เรื่องเด่น พระโพธิสัตว์ หน่อพุทธภูมิ การแบ่งภาค หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Wisdom, 16 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. Nagamanee

    Nagamanee Manassa

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    526
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,581
    คาถาพระดิ้นได้เจ้าค่ะ

    เวลาสวดมนต์กำพระธาตุของหลวงตา

    ดีใจที่พระธาตุขึ้นแล้ว สวยยยย เวลาสวด นี้ดิ้นจนมือเหมือนกำนาฬิกาปลุก .....


    เล่าให้ฟังเพื่อเป็น กำลังใจค่ะ สาธุอนุโมทนามิ
     
  2. Nagamanee

    Nagamanee Manassa

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    526
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,581
    น้ำแร่ ที่แช่พระธรรมธาตุ แช่เพชรนาคา ถือเป็นน้ำพุทธมนต์ หนูมนอาราธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระปัจเจก พระโพธิสัตว์ สวดมนต์เสร็จก็นำมาดื่มทุกวันค่ะ

    เป็น น้ำมนต์ รักษาธาตุขันต์และจิตใจให้เย็นลง...

    สาธุ
     
  3. madeaw23

    madeaw23 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2017
    โพสต์:
    209
    ค่าพลัง:
    +188
    กราบสาธุครับ
     
  4. Rogulair

    Rogulair Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2018
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +53
    อัพรูปใหม่ได้ไหมครับ ?
     
  5. ณฉัตร

    ณฉัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2015
    โพสต์:
    633
    ค่าพลัง:
    +790
    เรื่องนี้ เป็นเรื่องอจินไตย คือ คนที่จะรู้และบุคคลผู้จะทำ บางคนหรือบางบุคคลเท่านั้นจะรู้หรือจะทำได้

    การแบ่งภาค เอาจริงๆ มีที่มาจาก เรื่องเดียวกัน แต่พอมาเล่าต่อกัน เป็นอีกเรื่องหนึ่ง และพอมาเป็นนิทานทางศาสนา ก็ไปกล่าวหาว่า เป็นเรื่องแต่งหรือความเชื่อ และก็คนที่เล่าต่อ ก็มามั่วจนคนที่มาอ่านภายหลัง ก็คิดว่า เป็นแค่เรื่องแต่ง

    เรื่องจริงเรื่องเดียวกัน เกิดได้กับ หน่อพุทธางกูร เท่านั้น
    อย่างเช่น ที่กล่าวว่า พระโพธิสัตว์สามารถอธิษฐานจุติมาเกิดเป็นมนุษย์แม้ยังไม่สิ้นอายุขัยตอนเป็นเทวดา ซึ่งหมายถึง เทวดาทั่วไปย่อมไม่สามารถ เลือกเกิดได้ ตามที่อธิษฐาน เว้นแต่จะหมดบุญ หรือจังหวะ หมดบุญพอดี

    การแบ่งภาคก็ดี การอวตารก็ดี
    มีความจริงแค่นี้ว่า พระโพธิสัตว์เสวยชาติเป็นจอมเทพ ระดับ พระศิวะ พระนารายณ์ เท่านั้น ไม่ปรากฏเป็นเทพอื่นใด เพราะศักยภาพของเทพ ต่างกัน

    จอมเทพระดับพระศิวะ พระนารายณ์ ต้องเป็นผู้บำเพ็ญบารมีในช่วงใดช่วงหนึ่ง ต่อเนื่องจนเป็นผู้ให้ชีวิตทวยเทพได้ หรืออภิบาลทวยเทพ (เพราะบำเพ็ญในการช่วยชีวิต หรืออภิบาลรักษาชีวิตและความสุขของมหาชนมายาวนาน ตอนเป็นมนุษย์ ไม่ใช่แค่ชาติเดียว แต่ต่อเนื่องหลายชาติทีเดียว)

    ความสามารถนี้ ดุจความสามารถของพระโพธิสัตว์กวนอิม ที่สามารถช่วยคนได้มากทั่วทั้งโลก ไม่ว่ามุมใดของโลก พระโพธิสัตว์กวนอิมก็ปรากฎตัวช่วยเหลือทางจิตวิญญาณคนได้

