ไม่รู้จักกัน

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย อนัตตา, 4 มกราคม 2019.

  1. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    เมื่อวานมีชายผู้หนึ่งติดต่อมา ขอให้ปั้นองค์พระพิราพ เราถามกลับไปว่าทำไมจึงอยากได้องค์พระพิราพ เค้าเล่าว่าไปที่ตำหนักทรงสองแห่งมา ทางคนทรงบอกเหมือนกันว่า พระพิราพท่านจะมาช่วยให้ชีวิตดีขึ้น ก็เลยอยากได้องค์ไว้บูชา

    เราบอกให้ไปหาที่เค้าหล่อสำเร็จรูปมาบูชาก็ได้ มาสั่งปั้นเราคิดค่าปั้นแพงจะทำให้เดือดร้อนนะ เค้าก็ยืนยันว่าไม่ต้องการอย่างที่ทำสำเร็จรูปแล้ว ต้องการเป็นงานปั้น

    ทีนี้ก็คุยกันยาวเลย พระพิราพท่านมีบารมีสูง ถ้าไม่มีญานมาสื่อ ผู้ปั้นก็ปั้นไม่ได้ และถ้าบารมีของผู้ครอบครองไม่ถึงก็จะทำให้เดือดร้อนได้ทั้งครอบครัว งานที่เราปั้นทุกชิ้นงาน ผู้ที่รับไปบูชาจะต้องปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรม นั่งสมาธิเจริญกรรมฐานไม่ได้ก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้มีศีลห้าครบและสวดมนต์เป็นประจำ ถ้าทำได้ เราจะปั้นให้

    เค้าบอกว่าทำไม่ได้ เพราะยังดื่มเหล้าและเล่นการพนัน ถ้างั้นก็จบข่าว ก็เลยบอกให้เค้าไปทบทวนพิจารณาดูอีกที อย่าเพิ่งไปเชื่อร่างทรง สมัยนี้ของปลอมมีเยอะ ถ้าต้องการรู้ความจริงว่ามีพระพิราพหรือไม่ ให้ลองถือศีลกินเจ 3-5 วัน แล้วอธิษฐานจิตให้ท่านทำให้รู้ได้ด้วยตนเอง....

    เรื่องได้เงินใครๆ ก็อยากได้ทั้งนั้น มีคนเอาเงินมาให้ใครจะไม่รับ แต่ไม่ใช่เรา เพราะเราให้ความสุข ความเจริญรุ่งเรือง ดังนั้นใครที่รับงานปั้นจากเราไปบูชาต้องเจริญรุ่งเรือง หากเราทำไปแล้วเกิดโทษเราก็ไม่ทำให้

    เค้าจึงขอกลับไปพิจารณาอีกที แล้วจะติดต่อกลับมาใหม่o_O
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ธันวาคม 2019
  2. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    พระพิราพ หรือ พระอิศวรที่อวตารภาคดุ คนอินเดียหรือคนเนปาลจะเรียกพระองค์ว่าพระไภรวะ และถือเป็นเทพเจ้าแห่งสงคราม เป็นเทพเจ้าแห่งความตาย แต่ในขณะเดียวกันก็ถือว่าเป็นเทพเจ้าที่ขจัดภูตผีปีศาจ ลบล้างคุณไสยมนต์ดำ และอาถรรพ์ร้ายทุกชนิด และเป็นผู้ประทานชีวิต ประทานความสุข ความเจริญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    จากน้องสาวสุดสวย...ชื่นศิริ

    ชีวิตคนมันสั้น
    อย่าใส่ใจคำครหานินทาเลย

    คำพูดบางคำ สุดท้ายย้อนกลับไปทำลายคนพูด คนบางคน สุดท้ายตกต่ำก็เพราะตัวเองใช่คนอื่น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ไม่เป็นไรนะ...
    เมื่อถึงเวลาคงได้พบกัน
    เพื่อสร้างสรรค์สิ่งดีงาม
    จารึกไว้ในโลกธาตุนี้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    อยู่กับลมจนกว่ากายจะพัง
    ลมเข้า...รู้ ลมออก...รู้ รู้อะไร?
    ทุกวันนี้รู้อะไร?
    รู้แล้วเอาไปทำอะไร?
    และทำเพื่ออะไร?
    รู้ลม รู้ลมๆ แล้งๆ น่ะซิ

