุนแรงของสถานการณ์
    .
    แต่ทว่าข้อมูลเป็นเพียงส่วนสนับสนุน ที่ยังไม่พอจะสามารถหยุดยั้งการระบาดในครั้งนี้ได้ สิ่งสำคัญที่สุด คือ “การลงมือทำ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือหยุดทุกพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดอย่างจริงจัง เป็นหนทางออกทางเดียวที่ถึงเวลาที่จะต้องร่วมมือกันข้ามผ่านวิกฤติครั้งนี้ไปด้วยกัน

    อ้างอิง
    - Matt Ho. (2020, March 13). Scientists found regions hit hard by coronavirus share similar climate. Retrieved March 16, 2020, from inkstonenews.com
    - Sajadi, M.,Habibzadeh, P., Vintzileos, A., Shokouhi, S., Fernando, M., & Amoroso, A. (2020, March 9). Temperature and Latitude Analysis to Predict Potential Spread and Seasonality for COVID-19 Retrieved March 16, 2020, from papers.ssrn.com
    - Areajo, M. & Naimi, B.. (2020, March 11). Spread of SARS-CoV-2 Coronavirus likely to be constrained by climate. Retrieved March 15, 2020, from medrxiv.org
    - Berkeley L. & Noah H. (2020, March 6). It’s a ‘false hope’ coronavirus will disappear in the summer like the flu, WHO says. Retrieved March 15, 2020, from CNBC.com

    #จิสด้าก้าวสู่ปีที่20 #จิสด้า #GISTDA

    ttps://www.facebook.com/gistda/photos/a.10150141503351265/10157793968546265/?type=3&theater

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ช่างศุภวิชญ์ จูเปรมปรี

    ห้อง 62 ภาคพิ้นแปซิฟิก ได้รับรายงาน ประเทศจีนตรวจพบโรคคล้ายๆ โควิด เบื้องต้น ระบาดจากหนู เสียชีวิตแล้ว 1 ราย ติดเชื้อ 3 ราย อยุ่ระหว่างเฝ้าระวัง/ ห้อง 62

    upload_2020-3-26_13-0-46.png
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนตื่นหนุ่มดับ อาการคล้ายโควิด พบติดเชื้อไวรัสฮันทา

    hantavirus-1.jpg

    25 มี.ค. 2563-16:13 น.

    จีนตื่นหนุ่มดับ อาการคล้ายโควิด ติดเชื้อไวรัสฮันทา
    จีนตื่นพบหนุ่มดับ - เมื่อ 25 มี.ค. เดลีเมล์ รายงานว่า เกิดกระแสความตื่นตระหนกในเครือข่ายสังคมออนไลน์จีน หลังเกิดเหตุพบผู้โดยสารบนรถขนส่งมวลชนเสียชีวิตคาที่ ขณะกำลังเดินทางไปทำงานที่มณฑลชานตง ภาคตะวันออก อาการคล้ายโควิด-19

    ผลการชันสูตรพบว่า ผู้เสียชีวิตติดเชื้อไวรัสฮันทา ซึ่งมีอาการป่วยคล้ายโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 แต่มีความรุนแรงกว่ามาก


    hantavirus-2.jpg

    เหตุการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดความตื่นตระหนกไปทั่วโลกออนไลน์ของจีนและ #hantavirus เป็นเทรนด์ที่มีผู้ติดตามบนทวิตเตอร์จำนวนมาก

    ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า ไวรัสฮันทา ไม่ใช่ไวรัสชนิดใหม่ แต่เป็นไวรัสที่มีหนูเป็นพาหะ และมีโอกาสติดต่อสู่มนุษย์ต่ำมาก แต่มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 38

    แพทย์หญิงสุไมยา ไชค์ ผู้เชี่ยวชาญจากสวีเดน ระบุว่า ไวรัสฮันทา พบครั้งแรกระหว่างสงครามเกาหลีปี 2493 ที่แม่น้ำฮันทัน โดยจะติดต่อสู่มนุษย์หากสิ่งปนเปื้อนสารคัดหลั่งหนูเข้าสู่ร่างกายเท่านั้น ดังนั้นไม่มีความจำเป็นต้องกังวลหากไม่ไปกินหนู

    https://www.khaosod.co.th/around-the-world-news/news_3820420
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Too Young to Die

    การฟอกขาวครั้งใหญ่ของGreat Barrier Reef ครั้งที่ 3 ในรอบ 5 ปี
    63036798976_o.jpg?_nc_cat=109&_nc_sid=110474&_nc_ohc=bD0qQGnDP6UAX8dDhIN&_nc_ht=scontent.fbkk6-2.jpg
    การเกิดปะการังฟอกขาวใน Great Barrier Reef ซึ่งถือเป็นแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลกจะถึงจุดสูงสุดในสัปดาห์นี้

    ศาสตราจารย์ Terry Hughes จาก ARC Centre of Excellence of Coral Reef Studies กล่าวว่า การฟอกขาวครั้งนี้รุนแรงกว่าปี 1998,2002 และอาจสูสีกับครั้งที่ใหญ่ที่สุดปี 2016-2017 นี่ถือเป็นการฟอกขาวครั้งใหญ่ครั้งที่สามในรอบ 5 ปี

