กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย 9@Phonlee, 1 กุมภาพันธ์ 2018.

  1. หนุ่มโชคชัย

    หนุ่มโชคชัย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    551
    ค่าพลัง:
    +4,442
    โห เป็นเรื่องเป็นราวขนาดนี้ ไม่เหมือนความฝันเลยครับน้องเจน
     
  2. กาแฟโบราณ2สอ

    กาแฟโบราณ2สอ วันหนึ่งอยากเดินเข้าป่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +2,773
    ที่แน่ๆคือเจนจำรายละเอียดได้เยอะด้วยคะเฮีย
    บางวัน ฝันเป็นเรื่องราว ตื่นมา ลืมหมดเลย
    แต่ว่าเมื่อคืนนี้ หลับ ฝัน ยาวจำได้ด้วย
    ตื่นมา เจนยังพยายามจำชื่อของที่เขาถาม
    และ แปลกที่นามสกุลอาจารย์นพ เจนบอกไปอีกนามสกุล
    แต่ชื่อถูกต้อง นามสกุลอีกนามสกุล เพราะๆ ลืมเลย
     
  3. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,885
    ค่าพลัง:
    +4,720
    ".....มะม่วงหาวมะนาวโห่
    นำผลดิบ(ย้ำว่าผลดิบ) มาตำให้ละเอียด
    แล้วคั้นเอาน้ำ ผสมกับน้ำผึ้งประมาณ
    ช้อนชา แล้วดื่ม เป็นวิธีการรักษา
    อาการทางสายตาครับ คุณ ๙
    ส่วนนี้ พระครูปลัดท่านบอกมา....."


    ขอบคุณมากครับอจ.นพ
    และกราบขอบคุณท่านพระครูปลัด
    ที่บอกสูตรรักษาอาการทางสายตานี่มา

    เมื่อ 2 ปีก่อนไปตัดแว่นใหม่
    ช่วงที่กำลังตรวจวัดสายตา
    จนท.บอก...
    "...จากค่าที่วัดได้เทียบกับที่บันทึกไว้
    สายตาคุณเสื่อมเร็วกว่าคนปกติทั่วไป"

    มาถึงวันนี้ตัวเองรู้สึกว่า...จริงแฮะ
    สงสัยต้องเปลี่ยนเลนส์อีกแล้ว



    นับว่าเป็นโชคเข้าข้างจริงๆ
    บังเอิญ...ข้างบ้านรั้วติดกันปลูกไว้ 1 ต้น
    ...สูง 3 ม.ได้มั่ง
    หลายเดือนก่อนเขาบอกว่า...
    "...ไม่มีใครกิน...ทิ้งไว้จนร่วง
    ถ้าจะกินก็มาเด็ดได้เลย"

    เด๋วจะนำสูตรนี้ไปลองทำกิน
    (เมื่อกี้ออกด่อมๆมอง ช่วงนี้ไม่เห็นมีลูกเลย)

    แล้วว่างๆจะไปซื้อมาปลูกสักต้นแล้ว
    ...อย่างไงๆก็สะดวกกว่า
     
  4. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    สงสัยเทศกาลเจ้ากรรมนายเวรมิตติ้งมั้งครับท่าน9 รุมๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 กุมภาพันธ์ 2019
  5. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    น้องเจนน่าจะเสียดายที่ไม่มีเลขในฝัน 55+
     
  6. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,885
    ค่าพลัง:
    +4,720
    วัดป่าภูหายหลง ในคืนวันมาฆบูชา
    ผมไปถึงที่นั่นประมาณทุ่มครึ่ง
    คนที่มาเวียนเทียนไหว้พระบนยอดเขามีแค่หลักสิบ
    (โบสถ์วิหารอยู่สูงระดับน้ำทะเลประมาณ 700เมตร)
    อาจเพราะคนอื่นมาช่วงหัวค่ำ กลับไปหมดแล้ว
    ...บางช่วงเหลือผมอยู่คนเดียว...เออเงียบดี
    ท่ามกลางแสงจันทร์เต็มดวง...ที่ใหญ่กว่าปกติ
    ...ออกสีเหลืองส้มจางๆ

    ช่วงหนึ่งผมทำใจกล้าๆ(ความจริงกลัวนะครับ)
    เดินไปที่ศาลาบูรพาจารย์ซึ่งแยกออกไปอีกโซน
    ทางเดินที่มีแสงจากหลอดไฟสลัวๆ(ไม่สว่างมาก)
    ศาลานี้จะมีรูปเหมือนพระเกจิอยู่ในห้องเดียวกัน
    ...ปกติโซนนี้แม้กลางวันยังแทบไม่มีญาติโยมเดินมา
    ...เพราะแยกออกไปต่างหาก
    ต้องเดินบันไดลงไปสัก 20 ขั้น...แล้วต่ออีก 20 ขั้น
    แต่นี่กลางคืน...คงต้องรู้ว่าไม่มีเงาคน
    ...มีแต่เงาต้นไม้ใต้แสงจันทร์...ไหวไปไหวมา
    ช่วงที่เดินลงไปถึงใต้ศาลาพอดี
    ...เสียงดัง "ปัง " อย่างแรง
    ทีแรกคิดว่างูใหญ่ตกลงกระแทกกระเบื้องหลังคา
    หรือมีใครเอามือจงใจตบหลังคา
    แต่จะมีใคร...มือยาวอะไรปานนั่น...ตบถึง
    มันดังมาก...ตรงตำแหน่งหัวฉันพอดี
    ผมสะดุ้งเฮือก...สิ่งแรกที่ทำคือ
    รีบท่อง "นโมพุทธายะ ๆ ๆ ๆ ๆ " อย่างไว
    (ถ้าเป็นบางคนอาจเผ่น100เมตรไปแร้ว)
    ...พอตั้งสติได้ ผมเดินต่อไปถึงประตูศาลา
    ด่อมๆ มองๆตรงบานกระจก
    เงียบครับ...ไม่มีใครอยู่ในห้องพระ
    พนมมือไหว้องค์พระเกจิ...ไม่ได้เข้าไป
    จากนั่น...ผมจึงรีบจ้ำเดินออกไป...อย่างไว

