กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

ห = หายนะ
ว = วอดวาย
ย = ย่อยยับ

 

Tips & Tricks (วรรคทอง)
หน้า 33 ลำดับที่ # 659
(เป็นข้อสงสัยจากเจ๊ธารทอง...บางครั้งนัยตาเห็นคล้ายละอองฝนเคลื่อนไหวไปมา
บางครั้งเห็นสีทอง บินยุบยับคล้ายฝูงผึ้ง เป็นดวงจิตด้วยรึไม่)

[QUOTE="nopphakan, post: 10780965]

กิริยาที่เราเจอจะว่าเป็นปกติก็คงตอบไม่ได้ว่าใช่เลยนะ
เพราะปกติมันจะไม่สามารถมองเห็นได้ทั่วไป ถ้าเทียบว่า
ปกติคือคนทั่วไปจะต้องเห็นด้วยเหมือนๆกับเรา...
เอาเป็นว่า มันขึ้นอยู่กับว่า เราไปคุยกับบุคคลแบบไหน..

แต่สิ่งที่เราเห็นมันเป็นปกติในทางด้านการปฏิบัติ
และในทางด้านพลังงาน ทางด้านวิทย์ฯที่เค้าได้
ทำการค้นพบแล้ว และมันก็เป็นเรื่องปกติมีมานานแล้วหละ

จิตนะ มันจะทำงานได้ ก็ต่อเมื่อ ๑.มีแสงนำ
คือ เห็นแสงสีต่างๆได้นั้นหละ...
แสงมันก็เป็นลักษณะอนุภาคในส่วนของสนามแม่เหล็ก
ทางวิทย์เค้าเรียกโปรตรอน ซึ่งมันมีทั้งประจุบวกและลบ
เมื่อมีต้นกำเนิดพลัง
ก็คือ ตัวจิตเรา มันก็สามารถเกิดขึ้นได้
ซึ่งจิตมันสามารถสร้างแรงและสื่อนำแรงได้หลายแบบ
แสงหรือโปรตรอนเป็นหนึ่งในนั้น
และ ๒.คือเส้นสาย มันก็คือคลื่นนั้นหละ
ไอ้ละอองๆ มันก็เป็นส่วนประกอบของคลื่น
ก่อนที่มันจะกลายเป็นเส้นๆคล้ายๆคลื่นๆ
ทางวิทย์เปรียบเส้นสายได้ ในส่วนของที่เราเรียกว่า แรงดึงดูด
(เราต้องเข้าใจว่า ในโลกนี้ แรงดึงดูดมีอนุภาคโปรตรอนเป็น
ส่วนประกอบและวัตถุในโลกนี้ล้วนแล้วแต่สามารถดึงดูดเข้า
หากันได้) ถ้าเราสังเกตุดีๆ จะพบว่า ถ้าเห็นเป็นเส้นมันมักจะขึ้น
ไปข้างบนนั้นหละ ยกเว้นอุคหนิมิตแบบตาเปล่าของกสิณบางกอง ก็เพราะมีแรงที่กำลังดึงดูดกันเข้าไปหาอยู่
ถ้าเราปฏิบัติมาไม่ได้สนใจทางวิทย์เค้าก็จะเรียกว่า
กำลังเชื่อมกับครูบาร์อาจารย์ข้างบน หรือบางทีก็เรียกสภาวะ
ที่จิตกำลังคลายตัวและส่งแรงผ่านอากาศอะไรทำนองนี้
ความจริงมันเป็นคำพูดที่อธิบาย สภาวะนั้นในลักษณะ
ที่ต่างในมุมมองเฉยๆ...
และถ้าจิต ทำงานพร้อมกัน ทั้ง ๑ และ ๒ เราก็จะเห็นเป็นรูปร่าง
ต่างๆได้นั้นเอง.....พอเข้าใจเนาะ