    การแบ่งภาค หรือการอวตาร เป็นของพระโพธิสัตว์ที่เสวยชาติเป็นพระศิวะ หรือพระนารายณ์เท่านั้น บุคคลทั่วไปถ้าไม่มีปณิธานเป็นพระโพธิสัตว์ การจะอุบัติเป็นพระศิวะ พระนารายณ์ย่อมทำไม่ได้ (ยกตัวอย่าง พระนเรศวร ที่ยอมต้องมาทุกข์ยาก มาทำกรรมฆ่าสัตว์(ฆ่าคน)เพื่อช่วยชีวิตปวงมหาชนชาวสยาม และอภิบาลรักษาสมณะชีพราหมณ์ให้บำเพ็ญสมณะได้ พระองค์ไม่ได้ทำแบบนี้ แค่ชาติเดียว และที่ทำก็เพื่อช่วยเหลือสรรพสัตว์เป็นหลัก มองประโยชน์ของสรรพสัตว์เป็นหลัก ทรงยอมรับวิบากกรรมจากการฆ่าคนด้วยเช่นกัน)

    การแบ่งภาค หรือการอวตาร จริงๆ คือ การที่พระโพธิสัตว์ ที่เสวยชาติเป็นพระศิวะ พระนารายณ์ไม่ยอมเสวยทิพย์สมบัติของตน แต่ยังลงมาเกิด (ทั้งดวงจิต) มาเป็นมนุษย์เดินดิน มาบำเพ็ญบารมีช่วยปวงมหาชน หรือบำเพ็ญบารมีอื่นใดต่อ

    แต่ในช่วงเวลานั้น เหล่าฤาษี ซึ่งบำเพ็ญเพียรตามพระศิวะ ย่อมแสวงหาพระศิวะเพื่อให้พร (เหมือน พระโพธิสัตว์เป็นผู้นำคนออกบวช แล้วสาวกทีปฏิบัติต้องมาถามแนวปฏิบัติ) พร ไม่ได้หมายถึง พร ที่ประทานให้โดยไม่ทำอะไร พร ที่พระศิวะ พระนารายณ์ให้ ล้วนมาจากการที่บำเพ็ญส่งเสริมคนทำความดี (พื้นฐาน ของเทวดา คือ การช่วยเหลือผู้คนที่ทำความดี อุปมา นางเมฆลา ที่ต้องเหาะในมหาสมุทร ถ้าพบคนดีตกน้ำ ต้องช่วยเหลือนั้นแหละ เป็นหน้าที่(ที่เกิดจากจิตใจดีงามตามประสาเทพ))

    ปัญหา ในความเป็นจริง คือ ยามที่พระศิวะ จุติไปแล้ว ฝ่ายพวกฤาษีก็หาพระศิวะไม่เจอ ฤาษีฝ่ายที่มีกำลังญาณกล้ากว่า จะมองไปถึงการจุติ ก็จะบอกว่าพระองค์อวตารเป็น ฤาษี ชื่อนั้นชื่อนี้ได้ นอกจากนี้ พวกฤาษีบางพวกที่ญาณไม่แก่กล้าแต่เริ่มฝึกฝน เวลาบูชาพระศิวะ ก็ได้เห็นพระศิวะมาให้พร ได้ ทั้งที่ ท่านก็จุติไปแล้ว ก็เพราะว่าท่านอธิษฐาน (ตามกระทู้นี้เรียกว่า ภูติพระพุทธเจ้า สำหรับกรณีพระพุทธองค์ แต่พระโพธิสัตว์ ก็มีการอธิษฐานครอบคลุมก่อนจุติไปถึง ในช่วงที่ไม่มีพระศิวะ พระนารายณ์นั้นแหละ เพราะนั้นคือ ข่ายสัตว์ที่โปรดอยู๋ (การอธิษฐาน จัดเป็นสิ่งที่มีกำลังมาก เพราะบารมีจะทำหน้าที่ของตัวเอง ไม่ใช่ตัวท่านทำ บารมีธรรมของท่านทำงานเองได้)