    กลับขึ้นไปบนวิหารอีกครั้ง(แสงไฟสว่างจ้าดี)
    ก็ได้เห็นผู้คน 7-8 คนขึ้นมาเวียนเทียน
    ...ยังพอทำให้ใจชื่นขึ้นมาบ้าง

    ...สักครู่ใหญ่ๆ...หลังจากคนเดินลงไปหมดแล้ว
    ...ผมก็ตั้งหลัก...ถ่ายรูปไปรอบๆวิหาร

    IMG_20190219_200719.jpg
    IMG_20190219_195342.jpg
    IMG_20190219_195544.jpg IMG_20190219_200413.jpg
    IMG_20190219_204043.jpg
    IMG_20190219_203129.jpg

    *******************************

    นี่คือบันไดพญานาคอันศักดิ์สิทธิ์

    IMG_20190219_203815.jpg

    ลองดูรูปข้างล่างนี้ครับ
    ผมก็ไม่รู้ว่าเป็นตัวอะไร
    เรียกว่า "ภาพปริศนา" ก็แล้วกัน
    IMG_20190219_222817 - Copy (3).jpg

    ถ้าดูไม่ออก...คืนนี้มาเฉลย
    (ตามที่คาดว่า...จะเป็นนะครับ)
     
  7. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    อาจมีพลังงานบางอย่างเป็นแน่ครับ
     
  8. กาแฟโบราณ2สอ

    กาแฟโบราณ2สอ วันหนึ่งอยากเดินเข้าป่า

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    782
    ค่าพลัง:
    +2,773
    มีสิคะพี่ เดี๋ยวเจนหลังข้อความ 5555
     
  9. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,885
    ค่าพลัง:
    +4,720
    *ภาพปริศนา*
    ตามที่วงกลมไว้

    ...ดูคล้ายๆเป็นตัวอะไร IMG_20190219_222817 - Copy (4).jpg
     
  10. aegmanmu

    aegmanmu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    5,220
    ค่าพลัง:
    +10,114
    สาธุๆ เต็มๆๆเลย
     
  11. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,885
    ค่าพลัง:
    +4,720
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า 92 ลำดับ# 1840

    เจ๊แอม...สงสัยว่าเวลาฝันถึงปู่และตา ทำไมท่านสื่อสาร ปากจึงไม่ขยับ ตอนแรกก็แปลกใจว่าทำไมเราถึงเข้าใจที่ท่านสื่อ ทั้งๆ ที่ท่านก็ไม่ได้พูดกะเราสักคำ

    [QUOTE="nopphakan, post:

    บรรพบุรุษ ถ้าท่านมาหาได้แสดงว่าท่านดีแล้ว
    ไม่ต้องไปสนใจอะไรหรอก....เรื่องเกี่ยวกับระบบภาคทิพย์
    ยกเว้นว่า จะมีสัญญาว่า ท่านยังไปไม่ดี ค่อยว่ากัน......


    ส่วนนี้โม้....

    อย่างส่วนตัว เคยไปช่วยยาย...มันมีเหตุผลอยู่
    และที่ช่วยได้ หนึ่งเพราะเป็นสายเลือดเดียวกัน
    คือ คุณยาย ที่ จ.อุดร ท่านเสียไปประมาณ ๒ ปี
    แต่ว่า คุณยาย ท่านติดและเป็นห่วงหลานสาว
    คนหนึ่งที่ จ.นนทบุรี มากๆ
    เรียกว่า ติดกันเป็นตังเม
    ตอนมีชีวิต.
    ในระหว่างสองปีที่ คุณยาย เสียไปนี้
    พระมารดา เคยฝันว่า
    แบกคุณยาย ไปส่งที่ท่าน้ำนนท์
    คือ บ้านญาติ
    จะอยู่อีกฝั่งแม่น้ำ
    คือ มีเท่านี้หละ ที่ พระมารดาฝันถึงนะ...

    ....แล้วมันมีเหตุ ใน ๒ ปีนี้เอง
    ที่หลานกำลังได้รับอันตราย
    ปรากฏว่า คนที่จะทำอันตรายหลาน
    เห็นหน้าหลาน
    เป็นหน้าคุณยาย โผล่ออกมา
    ด้วยเหตุนี้ ทำให้คุณยาย ท่านยังไม่ได้ไปไหน
    และด้วยกำลังบุญที่ท่านเคยมี มันหมดลง
    เลยเป็นเหตุให้ท่านนั้น ไปไม่ดี..............
    เรื่องนี้ รู้มาถึงหลายชาย สุดเท่ห์คนหนึ่ง
    ด้วยเหตุที่เห็นว่า เป็นยาย ตนเอง
    จึงได้ ทำการ ป๊องๆ แป๊งๆ ช่วยคุณยายท่านขึ้นมา.....