สีทองบินยุบยับๆ(ไม่ใช่พวกใสๆคล้ายๆยุงหรือละอองๆ
ตอนที่จะหน้ามืด ที่เป็นผลจากสายตา)
เป็นธาตุอย่างหนึ่งเราเรียกว่าธาตุทอง
ซึ่งเป็นธาตุจากภายนอก ที่เราเห็นว่าบินได้
ก็เพราะว่า เป็นไปได้ว่า ตัวจิตจะเคยมีความสามารถ
ในการดึงธาตุพวกนี้ เข้ามาร่วมในการใช้งานได้มาก่อน
ในอดีต(คืออยากจะบอกว่าในอดีตจิตเรามันเคยทำได้
เกรงว่าถ้าจะพูดจะตรงไป แล้วจะเผลอไปยึดได้
แต่ของเรามันจะเป็นแนวที่ใช้สัมผัสภายใน
บวกกับการท่องบ่นหรือการบริกรรมคาถาคงไม่ใช่
แบบสั้นๆนะ มาก่อนใช้งานนั้นหละ ทั้งด้านป้องกัน
และรักษาโรคให้คนอื่นๆมาก่อน ส่วนตัวเรียกว่า
สายฟิต คือ มีรูปแบบการปฏิบัติที่ค่อนข้างมีวินัยมาก่อน

พวกที่ทำแบบนี้ได้อีก จะมีอีกแบบหนึ่งคือ
เค้าจะใช้กำลังจิตและไม่โดนตัว
และใช้คาถาไม่กี่คำ ซึ่งได้ผลไม่ต่างกัน
แล้วแต่จริต)

ปกตินอกจากจะช่วยในเรื่องการอฐิษฐาน
ธาตุทองยังใช้ป้องกันภพภูมิไม่ดี ตลอดจนใช้
รักษาโรคให้ร่างกายในระดับที่ใช้ปรับธาตุได้
เพียงแต่ตอนนี้ที่เห็นอย่างนี้ อาจจะเป็นเพราะ
เราอาจจะยังไม่พร้อมในเรื่องของการรักษาโรค
หรือการป้องกันภัยจากภพภูมิไม่ได้
ไม่ว่าทางด้าน กำลังสมาธิหรือทางด้านกำลังจิต
หรือการนำไปใช้งานก็เป็นได้
พวกนี้ ถ้าเห็นได้เป็นละอองๆ หรือเป็นเส้นสาย
คล้ายตารางได้. ด้วยคาถาบางบทเพียง
ไม่กี่คำ เราจะสามารถดึงนำมาใช้งานได้
หรือที่เค้าพูดง่ายๆว่าเรียกได้นั่นหละ......

แต่ว่าภูมิต้านทานทางด้านร่างกาย
และพลังงานภายนอกที่ไม่ดี
ต้องมีความพร้อมก่อนพอสมควรเท่านั้นเอง
ประมาณนี้หละ ที่เล่าให้ฟัง รู้แล้วจบได้เนาะ

 

Tips & Tricks (วรรคทอง)
หน้า 34 ลำดับที่ # 664
(เป็นข้อสงสัยจาก 9...หลายๆครั้งตื่นขึ้นมา สงสัยว่าทำไมตัวเองนอนอยู่โซฟาชั้นล่าง แล้วขณะที่เดินลงบันไดไม่สะดุดหกล้ม…เหมือนอาการคนถูกสะกดจิต
…บางครั้งก็คิดว่า “ใครอุ้มลงมา”)

[QUOTE="nopphakan, post: 10781472]

เป็นหนึ่งในอาการที่เรียกว่า “ปราณรั่ว”
ก็คือกิริยาที่จิตทำงานเองอัตโนมัติ
ในขณะที่ร่างกายกำลังหลับอยู่
สามารถเกิดได้ ๒. กรณีคือ
๑.จิตทำงานได้เองไม่ว่าในเรื่องของการส่ง
การรับรู้ออกไปภายนอกเองอัตโนมัติ
อย่างเดียวโดยที่กายไม่เคลื่อนไหว
ทำให้เกิดการรับต่างๆทางนามธรรมอย่างเดียว
เช่นได้ยินเสียงต่างๆนาๆดังมาก
หูแทบแตก หรือไปเห็นโน้นนี่นั่น
แต่ด้วยการที่กายไม่เคลื่อนไหว
และกำลังสติควบคุมไม่พอ มักทำให้เกิดอาการกระตุก
หรือสะดุ้ง ตรงนี้ไม่มีอันตรายใดๆ
เพราะจะกลับต่อได้ เนื่องจากอาการสะดุ้ง
ไม่ทำให้เกิดคลื่นที่จะตกใจตื่น