    จากการสำรวจพบว่า สัปดาห์ที่ผ่านมาปะการังกว่า500 แนวตามแนวชายฝั่ง ระหว่าง Torres Strait ถึง Cairns ได้เกิดการฟอกขาวอย่างรุนแรง และจากภาพดาวเทียมแสดงให้เห็นว่าปะการังเหล่านี้จะอยู่ในภาวะความเครียดจากความร้อน ทั้งๆที่โดยปกติแล้วปะการังไม่ทนความร้อน ซึ่งนั่นจะนำไปสู่การฟอกขาวครั้งใหญ่ บริเวณที่ได้ผลกระทบมากที่สุดคือใจกลางและด้านใต้ของแนวปะการัง

    น่าเศร้าที่ปะการังบริเวณ Tully และ Townsville ปีนี้ถูกฟอกขาวไปแล้ว ทั้งๆที่สามารถฟื้นตัวจากปี 2016-2017 และยังมีบริเวณทางตอนใต้ที่ยังสำรวจไม่หมด คาดว่าได้รับผลกระทบรุนแรงเช่นกัน บางบริเวณที่ไม่เคยโดนฟอกขาวเลยในปี 2016-2017 ได้ถูกฟอกขาวไปเรียบร้อยแล้วได้แก่ที่ Heron Island และ Hydrographers Passage

    Dave Wachenfeldหัวหน้านักวิทยาศาสตร์จาก Great Barrier Reef Marine Park Authority กล่าวว่า"การฟอกขาวในตอนนี้ เป็นสัญญานเตือนครั้งใหญ่ที่เกิดกับปะการัง โดยมีสาเหตุจากภาวะโลกร้อน"

    ภาวะความเครียดจากความร้อนเกิดตามแนวปะการังในช่วงฤดูร้อนนี้ โดยในเดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิพื้นผิวสูงขึ้นกว่าปกติถึง 1.25 เซลเซียส ซึ่งนั่นสูงที่สุดตั้งแต่มีการจดบันทึกในปี1900 นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า มหาสมุทรได้รับผลกระทบจากการสะสมความร้อนของก๊าซเรือนกระจกในชั้นบรรยากาศ ซึ่งมาจากการเผาผลาญพลังงานฟอซซิล

    การฟอกขาวเกิดขึ้นถ้าน้ำมีอุณหภูมิสูง ส่วนการอยู่รอดของปะการังก็ขึ้นอยู่กับอุณหภูมินั้นสูงแค่ไหนและความร้อนคงอยู่นานแค่ไหน โดยปะการังแต่ละชนิดจะทนความร้อนได้ไม่เท่ากัน

    ในปี2016-2017 ปะการังมรดกโลกเหล่านี้ ได้เกิดการฟอกขาวซ้ำแล้วซ้ำเล่า นั่นทำให้ปะการังกว่าครึ่งต้องตายลงในช่วง 2ปี นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งส่วนมากผลกระทบเกิดขึ้นกับแนวปะการังด้านเหนือ ต่างกับครั้งนี้ที่เป็นด้านใต้

    ถึงแม้ว่าการฟอกขาว ไม่ได้หมายถึงว่าปะการังจะต้องตาย แต่มันเป็นการส่งสัญญาณว่าปะการังกำลังมีปัญหาและต้องการความช่วยเหลือ

    Great Barrier Reef กินพื้นที่กว่า 133,000 ตารางไมล์ เป็นแนวปะการังที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแหล่งที่อยู่ของปลากว่า 1500 สปีชีส์ เป็นแหล่งของปะการังและสิ่งมีชีวิตอื่นๆกว่า 411 สปีชี่ส์ มูลค่าทางเศรษฐกิจของออสเตรเลียอยู่ที่ 5.6 พันล้านต่อปี เป็นแหล่งสร้างอาชีพรายได้แก่ประชากรกว่าหมื่นคน

    https://www.theguardian.com/environ...C7wgqwyqkdsGPojMEetgaZoi9FlxfWGCd_nem_JOA1Zco

    https://www.theguardian.com/environ...DAbIdk5NEk-SZ6nm1cCYDfK5FvJ5y8JsFIUZYHU-_Mtmg

    https://edition.cnn.com/2020/03/25/...aeOqfooQnHj3QMXEM393UsODpHs-OQyCaM_1-3ZGYSO6Q
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แพทย์-พยาบาล รพ.บันนังสตา ติดเชื้อโควิด 19 จนท.ถูกกักตัวเพียบ
    l0&w=476&h=249&url=https%3A%2F%2Fspcdn.springnews.co.th%2Fwp-content%2Fuploads%2F2020%2F03%2Ftai.jpg
    สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา ออกหนังสือประกาศ ระบุว่า โรงพยาบาลบันนังสตา รายงานพบบุคลากรติดเชื้อโควิด 3 ราย เป็นพยาบาล 2 ราย และแพทย์ 1 ราย ทั้งนี้ได้กักตัวบุคลากร 21 รายไว้ที่บ้าน เพื่อเฝ้าระวังและดูอาการ