    หลังจากนั้น ประมาณ ๑ สัปดาห์ก็พบว่่า
    คุณ ยาย ท่านพ้นแล้ว
    โดยมี ชายหน้าตาเหมือนไม่ค่อยรับแขก
    ยืนอยู่ท้ายเรือเล็กลอยได้
    โดยมีคุณยาย
    นั่งยิ้ม หน้าแป๊นแล๋นอยู่

    และหลังจากนั้น อีก ๒ วัน เจ้าหลานชายสุดเท่ห์
    เลยไปถามพระมารดาว่า ฝันอะไรบ้างไหมช่วงนี้
    พระมารดาบอกไม่ได้ฝัน แต่อยู่ดีๆก็ หึๆ ฝันๆ
    ฝันเห็นยาย มายืน ใส่บาตรพระอยู่ที่บ้าน....
    อุปมา พอเข้าใจได้หรือยังว่า

    ถ้าเราเห็นญาติเราได้ ในสภาพที่ดี
    แสดงว่า ท่านไปดีแล้ว

    ดังนั้นอย่าไปห่วงกังวล หรือไปสนใจอะไรเลย...

    คำว่าแรงคือ ด้วยภูมิสนับสนุนที่ดีนั่นเอง....
     
  12. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,885
    ค่าพลัง:
    +4,720
    Tips & Tricks (วรรคทอง)
    หน้า 94 ลำดับ# 1875

    อาจารย์นพเล่าอะไรให้ฟัง
    ลองอ่านดู...สนุก...ไม่อยากให้จบครับ


    [QUOTE="nopphakan, post:

    เรื่องทางธรรมเนี่ย หรือปฏิบัติเนี่ย
    ส่วนตัวถือว่า ไม่เท่าไร พอกระโหลกกระลามากๆ

    มันมีเหตุเนื่องจากตอนเด็กๆ ลืมตาขึ้นมาข้างเตียง
    เคยเห็นเจ๊ เจ้าที่ๆบ้าน ชุดขาว
    แกนั่งดูทีวีอยู่ ผมยาวถึงพื้นเลย
    ผมเส้นเล็กนะ หุ่นผอมๆนะ
    ด้วยความเป็นเด็กมาก นึกว่า เป็นญาติๆ
    คือ หลับตาลืมตามาก็เห็น เรียกว่า นานมาก
    และก็สงสัยว่า เจ๊แกดูอะไร
    ทำไมไม่เสียบปลั๊ก ๕๕๕
    แต่วันนั้นไม่ได้รู้สึกกลัวอะไรนะ..
    เพราะยังไม่รู้จักคำว่า ผี

    มารู้ทีหลังว่า...
    พระมารดา ฝันถึงเจ๊ คนนี้ ๑๔ วันติด
    เลยนิมนต์พระมาทำพิธี
    สุดท้าย เจ๊ย้ายไปอยู่ต้นไม้ใหญ่
    หลังบ้านที่ถัดไปอีก ๓ หลัง...
    พี่สาวบ้านนั้น ก็ได้เจอ เจ๊ด้วย
    มาเล่าด้วยความกลัว
    อิอิ แต่ใครจะบอกว่า ย้ายมาจากบ้านตัวเอง
    ปล่อยให้ พี่สาวบ้านนั้นกลัวเล่นๆ สนุกดี ๕๕
    เพราะ พี่สาวบ้านนี้ ขี้บ่น ขี้จุกจิ๊ก
    ชอบทำตัวเป็นคุณนาย ๕๕
    เลยเป็นเหตุไม่บอก พี่สาวบ้านนั้น
    ตรงนี้เป็นนิสัยไม่ดี ไม่ควรเอาเป็นตัวอย่าง ๕๕๕

    เอ่อ พอเริ่มเห็น เจ๊ คนนี้หลังๆมาเริ่มเห็น
    กลุ่มพวกที่เค้าอยู่มานาน เริ่มมาเกาะตรงหน้าต่าง
    นึกภาพตามนะ บ้านเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ๒ ชั้น
    มีเสาด้านหน้า ๓ ต้น คือ จะแบ่งได้เป็น ๒ แถวนั่นหละ
    แต่แถวที่ ๑ ตรงโรงจอดรถนั้น...
    จะโล่งจนถึงเพดานหลังคา
    ชั้นที่ ๒ เลย...
    แล้วบริเวณบ้านที่ปลูกนั้น เป็นป่าช้าเก่าทั้งหมด

    (คือ เรื่องปกติ คนสมัยก่อน ก็จะฝั่งศพคนตาย
    ตามป่า บางทีก็ไม่ได้
    เอามาเผาอะไร
    ก็บ้านที่ปลูก แถวเดียวกัน มี ๖ หลัง

    ก็มีหลายหลังที่พบกระดูกคนตาย ถือว่าเป็นเรื่องปกติ)
    แล้วชั้นที่สอง ก็จะมีแต่คานไม้
    พอจะถักให้เป็นโครงรักษาสมดุลย์
    ของโครงสร้าง...

