><กระทู้ใหม่(4) วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย หลากหลายสายราคาเบา (สรุปรายการ น.1) ><

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์ปิยธโร, 5 มกราคม 2017.

  1. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    1037.กล่องเดิมเก่าเก็บ พระผงสมเด็จพระภัทรมหาราช
    พิธีใหญ่มหามงคล พระสังฆราช,ลพ.ฤาษีลิงดำ,ลป.สิม ร่วมอธิษฐานจิต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    B8CN3a.jpg
    พระผงสมเด็จพระภัทรมหาราช หลังพระชัยหลังช้าง เนื้อผงพุทธคุณ ผสมมวลสารมีผงพุทธคุณพระคณาจารย์ชื่อดัง, เกสรดอกไม้พระราชทาน, น้ำพุทธมนต์ศักดิ์สิทธิ์จากวัดหลายแห่ง, มวลสารผงจิตรลดาพระราชทาน, เส้นพระเจ้า(เกศาในหลวงรัชกาลที่ ๙) และ ผงศักดิ์สิทธิ์อีกมากมาย
    ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2530
    จัดสร้างโดยคณะสงฆ์ไทยสองนิกาย (มหายาน และ หินยาน) สร้างพร้อมเหรียญพระชัยหลังช้าง ที่ด้านหลังพระปรมาภิไธย ภปร. ในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงเจริญพระชนม์พรรษาครบ 5 รอบ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2530

    รายนามพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมพุทธาภิเษกหมู่และเจริญพระพุทธมนต์
    1 สมเด็จพระสังฆราช(วาส) วัดราชบพิตรฯ
    2 สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศวิหาร
    3 สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ วัดสามพระยา
    4 สมเด็จพระวันรัด วัดโสมนัสวิหาร
    5 สมเด็จพระธีรญาณมุนี วัดปทุมคงคา
    6 สมเด็จพุฒาจารย์เกี่ยว วัดสระเกศ
    7 หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง
    8 หลวงปูศรี วัดป่ากุง
    9 หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    10 หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
    11 หลวงพ่ออุตตะมะ วัดวังวิเวการาม
    12 หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ
    13 หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม
    14 หลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก
    15 หลวงพ่อเเช่ม วัดดอนยายหอม
    16 หลวงพ่อ ไสว วัดปรีดาราม

    17 พระอาจารย์ชื้น วัดญาณเสน เป็นต้น

    มูลเหตุที่นำรูป พระชัยหลังช้างมาจัดสร้างเพื่อเทิดพระเกียรติล้นเกล้าทั้งสอง พระองค์ ด้วยเห็นว่าพระชัย (หลังช้าง) เป็นพระคู่บ้านคู่เมือง คู่บุญญาบารมีของปฐมกษัตริย์แห่งราชจักรีวงศ์ ควรที่ประชาชนจะมีไว้สักการบูชา เพราะเป็นพระพุทธรูปที่มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในพระองค์


    สภาพสวยเดิมพร้อมกล่องเดิมๆ เก็บเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมโค้ดชัดลึก พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 399 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณWanchai Wongsri จองแล้วครับ)







    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2019
  2. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    1038.เสริมบารมีกันภัยดีนักแล(๑) เหรียญพระพุทธบุพพาภิมงคล
    พิธีใหญ่มหามงคล พระสังฆราช,ลป.ฝั้น,ลป.โต๊ะ,ลพ.ฤาษีลิงดำ ร่วมอธิษฐานจิต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    B8Cc9t.jpg

    B8nSZN.jpg
    B8nYPV.jpg

    B8nN9S.jpg
    B8nBbn.jpg
    เหรียญพระพุทธบุพพาภิมงคล หลังสิงห์ธนูเจ้าพ่อดำ(พระยาราชสีห์) วัดบุพพาราม จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อทองแดงรมน้ำตาล ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2519 เนื่องด้วยทางวัดมีความต้องการจัดหาทุนในการจัดสร้างหอมณเฑียรธรรม และประจวบกับ
    วาระมงคลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมายุครบ 49พรรษา ในปี 2519 ทางวัดบุพผารามจึงได้จัดสร้างพระพุทธบุพพาภิมงคล เพื่อเป็นที่่ระลึกแก่พระองค์ท่าน ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวทรงเสด็จเททองหล่อพระพุทธบุพพาภิมงคล ณ วัดบุพผาราม จ.เชียงใหม่ และทางวัดได้จัดให้มีพิธีมหาพุทธถิเษกอย่างยิ่งใหญ่ โดยพระราชาคณะและพระคณาจารย์ดังแห่งยุค