๒.จิตทำงานได้เองแบบอัตโนมัติ
มีการส่งออกและทำงานร่วมกับการเคลื่อนไหวร่างกาย
สาเหตุเพราะจิตไม่คุ้นกับการใช้สัมผัสภายใน
หรือรับรู้ทางนามธรรมแบบใช้สัมผัส
ภายในมาก่อนเหมือนแบบที่ ๑
ซึ่งเป็นเรื่องปกติทั่วไป ก็จะมีการเคลื่อนไหวร่างกาย
จะไปไกลไม่ไกลขึ้นอยู่กับว่า
จะเริ่มระลึกรู้ตัวได้ ณ ตำแหน่งใด
พอเริ่มระลึกรู้ตัว เนื่องจากมีการทำงานร่วมกับกายเป็นเหตุให้คลื่นความถี่สมองกลับมาอยู่ในช่วงที่ร่างกายทำงานปกติ
จึงทำให้ตื่นหรืออยู่ในสภาวะที่ลืมตาปกติทั่วไป
อาการจึงเหมือนการละเมอ
ไม่เหมือนแบบที่ ๑ ที่มีการทำงานแต่สัมผัส
แต่ไม่มีการเคลื่อนไหวกาย
แม้มีการสะดุ้งแต่กายยังหลับอยู่
คลื่นก็เลยไม่เกิดช่วงที่หลับ

วิธีแก้คือ ก่อนนอนให้อธิษฐานพระครอบกาย

 

ลองใช้คาถาที่เจ๊แอมเคยใช้
...อาจทำให้งูลดลงไปบ้าง

นะโม นะมัด กำจัดออกไป
อย่าเข้ามาใกล้ วินาศสันติ

"....ท่องไล่สิ่งไม่ดีทั้งที่มองเห็นมองไม่เห็น
แบบก่อนลงเล่นน้ำกลัวผีพรายมาดึงขาก็ท่อง555
กลัวงูเงี้ยว กลัวสัตว์ร้ายมากัดต่อย
กลัวผีมาหลอกก็ท่อง ><‘

บางทียังไม่รู้ว่ากลัวไร..แต่ก็ท่องโลดดดด555
คล้ายว่าเป็นคาถาโบราณผู้ใหญ่เค้าบอก...."

ปล.พิเศษ
ต่อไปถ้าไม่มีงูมาที่บ้านอย่าเสียใจนะครับ

 