    ปกติ เวลากลางคืน ส่วนตัวถ้าปวดฉิ๋งฉ๋อง
    จะใช้กระโถนใบใหญ่
    เพราะว่าไม่อยากเดินออกไปเข้าห้องน้ำ

    ...ก็เริ่มเจอ พวกพี่ๆ ผี ตอนกลางคืน
    เค้ามาเกาะตรงหน้าต่าง

    พี่แก จะค่อยๆ โผล่ศรีษะมาก่อน พอให้เห็นทรงผม...
    จากนั้นก็ค่อยๆโผล่หน้าผากมา
    ...สีผิวก็คือ สีออกดำปนเขียว
    (เป็นเหตุให้รู้ว่า คงเสียชีวิตและอยู่มานานแล้ว)

    ไอ้เราก็มองเรื่อยๆ
    ตอนแรกเข้าใจว่าคน เพราะเห็นแต่ผม
    แต่พอเห็นหน้าผาก เห็นสีผิว
    พอรู้แระว่า ไม่ใช่ชาวโลกปกติแน่ๆ
    ในขณะที่ พี่แกกำลังค่อยๆ ขยับศรีษะ จนถึงคิ้ว...
    ด้วยสัญชาติญาน ส่วนตัว
    รู้เลยว่า ม่ายยย ช่ายยยคน แว้วววว
    พอเห็นเปลือกตา แค่นั้นหละ.....

    รีบร้องโวยวายก่อนเลย...๕๕๕
    ทั้งพระบิดา พระมารดา ตื่นกันหมด
    แล้วก็ปลอบใจ ว่า ไม่มีอะไรหรอก
    สงสัยตาฝาด...แห๋มๆ พูดไปได้ ๕๕๕

    (คือ เรื่องแบบนี้ ถ้าเป็นส่วนตัว
    จะบอกว่า ดีแล้วที่เราเห็นได้
    เค้ามาให้เห็น แสดงว่า เราสามารถทำบุญ
    ให้เค้าได้ เด่วพรุ้งนี้ จะพาไปทำบุญนะ..
    อะไรประมาณนี้นะ จะไม่พูดโกหกว่า
    ไม่มีอะไร หรือบอกว่าผีไม่มีจริงอะไรทำนองนี้


    มันมีช่วง ที่เล่นกีฬา แล้วรู้สึกเหนื่อย
    เลยเผลอนอนหลับที่ พื้นบ้านอีกหลังหนึ่ง
    คือ ย้ายจากหลัง เดิมมาแล้ว
    คล้ายๆ ฝันหรือตกภวังค์ มีโอกาสได้เห็น
    เจ้าที่ๆบ้าน คือ มารู้ภายหลัง
    เพราะ
    อาจารย์ ที่เป็นพราหมณ์ ท่านหนึ่งบอก
    และเห็น บางอย่างที่ไม่ควรออกสื่อ

    ส่วนตัวไปถาม อ.ที่เป็นพราหมณ์
    ท่านบอก
    ว่าเป็นอะไรในเรื่องที่ไม่ควรออกสื่อ
    ส่วนเจ้าที่ ส่วนตัวยังไม่ได้พูด
    แต่ท่านบอกก่อนเลยว่า ที่แต่งตัวแบบโน้นนี่นั้น
    คือเจ้าที่ เอาว่า ไม่ใช่แบบทางไทยๆแล้วกัน.....

    ช่วงนั้นก็มีพระสงฆ์ มาที่บ้านท่านหนึ่ง
    (คือ ส่วนตัวพึ่งรู้ว่า พระบิดาเนี่ย
    ท่านจะมีเพื่อน มีท่านรู้จัก เป็นพระหลายท่าน
    มีท่านที่ออกแนว จิตไวช่วยคนก็มี
    บางท่านเป็นเจ้าคณะภาค
    ที่ทราบตอน
    ท่านเสียชีวิตเมื่อ ๑๐ ปีก่อน
    มีรถเบนส์ รถตำรวจนำขบวน มาที่วัด คือพึ่งรู้จริงๆ)


    พระองค์นี้ท่านก็มองหน้า แล้วบอกว่า...
    ไปหาที่กุฏิจะสอนสมาธิให้
    ส่วนตัวรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้สนใจเลย

    ไม่นานท่านนี้ก็ละสังขาร.....

    แล้วก็มีพราหม์มาที่บ้านอีกท่านหนึ่ง
    เห็นก็มองหน้าอีก...บอกว่า
    เห้ย !! เจ้านี่มัน...(ประมาณเกี่ยวกับสมาธิ....)
    แล้วท่านนี้ก็เสียชีวิตในเวลาต่อมาตามสังขาร

    เลยนึกเฮี้ยน ลองนั่งสมาธิ เล่นๆ...
    จำไม่ได้ว่า ๒ หรือ ๓ วัน
    ก็พบอะไรบ้างอย่าง
    เลยไปเล่าให้อาจารย์พราหม์ฟัง

    เห็นท่านบอกว่า ทั่วไปคนที่นั่งจะเห็นแบบนี้ได้
    ต้องใช้เวลาประมาณ ๓ ปีเลยนะ ถึงจะเห็นได้
    แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก....อิอิ
    ควงสาว จีบสาว เล่นกีฬา ตามปกติ ๕๕๕

    แล้วมีช่วงหนึ่ง ที่ไปมีสาวคนหนึ่งที่ จ.หนองคาย..
    เลยมีโอกาสไปเล่นกีฬาที่นั้น...
    ...เลยมีโอกาสแวะไป
    วัดธาตุบังพวน
    หรือ วัดพระธาตุบังพวน ประมาณนี้

    ตอนนั้น มี หลวงปู่ วิชัยหรืออะไร จำชื่อท่านไม่ได้
    คือ คนเรียก หลวงปู่ แต่ท่านอายุ ประมาณ ๓๐
    คือ ที่หนองคาย คนชอบไปหา
    เพราะจะให้ท่านดูดวงให้...