    โรงพยาบาลบันนังสตา มีแพทย์ทั้งสิ้น 8 คน และถูกกักตัว 6 คน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา ได้แจ้งโรงพยาบาลบันนังสตา ดำเนินการตามมาตรการที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน กรณีโรคโควิด-19 ดังนี้

    – งดบริการผ่าตัดปกติ ผ่าตัดเฉพาะกรณีฉุกเฉิน

    – เลื่อนนัดผู้ป่วยโรคเรื้อรังตามเงื่อนไขความเจ็บป่วยเพื่อลดการแพร่หรือรับเชื้อ

    – งดหรือเลื่อนการให้บริการทางรังสีวิทยาไม่เร่งด่วนทุกชนิด

    – งดบริการการนวดแพทย์แผนไทย งานทันตกรรมให้บริการเฉพาะกรณีฉุกเฉินและเร่งด่วน

    – บุคลากรของโรงพยาบาลทุกกลุ่ม ทุกคน หากมีไข้ มีอาการหวัด (ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก) ให้หยุดงานอยู่กับบ้านและแจ้งหัวหน้างานทราบทันที พร้อมทั้งรายงานผ่านทางคิวอาร์โค้ด เพื่อติดตามและสอบสวนโรคต่อไป ห้ามไปรับบริการที่คลินิกไข้หวัดที่จัดสำหรับประชาชน

    นอกจากนี้จัดแพทย์จากทุกโรงพยาบาลใน จ.ยะลา ไปช่วยบริการในโรงพยาบาลบันนังสตา วันละ 3 คน ระยะเวลาประมาณ 7 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 เป็นต้นไป หรือจนกว่าแพทย์ของบันนังสตาจะกลับมาตรวจได้ตามปกติ

    The post แพทย์-พยาบาล รพ.บันนังสตา ติดเชื้อโควิด 19 จนท.ถูกกักตัวเพียบ appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์
    https://www.springnews.co.th/thailand/south/636974
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มาตรการเยียวยา “ธุรกิจ-คน” จากกระทรวงการคลัง
    &w=540&h=282&url=https%3A%2F%2Fspcdn.springnews.co.th%2Fwp-content%2Fuploads%2F2020%2F03%2F000-2.jpg
    กระทรวงการคลังได้ออก มาตรการเยียวยา คน ที่รับผลกระทบ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โรคโควิด-19 โดยแผนเยียวยา ในระยะที่ 1 ออกมาตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2563 เป็นมาตรการช่วย “ประชาชน” 5 มาตรการ และช่วย “ผู้ประกอบการ” 12 มาตรการ และในระยะที่ 2 ช่วย “แรงงานลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม” 8 มาตรการ และ ช่วย “ผู้ประกอบการ” อีก 7 มาตรการ

    มาตรการระยะที่ 1

    มาตรการ ระยะที่ 1 ที่ออกไปแล้ว โดยมติคณะรัฐมนตรี 10 มีนาคม 2553 12 มาตรการดูแลและเยียวยา “ประชาชน”

    โดยเป็นมาตรการที่จะช่วย “เพิ่มสภาพคล่อง” 1 มาตรการ
    1) ค่าเสี่ยงภัยในบุคลากรการแพทย์
    – แพทย์ – สัตวแพทย์ ผลัดละ 1,500 บาท/คน
    – พยาบาลและอื่นๆ ผลัดละ 1,000 บาท/คน

    โดยเป็นมาตรการที่จะช่วย “ลดภาระ” 4 มาตรการ
    2) บรรเทาภาระการจ่ายค่าน้ำค่าไฟ คืนค่าประกันการใช้ไฟ

    3) ลดเงินสบทบเข้ากองทุนประกันสังคมของนายจ้างและลูกจ้าง
    – ม.33 จาก 5% เหลือ 4%
    – ม.39 จาก 9% เหลือ 7%

    4) ลดภาระค่าธรรมเนียมค่าเช่าค่าตอบแทนในการให้บริการส่วนของราชการและรัฐวิสาหกิจ
    ยกเว้นค่าเช่าที่ราชพัสดุ 1 ปีให้กับผู้เช่าประเภทผู้อยู่อาศัยและเกษตรกร

    5) สร้างความเชื่อมั่นในระบบตลาดทุน
    เพิ่มวงเงินกองทุน SSF 2 แสนบาท เป็น 4 แสนบาท

    มาตรการ ระยะที่ 1 ที่ออกไปแล้ว โดยมติคณะรัฐมนตรี 10 มีนาคม 2553 12 มาตรการดูแลและเยียวยา “ผู้ประกอบการ”

    โดยเป็นมาตรการที่จะช่วย “เพิ่มสภาพคล่อง” 7 มาตรการ
    1) สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ 150,000 ล้านบาท
    อัตราดอกเบี้ย 2% 2 ปี สินเชื่อไม่เกิน 20 ลบ./ราย

    2) พักต้นเงินสดดอกเบี้ย และขยายระยะเวลาชําระหนี้แก่ ลูกหนี้ฯ ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ

    3) ธปท. ผ่อนคลายหลักเกณฑ์ การปรับโครงสร้างหนี้

    4) สินเชื่อเพื่อส่งเสริม การจ้างงานของประชาชน
    วงเงินสินเชื่อรวม 30,000 ลบ. ดอกเบี้ยเริ่มต้น 3% ระยะเวลา 3 ปี