    **** พระชุดนี้พึ่งแตกกรุจากการเก่าเก็บออกมาเมื่อปี พ.ศ.2560 จากข่าวด้านล่างจากไทยรัฐ ท่านใดมีความประสงค์จะร่สมทำบุญกับทางวัด ถ้าเข้าใจไม่ผิดน่าจะยังไม่หมดนะครับ ทางวัดให้บูชาที่ เหรียญละ 500บาทครับ ****

    พิธีพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก
    - เมื่อวันที่ 13 พค 2519 (วันวิสาขบูชา) ในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเททอง ในหลวงทรงจุดเทียนชัยพุทธาภิเษก ทรงพระสุหร่าย ทรงเจิม ณ วัดบุพผาราม จ.เชียงใหม่

    รายชื่อพระคณาจารย์ที่มาร่วมพิธีพระราชพิธีมหาพุทธาภิเษก 49 องค์
    1.สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก วัดราชบพิธฯ
    2.สมเด็จพระญาณสังวร วัดบวรนิเวศฯ
    3.สมเด็จพระธีรญาณ วัดจักวรรดิ์ฯ
    4.พระวิสุทธิวงศ์ศาจารย์ วัดสุทัศน์ฯ
    5.พระวิสุทธาธิบดี วัดไตรมิตรฯ
    6.พระธรรมวโรดม วัดปทุมคงคา
    7.พระพุทธวงศ์มุนี วัดเบญจมบพิตร
    8.พระธรรมโมลี วัดพระธาตุหริภุญชัย
    9.พระเทพวิสุทธิโสภณ เชียงราย
    10.พระเทพวิสุทธี วัดเจดีย์หลวง
    11.ครูบาคำแสน อินทจักโก วัดสวนดอก
    12.ครูบาคำแสน คุณารังกาโร วัดป่าดอนมูล
    13.ครูบาอินทจักร วัดน้ำบ่อหลวง
    14.ครูบาพรหมจักรสังวร วัดพระพุทธบาทตากผ้า
    15.หลวงปู่ฉิม พุทธาจาโร วัดถ้ำผาบ่อง
    16.พระอาจารย์หนู สุจิตโต วัดดอยแม่ปั๋ง
    17.ครูบาอินถา วัดเชียงมั่น
    18.ครูบาจันทร์แก้ว วัดดอกเอื้อง
    19.พระครูสิงหวิชัย วัดฟ้าฮ่าม
    20.ครูบาบุญมี วัดท่าสต๋อย
    21.ครูบาคำปัน วัดหม้อคำตวง
    22.ครูบาปั๋น วัดกู่คำ
    23.ครูบาแก้ว วัดวิเวกวนาราม
    24.ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง
    25.ครูบาจินะ วัดท่าข้าม
    26.ครูบาคำตัน วัดดอนจืน
    27.พระอาจารย์ทองบัว วัดโรงธรรม
    28.ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
    29.พระประสาท วัดจามเทวี
    30.พระราชสุมนต์มุนี วัดราชบพิธฯ
    31.ครูบาชุ่ม วัดวังมุย
    32.พระญาณวีราคม วัดดอนเจดีย์
    33.ครูบาเมือง วัดท่าแหน
    34.ครูบาคำแสน วัดท่าแหน
    35.พระอินทวิชยาจารย์ วัดคะตึก
    36.ครูบาอินโต วัดบุญยืน
    67.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    38.ครูบาหล้า วัดดอยคู่ค้าง
    39.พระราชรัตนมุนี วัดพระบาทมิ่งเมือง
    40.พระชยานันทมุนี วัดพญาภู
    41.พระญาณมงคล วัดมหาวัน
    42.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
    43.หลวงพ่อนอ วัดกลาง
    44.หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวัน
    45.หลวงพ่อเนื่อง วัดจุรามณี
    46.หลวงพ่อถีร วัดป่าเรไลย์
    47.หลวงพ่อฤษีลิงดำ วัดท่าซุง
    48.พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร
    49.พระอาจารย์สำราญ วัดเขาตะเครา

