ไม่รู้จักกัน

ก๊อป...แปะ

...ปรับใจอยู่กับสถานภาพอันเป็นปัจจุบัน อดีตผ่านมาแล้ว กลับไปแก้ไขไม่ได้ อนาคตก็ยังเดินทางมาไม่ถึง จะไปคำนึงทำไม ถ้าจะแก้ไข จงใส่ใจที่รูปนามอันเป็นปัจจุบัน พยายามเตรียมใจ และอย่าอาลัยหรือมองไกลถึงสิ่งเหล่านี้...

ปลิโพธ ความกังวล ๑๐ ประการ
๑. อาวาสปลิโพธ ห่วงที่อยู่อาศัย ห่วงบ้านเรือน กลัวจะไม่มีคนดูแล ปล่อยให้สกปรกรก รุงรัง พูดง่ายๆ ว่าติดที่อยู่

๒. กุลปลิโพธ ห่วงตระกูลอุปัฏฐาก หรือผู้หลักผู้ใหญ่ที่ตนเองนับถือ กลัวจะขาดการติดต่อและเกื้อกูลตนเอง

๓. ลาภปริโพธ ห่วงลาภ ติดลาภ หรือห่วงรายได้อันเป็นผลประโยชน์ที่ตนเองจะได้รับ กลัวจะสูญหายหรือขาดรายได้ตอบแทน เป็นต้น

๔. คณปลิโพธ ห่วงหมู่ ห่วงคณะ มิตรสหาย อาจารย์ ลูกศิษย์ บริวาร รวมทั้งผู้สนิทคุ้นเคยกัน เป็นต้น

๕. กัมมปลิโพธ ห่วงการก่อสร้าง ห่วงการงาน หรือห่วงธุรกิจการงานและอาชีพของตน

๖. อัทธานปลิโพธ ห่วงการเดินทางไกลกันดาร เดินทางไปต่างประเทศ เดินทางไปท่องเที่ยว

๗. ญาติปลิโพธ ห่วงญาติพี่น้อง บุตร ภรรยา สามี บิดามารดา ด้วยเกรงว่าจะเจ็บป่วยเดือดร้อนหรือได้รับอันตรายต่างๆ เป็นต้น

๘. อาพาธปลิโพธ ห่วงอาพาธ บางท่านเป็นโรคภัยไข้เจ็บก็กลัวว่าจะกำเริบ หรือเป็นกังวลว่าลมฟ้าอากาศที่เปลี่ยนแปลงอาจจะทำให้ตนเจ็บป่วย เป็นต้น

๙. คันถปลิโพธ ห่วงการศึกษาเล่าเรียน ห่วงการสอน กลัวจะเรียนไม่ทันเพื่อน หรือห่วงการบรรยายธรรม เป็นต้น

๑๐. อิทธิปลิโพธ ห่วงฤทธิ์ ห่วงอำนาจวาสนา ห่วงความเป็นไปได้ ที่ตนอาจจะเจริญรุ่งเรืองหรือประสบความสำเร็จในด้านใดด้านหนึ่ง เพราะมัวแต่ปฏิบัติก็อาจเสียโอกาสไป หรือไม่ก็กังวลว่าคนอื่นจะแย่งชิงเอาไป เป็นต้น

#ยุวพุทธฯบ้านแห่งธรรม #สร้างคนสร้างที่ใจ #ศูนย์ปฏิบัติธรรมเพื่อทุกวัยของชีวิต #YUWAPUT

 