    วันแรกไป ส่วนตัวไม่ได้ดูเพราะเห็นพระหนุมเดินลงมา
    ท่านถามว่า...
    โยมมาหาใคร
    เลยบอกว่า มาหาหลวงปู่ ครับ
    ท่านบอกว่า อาตมานี่หละ หลวงปู่ที่โยมว่า
    ...แล้วโยมมาทำอะไร
    เลยบอกว่า มาเยี่ยมและดูดวงครับ
    ท่านเลยบอกว่า ถ้าเยี่ยมคือเยี่ยม
    ไม่ดูดวงให้นะ ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่นะ..๕๕๕๕

    เป็นที่มาของการไปเปิดโลกวิญญานที่หนองคาย
    โดยไม่ได้ตั้งใจอีกแว้วววว
    เพราะที่นั้น เริ่มต้นด้วยการ
    ...เจอ
    บิดาของน้องที่นั้น
    เป็นบุคคลตาดีอีกแล้ว และสามารถ....

    เอาไว้เล่าตอนต่อไป....

     
  13. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,044
    นิทาน....

    เรื่อง ของสุขภาพ อย่างที่เคยบอก
    ถ้าเหตุเป็นเพราะกรรมหรือโรคเวรโรคกรรม คำว่ากรรม
    พูดง่ายๆคือ กระแสพลังงานอย่างหนึ่ง
    หรือ อนุภาคที่เป็นสื่อนำแรงอย่างหนึ่ง
    (การกำเนิดของสะสารต่างๆ มีส่วนประกอบ
    ของอนุภาคที่เป็นองค์ประกอบของสะสารที่แทนที่ไม่ได้ กับ สื่อนำแรงที่ไม่อิงพื้นที่ และมี
    กี่แรงเข้ามารวมกันก็ได้ ส่วนนี้ย้อนให้ฟังเล่นๆ)


    ความหมายทางด้านแรงที่เป็นกิริยาก็คือ อนุภาคที่เป็นสื่อนำแรงต่างๆเหล่านั้นเข้ามารวมกันมาก
    ในที่นี้ เช่น ความคิดเชิงลบ ความเครียด ความจริงจัง ความโกรธ ความอิจฉาริษา
    การเห็นคนอื่นๆได้ดีกว่าไม่ได้ ความอยากดี อยากเด่น อยากดัง ฯลฯ
    จนส่งผลกระทบ กับอนุภาคที่เป็นองค์ประกอบของสะสารที่รวมๆแล้วประกอบเป็น
    ร่างกายเรานั้นมันพร่อง ทางโลกปกติทั่วไปก็คือ จะเกิดอาการเจ็บป่วยกับ
    อวัยวะชิ้นส่วนนั้นๆนั่นเอง.... ทางการปฏิบัติเรียกว่า ธาตุพร่อง ทางโลกเรียกเจ๊บป่วย
    ทางความเชื่อเรียกโรคเวรโรคกรรม....


    ซึ่งโดยรวมแล้ว เหตุมันมาจาก การเผลอไปสร้างอนุภาคที่เป็นสื่อนำแรงต่างๆขึ้นมา
    จากความคิดนั้นเอง...และยังประกอบไปด้วยสภาพแวดล้อมต่างๆ เช่น คลื่นความร้อน
    ความถี่ต่างๆ จากเครื่องใช้ไฟ้ฟ้าต่างๆ การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของโลก
    การเข้าไปอยู่ในสภานที่ต่างๆ ที่เป็นสื่อนำแรงชนิดที่ทำให้เกิดความร้อน
    การปรามาสต่างๆในสิ่งที่ไม่ควร ฯลฯ....



    การเกิดโรคพวกนี้ ถ้าเหตุเกิดจาก วิบาก ๙๐ เปอร์เซนต์ขึ้นไป
    จากองค์ประกอบต่างๆข้างบน โอกาสที่ความหนาแน่นของสื่อนำแรงจะสูง
    เป็นเหตุให้รักษาไม่ได้
    ถ้าวิบาก ๕๐ บวกกับ ธรรมชาติ ๕๐ โอกาสหายได้แต่ใช้เวลาเล็กน้อย
    แต่ถ้า วิบาก ๑๐ ธรรมชาติ ๙๐ แบบนี้อย่างไรก็หายได้.....


    ส่วนการรักษามีทั้งแบบพิเศษ การใช้ยาสมุนไพร การปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
    ที่เอื้อต่อการให้เกิดสื่อนำแรงนั้น รวมทั้งการใช้ยาแผนปัจจุบัน.....


    ณ ปัจจุบัน มีคลื่นความถี่ ต่างที่มนุษย์สร้างขึ้นจากเครื่องกำเนิดต่างๆ
    เข้ามาปน กับคลื่นสนามแม่เหล็ก คลื่นแรงโน้มถ่วง ที่เป็นสื่อนำแรงปกติ
    ร่วมกับบนโลกนี้มากมาย


    ในความก็คือ โอกาสที่ จะได้พบบุคคลเหนือโลกที่สามารถเหาะเหิรเดินอากาศ
    ในสภาพแวดล้อมปกติเป็นไปได้ยาก แต่หายตัวได้ เคลื่อนย้ายวัตถุได้
    เคลื่อนย้ายตัวเองได้ เล่นแร่แปรธาตุได้ ในสภาพแวดล้อมปกติยังมีให้พบเห็นได้อยู่