    5) คืนสภาพคล่องให้แก่ผู้ประกอบการในประเทศ
    ลดอัตรา ภาษีหัก ณ ที่จ่าย จาก 39% เหลือ 1.5% (เม.ย. – ก.ย. 53)

    6) เร่งคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ประกอบการส่งออก
    – กรณียื่นแบบทางอินเตอร์เน็ต ได้รับคืนภายใน 15 วัน
    – กรณียื่นแบบปกติได้รับคืนภายใน 45 วัน

    7) เพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายเงินงบประมาณ ปี 2563
    – กรมบัญชีกลางได้ผ่อนปรนหลักเกณฑ์การจัดซื้อจัดจ้าง
    – ปรับลดขั้นตอน ระยะเวลาดําเนินการ

    โดยเป็นมาตรการที่จะช่วย “ลดภาระ” 5 มาตรการ
    8) หักเพิ่มภาษีดอกเบี้ยจ่าย จาก 1 เท่า เป็น 1.5 เท่า
    (Soft loan 15,000 ล้านบาท)

    9) บรรเทาภาระการจ่ายค่าน้ำค่าไฟและคืนค่าประกันการใช้ไฟ

    10) ลดเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคม ของนายจ้างและลูกจ้าง
    – ม.33 จาก 5% เหลือ 4%
    – ม.39 จาก 9% เหลือ 7%

    11) ไม่ปลดแรงงาน
    หักรายจ่าย ค่าจ้างงานได้ 3 เท่า

    12) บรรเทาภาระค่าธรรมเนียม ค่าเช่า ค่าตอบแทนการให้บริการของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ
    เลื่อนการจ่ายค่าเช่าที่ราชพัสดสําหรับผู้เข้าประเภทผู้ประกอบการในธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง

    มาตรการระยะที่ 2
    8 มาตรการดูแลและเยียวยา
    “แรงงานลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระ ที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม ซึ่งได้รับผลกระทบจากไวรัส COVID-19”

    โดยเป็นมาตรการที่จะช่วย “เพิ่มสภาพคล่อง” 4 มาตรการ
    1) สนับสนุนเงิน คนละ 5,000 บาทต่อเดือนเป็นเวลา 3 เดือน
    – ให้เงินเยียวยาแรงงานลูกจ้าง ลูกจ้างชั่วคราว อาชีพอิสระที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม จากการปิดที่เสี่ยงต่อการระบาดชั่วคราว
    – จํานวน 3 ล้านคน
    สําหรับผู้อยู่ในระบบประกันสังคม
    เพิ่มสิทธิกรณีว่างงาน 50% ของค่าจ้าง โดย
    1 กรณีนายจ้างไม่ให้ทํางาน รับเงินไม่เกิน 180 วัน
    2 กรณีรัฐสั่งหยุด รับเงินไม่เกิน 90วัน

    2) สินเชื่อฉุกเฉิน 10,000 บาทต่อราย
    – วงเงินรวม 40,000 ลบ.
    – อัตราดอกเบี้ย 0.1% ต่อเดือน
    – ไม่ต้องมีหลักประกัน

    3) สินเชื่อพิเศษ 50,000 บาทต่อราย
    – วงเงินรวม 20,000 ล้านบาท
    – อัตราดอกเบี้ย 0.35% ต่อเดือน
    – ต้องมีหลักประกัน

    4) สนง. ธนานุเคราะห์ รับจํานําดอกเบี้ยต่ำ
    – วงเงินรวม 2,000 ล้านบาท
    – คิดดอกเบี้ยจากประชาชน ในอัตราไม่เกิน 0.125% / เดือน

    โดยเป็นมาตรการที่จะช่วย “ลดภาระ” 3 มาตรการ
    5) ยึดการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
    เลื่อนกําหนดเวลาการยื่นแบบและชําระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาออกไปเป็นสิงหาคม 2563

    6) หักลดหย่อนเบี้ยประกันสุขภาพเพิ่มขึ้น
    เพิ่มวงเงินลดหย่อนคําเบี้ยประกันสุขภาพจาก 15,000 บาท เป็น 25,000 บาท

    7) ยกเว้นภาษีเงินได้สําหรับค่าเสี่ยงภัยให้บุคคลากรทางการแพทย์

    โดยเป็นมาตรการที่จะช่วย “เพิ่มทักษะ” 1 มาตรการ
    8) ฝึกอบรมมีเงินใช้
    – ฝึกอบรม เพิ่มทักษะอาชีพ หรือจัดกิจกรรมเพื่อสังคม รวมถึงนักศึกษาที่ยังหางานไม่ได้
    – ขยายฝึกอบรมผ่านภาคี เครือข่าย เช่น มูลนิธิ โครงการอันเนื่องมาจาก พระราชดําริ กองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง กระทรวง อว. เป็นต้น

    มาตรการระยะที่ 2
    7 มาตรการดูแลและเยียวยา “ผู้ประกอบการซึ่งได้รับผลกระทบจาก ไวรัส COVID-19”

