กระแส"พญานาค"กับข้อเท็จจริงบางอย่าง(มีคลิป) คนที่ไม่เชื่อควรดูด้วยดุลพินิจ

....

สู้ๆๆ น้า

 

ไม่เกี่ยวหรอก สงสัยเจ้านาย
คงลืมมากกว่า ๕๕

เมื่อคืนง่องแง่ง กับภพภูมิที่ขนขบวน
แวะมาเยี่ยมเยียนอยู่. ลืมไปวันโกน
ตื่นมาตี ๔ ครึ่ง แห๋มๆ เข้าใจว่า
พอดีตอนเย็นวันนั้น
แวะไปทำบุญที่วัด
ได้เจอ ลพ. พอดีด้วย

ว่าแต่นะ
ดันไม่มีใครบอก
ตัวเลขเลยยยย
๕๕๕

 

...
ขอหนูม่างดิ่ เลขอ้ะ
แต่หนูเล่นหวยไม่เป็นอ้ะ
ไม่เคยเล่นเลยตั้งแต่เกิดมา
ว่าจะมาขอเลขเฮีย
เอาไปทำทุนเปิดร้านกาแฟซะโหน่ย
..
อิอิ เล่นง่ายเรยเรา 5555

 

ไม่ได้สะสมบารมีมาทาง
เลขศาสตร์บารมีสญานเด้อ
มีแต่กะๆเดาสญานศาสตร์

 

เอ๋า เป็นงั้นไปเลย
ไม่เป็นไรพี่ โลกนี้ ยังมีของอร่อยๆเพียบ
ไม่มีแฟน แต่มีของกินอร่อย
เหงาๆหน่อยไปกินของอร่อย เดี๋ยวก็สบายใจ
(เทคนิคนี้ เจนใช้ประจำ ไม่ทราบว่า คนอื่นเป็นมั้ย 5555)

 

วันนี้ผมมีประสบการณ์แขวนพระเครื่องมาเล่าให้ฟังกันครับ

ผมมีพระเครื่องสองชุด สวมแล้วก็จดสถิติปรากฏการณ์เอาไว้ด้วย

ชุดที่ 1 เป็นชุดที่เน้นป้องกัน และสู้ มี สมเด็จ ย.ก สมเด็จห.ม แขวนแล้วรู้สึกบุคลิคออกแนวไฟท์ติ้งทั้งวัน

ชุดที่ 2 เป็นชุดเมตตามหานิยม มี สมเด็จ วิ.ธ.ท สมเด็จ ค.ข แขวนแล้วรู้สึกบุคลิคออกแนวนุ่มนวล เมตตา เย็น ทั้งวัน

 

ได้เลขแล้ว
เผื่อแผ่ทางนี้ด้วยนะคะ อิอิ

 

ต้องแบบไม่ห้อยเลย ถึงจะรู้ตัวเองจริงๆ
ที่ไม่ใช่เป็นไปตามกะแสของ
วัตถุที่เหนี่ยวนำ
วัตถุดีเราจะไปทางที่ดี
แต่เราไม่รู้ว่าถ้าไม่มีเราจะเป็นอย่างไร?


แล้วไปทุกที่ ทุกสถานนั่นหละ
คือสภาวะจิตเรา ณ เวลานั้นจริงๆ

แต่ไม่ให้แนะนำให้ Highmax ทำนะ
ถ้าทำได้
ยกเว้นกรณีอยู่ภายใน
บริเวนบ้านตัวเองพอได้อยู่
แล้วลองสังเกตุตัวเองดู

เล่าให้ฟังเฉยๆ

 

ยังไงอ้ะเฮียนพ ขยายความที หนูก็เป็นคนนึงที่ไม่ค่อยห้อยพระ แต่จริงๆหนูอยากห้อยนะ อยากห้อยหลายๆองค์เรยด้วย555 แต่ไม่ชิน เด๋วก็ถอดลืมบ้างไรบ้าง อาจเพราะเป็นคนไม่ห้อยพระติดคอมาตั้งเเต่เด็ก โตมาเลยไม่ค่อยชินสะงั้น ก็อาศัยภาวนาเอา เวลาทำงานดึก กลับค่ำๆ มืดๆ เดินซอยเปลี่ยว ขึ้นรถ ลงเรือ ข้ามถนน โดนนายด่า555 ฯลฯ ก็อาศัยเกาะคำภาวนาเอาตลอดเรยยยฮ้ะ กระแสที่ได้จะเหมือนกันมั้ยอ่ะเฮีย