    ดังนั้น กลุ่มท่านทั้งหลาย ที่มีความสามารถเหนือโลก ส่วนหนึ่งท่านจึงหลีกเหลี่ยง
    สภาพแวดล้อมปกติ และหายเข้าไปในป่าลึก ถึงเวลาจริงๆท่านถึงจะออกมา
    อย่าง ท่านที่ดังๆ ในยุค ลพ.มีชื่อ ที่อุทัยธานี้ ที่สมยานามคล้ายๆกันนั้น...........
    เด่วถึงเวลาท่านก็ออกมา เพราะท่านมีหน้าที่บางอย่างอยู่
    (ฟังมา)

    ในบางเขตพื้นที่ มีพระสงฆ์เก่งๆมากมาย อยู่ในเขตมิติทับซ้อน
    บางท่านก็ออกมาบ้าง หากมีวาสนากับบุคคลใดเพื่อมาสอนธรรม
    หรือมาสอนสมาธิก็มี...
    .(ฟังมาบวกกับมีประสบการณ์บางส่วน)

    บางเขต บริเวณนั้น เค้าเดินกัน เท้าไม่ติดพื้นนะครับ
    เพียงแต่ว่า จะเข้าได้ ต้องเป็นพระสงฆ์เท่านั้น
    เป็นฆารวาสก็เข้าไม่ได้อีก....
    (ฟังมา)

    โดยสรุปคือ ในโลกนี้ ยังมีเรื่องลึกลับ เหนือวิสัยอีกมากมาย
    ท่านถึงกล่าวว่า ถ้าเราไม่ได้เข้าถึงด้วยตนเอง
    ท่านห้ามให้ไปสนใจ คือ อย่าไปคิด วิเคราะห์ แยกแยะ สรุปตีความเอาเอง
    เพราะเราจะเข้าใจแต่ในภาพรวม เราจะรู้ได้แค่สภาวะที่เราปฏิบัติถึงเท่านั้น


    ดังนั้นในภาพรวม ของธรรมะที่เผยแผ่สู่มนุษย์โลก จึงเป็นธรรมะที่เหมาะสม
    และคลอบคลุมที่สุด ที่จะพาให้มนุษย์ได้หลุดพ้น ไม่วนเวียนอยู่กับ
    เรื่องเหนือโลกเหนือวิสัย ซึ่งมีอยู่แล้วเป็นปกติ
    และวิทยาศาสตร์ก็กำลังตามหลังมาเรื่อยๆ....


    ล่าสุด ทางวิทยาศาสตร์ ค้นพบ ได้ถึงสภาวะความว่าง
    ( เขียนให้อ่านเล่นๆ เข้าใจคือเข้าใจ ไม่เข้าใจก็ไม่ต้องเข้าใจ...
    สภาวะนี้เป็นกรณี ที่เกี่ยวข้องกับ แรงนิวเคลีย์แบบอ่อน
    ที่มี กลูออน เป็นเหมือนตัวยึดเหนี่ยว ที่แตกมาจาก
    ในระดับของ นิวตรอน
    (ศูนย์กลางอะตอม)
    ที่มี อนุภาคที่เป็นองค์ประกอบสะสารและสื่อนำแรง รวมทั้งโปรตรอน
    และยังมี อนุภาคที่เป็นส่วนประกอบ ทั้งประจุบวกและประจุลบ
    อยู่ภายในแล้ว ที่ทางวิทย์ฯเรียก อัพคว๊ากและดาวน์คว๊าก
    มันยังมี อนุภาคที่เรียกว่า W และ Z นั้นร่วมด้วยอีก
    อนุภาคนี้ สามารถเกิดการเปลี่ยนแปลงอนุภาคได้
    หาก W หรือ Z เกิดการเปลี่ยนแปลงประจุ
    จากโปรตรอนเป็นนิวตรอน....
    แต่ว่ามันจะมีกรณีหนึ่ง
    ที่หาก อนุภาค ที่มีทั้งประจุบวกและลบต่างๆเหล่านั้น
    มันหลุดออกจากนิวเคลียสในขณะที่เกิดการเปลี่ยนแปลงประจุแล้ว
    ทางวิทยาศาสตร์พบว่า มันหายไป ที่เล่าให้ฟังนี้
    มาจากการค้นพบ ด้วยเครื่องมือที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน)


    ถามว่า ปัจจุบัน ทางวิทยศาสตร์ ค้นพบแล้วถึงระดับความว่างใช่ไหม
    ตอบ ทางพุทธฯ ว่าใช่ครับ.....
    ถามว่า แล้วสภาวะที่ทางวิทยฯค้นพบว่า สะสารมันหายไปนี้ ใช่สภาวะนิพพานไหม
    ตอบ ไม่ใช่ครับ
    ถามว่า ทำไม เมื่อสะสารมันหายไปได้ ทำไมถึงยังไม่ใช่ สภาวะนิพพานครับ
    ตอบ มันยังไม่ได้หายไปจริงๆครับ....เพราะสภาวะนี้ เกิดขึ้นเร็วมาก
    เร็วกว่าแสงครับ ปัจจุบัน จึงยังไม่มีเครื่องมือใดๆที่ สามารถจะจับ
    อนุภาค ในช่วงนี้ได้ครับ.....แม้แต่ตัวผู้เขียนเอง
    ก็ยังไม่มีกำลังสติพอที่จับ ในช่วงนี้ได้ทัน
    จึงเป็นเหตุ ให้เข้าใจคาดเคลื่อนไปว่า มันคือ สภาวะที่น่าจะหลุดพ้น
    แต่ความจริงแล้ว เห้ย ! มัน ยัง บ่ แม่น เด้อ..๕๕



    สรุป แค่จะบอกว่า ความละเอียด เรื่องเหนือวิสัย มันมีของมันอยู่
    เราโชคดีมากแค่ไหนแล้ว ที่ได้เกิดมาพบพระพุทธศาสนา
    ผ่านมา ๒ พันกลางๆแล้ว ด้วยเครื่องมือ ทางวิทยาศาสตร์
    ก็พึ่งเข้าถึงได้ ในระดับพื้นฐานเท่านั้นเอง...........