@9@Phonlee
อยากเล่าเรื่องเมื่อคืนที่เปียเห็นค่ะ เล่าให้ยายฟังก็จ้องจะตีหวยอย่างเดียวเลย:-D
เปียนอนในห้องตามปกติกับแฟน ห้องนอนเปียจะมีหน้าต่าง2บาน ซึ่งหน้าต่างมันก็สูงกว่าระดับเตียงนอนเราหน่อยเดียว เตียงนอนติดกับหน้าต่างเลยค่ะ เปียนอนติดหน้าต่าง เมื่อคืนที่กำลังอ่านกะทู้ยุ่พอดีก็เลยเปิดหน้าต่างรับลมข้างนอก ช่วง4ทุ่ม ตาก็มองออกไปเรื่อย ตรงห้องนอนมองออกไปนอกหน้าต่างก็จะเห็นต้นมะพร้าว แล้วก็ต้นมะขามต้นใหญ่ มีเปลผูกไว้นอนเล่น กับต้นมะยม แล้วก็จะมีกอไพ่ มีสระข้างๆเปล ห่างออกไปไม่ไกลนัก ตาก็มองเพลินไปเรื่อย ก็ไปสดุดเข้ากับ แสงอะไรสักอย่าง ข้างต้นมะยมตรงหน้าทางเข้าบ้าน ตอนแรกที่เห็นก็ไม่คิดอะไรน้ะค่ะ สิ่งที่เห็นคือ เหมือนสังกะสีกระทบกับแสงไฟจากหน้าบ้านและห้องน้ำ แสงออกไปทางสีเงินๆสว่างๆไม่มาก มองเห็นไม่ชัด ตรงที่ต้นมะพร้าวมันจะมีกองแผ่นสังกะสีกองนึง เราก็เลยนึกว่า สงสัยยายคงจะย้ายเอาแผ่นสังกะสีไปพาดพิงไว้กับต้นมะยมรึป่าว เพราะมองไม่ออกว่ามันคืออะไร ก็เลยคิดไปว่าเป็นแผ่นสังกะสีกะทบกับแสงไฟอะไรงี้ มองออกไปทีไรก็เห็นยุ่ตลอดเวลา พยายามสังเกตุเท่าไหร่ก็มองไม่รุ้ว่าเป็นอะไร แต่สิ่งที่พอสังเกตุเห็นได้คือ มีลักษณะคล้ายๆกับ ทรงยาวๆลักษณะประมาณนี้ค่ะ/-\ แต่จะตรงกว่านี้หน่อย แต่ก็คิดว่าคงเงาต้นไม้มันบังแสงและเงาทำให้เห็นเป็นรูปร่างแบบนี้ แต่ตาเราจะสนใจกะมันมากน้ะค่ะ รุ้สึดสงสัยนิดๆ จะชอบมองจ้องเผลอสังเกตุตลอด เหมือนเซ้นอะค่ะ เป็นไปเอง ทั้งๆที่ก็คิดไปทางอื่นที่ไม่ใช่เรื่องเล้นลับแล้วน้ะ แต่ไม่กลัวน้ะค่ะ สงสัยมากกว่า นอนหลับๆตื่นๆเดี๋ยวเปิดเดี๋ยวปิดหน้าต่างยุ่นั่นแหละ ตื่นมาก็เปิดมองทุกทีที่ตื่น พอเช้ามา ก็เปิดหน้าต่างปกติ ก็เลยมองไปยังจุดที่สงสัยเมื่อคืนนี้ แต่ก็ไม่มีสังกะสีสักแผ่นเลย เลยถามแฟนว่า เมื่อวานนี้ยายแกได้เอาอะไรไปพาดไว้ต้นมะยมไหม แฟนบอกไม่มีหรอก ก็เลยถามยาย ยายก้ตอบว่าป่าว ก็เลยพยายามนึกย้อนว่าอ้าวแล้วไอ้ที่เห็นเมื่อคืนล่ะ คือไรว้าาา ถามแฟนว่าเมื่อคืนตอนเราเปิดหน้าต่างแฟนเห็นลักษณะแบบที่เราเห็นไหม แฟนก็บอกว่าไม่น้ะ ก็เห็นปกติไม่มีแสงอะไรหนิ่
คือระยะที่เรามองออกไปเห็นถ้าตาคนที่ปกติก็จะเห็นได้ชัดยุ่หรอกค่ะว่ามันคืออะไร
แต่เปียสายตาสั้น250ค่ะ และในตอนกลางคืนจะในระยะไกลจะเห็นไม่ชัดเลย
เล่าให้แฟนกับยายฟังก็ไม่มีใครให้ความเห็น นอกจากยายจะบอกว่าจะตีหวย แหะๆ
สรุปคือ เจ้าตัวเปียเองก็ยังไม่รุ้และงุนงงยุ่ดีว่าเห็นอะไรเกือบทั้งคืนเมื่อคืนนี้