 

อ้อคงต้องทำในสถานที่ปลอดภัยสินะครับ

 

คล้ายๆกัน แล้วแต่คนเลย
วัตถุ การสวดมนต์ การภาวนา
ล้วนเป็นอุบายในการเป็นเครื่อง
เชื่อมโยงเข้าถึงต้นพลังงาน
ที่ระลึกถึงอยู่แล้วปกติ


ส่วนตัวไม่ห้อยเมื่อก่อน เข้าใจเอาเอง
ว่าถ้าไม่ได้มีเจตนาไม่ดี ยังไงผีก็ไม่หลอก
เข้าใจไปเองว่าผีมีเหตุผล
และไม่เคยโดนผีหลอกเลย
เพราะแม้เค้าจะมาให้เจอ
ก็ไม่ได้มีกะแสที่จะส่งมาให้เรากลัว
แต่เรื่องตกใจมีบ้าง
เป็นปกติแล้วแต่สถานะการณ์
แต่ถ้ามาสภาพไม่สมบูรณ์
หน้าหายไปแถบ ตัวดำๆ
หรือหน้าดีๆส่วนตัวจะเฉยๆ
เพราะเข้าใจได้ว่าเป็นอุบัติเหตุ
เป็นเรื่องไม่ตั้งใจ อะไรทำนองนี้


เด่วมีนิทานมาโม้ให้ฟังเรื่องหนึ่ง
อย่างเคยไปได้ช่วยดู
เคสหนึ่งคดีดัง กับทนายดังหลายปีแล้ว
ที่อีกฝ่ายพยายามให้ดูเป็นคดีฆ่าตัวตาย
(จริงๆข้างทนายคนนั้นมีน้องรู้จักกันดี
ที่มีความสามารถภายในแบบสากล
เป็นพวกตาดี เครื่องรู้ดีช่วยงานอยู่แล้ว
ณ เวลานั้น).

เรื่อง คืออีกฝ่ายไปจ้างหมอผี
มาผูกหรือสกดดวงวิญญาณไว้
(ฟังหูไว้หู)
เหตุเพราะ เด็กผู้เสียชีวิต
ไปเข้าฝันคนโน้นคนนี้
ทำให้สามารถหาหลักฐานเพิ่มเติม
และอาจพลิกคดีได้นั่นเอง

คือตอนที่เด็กมาให้เห็นนี่หละ
มันจะมีระยะห่สงซัก๓ ถึง ๔ เมตร
เนื่องจากเค้ามาได้ตามสภาพ
จึงแลดูน่ากลัวเล็กน้อย
นึกสภาพตามเนาะ ถูกจับทิ้งน้ำ
แล้วดวงวิญญาณยังถูกหมอผีมัด
ฝั่งอยู่ในน้ำอีก เวลามาหาเรา
ก็ยังหันซ้ายหันขวา คล้ายๆระแวง
จะถูกทำร้ายประมานนี้
จบนิทาน


แต่เรื่องทางโลกเราจะว่ากันด้วยหลักฐานพยานนะ ไม่ใช่เชื่อแบบนี้ หรือใช้เรื่องนี้
เป็นเกณฑ์. แต่ก็มักเห็นพวกสายปราบปราบ
ชอบไปถามพระเกจิว่า
ใครเป็นคนทำ คนขโมย เป็นประจำ ๕๕๕

ถ้าจะกลัว
จะกลัวคนกรณีกลางคืน
กลัวสัตว์มีพิษที่ออกหากินปกติกลางคืนมากกว่า เพราะเค้าไม่ได้เจตนาทำเรา
แต่จะป้องกันตัวเอง ถ้าเราเผลอไปคุกคามเค้าโดยไม่ได้ครั้งใจ
หรือเวลาไปที่เปลี่ยวๆ ที่ไม่คุ้นเคย
เดินทางคนเดียว. หรือไปนั่งชิวๆ
ในบริเวนที่มี คนชอบอวดบารมีหาเรื่องกัน
เพราะอาจโดนลูกหลง ข้อหาจำผิดคนได้ ทำนองนี้. เป็นที่มาของความจำเป็น
ที่บางคนต้องมีเครื่องมือไว้ป้องกัน
ชีวิตและทรัพย์สินนั่นแล