    มันสนุกตรงนี้หละ ทางพุทธฯ ทุกเรื่องที่เหนือวิสัย
    มันมีเหตุและผลในการอธิบายได้ทั้งสิ้น ด้วยอ้างอิง
    กับเรื่องแรงในวิทยฯมันก็มีเหตุรองรับซึ่งกันและกันได้ด้วย........
    ไม่ใช่เพียงแค่ความเชื่อ ความศรัทธา การเล่าต่อๆกัน
    แต่ลึกๆแล้วมันล้วนแต่แฝงไว้ด้วยอุบายต่างๆนาๆ เป็นกุศโลบายที่แยบยลครับ



    จบ แระ นิทาน ปนโม้....
     
  14. nan_nori

    nan_nori เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2018
    โพสต์:
    470
    ค่าพลัง:
    +799
    ลุงนพ อยากจะถามเรื่อง เตโชวิปัสนา ของ
    คุณ อัจฉรวดี วงษ์สกล
    ว่าจริงเท็จแค่ไหน
    ว่า สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมมะรังสี) มาสอนจริงไหม
    แล้วมันมีการทำวิปัสนา แบบใช้ธาตุไฟในกายเผากิเลส มันมีวิธีนี้ด้วยเรอะ

    วันนี้อ่านหนังสือ เตโชวิปัสนา เปิดประตูสู่นิพพาน
    อ่านดูๆก็ดูน่าเชื่อถือดี แต่ก็กลัวว่าเค้าจะปรุงแต่งเอง
    เลยมาถามลุงนพให้แน่ใจ
    ไม่มีเจตนาจะหลบหลู่เจ้าของวิชานี้นะค่ะ ๕ ๕๕
    (เตโชวิปัสนานะฮับ) ไม่ใช่ เตโชกสิณ เห็นคนเข้าใจผิดค่อนข้างเยอะ
     
  15. เจไดหรือธิส

    เจไดหรือธิส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2017
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +359

    นิทาน ท่านจอมยุทธ ตื่นเต้นและสนุกมากครับ. ส่วนตัวช่วงนี้ก็ป่วยระบบร่างรวนนิดหน่อยครับ อ่านที่ ท่านจอมยุทธเขียนก็พอจะเข้าใจว่าเหตุเกิดจากอะไร. ขอบคุณมากครับ
     
  16. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,885
    ค่าพลัง:
    +4,720

    อาทิตย์ก่อนๆผมเคยบอกประมาณว่า...
    ว่างๆจะนำเรื่อง "ยิ่งให้-ยิ่งรวยของเฮียกะเจ๊ "
    ...มาเล่าสู่กันฟัง เพื่อสะท้อนความจริงในเรื่องนี้
    หวังใจว่าทุกท่านคงทราบจุดประสงค์...
    ...อันบริสุทธิ์ใจ...ที่นำมาเล่านะครับ

    พอดีเมื่อวานนี้ดึงTipsท่านอจ.นพ ข้างบนมาให้อ่าน
    ".....ลองนั่งสมาธิ เล่นๆ..จำไม่ได้ว่า ๒ หรือ ๓ วัน
    ก็พบอะไรบ้างอย่าง เลยไปเล่าให้อาจารย์พราหม์ฟัง
    เห็นท่านบอกว่า ทั่วไปคนที่นั่งจะเห็นแบบนี้ได้
    ต้องใช้เวลาประมาณ ๓ ปีเลยนะ ถึงจะเห็นได้
    แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก....."


    เช้านี้เลยเป็นโอกาสอันเหมาะที่ผมจะเล่าเรื่อง
    "ยิ่งให้-ยิ่งรวย" ตามคำบอกเล่าจากเฮีย
    ...คิดว่าเป็นการฟังนิทานก็แล้วกัน

    ทั้งหมดเป็นเรื่องเล่าจากเฮีย...
    (แต่ผมมั่นใจว่าเป็นความจริง 99 %)
    ปัจจุบันเฮียอายุย่างเข้า 84
    ผมกะเฮียเป็นเพื่อนต่างวัย
    แต่หยอกล้อทะลึ่งๆกันได้
    เพราะแกไม่เคยถือตัวกะใคร
    ใบหน้าเฮียจะดูคล้ายพระสังกัจจจาย์
    (พอเห็นภาพไหม)
    ยิ้มสบายอารมณ์ได้ตลอดเวลา
    รูปร่างท่วมสมบูรณ์แข็งแรงมาก ฉับไว
    พูดจาเสียงดังฟังชัด ตรงไปตรงมา(มาก)
    ตอนนี้ยังวิ่งขึ้นบันไดได้สบายๆ
    และสามารถขับรถทางไกลได้เนียบเลย