เผยแพร่เพื่อเป็นวิทยาทานค่ะ

พี่ชายคนนึงเล่าให้ฟังว่าราวปี พ.ศ 2547 เกิดอาการกระดูกทับเส้นทำให้ขาข้างนึงไม่มีแรง มีโอกาสจะเป็นง่อยได้ไปหาหมอที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งนึง หมอบอกต้องผ่าตัดค่าใช้จ่ายประมาณ8หมื่น จึงไม่ตัดสินใจผ่า ยอมทนปวดกลับมาบ้าน วันนึงมีลุงคนนึงมาบอกว่า เอาใบพลูกินหมากซัก30ใบ มาตำให้ละเอียดผสมกับเหล้าขาว1เป๊ก แล้วพอกไปบริเวณกระดูกก้นกบ บั้นเอวหรือแนวกระดูกสันหลัง ถ้าปวดเข่า ปวดไหล่ ปวดขีอมือก็พอกไปบริเวฯนั้น ทำ3-4ครั้งก็ได้ครับ ประมาณ20-30นาที ทำเช้าเย็นพอแค่2ครั้งเท่านั้น
ไม่น่าเชื่อว่า...อาการกระดูกทับเส้นที่หมอบอกต้องผ่าตัดหายเป็นปลิดทิ้ง 10กว่าปีที่ผ่านมาไม่มีอาการเจ็บปวดที่ขาและหลังอีกเลย โจ้ลองไปทำดูซิ แค่ซื้อพลู20บาท กับเหล้าขาว1เป๊ก13บาท พอลองทำแล้วอาการยืดตัวไม่ตรงเพราะปวดหลังเวลาลุกขึ้นยืนก็หายดีขึ้นทันที ของแบบนี้แล้วแต่ศรัทธาและความเชื่อ ไม่มีผลเสียต่อร่างกาย แค่เสียเงิน30กว่าบาท ของแบบนี้ไม่ลองไม่รู้ ขอบคุณพี่คม พี่นา ที่เล่าสู่กันฟังครับ

ปล.เอาพลูที่ตำจนละเอียด(ห้ามใช้เครื่องปั่น)ผสมกับเหล้าขาวพอแฉะๆพอกลงไปที่ก้นกบประมาณ30นาที พลูที่พอกเอามาเก็บใส่ตู้เย็น ใช้ได้อีก1ครั้งโดยผสมเหล้าขาวลงไปพอแฉะแล้วพอกตรงที่เดิม

#ขอบุญกุศลทั้งหมดที่มีอุทิศและแผ่ส่วนกุศลให้ครูบาอาจารย์ทั้งหลายและผู้บอกกล่าวแนะนำทั้งหมดรวมทั้งผู้ป่วยทุกท่านให้หายจากอาการเจ็บป่วยด้วยเถิด

ขอบคุณเรื่องแนะนำจาก เดชพล พัวไพรโรจน์

 

การเดินทางของชีวิต...
ชีวิตคือการเดินทาง...
สิ่งที่เหลืออะไร...
สิ่งที่ได้คืออะไร...
และ...เมื่อฉันหมดแรง
...จะหยุดนิ่งไม่ได้หรือ

 

จากเฟสบุคชื่นศิริ

สาเหตุที่ใบไม้ร่วงหล่น ไม่ใช่เพราะสายลมที่คอยพัด ไม่ใช่เพราะลำต้นไม่รั้งไว้ แต่เป็นเพราะถึงเวลาของมันแล้ว

ชีวิตก็เหมือนใบไม้ มีเกิดมีดับ สิ่งใดควรเกิดย่อมเกิด สิ่งใดควรจากย่อมจาก สิ่งใดควรมาย่อมมา สิ่งใดควรไปย่อมไป ต่อให้อยากรั้งอยากฉุดไว้ ใครเล่าทำได้

 

ความจริงคือความจริง เมื่อใดที่ใจยอมรับความจริง ทุกข์ก็สิ้นไปจากใจ

รู้เห็นไปตามจริง รู้เห็นที่ไหน ก็รู้เห็นที่กายที่จิตที่ตนครองอยู่

กายนี้ จิตนี้ กระทบอย่างนี้ แล้วเกิดอย่างนี้ ทุกข์มั้ย ทุกข์ก็หาทางดับทุกข์ ไม่ทุกข์ ก็สักแต่ว่ารู้ไป ไม่ต่อต้านดึงดัน

ไม่สำคัญมั่นหมาย นั่นแหละคือความหมายของ...สักแต่ว่า...