    โดยเป็นมาตรการที่จะช่วย “เพิ่มสภาพคล่อง” 1 มาตรการ
    1) สินเชื่อรายย่อย ไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อราย
    – วงเงินสินเชื่อรวม 10,000 ลบ. โดย ธพว.
    – ให้สินเชื่อต่อรายไม่เกิน 3 ลบ. ดอกเบี้ย 3% 2 ปีแรก

    โดยเป็นมาตรการที่จะช่วย “ลดภาระ” 6 มาตรการ
    2) ยืดการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคล
    – ภ.ง.ด. 50 จากเดิม พ.ศ. 63 ออกไปเป็นภายใน 31 ส.ค. 63
    – ภ.ง.ด. 51 จากเดิม ส.ค. 63 ออกไปเป็นภายใน 30 ก.ย. 63

    3) ยืดการเสียภาษีสรรพากร เช่น VAT ภาษีธุรกิจเฉพาะ และอื่น ๆ ให้ ผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ
    เลื่อนกําหนดเวลายื่นแบบและชําระภาษีทุกประเภท 1 เดือน

    4) ยืดการเสียภาษี สรรพสามิตให้กิจการสถานบริการ
    เลื่อนการยื่นแบบและชําระภาษีสถานบริการ ออกไป 3 เดือน ตั้งแต่ 1 มี.ค. – 31 พ.ค. 63 ให้เสียภาษี 15 ก.ค. 63

    5) ยึดการเสียภาษีสรรพสามิต ให้ผู้ประกอบการ อุตสาหกรรมน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน
    – เลื่อนการยื่นแบบและชําระภาษีภายใน 10 วันเป็นภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไป
    – ระยะเวลา 3 เดือน

    6) ยกเว้นอากรขาเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการป้องกัน และรักษา COVID-19
    ยกเว้นอากรขาเข้าสินค้าที่ใช้รักษาและป้องกันโรคโควิด-19 เป็นเวลา 6 เดือนถึง ช่วงกันยายน 2563

    7) ยกเว้นภาษีและลดค่าธรรมเนียม จากการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (Non-Bank)
    – ให้เจ้าหนี้ที่ไม่ใช่สถาบันการเงิน เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล เช่าซื้อ Leasing
    – ตั้งแต่ 1 ม.ค. 63 – 31 ธ.ค. 60

    The post มาตรการเยียวยา “ธุรกิจ-คน” จากกระทรวงการคลัง appeared first on SpringNews.

    Source : #Springnews #สปริงนิวส์

    https://www.springnews.co.th/economics/636971
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ ด่วนนนน ⚠️ สภาสหรัฐอนุมัติเงินกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว เงิน 2 ล้านล้านเหรียญ กำลังจะโปรยออกมาช่วยประชาชนและบริษัทต่างๆในสหรัฐให้พ้นวิกฤตไวรัสโควิดนี้ !

    สิ้นสุดการลุ้นและการรอคอยครับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ที่สุดในประวัตติศาสตร์ของสหรัฐซึ่งใหญ่กว่าครั้ง Subprime Crisis ถึง 3 เท่า (ครั้งวิกฤตปี 2008 ประมาณ 8 แสนล้านเหรียญ) ได้รับการอนุมัติแล้ว โดยเมื่อคืนนี้ตลาดหุ้นทั่วโลกได้ฝากความหวังไว้กับยาแก้วิกฤตเศรษฐกิจทั่วโลกนี้ จนตลาดหุ้นฝั่งตะวันตกทั้งสหรัฐและยุโรปดีดขึ้นกว่า 10-12%

    #จะเกิดอะไรขึ้นต่อไปในตลาด ?

    นักลงทุนกองทุนใหญ่ๆนั้นได้เก็งกำไรข่าวนี้ไปเยอะแล้ว ทำให้ในการซื้อขายวันนี้อาจจะมีการเทขายทำกำไรในระยะสั้นได้ แต่การผ่านของเงินเม็ดนี้ (ประกอบกับ QE ปริมาณไม่จำกัดของ FED) อาจจะเป็น #จุดเปลี่ยนที่สำคัญของตลาด เพราะแปลว่าเงินทุนทั้งหมดจะไม่มีการเซอไพรซ์และโดนเรียกคืนแล้ว ทางผู้นำและรัฐบาลทั่วโลกได้ทำหน้าที่ของพวกเขาอย่างสุดความสามารถแล้ว #ตอนนี้ตลาดจะกลับไปโฟกัส กับเรื่องการควบคุมการระบาดของไวรัสแทน

    ไม่ว่าท่านจะลงทุนหรือเทรดอยู่ในตลาดไหน ให้มีตัวเลขของวันจันทร์ที่ 23 มีนาคม ติดตัวไว้ตลอดเวลา #ว่าจุดที่ต่ำที่สุดของตลาดท่านคือจุดไหน เพราะว่านั้นจะเป็นแนวรับที่สำคัญที่สุดของตลาดคุณ หากว่าไวรัสไม่ระบาดรุนแรงไปกว่านี้