อ.9พอจะบอกให้หายสงสัยได้ไหมค่ะว่ามันคืออะไร ที่หนูเห็นยุ่คนเดียว ทั้งคืน แต่เช้ามางง งวย ปนสงสัยค่ะ สงเคราะเด็กอยากรุ้อยากเห็นทีน้ะค่ะ

 

ไม่ท่องดีกว่าค่ะ พอ อ.9บอกว่าต่อไปอย่าเสียใจที่งูไม่มาที่บ้านอีก
ก็รุ้สึกได้เลยว่ามันมีผลต่อความรุ้สึกมว๊ากๆว่า จะไม่ได้เห็นบ่อยๆอีกแล้วอ๊ะ ใจเหวงโหวงเลยค่ะ
แบบว่าก็ไม่ใช่ว่าจะอยากให้มาบ๊อยบ่อยน้ะค่ะ แต่ว่าก็มาบ้างมาได้แต่แค่แบบนานๆทีไร้งี้ดีกว่า แฮร่ๆ
งงกะตัวเอง เหมือนจะบ้า ดันอยากให้งูเข้าบ้าน 5555

 

ยินดีครับ...ที่เข้ามาร่วมคุย
ทั้งองค์ความรู้ สาระ เฮฮา มหัศจรรย์ พญานาคคละกันไป

**มิตรภาพคือความสุขสมบูรณ์ส่วนหนึ่งของมวลมนุษย์**

 

เอาง่ายๆอย่างนี้นะ
คืนนี้ให้ลองมองอีกคร้้ง
ยืนมองอยู่ ณ ตำแหน่งเดิม

ถ้าเจอแสงคล้ายๆเมื่อคืนและเกิดขึ้นในจุดเดิม
สันนิฐานได้ว่าเป็นแสงสะท้อนจากวัตถุบางอย่าง
หรือเมื่อคืนถ้ามีหมอกลง
อาจเป็นแสงไฟบ้านไปกระทบกับมวลหมอก

แต่ถ้าคืนนี้ไม่เห็นแสงแว๊บๆนั่นอีก
โดยสภาพข้าวของที่วางอยู่รอบๆคงเดิม
น่าจะเป็นแสงปริศนาลี้ลับ ?
...คงต้องรอท่านอจ.นพ แถลงไขให้ครับ

 

งั้นหนูตอบได้เลยค่ะ ว่าไม่ใช่แสงดระทบจากวัตถุ เพราะที่เล่าให้อาจารย์9อ่านนั้น หนูเห็นเมื่อคืนวันที่27ค่ะ และเมื่อคืนนี่ได้สังเกตุและออกไปมองดูแล้วไม่มีค่ะอาจารย์9 .มันมืดตึ๊บเลย แฮร่ๆ ก็คงเป็นพลังงานบางอย่างมั้งค่ะ

 

อจ.นพ ไปไหนหน๊ออออ รอร๊อรอ ให้อจ.นพมาแถลงไขข้อสงกะสัยนี้อยู่น๊าค่ะ

แถมๆเรื่อง โม้ๆปนนิทานของ อจ.นพมาสักเรื่อง2เรื่องก็จะเป็นความเพลิดเพลินให้เด็กขี้สงสัยอย่างเช่นเปีย ได้จิตนาการด้วย บ้างก็ได้น้ะค่ะ แฮร่ๆ :-D

 

พุทธะ จิตตะ
ธรรมจิตตะ
สังฆะจิตตะ
สาธุข้าพเจ้าขอยกมือไหว้พระ
อรหันต์ตาเจ้าทั้ง ๘
ขอจงย้ายธรรมเข้ามาในอก
ยกธรรมเข้ามาในใจ
ข้าพเจ้านับตั้งแต่บัดนี้
เป็นต้นไปด้วยเทิด
อม สะ หม ติด”(สี่คำท้ายอ่านออกเสียง
คำละพยางค์นะครับ เช่น อม อ่านว่า อม ไม่ใช่ อะมะ).