เห็นทุกข์แล้วเป็นทุกข์ เห็นทุกข์แล้วไม่ทุกข์ มีแค่นี้เอง

 

วันเพ็ญ

พระจันทร์วันเพ็ญส่องสว่างกระจ่างฟ้า สาดแสงลูบไล้แผ่นดินไปไกลสุดสายตา แม้ดึกเพียงใด ความมืดของราตรีกาลก็มิอาจลบเลือนความสว่างของพระจันทร์ได้เลย

ความสว่างนั้นปรากฏ ณ ที่ใด ย่อมขับไล่ความมืดให้เลือนหายไป ส่วนความมืดนั้นกลับไม่สามารถผลักไสความสว่างไปได้แม้แต่น้อย ตรงกันข้าม ยิ่งมืดมนเท่าไร ก็ยิ่งขับความสว่างให้โดดเด่นกระจ่างใสยิ่งขึ้น

บุคคลที่เข้าถึงธรรม จิตใจย่อมสว่างกระจ่างดังพระจันทร์วันเพ็ญที่ลอยเด่นอยู่กลางฟ้า แม้รอบตัวจะเต็มไปด้วยความมืดมน ผู้คนถูกครอบงำด้วยกิเลส ตำหนิติฉิน มุ่งร้ายหมายแกล้ง แต่ก็มิอาจทำให้ทุกข์ระทมหรือหม่นหมองได้

บุคคลที่มีจิตใจแจ่มกระจ่างด้วยปัญญา ย่อมสามารถขับความหลงออกไปจากใจของผู้คนรอบข้าง ปลุกสติให้กลับคืนมา

ปุถุชนนั้นจะสุขหรือทุกข์ ย่อมขึ้นอยู่กับปัจจัยภายนอกหรือผู้คนแวดล้อม แดดร้อน ก็ทุกข์ ลมเย็นต้องตัวจึงสุข ยินดีเมื่อได้รับคำสรรเสริญ ขุ่นเคืองเมื่อถูกตำหนิ แต่ผู้ที่เข้าถึงธรรม ย่อมเบิกบานสดชื่นอยู่เสมอ แม้แวดล้อมด้วยปัญหา ความขัดแย้งและแรงเสียดทาน ยิ่งคนพาลมารุมล้อม คุณงามความดีของผู้ใฝ่ธรรมยิ่งปรากฏโดดเด่นเพียงนั้น

 

แค่อยากโม้....3 ปีแห่งการรอคอย

ย้อนไปเมื่อสามปีที่แล้ว น้องคนนี้เข้ามาทักทายและอยากได้งานที่เราปั้นไปบูชา เค้าถามว่าเค้าควรบูชาอะไรดี ขอให้ดูให้หน่อย ตอบเค้าไปว่าตอนนี้ยังไม่ชัดเพราะเห็นทั้งพญานาคและฤาษี เค้าก็ขอให้ปั้นอะไรให้ก็ได้

เราก็บ่ายเบี่ยงเพราะไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แต่ว่าเค้ารู้สึกว่าผูกพันกับเรา คล้ายๆ มีศรัทธา ด้วยความระแวงภัยของเราเอง ก็หาข้ออ้างในการปฏิเสธยังไม่รับปั้นงานให้ จนกว่าเค้าจะระลึกได้เองว่ามีใครเป็นครูบาอาจารย์

ผ่านไป 3 ปีจนเราลืมไปแล้วว่าเคยบอกเค้าไปว่า...มีญานฤาษีตาไฟ เค้ากลับมาทักทายอีกครั้งและยังยืนยันที่จะขอบูชางานปั้นจากเรา ใจอ่อนซิ กาลเวลาไม่อาจทำให้เค้าเปลี่ยนใจได้เลย เราเห็นความมุ่งมั่นของเค้า จึงรับปากปั้นให้ ทั้งๆ ที่ไม่เคยปั้นฤาษีและไม่เคยเห็นฤาษีตาไฟ

งานปั้นกลับราบรื่นเรียบร้อยดี และปั้นได้สำเร็จไวมากด้วยบารมีของปู่ฯ ท่านมาให้เห็นขณะลงมือปั้น ปั้นเสร็จสมบูรณ์ภายใน 7 วัน วัดขนาดได้ 7"x9" จะจัดส่งให้ทางไปรษณีย์ก็ไม่ยอมอีก ยืนยันจะมารับด้วยตัวเอง เพราะอยากพบเรา

เมื่อวานไปส่งงานค่ะ แล้วได้มอบไหลน้ำพี้ให้เป็นของที่ระลึกไปสองชิ้น เป็นพระรอดกับไหลกลมๆ

ผู้รับคงดีใจมาก นำไปใส่กรอบและวันนี้ส่งภาพมาให้ชม เราก็เลยอยากอวด

 