    หายใจเข้ารู้ หายใจออกรู้
    รู้ว่า...อ้อยังหายใจอยู่
    ยังไม่ตาย แล้วทำไงต่อ
    มีคนตอบว่า...ทำดี
    ถามต่อ...ทำดี ทำยังไง? ทำยังไงจึงได้ชื่อว่าดี?
    เขาบอกว่าตอบไม่ได้ อ้างว่าเยอะให้ไปศึกษาเอง

    งั้นจะตอบให้....การทำดีต้องเริ่มต้นจากการมีสัมมาทิฏฐิ

    สัมมาทิฏฐิ คือ แนวคิดที่ถูกต้อง เห็นถูกต้องตามทำนองคลองธรรม คลองธรรมนี้ มีความหมายกว้างขวางอันเป็นไปโดยธรรม ธรรมอันนำไปสู่ความหลุดพ้นจากทุกข์ มิใช่ธรรมที่ยังวนเวียนอยู่ในโลกธรรม ทำดีเพื่อหวังในลาภ ในยศ ในสรรเสริญ นั่นยังไม่ถูกดี

    ดีจริง ดีแท้ ต้องไม่ทุกข์เมื่อทำดี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    นำเกร็ดความรู้มาฝากค่ะ

    "ข้าถูกอุปโลกน์ ให้เป็นเทพทันใจ"

    ผู้เขียน อาโด๊ด
    เผยแพร่ วันเสาร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2562

    “ข้าฯ ไม่ใช่เทพทันใจ ข้าฯคือ ‘โบโบยี’ แปลเป็นไทยว่า ‘พ่อปู่’ หรือ ‘พ่อใหญ่’ คนมอญพม่านับถือข้าฯ มาช้านาน คนมอญสร้างรูปข้าฯ เพื่อรำลึกคุณงามความดีตามตำนาน แต่คนพม่าสร้างรูปข้าฯ ไว้ทั่วไปทุกย่านบ้านเรือน ในฐานะนัต (Nat) กึ่งเทพกึ่งผี…”

    หากตะแกพูดได้แกคงจะพูดเช่นนี้!

    คนพม่านับถือผีนัต (Nat) มาก่อนการยอมรับนับถือพุทธศาสนา ทุกวันนี้ก็ยังคงศรัทธาฝังหัวไม่เปลี่ยน ในบรรดานัตหลากหลาย นัตยอดนิยมตนหนึ่งชื่อว่า “โบโบยี” ใบหน้ายิ้มแย้ม ท่าทางใจดี มือซ้ายถือไม้เท้า มือขวาชี้ไปข้างหน้า คนไทยพากันเรียกว่า “เทพทันใจ” ถ้าไม่ถูกไกด์พม่าหลอก ก็สร้างเรื่องหลอกตัวเอง หรือปนๆ กันไป