    ผ่านพิธีสวดอุปสานติ :
    - เป็นพิธีเพื่อสงบเคราะห์กรรม เพื่อสงบเหตุร้าย และสวดเพื่อสงบสิ่งที่กระทบกระเทือน เสริมบารมีแก่ผู้อาราธนาแขวน นับเป็นสิริมงคลอันยิ่งใหญ่แก่ผู้แขวน

    ข้อมูลข่าววัดบุพผาราม
    - https://www.thairath.co.th/content/937420


    สภาพสวยเดิมๆ เก็บเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมโค้ดชัดลึก พุทธคุณครอบครบ สงบเคราะห์กรรม เพื่อสงบเหตุร้าย และสวดเพื่อสงบสิ่งที่กระทบกระเทือน เสริมบารมีแก่ผู้อาราธนาแขวน นับเป็นสิริมงคลอันยิ่งใหญ่แก่ผู้แขวน แบ่งให้บูชา 599 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณธนกฤต จองแล้วครับ)



    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 สิงหาคม 2018
  3. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333


    #### ปิดรายการแล้วครับ #####




    1039.ยอดผงพรายกุมาร พระนางพญาพิมพ์ใหญ่ วัดหนองกาน้ำ
    เจตนาการสร้างบริสุทธิ์ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ เสกเดี่ยวไตรมาส

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    พระนางพญา พิมพ์ใหญ่หลังยันต์ วัดหนองกาน้ำ จังหวัดชลบุรี เนื้อผงพรายกุมารและผงวิเศษของหลวงปู่ทิมและหลวงตาบางที่ท่านได้เก็บสะสมไว้ จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2515-2516 ปลุกเสกโดย หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ จัดสร้างโดยหลวงตาบาง แห่งวัดหนองกาน้ำ(ลูกศิษย์ผู้ติดตามหลวงปู่ทิม) พระสมเด็จรุ่นนี้จัดสร้างพร้อมกับ พระสมเด็จหลังยันต์ห้า,พระผงรูปเหมือนหลวงปู่ทิม, พระปิดตายันต์ยุ่ง และพระปิดตา ของวัดหนองกาน้ำ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปลุกเสกให้ตลอดไตรมาส

    ผงวิเศษที่หลวงปู่ทิมเมตตามอบให้ หลวงตาบาง
    1.ผงพรายกุมาร
    2.ผงปถมัง (มีอานุภาพทางคงกระพันชาตรี เป็นมหาจังงัง กำบังกายได้ ถ้านำผงนี้ติดตัว คนอื่นจะไม่เห็นเราได้)
    3.ผงมหาราช (เด่นทางเสน่ห์ ใช้ได้สารพัด 108)
    4.ผงพุทธคุณ (มีอุปเท่ห์คล้ายกับผงมหาราช มีอานุภาพสูงในทางป้องกันคุณไสย ปัดเป่าเสนียดจัญไร ฯลฯ)
    5.ผงตรีนิสิงเห (ซึ่งผงวิเศษที่ลบขึ้นนี้ มีคุณวิเศษและประสิทธิภาพสูงมาก เมื่อนำมาผสมสร้างวัตถุมงคล ก็ทำให้วัตถุมงคลนั้นๆมีพลานุภาพสูงยิ่งๆขึ้น และยิ่งได้รับการประจุกระแสจิตจากพระผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ ก็ยิ่งทำให้วัตถุมงคลนั้นๆมีอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ยิ่งๆขึ้นไปอีก สามารถนำมาอธิษฐานได้ดั่งใจต้องการ...")
    6.ผงอิทธิเจ (มีอานุภาพสูงทางเมตตา มหานิยม หากนำไปให้ผู้หญิงกิน ผู้หญิงจะลุ่มหลงและระลึกนึกถึงผู้ที่เอาผงนี้ให้กินอยู่เสมอจนทนไม่ได้ จนต้องมาอยู่กินกับชายผู้นั้นในที่สุด ซึ่งหลวงปู่ทิมได้สาปแช่งเอาไว้ หากใครเอาผงไปใช้ในทางที่ผิด)
    ข้อมูลจาก : นิตยสารร่มโพธิ์ เล่มที่93 โดยคุณเพียรวิทย์ จารุสถิติ