แชร์มาจากเฟสบุคค่ะ

#ดีมากอยากให้อ่าน

หนุ่มฝรั่ง ชี้..ศาสนาพุทธเท่านั้น
ที่มี คำสอน ทั้ง ๑๙ อย่างนี้
ที่ไม่สามารถพบจากศาสนาอื่นได้

๑.พระพุทธศาสนา ปฏิเสธว่า มีผู้สร้างโลก ถือว่า ความเชื่อนี้ไร้สาระ ตรงข้าม โลกนี้ประกอบขึ้นจากเหตุธาตุทั้ง4 คือ ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม ประกอบกันขึ้นมา

๒.พระพุทธศาสนา ไม่ใช่ระบบความเชื่อที่จะใช้คำว่า Religion เพราะศัพท์นี้ หมายถึง ต้องมีความเชื่อในพระเจ้าผู้สร้างโลก

๓.จุดหมายปลายทางของพระพุทธศาสนา คือ ละกิเลสได้หมดแล้ว หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด หรือวัฏฏสงสาร ไม่ใช่ไปแค่ไปเกิดบนสวรรค์เท่านั้น

๔.พระพุทธเจ้า ไม่ใช่ผู้ปลดปล่อยสรรพสัตว์ให้รอด สรรพสัตว์ต้องช่วยตนเอง เพื่อหลุดพ้นจากกิเลสและวัฏฏสงสาร

๕.ความสัมพันธ์ระหว่างพระพุทธเจ้า และสาวก คือ ครูผู้สอนและลูกศิษย์ ไม่ใช่ตัวแทนพระเจ้า และทาสผู้รับใช้

๖.พระพุทธเจ้า ไม่เคยให้สาวกใช้ความเชื่อโดยปราศจากปัญญามานับถือ ตรงข้าม ทรงสอนให้ใช้ปัญญา พิจารณาคำสอนก่อนจะเชื่อ และเห็นจริงด้วยตนเอง และ ผู้เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ต้องนำคำสอนไปประพฤติและปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นด้วยตนเอง ไม่มีใครช่วยทำให้หลุดพ้น จากการเวียนเกิดเวียนตายได้ นอกจากให้แค่แนะนำ ชี้ทางที่ถูกต้องให้เท่านั้น

๗.คำสอนพระพุทธเจ้า เป็นสัจธรรมประจำโลก ที่เป็น และมีอยู่แล้ว พระพุทธเจ้าทรงเป็นแต่เพียงผู้ค้นพบเท่านั้น พระองค์ไม่ใช่เป็นคนสร้างคำสอนขึ้นมา

๘.นรกในพระพุทธศาสนา ไม่ใช่สถานที่กักขังสัตว์อย่างนิรันดร์ บุคคลทำบาปแล้ว ไปเกิดในนรก เมื่อพ้นกรรมแล้ว ก็สามารถกลับไปเกิดในภพที่ดีกว่าได้ และ สัตว์ที่ได้ไปเกิดในภพอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นภพเทวดา ภพมนุษย์ ภพเปรตวิสัย ภพเดรัจฉาน ก็สามารถเวียนกลับไปเกิดในนรกอีกได้ เช่นกัน

๙.พระพุทธศาสนา ไม่ได้สอนแนวคิดเรื่องบาปติดตัว เหมือนที่ศาสนาเทวนิยมสอน แต่สอนเรื่องกฎแห่งกรรม ซึ่งมีทั้งกรรมขาว กรรมดำ และกรรมไม่ขาวไม่ดำ

๑๐.พระพุทธศาสนาสอนว่า มนุษย์และเทวดาทุกชีวิต มีศักยภาพที่จะบรรลุธรรมได้ ข้อสำคัญก็คือ ต้องใช้ความพยายามในการปฏิบัติ เพื่อชำระกิเลสให้พ้นไปจากจิตใจ พระพุทธเจ้าก็ทรงเป็นมนุษยสามัญธรรมดา ที่หลุดพ้นจากทุกข์ได้ เพราะการประพฤติปฏิบัติมาหลายภพหลายชาติ