จบ

 

ถ้าสถานที่ปลอดภัยคือบ้านนะใช่
แต่อย่าได้เผลอไปคิด ไปตีความว่าวัด
หรือสภานที่ๆอื่นๆ
ที่เราคิดว่าศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
จะปลอดภัยสำหรับตัวเรานะ
ต่อให้อยู่ต่อหน้า
พระประทานก็ไม่ปลอดภัย

ที่พูดเนี่ยคือจะบอกว่าสำหรับ
กรณี Higtmax คนเดียวที่
ได้เฉพาะบริเวนบ้าน
ไม่ไช่คนอื่นๆ หรือพูดบอกใคร
ในระบบจักรวาลนี้
มันเป็นเฉพาะบุคคล

พอเข้าใจเนาะ

ปล อยากพิสูจน์เชิญลองดูได้นะ
แต่ไม่แนะนำ

 

..
..
หนูหล่ะชอบฟังนิทานเฮียจริงๆ
ขออีกหลายๆ เรื่องนะเฮียนะ 555
..
ลุงป้าน้าอา หลายคนบอกให้หนูห้อยพระ
แล้วเอาพระมาให้ มีหลายองค์รอเลี่ยมกรอบ
คือ หนูก็ไม่ได้เลี่ยมสักทีไง แล้วก็เรยไม่ได้ห้อยไง55
สรุป หนูก็อาศัยภาวนาระลึกภาพพระเอา ทันใจดี
..
..
เรื่องพลังงานนี่ ก็ไม่รู้เป็นยังไง หลังๆมานี่หนูมักจะขนหัวลุกบ่อยๆ หนาววูบวาบ เวลาเอ่ยถึง พูดคุยถึง หรือบางทีนึกถึงขนก็ลุกเกรียวจากขาแล่นถึงหัว ><
..
เคยคุยเรื่องเด็กเรียนทันตะแล้วเทอเครียดเรื่องเรียนจนโดดคอนโดตายเมื่อเดือนที่เเล้วในข่าว
ก็แค่คุยกับน้องสาวตอนประมาณตีสอง
โหยยย.. ขนหนูลุกทั่วตัว หนาววูบวาบ
ตลอดการสนทนาถึงเทออยู่เป็นนานสองนาน
ดีนะเทอมาให้หนูรู้สึกแค่นี้ 5555
คืนนั้นก็ต้องแผ่เมตตาอุทิศบุญให้เทอชุดใหญ่
ไม่งั้นขนก็ไม่ยอมหายลุกสิน่า ><‘
..
เวลาคุยกับคนขายพระ ขายเครื่องลางของขลัง
ที่มาเปิดร้านขายแถวออฟฟิศ หนูนี่ก็จะขนหัวลุกตั้งตลอดการสนทนา หลังๆ มานี่รู้สึกจะถี่เกิ้นนน ><~

 

แสดงว่า มีผู้พยายามจะฉฮกระบบของผมสินะครับ

 

ไม่ใช่คนนะอย่าเข้าใจผิด
เกทไหม
วิบากใครวิบากมันเราเรียกว่า
วิบากเฉพาะ

 

เข้าใจครับ

Ok I get It

มันคือ Force ด้านมืดที่พยายามจะแทรกซึมเราสินะครับ

 

แล้วอย่างข้าเจ้าละคะ อ.นบ
ควรห้อยพระองค์ใดจะเหมาะคะ

 

พระสงฆ์ที่อยู่ในท่านั่งสมาธิได้หมด
องค์ที่ร่างกายดูตัวเล็กๆนั่นหละ ^_^
น่าจะพอคาดคะเนได้เนาะ

 

เจนพึ่งว่างได้จับโทรศัพท์ 5555
อาจารย์นพต้องจ่มมนต์ให้เจนขายดีแน่ๆเลย
อาจารย์9 คงติดธุระยาว
คิดถึงพี่พี่ทุกคน นะคะ

 

คงลูกค้าเยอะมากๆ ยินดีด้วยนะครับ