    รู้กันในหมู่นักท่องเที่ยวไทยว่า ใครที่ต้องการขอพร ให้หาเครื่องบูชาที่มีวางขายเป็นชุด ประกอบด้วย กล้วย มะพร้าว หมาก เมี่ยง ดอกไม้ ใบหว้า และฉัตรธงสักการะ จากนั้นนำธนบัตรใส่มือนัต 2 ใบ ไหว้ขอพรแล้วดึงกลับมาเก็บไว้ใบหนึ่ง หยอดตู้บริจาคใบหนึ่ง (คล้ายสูตรหลวงพ่อคูน) เสร็จแล้วก้มให้หน้าผากสัมผัสนิ้วชี้ของนัต ดูจากของเซ่นไหว้ล้นเหลือ นัตตนนี้ดูท่าจะได้รับความนิยมกว่าใคร เห็นทีว่าคงจะต้องบันดาลพรตลอดเวลา ไม่มีวันหยุด และที่แน่นอนคือเงินจากนักท่องเที่ยวไทยมากพอสำหรับค่าไอโฟน 8s เครื่องใหม่ของหลวงพี่ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าแอร์ เลี้ยงพระทั้งวัดได้สบายๆ ตลอดปี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images.jpeg
      images.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      41.1 KB
      เปิดดู:
      56
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2019
  7. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    เรื่องจริงที่ไม่จริงซึ่งนักท่องเที่ยวไทยไม่ตระหนักก็คือ เดิมนั้นเทพองค์นี้มาจากตำนานพระเจดีย์เละเกิ่ง (ชเวดากอง) กล่าวคือ หลังจาก ตปุสสะ ภัลลิกะ (ตะเป๊า ตะปอ) พ่อค้าวาณิชมอญสองพี่น้องได้รับพระราชทานพระเกศาธาตุจากพระพุทธเจ้า 8 เส้นแล้วก็ได้นำกลับมายังบ้านเมือง ถวายพระเกศาธาตุดังกล่าวแก่พระเจ้าอุกกะลาปะ กษัตริย์มอญผู้ครองเมืองอุกกะลาปะ (ชื่อโบราณของเมืองเละเกิ่ง หรือย่างกุ้ง) ระหว่างค้นหาสถานที่อันเหมาะสมเพื่อสร้างพระเจดีย์ประดิษฐานพระเกศาธาตุ บทบาทเทพอุ้มสมก็ได้ปรากฏขึ้น

    เนื่องจากมีเพียง “พ่อปู่” หรือพระอินทร์แปลงองค์เดียว ที่รู้สถานที่ประดิษฐานพระธาตุของอดีตพระพุทธเจ้า 3 พระองค์ก่อน จึงเหาะลงมาชี้ทางไปยัง “เขาสิงคุตระ” ที่สมควรบรรจุพระเกศาธาตุของพระพุทธโคดมไว้ในที่เดียวกัน…
     
  8. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ไอ้ที่ชี้นิ้วนั่น ชี้ไปยังสถานที่สร้างเจดีย์ประดิษฐานพระธาตุ!!!

    พระอินทร์ยังงงไม่หาย ทำไมคนไทยจึงเลือกที่จะแต่งเรื่องแล้วเชื่อถือฝังหัวงมงายเสียเอง สนุกสนานกับการขอกันถึงปานนั้น แต่ที่แน่ๆ ทางวัดพม่าคงดีใจ คนไทยบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปยืนเข้าแถวส่งเครื่องบรรณาการให้ในรูปแบบใหม่

    “ข้าฯ รักคนไทย คนไทยใจดี ลูกหลานของข้าฯ ทั้งมอญพม่าว้ากะเหรี่ยงไทใหญ่ไปทำงานเมืองไทยเป็นล้านคน คนไทยก็ดูแลพวกเขาอย่างดี ให้งานทำ ข้าฯ จึงรักคนไทย อยากบอกแก่ท่านทั้งหลายว่า อย่าพยายามให้ข้าฯเป็นเทพทันใจเลย คนไทยมีธรรมะที่ดีที่สุดของพุทธองค์อยู่แล้ว ข้าฯ ก็เป็นผู้หนึ่งที่ศรัทธาในพระธรรมคำสอนเหล่านั้น สิ่งที่ข้าฯ มีให้คนไทยอย่างล้นเหลือ คือ ความปรารถนาดี…จะนำหน้าผากมาสัมผัสนิ้วข้าฯ ก็ยินดี แต่จงเข้าใจว่า ข้ามิได้มีพรวิเศษใด (ไม่เช่นนั้น ข้าฯคงช่วยลูกหลานข้าฯ ให้รวยสมใจกันทุกคน ไม่ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลไปทำงานเมืองไทย) แต่เพื่อเป็นการเตือนตน ขอท่านจงมีสติและตระหนักรู้ ตามหนทางหลุดพ้นอันประเสริฐแห่งพุทธองค์เถิด”