๑๑.กฎแห่งกรรมของทุกสรรพสัตว์ เป็นตัวอธิบายว่า เหตุใดคนถึงเกิดมาแตกต่างกัน กฎแห่งกรรมเป็นตัวอธิบายถึงภพภูมิที่สัตว์พากันไปเกิด

๑๒.พระพุทธศาสนา เน้นให้แผ่เมตตากรุณาไปยังสรรพสัตว์ ทุกภพภูมิ ทรงสอนให้ละจากการประพฤติชั่วทั้งปวง คือ อกุศลกรรมบท ๑๐ และให้ประพฤติปฏิบัติแต่ กุศลกรรมบถ ๑๐

๑๓.ธรรมะของพระพุทธเจ้า เสมือนแพ หลังจากบำเพ็ญเพียรจนดับทุกข์ได้แล้ว จะอยู่เหนือบุญและบาป ธรรมะทั้งปวงจะต้องไม่ยึดมั่นถือมั่น

๑๔.ไม่มีสงครามศักดิ์สิทธิ์ ในทรรศนะพระพุทธศาสนา การฆ่าสัตว์ตัดชีวิต การเบียดเบียนผู้อื่นด้วยเจตนา ผู้กระทำจะต้องรับกรรมทั้งสิ้น จนกว่าจะหลุดพ้นจากวัฏสงสาร การฆ่าในนามศาสนา ยิ่งกระทำมิได้ในพระพุทธศาสนา

๑๕.พระพุทธเจ้าสอนว่า กำเนิดสังสารวัฏ ไม่มีเบื้องต้นและที่สุด ถ้าหากสัตว์ยังดำเนินชีวิตไปตามอำนาจกิเลส
ที่มี อวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก ย่อมต้องเวียนเกิดเวียนตายต่อไป

๑๖.พระพุทธเจ้า ทรงเป็นพระสัพพัญญู ( ผู้รู้ความจริงทุกเรื่องที่ทรงอยากรู้ ) และพระพุทธเจ้า มิใช่เทพเจ้าผู้ทรงมีอำนาจล้นฟ้า ดลบันดาลสร้างธรรมชาติต่างๆ ขึ้นมา

๑๗.การฝึกสมาธิ สำคัญมากในพระพุทธศาสนา แม้ว่าศาสนาอื่นๆ ก็มีสอนให้คนมีสมาธิ แต่มีพระพุทธศาสนาเท่านั้นที่สอน วิปัสสนา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้รู้แจ้งว่า ทุกสรรพสิ่ง เมื่อมีการเกิด ย่อมมีการดับ

๑๘.หลักคำสอนเรื่อง สุญญตา) หรือ นิพพาน เป็นเอกลักษณ์เฉพาะในพระพุทธศาสนา ถือเป็นคำสอนระดับสูงของพระพุทธศาสนาด้วย เพราะสรรพสิ่งทั้งหลายทั่วโลกธาตุ ไม่มีสิ่งใด เที่ยงแท้ถาวร มีแต่ปัจจัย ดิน น้ำ ไฟ ลม ประกอบกัน สรรพสิ่งในโลก จึงตกอยู่ในภาวะอนิจจัง ทุกขัง และอนัตตา เหมือนกันหมด พระพุทธศาสนาจึงไม่สุดโต่งไปตามแนวศาสนาประเภทเทวนิยม หรือ ตามแนววัตถุนิยม ที่มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น มีตัณหาเป็นเครื่องผูก ที่ต้องเวียนเกิดเวียนตาย จนกว่าจะบรรลุธรรม จึงจะดับเย็น เข้าสู่นิพพาน

๑๙.วัฏจักร หรือสังสารวัฏ เป็นคำสอนในพระพุทธศาสนา ตราบใดที่สรรพสัตว์ ยังไม่หลุดพ้นจากกิเลส ก็จะเวียนว่ายตายเกิด ไปตามภพภูมิต่างๆ ตามแรงเหวี่ยงของกรรม ไม่สิ้นสุด จนกว่าจะบรรลุธรรม ดังนั้น ทุกสรรพสัตว์ จึงต้องช่วยตนเอง เพื่อพัฒนาไตรสิกขา ให้หลุดพ้นจากโลภะ โทสะ และโมหะ หรืออวิชชา เพื่อการหลุดพ้นจากสังสารวัฏให้ได้ ฯ