    และหากแนวรับนี้หลุดไปอีกรอบ ให้ระวังตัวให้ดีและรีบปิดความเสี่ยงก่อน เพราะแปลว่าไวรัสได้ระบาดไปจนถึงขั้นที่เงินช่วยเหลือจากทั่วโลกก็อาจจะกระตุ้นเศรษฐกิจไว้ไม่ได้ และโลกเรากำลังอาจจะเข้าวิกฤต Economic Depression (ไม่ใช่ Recession นะครับ) ซึ่งจะรุนแรงมากที่สุดในรอบ 100 ปีเลยทีเดียว #มีความเป็นไปได้ทีเดียว

    ทางด้าน #ตลาดน้ำมัน นั้นจะซับซ้อนหน่อย

    เพราะอย่างที่ได้เรียนไปแล้วว่าตลาดน้ำมันกำลังต่อสู้กับ Black Swan ถึงสองตัว ถึงแม้วิกฤตไวรัสจะผ่านจุดต่ำสุดไปได้จริงๆ ก็ยังต้องสู้กับปัญหา #สงครามราคา ของผู้ผลิตต่อไป ทำให้ราคาอาจจะไม่ได้ดีดกลับเร็วเหมือนกับตลาดหุ้น

    ส่วนทางด้าน #หุ้นไทย SET นั้น ก็ยังต้องรอดูปัจจัยในประเทศเราประกอบไปด้วย เพราะว่าตลาดโลกที่ดีดแรงนั้นเพราะว่าเขารับรู้ปัญหาไวรัสเข้าไปรุนแรงกว่าเราเยอะ บ้านเรายังถึงว่าการระบาดของไวรัสนั้นไม่รุนแรงเท่าสหรัฐหรือยุโรปและราคาก็ยังไม่ได้รับรู้ไปถึงขั้นนั้น ขออย่าให้รุนแรงไปมากกว่านี้จนถึงขั้นปิดบ้านปิดประเทศเลยครับ ทุกอย่างจะขึ้นอยู่กับการร่วมมือกันของเราทุกคนครับ

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาด ให้กดไลค์ที่โพสต์หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ได้เลยนะครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ที่อัพเดทใหม่ที่ทันตลาด ⛔️

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตลาดหุ้นกำลังเด้งขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลกแล้ว ! แต่ราคาน้ำมันยังนิ่งสนิทไม่ไปไหน... แน่นอนครับเพราะว่าตลาดน้ำมันกำลังต่อสู้กับศึกสองด้าน ไม่ใช่แค่วิกฤตไวรัสแต่ยังต้องสู้กับ #สงครามราคา ของผู้ผลิตต่อไป...

    แต่คืนนี้นั้นทางรัฐบาลสหรัฐได้แถลงการณ์ว่า ได้ติดต่อทางมกุฎราชกุมารมุฮัมมัด บิน ซัลมาน ของซาอุไปแล้วว่า #ช่วยออกมายุติสงครามนี้ที !

    รมต.ต่างประเทศสหรัฐนาย ไมค์ ปอมเปโอได้แถลงการณ์ที่ทำเนียบขาวคืนนี้ว่า ได้ทำการต่อสายตรงไปหาทางเจ้าชายซาอุแล้ว ว่าให้ช่วยกล้าขึ้นมายุติสงครามครั้งนี้ที เพราะว่าทั้งโลกนั้นกำลังอยู่ในภาวะวิกฤตไวรัสอยู่แล้ว ตอนนี้โลกต้องการความสงบและราคาที่มั่นคง"

    "Saudi Arabia has a real opportunity to rise to the occasion and reassure global energy and financial markets when the world faces serious economic uncertainty" ปอมเปโอกล่าว

    จริงๆส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้มีความขัดแย้งอยู่เล็กๆ เพราะถ้าเศรษฐกิจไม่ดีราคาน้ำมันยิ่งถูกจะช่วยได้ แต่ราคาน้ำมันที่ถูกเกินไปอย่างรวดเร็วกำลังทำร้ายบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ ซึ่งบริษัทพลังงานของสหรัฐเหล่านี้ถือว่าเป็นธุรกิจใหญ่และเป็นรายได้หลักของประเทศสหรัฐเลยทีเดียว ทำให้ #คำขอของสหรัฐนั้น อาจจะเป็นเพื่อประเทศของตัวเองมากกว่าทั่วโลก

    ความรู้สึกของสหรัฐนี้นักลงทุน #หุ้นกลุ่มพลังงานอาจะเข้าใจดี ... ใจนึงก็อยากใช้ราคาน้ำมันที่ถูก แต่อีกใจนึงก็อยากให้ราคาน้ำมันเด้งสูงๆเพราะเก็งกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานไว้

    ทางด้านราคาน้ำมันได้ดีดขึ้นมากว่า 3-4% แล้วตั้งแต่มีการแถลงข่าว เพราะตลาดพยายามรับรู้ความเป็นไปได้ของการที่ซาอุอาจจะยุติสงครามราคา เพราะทางซาอุและสหรัฐนั้นก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันและทางสหรัฐมาขอความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการขนาดนี้

    ราคาน้ำมันจะเป็นอย่างไรต่อไป ?