    ขอบคุณข้อมูลจากเพจ: รามัญคดี – MON Studies
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2019
  9. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    "...ธรณีนี่นี้....เป็นพยาน
    ข้าก็ศิษย์มีอาจารย์...หนึ่งบ้าง
    ข้าผิดท่านประหาร...เราชอบ
    ข้าบ่ผิดท่านมาล้าง...ดาบนั้นคืนสนอง "
    ~•~•~•~•~•~•~•~•~•~•~

    ช่วงนี้จิตฟุ้งซ่านค่ะ เมื่อคืนฝันว่าไปร่วมงานพิธีที่วัด ไม่รู้ว่ามีงานอะไร (ลืม) ตอนที่เดินออกมาที่โล่งข้างพระอุโบสถ มองเห็นท้องฟ้า เห็นก้อนเมฆเป็นรูปปู่พญาครุฑงดงามมาก ใบหน้าเป็นมนุษย์ ผมยาว หนวดเครายาว มีปีกและเท้าเป็นครุฑ ท่านยิ้มให้ เรารีบถ่ายรูปเก็บไว้ พอหันหลังกลับ...มองที่ฟ้าก็เห็นพญาปักษี อันนี้เป็นรูปนก สวยงามค่ะ ก็ถ่ายรูปไว้อีก เกิดความอยากรู้ว่าท้องฟ้าจุดอื่นจะมีอะไรให้ดูอีก ก็เลยเดินออกจากบริเวณนั้น...ไม่มี มีให้เห็นแค่ครุฑกับปักษี....ตื่น:D

    เอ...ฝันนี้หมายความว่าอะไรหนอ...? :(
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    กฏแห่งแรงดึงดูด คิดหมกมุ่นอยู่กับเรื่องใด ก็จะดึงดูดแต่เรื่องนั้นเข้ามา อย่าเพิ่งเถียง พิจารณาทบทวนดูก่อนว่าจริงไหม?
     
  11. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ทุกวันนี้มีความสุขดีค่ะ ได้สนทนาธรรมกับผู้ศึกษาธรรมจริงๆ น้อมไปปฏิบัติจริงๆ เพื่อเข้าถึงความหลุดพ้น:D

    ผู้ถาม....เธอจะตัดกิเลสได้อย่างไร หากเธอไม่ปล่อยให้กิเลสแสดงตัวตนให้เธอเห็น จำไว้ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ความคิดบอกเราว่า กิเลสไม่ดีให้ตัดทิ้งทันทีที่เกิด แล้วเธอคิดว่า ความรู้สึกจะทำได้ทันทีที่ความคิดสั่งมั้ย

    คำตอบ...สติค่ะ

    คำถาม...สติตั้งมั่นบนฐานอะไร สติจะมีตลอดเวลามั้ย สติเกิดก่อนเหตุกับเกิดหลังเหตุ อันไหนคือปัญญา อันไหนคือผู้รู้

    ตอบ...สติคือจิต จิตคือสติ จิตอยู่ที่ไหน สติอยู่ที่นั่น สติคือผู้รู้ สัมปชัญญะหรือปัญญาเป็นผู้ตัด สติจะมีตลอดเวลาในผู้ที่เจริญภาวนาสติปัฏฐาน4 ตลอดค่ะ. ขึ้นอยู่กับการฝึกฝนและรอบภาวนาของผู้นั้น หรือที่เรียกว่าอินทรีย์ภาวนา

    ผู้ถาม...การบ้านเริ่มยากและโคตรละเอียดมาก ถ้าเป็นเมื่อก่อนมึนตึบ กว่าแก้ได้ใช้เวลานานมาก แต่เด่วนี้โชคดีมีผู้รู้คอยชี้แนะ ขอบคุณแม่นาย
     
  12. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ธาตุทุกธาตุล้วนมีพลังงานอยู่ในตัว กายเรา จิตเรา ก็มีพลังงาน สามารถเชื่อมโยงถึงกันได้ค่ะ กระแสดีๆ กระแสไม่ดี ถูกถ่ายทอดออกมาให้เห็นได้
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    # นิราศ พระธาตุคู่ขวัญ เมืองสกล #
    * * นิทานชายสร้างแข่งกับหญิง * *
    .
    พากันปีนบันไดไป "ภูเพ็ก"
    หอบเฮ็กเฮ็กเหงื่อรินเหนื่อยลิ้นห้อย
    มีพระธาตุบนภูดูสูงลอย
    ยังสำออยฉันมีค่าสูงกว่าภู