~ เสียดายไม่ทราบชื่อฝรั่งผู้เขียน แต่ ก็แสดงว่า มีความเข้าใจในพระพุทธศาสนา ขอกราบคารวะ และ ขอชื่นชมด้วยใจจริง

ความดี ไม่มีวันตาย
ศรีเทพ สะพานบุญแห่งเมืองพญานาค

 

ก๊อปมาจ้า มีแต่ของก๊อปเนอะ

เติมคำว่า .. " ไม่เป็นไร "
ลงไปในการ .. " ใช้ชีวิต " บ้าง
ใช้มันเป็นบทเรียน .. เป็นประสบการณ์
ที่จะ .. ประคองให้เรา ..
.. ก้าวเดินต่อไป .. ให้มั่นคงยิ่งขึ้น

... อยู่กับตัวเองเยอะๆ ...
ทบทวนว่ามันแย่ เพราะอะไร..? เพราะใคร..?
ถ้ามันแย่ .. เพราะเรา .. ก็อย่าทำอีก ..
ถ้ามันแย่ .. เพราะคนอื่น .. ก็อย่าเดินเข้าไปอีก แค่นั้น

เพราะ .. ชีวิต" ไม่ได้อยู่ที่ปลาย ' ปากกา '
จะได้ขีดฆ่า .. แล้วเขียนขึ้นมาใหม่
แต่อยู่ที่ .. สองแขน สองขา กับหนึ่งใจ
ที่สร้างได้ .. ด้วยตัวของเราเอง

‍❤️‍‍คนเรา .. ไม่ต้องเก่งไปหมดทุกอย่าง... ที่ทำหรอก
แต่ .. ขอให้มี ' ความสุข ' กับสิ่งที่ทำก็พอ น๊ะจ๊ะ
~ นะจ๊ะ สายลม ~

 

ยามที่ใครคนหนึ่งพูดคำว่า "ช่างเถอะ" สองคำนี้มันแปลว่าฉันผิดหวังจนไม่รู้จะบรรยายยังไง
...
น่าขัน เรามักเป็นศิราณีให้กับคนรอบข้าง แต่พอตัวเองเจอเข้าบ้าง กลับหาทางออกไม่เจอ
...
ยามมีสติให้ตัดสินงาน
ยามสับสนให้อ่านหนังสือ
ยามโกรธให้นอนหลับ
ยามอยู่ลำพังให้พิจารณาตนเอง
...
เพราะเราคิดเก่งเกินไป
คิดมากเกินไป
มโนเยอะเกินไปเอง
จึงทำให้เราเป็นทุกข์จนถึงทุกวันนี้
...
เรามักจะตามหาผู้อุปถัมภ์จนละเลยในตัวเอง ลืมไปเลยว่าตัวเองก็สามารถเป็นผู้อุปถัมภ์ของตัวเองได้
...
ยามที่เราชี้นิ้วตำหนิคนอื่นด้วยคำเสียดสีแรงๆ อย่าลืมว่าในขณะนั้นมี นิ้วกลาง นางและก้อย กำลังชี้มาที่ตัวเราอยู่เช่นกัน

...
นุสนธิ์บุคส์

 

เป็นเหตุปัจจัยของกันและกัน

 

มายา
ทุกการแสดงล้วนเกิดขึ้นจากการปรุงแต่ง

 

เพราะศรัทธา...ของจริงได้กับคนจริง
ปู่ฤาษีตาไฟ ขนาด 7"x9"
หวยออก...79 เฉยเลย
ให้โชคผู้บูชาค่ะ

 

ทุรชนคือผู้ที่ถูกม่านแห่งโมหะ อวิชชา ปิดบังดวงตาไว้ จึงยังเพลิดเพลินกับการเผาตนเอง ไม่รู้จักทุกข์โทษเวรภัยที่ซึมซาบลงไปสู่กายและจิต
ประดุจดังหนังช้างที่ไม่ระคายเคืองต่อปฏักที่ทิ่มแทง เสียเวลาในการเสี้ยม

 

ฉันหลงรักงานของตัวเองทุกชิ้นงาน

 

ทุกคนล้วนมีจุดที่อยู่ จุดที่ยืน
จุด .. ที่อาจไม่อยากอยู่ แต่ต้องอยู่
จุด .. ที่อยากอยู่ แต่ไม่ได้อยู่ หรืออยู่ไม่ได้
คนเรา .. ล้วนมีจุดยืนแตกต่างกันไป