    ขอแบ่งราคาออกมาเป็น #3ความเป็นไปได้ เพื่อที่เราจะได้เตรียมตัวรับมือให้พร้อมครับ

    1) #หากสงครามราคาน้ำมันยุติลง ทางซาอุและรัสเซียกลับมาจับมือกัน หรือผู้ผลิตน้ำมันใหญ่อย่างสหรัฐสามารถทำให้ทุกฝ่ายร่วมกันลดกำลังการผลิตได้ - ราคาน้ำมันจะดีดกลับขึ้นไปเกิน 30 เหรียญต่อบาร์เรลใหม่ได้

    เหตุการณ์นี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเรื่องไวรัสระบาด ราคาจะดีดสูงขึ้นได้แน่ๆ เพราะทั้ง 3 ประเทศอย่างซาอุ รัสเซีย และสหรัฐนั้นมีกำลังการผลิตรวมกันกว่า 40% ของโลก ผลกระทบจากไวรัสจะไม่ทำให้การใช้น้ำมันลดน้อยลงไปมากกว่านั้นแน่ๆ ทางผู้ผลิตจะยังพอตรึงราคาไว้ที่ 30 เหรียญได้แน่ๆหากต้องการให้เป็นเช่นนั้น

    2) #หากสงครามราคาน้ำมันยังไม่ยุติลง และไวรัสไม่ได้แพร่กระจายไปมากกว่าปัจจุบัน - ถึงแม้ราคาหุ้นจะดีดแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ราคาน้ำมันจะค่อยๆปรับตัวลดลงไปเรื่อยๆ จนอยู่ทีแถวๆต้นทุนการผลิตของรัสเซียที่ 20 เหรียญต่อบาร์เรล

    ทางออกนี้น่าจะมีความเป็นไปได้สูงสุดในขณะนี้ เพราะทุกๆครั้งที่ราคาน้ำมันดีดแรงๆในช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมานั้นมาจากความกลัวว่าข้อ 1 จะเกิดขึ้น โดยหากผู้ผลิตไม่สามารถจะจับมือกันได้จริงๆ ความต้องการใช้น้ำมันที่โดนไวรัสกัดกร่อนขนาดนี้น่าจะทำให้ราคาลดลงไปเรื่อยๆครับ

    ล่าสุดนั้นความชันของราคาซื้อขายล่วงหน้า (Forward Curve) ของราคาน้ำมันที่เป็นตัวบ่งบอกสภาวะตลาดว่ามีน้ำมันขาดหรือเกินในท้องตลาด วันนี้ราคาล่วงหน้าของ Brent สัญญา 6 เดือนแรกนั้นสูงกว่าราคาปัจจุบัน (Contango) มากที่สุดในรอบ 11 ปี แสดงให้เห็นชัดเลยว่า #โลกกำลังมีน้ำมันล้นตลาด !

    3) หากสงครามราคาน้ำมันยังไม่ยุติลง และ #ไวรัสยังแพร่กระจายไปมากกว่าปัจจุบันจนต้องมีการปิดประเทศกันมากขึ้น - ราคาน้ำมันน่าจะปรับตัวลงครั้งใหญ่และน่าจะลงไปได้ถึง 10 เหรียญต่อบาร์เรลเลยทีเดียว

    ความเป็นไปได้ในข้อนี้นั้นขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละรัฐบาลทั่วโลกและพวกเราทุกคนว่าจะเข้ามาร่วมกันควบคุมสภาวะไวรัสระบาดได้ดีเพียงใด โดยหากพวกเราทำไม่ได้จนต้องปิดประเทศและหยุดการใช้น้ำมัน การใช้น้ำมันอาจจะลดลงจากระดับ -20% จากปกติในปัจจุบันลงไปเหลือ -50% เลยก็เป็นได้ และเมื่อถึงเวลานั้นเราคงต้องใช้ต้นทุนการขุดเจาะของซาอุที่ 5-10 เหรียญเป็นระดับราคาพื้นฐาน รัสเซียอาจจะไม่เหลือส่วนแบ่งตลาดได้หากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารสำคัญในตลาดที่รวดเร็วซึ่งทางเราพยายามจะนำมาให้แบบ Real Time ให้กดไลค์ที่โพสต์หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ได้เลยนะครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ที่อัพเดทใหม่ที่ทันตลาด ⛔️

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ✅ ตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงดีดแรงอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังจากที่เราได้รายงานด่วนไปช่วงเที่ยงว่าสภาสหรัฐได้อนุมัติเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 ล้านล้านเหรียญได้สำเร็จแล้ว คืนนี้ตลาดหุ้นสหรัฐยังบวกอย่างต่อเนื่องอยู่อีก +2% หลังเปิดตลาด

    ลองมา #เจาะรายละเอียด ของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ถึง 10% ของ GDP สหรัฐ ว่าจะโปรยเงินออกมาช่วยประชาชนและบริษัทต่างๆในสหรัฐให้พ้นวิกฤตไวรัสโควิดนี้ได้อย่างไร

    ส่วนแรกที่ใหญ่ที่สุด (5 แสนล้านเหรียญ) คือจะแจกให้ประชาชนเป็นเงินสดคนละ 1,200 เหรียญ (40,000 บาท) สำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่เกินปีละ 75,000 เหรียญ (2.4 ล้านบาท) และผู้ที่มีครอบครัวและมีลูกอาจมีสิทธิได้เงินเพิ่มได้มากที่สุดถึง 3,000 เหรียญ (1 แสนบาท)