    แต่ที่คนสับสน คือ การแบ่งภาค หรือการอวตาร โดยที่ยังมีร่างของมหาเทพ ทั้งสองอยู่ ต่างหาก และสนทนาได้ด้วย ในขณะที่ร่างอวตารก็มีดวงจิตต่างหาก

    ตรงนี้ มีความพิศดาร สองระดับ ที่มีการเล่ากันมาในการสัมผัสทางทิพย์
    ระดับแรก มีการยอมรับเป็นการทั่วไปว่า บุคคลที่ทำความดี และใกล้จะตายในโลกมนุษย์ บางคนจะเห็นว่า เค้าคนนั้นมีร่างเทพ และวิมานเกิดขึ้นแล้ว (แต่จิตยังไม่ลงไป)

    ระดับที่สอง ระดับนี้ยากมาก คือ การเกิดดับ ของเทพไม่ปรากฎให้เห็นรอยต่อ เรื่องนี้ ตามพระไตรปิฎก พระอินทร์ท่านได้หมดบุญในเวลาก่อนที่จะเป็นพระโสดาบัน ตามปรกติ ต้องจุติ (คือ ดับไป ตายไปจากเทวดา หมดบุญไปรอบหนึ่ง) แต่เมื่อท่านบรรลุพระโสดาบัน ท่านมีบารมีที่สามารถเป็นพระอินทร์ต่อได้เลย (บุญจากการเป็นพระอินทร์ สามารถเวียนมาให้ผลทันทีโดยไม่ต้องมีวิบากกรรมอื่นคั่น ความนัยเรื่องนี้ ปรากฎในพระไตรปิฎก ว่า บุคคลที่ทำบุญกับพระพุทธเจ้าก็ดี พระอริยเจ้าก็ดี อานิสงค์เกิดเป็นพระอินทร์กี่ชาติ พระมหาราชากี่ชาติ) ท่านพระอินทร์จึงอุบัติขึ้นซ้อนกายเดิมที่ดับไป ต่อเนื่อง มองด้วยตามนุษย์ไม่อาจเห็นได้ว่า ท่านได้ตายไปชาติหนึ่งแล้ว แต่ต้องรู้ด้วยอภิญญาของบางบุคคลเท่านั้น

    กรณีระดับที่สอง เป็นกรณีที่พระโพธิสัตว์บำเพ็ญบารมีเป็นผู้ให้ชีวิต อภิบาลชีวิตของมหาชนเป็นเวลายาวนานหลายชาติ จนอานิสงค์แห่งการเป็นพระศิวะ (ผู้อำนวยพรให้แก่ผู้บำเพ็ญเนกขัมมะ) หรือพระนารายณ์(ผู้อภิบาลรักษาปวงชน) มีอานิสงค์มาก จนไม่อาจมีใครมาเป็นพระศิวะ พระนารายณ์แทนท่านพระโพธิสัตว์ท่านนั้นๆ ได้ ในช่วงเวลานั้นๆ แม้จะไปจุติเป็นราชา หรือฤาษี อานิสงค์ที่จะเป็นพระศิวะ หรือพระนารายณ์ก็ยังมีอยู่ รอท่าอยู่ จึงปรากฎ(แต่ร่างกาย จึงกล่าวว่า พระวิษณุบรรทมอยู่ พระศิวะเข้าฌาณ)
    ความจริง ความเข้าใจในเรื่อง จริง มีเท่านี้

    ส่วนที่มาแต่งเฝือไป เป็นคนที่ไม่ได้ทราบด้วยญาณปัญญา แต่เป็นไปฟังที่เค้าบอกต่อกันมา ก็เพี้ยนไป จนสุดท้าย ถึงขั้นไปว่า ไม่มีอยู่จริง

    นอกจากนี้ ไม่นับอิทธิฤทธฺ์ของเทพ ธรรมดาทั่วไป มีคนสงสัย เทวดาผู้ชายมีชายา พันองค์ แล้วเทพชายาไม่แย่งชิง หึงหวงแบบมนุษย์รึ