    ตำนานธาตุบนภูผู้ชายสร้าง
    ธาตุข้างล่างหญิงสรรค์ขันสร้างสู้
    ปล่อยดาวปลอมเปล่งประกายให้ชายดู
    จึงเป็นผู้มีชัยในตำนาน

    "ธาตุนารายณ์เจงเวง" งามเช้งวับ
    "ภูเพ็ก" กลับต้องอายพ่ายทุกด้าน
    ใช่ผู้หญิงเก่งเหลือเหนือชายชาญ
    วิธีการที่ทำนอกตำรา

    คนปากแข็งสุดสุดยากหลุดปาก
    ต้องใช้เล่ห์กระชากให้ปากอ้า
    น้ำลายหกนกรู้สู้มารยา
    "หญิงอื่นมาไม่นานแล้วผ่านเลย"

    แม้เป็นคนงัดปากอยากหูฝาด
    แต่พระธาตุตอกย้ำคำเฉลย
    ภาพพระธาตุชำรุดสุดเฉยเมย
    ลมรำเพยทำหินบิ่นได้จริง

    มองผาดอาจตบตาว่าแข็งแกร่ง
    แท้เสแสร้งกลบเกลื่อนเหมือนน้ำนิ่ง
    ยิ่งความรักเลิศเลอเธออ้างอิง
    รุ่ยรุ่งริ่งกินขาดธาตุทุกองค์

    จึงเป็นกลอนนิราศถึงธาตุแท้
    รักร่อแร่น่าอนาถดังธาตุบ่ง
    อาจเห็นธาตุกร่อนลึกนึกพะวง
    ธาตุแท้คงเห็นกันสักวันเอย
    .

    .
    จาก นิราศธาตุแท้

    ผู้แต่ง

    ปริญญา อินทร์อุดม

    ลงพิมพ์ในนิตยสาร"กุลสตรี" กันยายน 2541
    .

    .

    .
    ที่มา :

    Parinya In-Udom
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ขอเป็นสะพานบุญ บอกบุญไออุ่นนี้เพื่อน้องบนดอยสูง จังหวัดเชียงราย สนใจร่วมบุญเชิญหลังไมค์ค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    "ระวังคำพูด"

    ระวังตัวในคำพูด ยิ่งพูดไม่ดีเกี่ยวกับคนอื่นมากเท่าไร พลังงานที่ไม่ดีที่เราสร้างไว้มันจะเด้งเข้ามาหาตัวเอง ดังนั้น อย่าติใคร อย่าว่าใคร อย่านินทาใคร

    หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  16. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    การส่งออกทุกครั้งต้องใช้กำลังจิตขับเคลื่อนขันธ์และอายตนะ จึงมีคำกล่าวว่า..."ให้คิดดี ทำดี พูดดี" กำลังจิตที่เสียไปกับความดีเป็นพลังที่ไม่สูญเปล่า ต่างจากกำลังจิตที่เสียไปกับอกุศล แต่กิเลสมันไม่ชอบอะไรที่ดีๆ จึงได้เห็นการนินทา ให้ร้ายกันทั่วไป

    ฝึกสมถกรรมฐานสะสมพลังจิต แล้วเอามาใช้เบียดเบียน จึงเป็นความสูญเปล่า และมีพลังงานลบตกค้างในจิต

    สติเป็นตัวกั้นอกุศล เพราะสติเป็นกุศลเจตสิก กำลังของสติหรืออาหารของกุศลเจตสิก คือ สมาธิในระดับฌาน เมื่อกุศลเจตสิกได้เสพความสงบเป็นหนึ่งเดียว จึงทำให้มีกำลังมากกว่าอกุศลเจตสิก สามารถสะกัดกั้นอกุศลที่จะเกิดขึ้นในจิต อันส่งผลเชื่อมโยงมาที่ขันธ์ได้