    ส่วนต่อมาอีก 5 แสนล้านเหรียญ จะให้ความช่วยเหลือด้านสภาพคล่อง สำหรับภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดยจะให้ธุรกิจสายการบินเป็นหลักที่ 6 หมื่นล้านเหรียญ ส่วนธุรกิจอื่นๆนั้นต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการตรวจสอบก่อน

    อีก 3.5 แสนล้านเหรียญจะแบ่งไปช่วยธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) โดยการให้เงินกู้ฉุกเฉิน

    อีก 2.5 แสนล้านเหรียญจะแบ่งไปช่วยเหลือคนตกงาน ซึ่งตัวเลขประเมินในขณะนี้นั้นอาจจะขึ้นไปสูงถึง 20-30% ได้ ! อาจสูงที่สุดในประวัติศาสตร์หรือเทียบเท่าช่วง The Great Depression เมื่อ 100 ปีก่อนเลยทีเดียว

    อีก 1.3 แสนล้านเหรียญจะแบ่งไปช่วยโรงพยาบาลต่างๆทั่วประเทศ โดยตัวเลขนี้ได้เป็นที่ถกเถียงกันนานในสภาแต่สุดท้ายก็ลงเอยที่ 1.3 แสนล้านเหรียญ

    อีก 2.5 แสนล้านเหรียญจะนำไปขยายการประกันการว่างงาน

    อีก 1.0 หมื่นล้านเหรียญจะนำไปใช้สำหรับการพัฒนายาและวัคซีนสำหรับไวรัสโควิด-19

    อีก 4 พันล้านเหรียญจะนำไปซื้ออุปกรณ์ป้องกันการระบาดและรับมือกับไวรัส เช่น หน้ากากอนามัย, ถุงมือ, ชุดพยาบาลและเครื่องช่วยหายใจ

    และที่ก็คือรายละเอียดของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของรัฐบาลทรัมป์ซึ่งถกเถียงกันมาหลายวันและตอนแรกคาดว่าอาจจะมีขนาดใหญ่ได้ถึง 2.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ แต่สุดท้ายก็มาลงเอยกันที่ตรงนี้ เพราะทุกวันนี้ทางรัฐบาลก็มีรายจ่ายมากมายจนขาดงบดุลแน่ๆอยู่แล้ว เชื่อว่าหลังจากวิกฤตไวรัสผ่านไป ทางสหรัฐจะต้องมี #แผนปรับการเก็บภาษี ครั้งใหญ่แน่ๆ

    นี่อาจเป็น #สัญญาณกลับตัว ของตลาด ?

    นักลงทุนกองทุนใหญ่ๆนั้นได้เก็งกำไรข่าวนี้ไปเยอะแล้ว ทำให้ในการซื้อขายวันนี้อาจจะมีการเทขายทำกำไรในระยะสั้นได้ แต่การผ่านของเงินเม็ดนี้ (ประกอบกับ QE ปริมาณไม่จำกัดของ FED) อาจจะเป็น #จุดเปลี่ยนที่สำคัญของตลาด เพราะแปลว่าเงินทุนทั้งหมดจะไม่มีการเซอไพรซ์และโดนเรียกคืนแล้ว ทางผู้นำและรัฐบาลทั่วโลกได้ทำหน้าที่ของพวกเขาอย่างสุดความสามารถแล้ว #ตอนนี้ตลาดจะกลับไปโฟกัส กับเรื่องการควบคุมการระบาดของไวรัสแทน

    ให้ทุกท่านจับตามองกราฟตัวเลขผู้ติดเชื้ออย่างใกล้ชิด ว่าจะเริ่มมีแววชะลอลงหรือไม่ และไม่ว่าท่านจะลงทุนหรือเทรดอยู่ในตลาดไหน ให้มีตัวเลขของวันจันทร์ที่ 23 มีนาคม ติดตัวไว้ในใจตลอดเวลา #ว่าจุดที่ต่ำที่สุดของตลาดท่านคือจุดไหน เพราะว่านั้นจะเป็นแนวรับที่สำคัญที่สุดของตลาดคุณ หากว่าไวรัสไม่ระบาดรุนแรงไปกว่านี้

    และหากแนวรับนี้หลุดไปอีกรอบ ให้ระวังตัวให้ดีและรีบปิดความเสี่ยงก่อน เพราะแปลว่าไวรัสได้ระบาดไปจนถึงขั้นที่เงินช่วยเหลือจากทั่วโลกก็อาจจะกระตุ้นเศรษฐกิจไว้ไม่ได้ และโลกเรากำลังอาจจะเข้าวิกฤต Economic Depression (ไม่ใช่ Recession นะครับ) ซึ่งจะรุนแรงมากที่สุดในรอบ 100 ปีเลยทีเดียว #มีความเป็นไปได้ทีเดียว

    ⛔️ ท่านใดไม่อยากพลาดข่าวสารในตลาด ให้กดไลค์ที่โพสต์หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ได้เลยนะครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ที่อัพเดทใหม่ที่ทันตลาด ⛔️

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,698
    ค่าพลัง:
    +97,150

แชร์หน้านี้

Loading...