คำว่า ธรรม อ่านว่า ธัม-มะ ใช่ไหมคะ(?)ในบทสวด
เผลอแท็ก 2 รอบ แต่โพสต์เดียวกันนะ555

 

จะมาเล่าเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับงู ไม่เกี่ยวกับพญานาคไม่เกี่ยวกับความลี้ลับ เรื่องนี้จะออกทะเลไปถึงภาคอีสานเหนือแม้มันจะไม่ติดทะเลเลยก็ตาม(ห๊ะ!? ;-
มันเกี่ยวกับความขี้ลืมของเด็กน้อยคนนึง ที่ขี้ลืมเป็นกิจวัตรประจำวัน เด็กคนนี้เป็นคนที่สมองช้ามากคิดอะไรก็ไม่ค่อยจะทันเขาแถมขี้เกียจอีกต่างหาก ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานขนาดไหนความขี้ลืมก็ไม่ลดเลยแม้แต่นิดเดียว

ไม่ว่าแม่จะบอกสั่งงานบ้านให้ทำหลังจากทำงานบ้านอีกอย่างเสร็จก็จะลืม

ไปโรงเรียนให้เอาชุดพละไปเรียนด้วยก็ลืม

ถ้าไม่ลืมชุดพละไปรร.พอเรียนหมดวันหลังจากเปลี่ยนชุดพละ ก็จะลืมรองเท้านักเรียนไว้ที่โรงเรียน
แล้วให้น้องมาเอาให้หน้าประตูเพราะจะโดนสารวัตรนร.กักตัวไว้ข้อหาใส่รองเท้าผิดระเบียบ;-;

ลืมเอาสีน้ำวันเรียนศิลปะ

ของหายนับไม่ถ้วนเพราะจำไม่ได้ว่าเอาไว้ไหน วันไหนได้ใช้หาไม่เจอ วันไหนไม่ได้ใช้ก็จะเห็น
มีอีกมากมายแต่นึกไม่ออก

และที่สำคัญลืมการบ้านที่ครูสั่ง - -
แก้ไม่หายและคิดว่าต้องอยู่แบบนี้ไปอีกนาน555
และเด็กคนนั้นคือ คนเล่าเอง;-;

 

เช้าวันนี้จะมาโม้เองเรื่องเศรษฐกิจ(เล็กน้อย)
"สงครามการค้า Trade War"
ที่ปะทุร้อนระอุในหลายเดือนที่ผ่านมา
โดยเฉพาะ USทรัมป์ VS พญานาคมังกรจีน

...สร้างความระส่ำระสายไปทั่วโลก
จนทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจกระทบไปทั่ว
โดยเฉพาะตลาดหุ้นถูกเทกระจาดอย่างหนัก
555 ผมไม่ได้แทงหุ้นนะครับ...หวยอาจมีบ้าง
คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น
ไม่จริงครับ...ยุคนี้หวยหุ้นคนจนเล่นมากกว่า
...ไม่ทราบว่าจะมีคอหุ้น
หลงเข้ามาอ่านเรื่องพญานาคหรือป่าว
...อาจช่วยคลายวิตกเรื่อง Trade War บ้าง
...ถ้าอ่านแล้ว...ฝืนใจเชื่อสักนิดๆ เศษเสี้ยว%ก็ดี

ในมุมมองของคนเชื่อพญานาคนะครับ
เป็นมุมมองฉบับเฮฮา...หาอ่านที่ไหนไม่ได้

ผมว่า...ทรัมป์กำลังตกที่นั่งลำบาก
จากการที่เป็นนักธุระกิจมือฉมังเก่า
อารมณ์ร้อน ค่อนไปทางวู่วาม
ตัดสินใจอะไรฉับพลัน อารมณ์ไม่นิ่ง
นาทีนี้...นับจากวันนี้...
...คงต้องเพลามือลงแล้วหล่ะลุงทรัมป์
เพราะเมื่อหันไปมองรอบทิศ 360 องศา
ไหง...น้องยุ่นซามูไร จู่ๆไปจับมือกับมังกรจีน
ทั้งๆที่เป็นคู่รักคู่แค้น บาดหมางใจมาตลอด(ชาติ)
ทั้งคู่กำลังรุกคืบหน้าร่วมมือกัน..คุยกัน เพื่อตกลงกัน
โดยเฉพาะงานสัมปทานคมนาคมในแถบอาเซียน