    ถ้าจะเปรียบเจตสิกก็คือนิวเครียสของพลังงาน เจตสิกต่างๆ ที่ประกอบเข้ากับจิตทำให้แสดงอารมณ์ต่างๆ ออกมา เมื่อเราได้รู้ถึงธรรมชาติของจิตและเจตสิกแล้ว มันก็ไม่ยากต่อการควบคุม ฝึกฝนจิตให้อยู่ในทำนองคลองธรรม สรรพอารมณ์ล้วนเกิดจากเจตสิก ตลอดจนกิเลสสังโยชน์ก็อยู่ในเจตสิกกลุ่มอกุศล เพียงเพราะอกุศลเจตสิกแต่เดิมมีการสั่งสมกำลังทับถมกันมา จึงทำให้มีกำลังมากกว่ากุศลเจตสิก อันได้แก่ อุปการะธรรมต่างๆ อันนำไปสู่ความพ้นทุกข์

    การขจัดพลังงานที่ไม่ดี จึงต้องทำให้พลังงานที่ดีมีกำลังมากกว่า เพื่อควบคุมและถอดถอนพลังงานด้านลบ ด้านมืด หรือที่เรียกว่ากิเลสสังโยชน์นั่นเอง

    เช้านี้เห็นอย่างนั้นลึกลงไป ทุกวันนี้คนฝึกพลังจิต และมีพลังจิตกันเยอะ แต่เอาไปใช้เบียดเบียนกันเป็นส่วนมาก

    เจตสิกเป็นรูปของพลังงานที่มีอยู่จริงในธรรมชาติ มันเป็นเจตสิกทั้งหมด จิตจริงๆ เปรียบเสมือนห้องเปล่าๆ

    ตัณหา อุปาทาน กิเลส อุปกิเลส วิปัสสนูปกิเลส เป็นเจตสิก ขันธ์ห้าเป็นเจตสิก

    ศีล สมาธิ ฌาน อรูปฌาน สมาบัติฯ มรรค 8 องค์ธรรมแห่งการตรัสรู้ เป็นเจตสิก

    ไม่ใช่ตัวตน ล้วนเป็นพลังงานมีชื่อเรียกว่า เจตสิก

    ตอนที่เป็นขันธ์ก็มีชื่อเรียกอย่างหนึ่ง ตอนที่เป็นตัวประกอบจิตก็มีชื่อเรียกอย่างหนึ่ง

    พูดไปตามที่เห็นและเข้าใจ หากไม่ตรงตามบัญญัติก็ขออภัย และขอขมากรรมต่อพระธรรมไว้ ณ ที่นี้_/|\_
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ไม่ต้องมีคำบรรยายใดๆ...สักคำให้ลึกซึ้ง
    ไม่ต้องบรรยายอะไร...ให้สวยเลิศเลอ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    :)สมาธิ สติและสัมปชัญญะ เกิดขึ้นสืบเนื่องกัน:)

    สมาธิคือความจดจ่อของจิต (ความรู้สึก) จดจ่ออยู่ในสิ่งเดียว นั่นแหละคือสมาธิ

    สติคือตัวที่รู้ว่าจิตกำลังจดจ่ออยู่กับสิ่งใด เป็นกุศลหรืออกุศล เป็นคุณหรือเป็นโทษ ดังนั้นสติจึงขาดจากสมาธิไม่ได้ และสมาธิจะไม่มีสติก็ไม่ได้

    ส่วนสัมปชัญญะจะเกิดต่อจากสติ กำลังของสัมปชัญญะจะมีมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับรอบของการระลึกรู้ หรือรอบของสตินั่นเอง

    สติอันเป็นไปในอิริยาบถต่างๆ ประจำวัน จึงเป็นเรื่องการระลึกรู้ความเป็นไปของกาย เวทนา จิต ธรรม เพื่อพอกพูนรอบของสติอันนำมาซึ่งสัมปชัญญะขั้นสูงสุด คือปัญญาญาน และปัญญาญานนี้จะไปตัดกิเลสสังโยชน์เป็นสมุจเฉทได้ในที่สุด

    การเจริญสติแบบไม่ต่อเนื่อง รอเวลา รอฤกษ์ จึงไม่เกิดผลใดๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  19. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    นำมาฝากค่ะ จาก เพจศักดิ์สิทธิ์

    (ทูลถาม) "จริงหรือเปล่าเพคะที่มีคนเขาว่า ท่านอาจารย์ฝั้นบอกกับคนอื่นว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว นี่คือรัชกาลที่ 4 มาเกิด"

    ทรงตอบว่า ......