    ก็ท่านสามารถ เป็นพันองค์ต่อเทพชายาทั้งพันได้ การหึงหวงก็ดี จึงไม่มี

    อันนั้น เป็นหลักฐานธรรมดา แต่ในกรณีที่พระโพธิสัตว์มีบารมีมาก ในช่วงเวลาหนึ่ง หรือถ้าเป็นนิตยโพธิสัตว์ขั้นปรมัตถบารมี อันนั้น ไม่ต้องพูดถึง

    เรื่องนี้ การแบ่งภาค การอวตาร กลายเป็นความเชื่อฝั่งฮินดู
    แต่การปฏิบัติ หรือเรื่องจริงเกี่ยวกับพระโพธิสัตว์ ที่มีบารมีถึงขั้นเป็นพระศิวะ พระนารายณ์ สามารถทำได้ครับ ในกรณีที่ถ้าอานิสงค์ยังไม่ส่งให้เป็นพระศิวะ พระนารายณ์ ก็หมายความว่า ข่ายสรรพสัตว์อยู่ในช่วงกระจัดกระจาย ตามวิบากกรรมของสรรพสัตว์ในข่าย ถึงแม้พระโพธิสัตว์สามารถอย่างนั้น แต่ความจำเป็นไม่มีครับ เพราะว่าสรรพสัตว์ในข่ายไม่ได้มาบำเพ็ญบารมีแบบฤาษี
     
  6. mrmos

    mrmos Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +1,101
    sa512.jpg
     
  7. นาคานาวี

    นาคานาวี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +14
    สิ่งที่เราไม่เคยพบ ไม่เคยประสบใช่ว่าจะไม่มี ขอบคุณสำหรับความรู้ที่นำมาแบ่งปันครับ เมื่อรู้แล้วพบแล้ว แจ้งแล้ว ก็จะแจ้งแก่ตน ความรู้ในโลก ในจักรวาลนี้มีมากมายนัก พิสดาร จะรู้ได้มากน้อยก็อยู่ที่ตนปฏิบัติ และปราถนา เมื่อวาสนาบารมีสั่งสมมาดีแล้ว กาลสมควรแล้ว ก็จะรู้เองตามสมควร บารมีมากน้อย ปราถนามากน้อย บำเพ็ญสั่งสมมามากน้อย ปฏิบัติในปัจจุบันมามากน้อย สมควรแก่การรู้การแจ้งหรือไม่ จะให้รู้เท่ากันหมดในเรื่องของความพิสดาร ความอัศจรรย์ คงจะเป็นเรื่องยากเพราะมันสั่งสมและบำเพ็ญมาไม่เท่ากัน ......
     
  8. mrmos

    mrmos Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    1,190
    ค่าพลัง:
    +1,101
    sa8.jpg
     
  9. สตธศร

    สตธศร Namo Amithapho

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    707
    ค่าพลัง:
    +1,537
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 สิงหาคม 2019
  10. สตธศร

    สตธศร Namo Amithapho

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    707
    ค่าพลัง:
    +1,537
    พระพุทธเจ้าเคยตรัสว่า ผู้มีปัญญา พหูสูจ ไม่สงสัยในขอบข่ายแห่งปัญญาณของพระโพธิสัตว์และจริยวัตรในพระโพธิสัตว์ วิมลเกียรตินิเทสสูตร :พระโพธิสัตว์จริยามรรค กล่าวไว้ พระพุทธท่านว่า การบำเพ๊ญของพระโพธิสัตว์นั้นเป็นอจินไตย และอัศจรรย์เกินกว่าที่จะบรรยาย ให้พระอริยะสงฆ์สดับฟังในครั้งเดียวจบ

    คหสต.การแบ่งภาคมา จึงไม่ใช่เรื่องยากเลย หากเป็นไปเพื่อพุทธะกรณียกิจค่ะ
     
  11. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    22,359
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,119
    ค่าพลัง:
    +70,465
    c_oc=AQmv2vJDjBkdA_4-2W9Z7aCq4DzFyh44kgy4iu4FYWG7mQWFgwJiqp-cRKBa-_2d7pg&_nc_ht=scontent.fcnx3-1.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

แชร์หน้านี้

Loading...