    ...เฮียเล่าว่า...
    เจ๊(ภรรยาเฮีย)เป็นคนชอบเรื่องธรรมะ
    เข้าวัดทำบุญนั่งสมาธิกรรมฐานเป็นชีวิตจิตใจ
    ส่วนเฮียไม่ค่อยสนใจในเรื่องกรรมฐาน
    ทำบุญเป็นครั้งคราว...ถ้าไม่โดนใจ...จะไม่
    แต่ถ้าโดนใจจะทำทีก้อนโตๆ
    เช่นสร้างรั้วประตูวัดคนเดียว , ประตูรั้วโรงเรียน
    เป็นนายทุนใหญ่ในการร่วมสร้างเจดีย์ ,วิหาร

    ...วันหนึ่งแกนึกสนุก...ลองนั่งสมาธิเล่นๆ
    ผ่านไปแค่ 2-3 วันช่วงระหว่างสมาธิ
    ...แกเห็นลำแสงสีเขียวสว่าง
    และรู้สึกว่าตัวเบาและลอยขึ้นมาจากที่นั่ง
    (แกยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง...ไม่ใช่จิตมโน)
    หลังจากนั่น...แกก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก
    จนถึงทุกวันนี้...ก็ไม่สนใจสมาธิกรรมฐานเลย

    เฮียรู้จักอจ.ปิยะมาร่วม 20 ปีจากคนแนะนำ
    ...พอแกรู้...แกขับรถจากใต้ไปที่สำนักธรรมทันที
    ไปๆมาๆ...บ่อยมากๆ..จนเป็นขาประจำ
    ...เป็นลูกศิษย์คนโปรดของอจ.ปิยะ

    เมื่อประมาณ 7-8 ปีที่ผ่านมา
    อจ.ปิยะซึ่งหยั่งรู้...แนะนำให้เฮีย...
    ...ไปหาซื้อที่ดินแถวนครพนม
    ตอนนั่นราคาต่อไร่...ถูกมากๆ
    ติดถนนแยกย่อย หรือถนนหลักไร่ละหลักแสน
    เฮียทยอยกว้านซื้อมาร่วม 10 กว่าแปลง
    5 ไร่บ้าง 20-30ไร่บ้าง 100 ไร่บ้าง

    อย่างที่ดินแปลงหนึ่งเยื้องสนามบินนครพนม
    แกซื้อมาตอนนั่น 80 ไร่ราคา 5-6 ล้านบาท
    หลังจากซื้อมา 3 ปี มีคนขอเสนอซื้อ 25 ล้าน
    ...แต่เฮียไม่ยอมขาย(ใจแข็งจริง)
    ปีที่แล้วมีคนมาเสนอซื้อ 80 ล้าน...ใจแกก็ยังนิ่งๆ
    ส่วนแปลงอื่นๆราคาล้วนขึ้นมา 10-15 เท่า

    เรื่องสุดท้ายที่จะเล่าคือ(เรื่องนี้สำคัญ)
    น่าจะเป็นจุดเปลี่ยนชีวิตแก

    คือ...เมื่อช่วงที่เฮียอายุ 20 กว่าปี
    เป็นเด็กรับจ้างในร้านค้าหนึ่ง
    ...เงินเดือน เดือนหนึ่งไม่กี่ร้อยบาท
    วันหนึ่งแกไปเที่ยวที่วัดแห่งหนึ่งในราชบุรี
    ได้ยินเจ้าอาวาสว่าจะสร้างป้ายชื่อวัด
    ...ติดไว้บนซุ้มประตูเข้าวัด
    ...แต่ยังขาดปัจจัย
    แกรีบอาสาบอกหลวงพ่อว่า
    "จะเอาเงินที่สะสมไว้ทำป้ายนี้เอง"
    ...หลวงพ่อฟังแล้วยิ้ม...แต่ยังงงๆ

    หลังจากผ่านไปไม่กี่เดือนเฮียก็นำเงิน
    (น่าจะประมาณ 2 พันบาท)
    ไปบริจาคให้วัดทำป้ายตามที่ตนมุ่งมั่นตั้งใจไว้

    ที่เล่ามาทั้งหมดนี่
    น่าจะเป็นบุญใหญ่ที่เฮียเคยทำสะสมไว้
    ...เฉพาะที่ดินตอนนี้...แค่ผ่านไป 7-8 ปี
    ตอนนี้ทบต้นทบดอก 10-20 เท่า

    เรื่องจริง...ไม่อิงนิยาย
    "ยิ่งให้ ยิ่งรวย"
    ...ก็ขอจบลงเพียงแค่นี้
     
  17. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    วันนี้ นั่งส่องพระ ลป ป. ของวัด บ.น.ค ก็เจอกับสิ่งนี้

    9h9.jpg
     
  18. 9@Phonlee

    9@Phonlee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2014
    โพสต์:
    1,885
    ค่าพลัง:
    +4,720

    อยากทราบชื่อเต็มครับ
    ลป ป.......................
    วัด บ.น.ค................

    ที่ลูกศรชี้คือ ?

    ขอบคุณครับ
     
  19. Higtmax

    Higtmax เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    2,342
    ค่าพลัง:
    +4,818
    หลวงปู่ปาน

    วัดบางนมโค

    ที่ชี้คือเกล็ดแก้ว คล้ายๆ พระธรรมธาตุของ หลวงปู่ด. ครับ
     
  20. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,044
    แนะนำว่า ควรลืมเรื่องนี้ไปซะ ๕๕
     

แชร์หน้านี้

Loading...