หลายจุด หลายที่ ก็ไม่ได้ต้องการให้มีคนยืนอยู่มากนัก

~และบางจุด อาจจะต้องการเพียงแค่ .. คนเดียว~

 

ผู้ชายคนหนึ่ง เขาอาจเลือกผู้หญิงที่ไม่มีทรัพย์สินอะไรติดตัวเลยมาเป็นคู่ชีวิต แต่ผู้หญิงส่วนมาก ไม่มีทางแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่มีหลักประกันในชีวิต

ผู้ชายสองคนตามจีบผู้หญิงคนเดียวกัน ชายที่ทุ่มเทน้อยจะเลิกตามจีบก่อน

ผู้หญิงสองคนรักผู้ชายคนเดียวกัน หญิงที่ทุ่มเทมากจะยอมปลีกตัวออกก่อน

เรื่องที่เปราะบางที่สุดระหว่าผู้ชายด้วยกัน ก็คือคนอื่นพูดถึงผู้หญิงของตัวเอง

เรื่องที่สนุกปากที่สุดระหว่างผู้ชายด้วยกัน ก็คือพูดถึงผู้หญิงของคนอื่น

ยามที่ผู้ชายพูดถึงผู้หญิงของตัวเอง เขามักจะบอกว่าผู้หญิงของตัวเองคือแบงค์พัน ส่วนผู้หญิงของคนอื่นเป็นแบงค์ร้อย ทั้งๆ ที่ในใจก็รู้ดีว่าใครแบงค์ร้อยใครแบงค์พัน

ผู้ชายที่รูปหล่อมากเกินไป ไม่ดีหรอก! เพราะเป็นเหตุให้สามีของหญิงอื่นระแวงว่า จะมาหว่านเสน่ห์ภรรยาของเขาอยู่เสมอ

ผู้หญิงที่สวยงามมากเกินใครไม่ดีหรอก! เพราะมักจะเจอสีหน้าที่ไม่เป็นมิตร และเป็นขี้ปากภรรยาของชายอื่นอยู่เสมอ

เบื้องหลังความสำเร็จของชายหนุ่ม มักมีศรีภรรยาอยู่เบื้องหลัง

เบื้องหลังความล้มเหลวของผู้ชาย มักมีกิ๊กแอบซ่อนภรรยาอยู่เบื้องหลัง

ยามสร้างฐานะ ผู้หญิงของเขาจะเป็นกุนซือคอยให้คำปรึกษาอยู่เคียงข้างเขา ยามมีฐานะ ผู้หญิงของเขาจะเป็นแม่ครัวคอยทำอาหารให้เขากิน

จึงกล่าวได้ว่า
ไฟร้อนพิสูจน์ทอง
เงินทองพิสูจน์ใจหญิง
ผู้หญิงพิสูจน์ผู้ชาย!

~นุสนธิ์บุคส์~

 

ปีนี้ลอยกระทงตรงกะวันจันทร์ ลอยหลังเที่ยงคืนจะเป็นลอยอังคาร ...
โปรดเช็คเวลาลอยกันดีดี ....

 

จากเฟสบุค...ชื่นศิริ

บางคนดูใจดี…แต่ไม่เคย “เสียสละ”
บางคนดูใจร้าย… แต่มีอะไร “พึ่งได้เสมอ”

บางคนดูน่ารัก แต่ได้ตลอดไม่เคยเสีย
บางคนดูไม่น่ารัก แต่ให้ตลอดไม่เคยได้

บางคนดูน่าไว้ใจ แต่ไม่มีใจ
บางคนดูไม่น่าไว้ใจ แต่ช่วยเหลือเต็มที่

บางคนดูเป็นผู้ใหญ่ แต่อารมณ์เสียง่าย
บางคนดูเป็นเด็ก แต่คุมกิริยาได้ดี

บางคนดูเป็นมิตร แต่คิดเฉือนใจ
บางคนดูเป็นภัย แต่ได้ใจทุกที

จงจำไว้ว่าทุกสิ่งไม่ใช่อย่างที่ตาเห็น
~จงให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์~