    พระราชกระแสครั้งประวัติศาสตร์ของพระราชินี ทรงเล่าเรื่อง เกี่ยวกับ ในหลวง รัชกาลที่ 9

    เมื่อ 16.30 น. วันที่ 28 สิงหาคม 2523 สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ พระราชทานพระบรมราชวโรกาส ให้นักข่าวหญิงจากสโมสรนักข่าวหญิงแห่งประเทศไทย จำนวน 29 คน เข้าเฝ้าฯ รับพระราชกระแส ณ พระตำหนักจิตรดารโหฐาน และ ในโอกาสนี้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเลี้ยงน้ำชา แก่คณะที่มาเข้าเฝ้าฯ ด้วย ซึ่งนับเป็นเกียรติประวัติ และเป็นวันประวัติศาสตร์ของวิชาชีพสื่อสารมวลชนไทยวันหนึ่ง ในการนี้ทรงมีพระราชกระแสเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่นักข่าวหญิงบางคนบันทึกไว้มีข้อที่น่าสนใจ ดังนี้

    (ทูลถาม) : ในฐานะที่ทรงเป็นแม่บ้าน ทรงดูแล พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อย่างไรบ้าง

    (ทรงตอบ)

    ต้องดูแล เพราะว่าบางครั้งท่านเพลินกับงาน กว่าจะออกมาเสวยก็ช้า ต้องคอยเคาะประตูคอยเข้าไปเฝ้าฯ แล้วก็เวลาหลังจาก ที่ประชวรเป็นปอดบวมเลยคอยห่วง ตอนนี้ท่านก็ย่างพระชนม์มากขึ้น ยิ่งทำงานหนักใหญ่
     
  20. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    เมื่อครั้งพระเจ้าอยู่หัวประชวร (ต้นพุทธศักราช 2518) ตอนนั้น หมอที่รักษาร้องไห้ พี่ชายฉัน (นายแพทย์ ม.ร.ว.กัลยาณกิติ์ กิติยากร) ก็เป็นหมออยู่ด้วย หน้าเขียว ไม่นอนทั้งคืน เขาบอกว่า รู้สึกว่าเรากำลังจะเสียท่านไป เพราะว่าหมอให้ยาเท่าไหร่ๆ ไข้ไม่ลงเลย ท่านแบบคล้ายๆ เพ้อๆ คือ ปอดทั้งสองข้างนี่บวม แล้วสุดปรอทอยู่ได้ตั้งเกือบ 10 วัน จนหมอบอกว่า นี่ถ้าเป็นคนหัวใจไม่ดี ก็หัวใจวายแล้ว สมเด็จพระศรีฯ (สมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี) ท่านไปดูเองเลย

    พระอาจารย์ต่างๆ ฉันต้องเรียกว่า พระอริยเจ้า เพราะว่าท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ที่ไปกราบท่านอาจารย์ฝั้น ท่านอาจารย์บัว ท่านอาจารย์วัน คือท่านก็ล้วนแต่บอกกับฉันทั้งนั้นว่า "เสด็จฯ ไหนนี่ไม่ต้องกลัวหรอก เพราะพระบารมีของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว"

    ท่านอาจารย์วันนี่ กล่าวออกมาเลยว่า เมืองไทยนี่จะอยู่ได้ ถ้าพระเจ้าอยู่หัวพระองค์นี้อยู่ในประเทศ อย่าให้ท่านออกนอกประเทศ ถ้าท่านออกนอกประเทศไม่รับรอง
     

แชร์หน้านี้

Loading...