ส่วนอาหมีโซเวียตนับวันยิ่งเมินทรัมป์
รวมทั้งยุโรปบางประเทศก็ค่อยๆถอยห่างไปทีละคืบๆๆ
อินเดียฉบับนาคีก็คงต้องเฝ้าระวังทรัมป์

โดดเดี่ยวไหมลุงทรัมป์...เหงาไหม?

นี่แหละครับ...ทรัมป์คงรู้แก่ใจ
ผมจึงคิดว่าการเจรจาการค้ารอบต่อๆไป
...คงต้องอ่อนข้อลง...
อะไรที่ยอมกันได้ ตกลงกันได้ อย่าฝืนครับ
เพราะถ้าเศรษฐกิจโลกยิ่งทดถอย
มะกันยิ่งถดถอยมากกว่า
มิตรภาพที่เคยมีค่อยๆหายไปด้วย
แล้วจะโดดเดี่ยวเดียวดาย..หาเพื่อนซี้ไม่เจอ
สุดท้ายทรัมป์จะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก

สรุปครับ
คาดว่าสงครามการค้าจะค่อยๆคลี่คลายไปในทางที่ดี
(ตามเหตุผลข้างบนครับ)

ปล.ฉก.แค่เขียนสนุกๆเพื่อคุยคั่นรายการ

 

โอ้ว ถึงจะรู้ความหมาย
แต่ ยังคง มีหวัง 5555
ห= หวัง
ว= ว่า
ย = ยวย
หวังว่ายวย (เป็นการตีความที่เข้าข้างตัวเองเกิ๊น~~~)5555

 

เดี๋ยวมาตามอ่าน นะจ้า
เปิดมา ยาววว มากกกกกก

 

..
..
บรรดาพี่งูเค้ามาแลดู มาเยี่ยมเยียน
อยู่ด้วยกัน รักกันๆ 555

 

..
..
ห = โหะๆ
ว = วันนี้
ย = ยวยยย
โหะๆวันนี้ยวย
ยวยยทุกว๊านนนน
คนขายล๊อตเค้าบอกมาาาา
555555555+

 

เราจะรวยทุกๆวันจ้าเจ้แอม
รวยสุข รวยมิตรภาพ รวยเพื่อน(ไม่ใช่ข้าวเกรียบนะแจะ)
รวยพี่น้อง รวยอาจารย์
รวยเงินรวยทอง
รวยหมูกะทะ ของกิน ขนมเอย ไอติมเอย

 

อยากจะรวยไปกับพวกพี่ๆ โดยเฉพาะขนมกับหมูกระทะ ชีวิตคงจะสุขน่าดู 555

 

อาจจะเพราะหนูรุ้สึกว่าพวกเค๊าไม่ได้เข้ทมาเพื่อจะทำร้ายเรามัิงค่ะ แล้วก็ทุกครั้งที่เจอก็เป็นเหนัที่แบบน่าจะโดนกัดตายไปนานแล้ว ไม่น่าจเหวิดจะหวุดทุกครั้งไม่ก็น่าจะเกือบๆโดนบ้าง แต่กลับไม่เคยได้รับอันตรายจากพวกเค๊าน้ะค่ะ คงเหมือนทางผ่านพอดีมั้งค่ะ ไม่ก็ มาหากินพวกคางคกไร้งี้อ่ะค่ะ ตอนเจอก็กลัวน้ะค่ะแบบในระยะใกล้ๆ ใจเต้นแบบรั่วๆ กลัวๆกล้าๆ 55555 .ใจนึงก้คิดแล้วว่า มันจะฉกเราไหม ห่างกันแค่นี้ มันจะเลื้อยเข้าใกล้กว่านี้ไหม 55555