    ประวัติการจัดสร้าง
    หลวงตาบาง ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดหนองกาน้ำ อ.พานทอง จ.ชลบุรี ได้เดินทางไปหาหลวงตารอด ที่วัดละหารไร่ เพื่อปรึกษาจะสร้างพระสมเด็จ และพระปิดตา เพื่อหาทุนสร้างศาลาและโบสถ์ที่วัดแห่งหนึ่ง ท่านทั้งสองได้ขออนุญาตหลวงปู่ทิมเพื่อจัดสร้าง หลวงปู่ทิมให้ก็ให้สร้างตามคำขอ พร้อมทั้งได้มอบผงพุทธคุณนำไปผสม เพื่อจัดสร้างพระจำนวนหนึ่ง หลวงตาบางท่านได้เดินทางไปถวายให้ หลวงปู่ทิมเมตตาปลุกเสกเดี่ยว ไตรมาส 3เดือน เมื่อถึงกำหนดเวลา หลวงตาบางก็ได้เดินทางมารับพระสมเด็จและพระปิดตาจากหลวงปู่ทิม เนื้อองค์พระรุ่นนี้ที่พบเห็นจะพบเป็น เนื้อออกสีน้ำตาล สีเหลืองอ่อน เหลือเข้ม(ว่านเหลือง) สีดำ (ว่านไพรดำ) บางองค์พบว่ามีพลอยเสกอยู่ด้วย

    ข้อมูลเพิ่มเติม :
    - http://www3.g-pra.com/auctionc/view.php?aid=12717280

    - https://www.web-pra.com/Shop/boonto/Show/1026346


    สภาพสวยเดิมเก่าเก็บผิวหิ้งนิดๆ พิมพ์คมชัดลึก เตือนกันไว้ตอนนี้มีของปลอมออกมาแล้วเกลื่อนเลยจะเช่าบูชาควรศึกษาก่อนนะครับ "ไม่แท้ไม่ทัน คืนเต็มครับ" พุทธศิลป์เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ไม่หักไม่ซ่อมผิวเดิมเก่าเก็บไม่ได้ใช้ พระรุ่นนี้เล่นหากันเป็นหลวงปู่ทิม อย่างเป็นทางการเเล้วครับ เนื้อหามวลสารเข้มข้นถึงใจ เมื่อก่อนอาจจะพบเห็นบ่อยๆ แต่ตอนนี้คิดหนักครับหายากใช้ได้เลย แบ่งให้บูชา 1,111 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • B8nQUz.jpg
      B8nQUz.jpg
      ขนาดไฟล์:
      927 KB
      เปิดดู:
      663
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2019
  4. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,589
    ค่าพลัง:
    +30,884
    บัติหวัดดีเช้า.gif
     
  5. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    รายการจัดส่งพัสดุครับผม
    15/08/2561



    คุณromegat
    - EMS เลขที่ ED511764952TH

    ---------------------------------------


    คุณmanote
    - EMS เลขที่ E[B][B][B]D511764966[/B][/B][/B]TH

    ---------------------------------------





    ***อย่าลืมชม สรุปรายการที่ หน้า1 นะครับผม***
    ขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม

    และอุดหนุนผมนะครับ
    Tel: 086-0441367, engineer0206nu@gmail.com



    78087cfc555ed63097aca0f54ae6bea4-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif 78087cfc555ed63097aca0f54ae6bea4-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif 78087cfc555ed63097aca0f54ae6bea4-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif 78087cfc555ed63097aca0f54ae6bea4-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif



    ==>> ตรวจสอบเลขEMS : http://track.thailandpost.co.th/tracking/default.aspx
     
  6. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333

    #### ปิดรายการแล้วครับ #####





    1040.เข้มขลังอลังการพิเศษมีรอยจาร เหรียญกายสิทธิ์ รุ่นแรก
    ชนวนมงคลหลวงปู่ดู่และแผ่นจารขั้นเทพ มหาพิธี 3วาระ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ

    thumb-846e_576ad09d-jpg-jpg.jpg thumb-ac79_576ad09d-jpg-jpg.jpg thumb-4e53_576ad09d-jpg-jpg.jpg
    เหรียญกายสิทธิ์ รุ่นแรก หลวงตาม้า (พระอาจารย์วรงคต วิริยะธโร) วัดพุทธพรหมปัญโญ ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อทองแดงผสมชนวนเปิดโลกประมาณ 50% ตอกโค้ด "นะ" ( โค้ดมีทั้งตอกและไม่ตอก แต่ที่นิยมคือตอกโค้ด ) ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2538 โดยอาจารย์ศุภรัตน์ แสงจันทร์ ผู้ออกแบบคือ น.ต.อัศวิน นัยชิต

    จำนวนเหรียญที่สร้าง
    1. เหรียญทองคำ 93 เหรียญ
    2. เหรียญเงิน 2,263 เหรียญ
    3. เหรียญทองแดง 20,000 เหรียญ
    4. เหรียญตะกั่ว 271 เหรียญ
    – เนื้อเงินผสมชนวนเปิดโลกประมาณ 80% เลยทีเดียว โดยส่วนใหญ่จะเป็นตะกรุดจักรพรรดิเนื้อเงินที่อ.ศุภรัตน์ได้จารแล้วให้หลวงปู่ดู่ได้อธิษฐานจิตเอาไว้ก่อนหน้านั้น รวมทั้งอาจารย์ได้ไปซื้อเม็ดเงินบริสุทธิ์มาเข้าร่วมในพิธีเปิดโลกด้วย
    – เนื้อทองแดงผสมชนวนเปิดโลกประมาณ 50%
    – เนื้อตะกั่วนี่พิเศษ แทบจะใช้ชนวนเปิดโลกล้วนๆ เพราะในพิธีนั้นอาจารย์ศุภรัตน์ได้นำตะกั่วลูกปืนมาเข้าร่วมพิธีโดยอธิษฐานให้เป็นแก้วจักรพรรดิ


    วัตถุประสงค์ในการจัดสร้าง
    - ที่ระลึกในโอกาสฉลองการเปิดสำนักสงฆ์พุทธพรหมปัญโญ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ (ปัจจุบันเป็นวัดแล้ว)
    - เพื่อใช้ในการทดแทนเหรียญเปิดโลกของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ


    พุทธลักษณะ
    ด้านหน้า : เป็นรูปหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด และหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ และมีพญานาค 2 ตน มีอักขระ นะ ซ่อนหัว อันเป็นยันต์ประจำตัวของหลวงปู่ดู่ วัดสะแก ท่านเคยบอกผู้สร้าง (อ.ศุภรัตน์ แสงจันทร์) ว่า ใครทำถึงจริงสามารถหายตัวได้
    ด้านหลัง : เป็นพระรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีอักขระขอม พุท ธะ สัง มิ ซึ่งคือ หัวใจพระไตรสรณคมน์


    ชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ในการจัดสร้าง
    1. พิธีหลอมโลหะที่วัดพุทไธศวรรย์ เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ.2537 โดยมีแผ่นจารจากเกจิอาจารย์หลายองค์ อาทิเช่น หลวงปู่ทิม วัดพระขาว, หลวงพ่อหวล วัดพุทไธศวรรย์, ท่านสุมโนดาบส (จ.เชียงราย) ที่สำคัญมีชนวนโลหะจากหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ ที่ท่านอธิษฐานให้มีทั้งทองคำ เงิน โลหะผสม


    2. ชนวนโลหะที่ได้จากการหล่อพระพุทธสิหิงค์ของกรมทหารสื่อสารทหารอากาศ โดยผสมชนวนที่ได้จากครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ.2537 และพิธีต่างๆอีกหลายพิธี

    3. ชนวนทั้งหมดได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกในงาน ครบ 60 ปี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย สมเด็จพระสังฆราชพระญาณสังวร ทรงเป็นประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ โดยมีคณาจารย์หลายองค์ทั้งสายพระป่าและเกจิอาจารย์ จำนวน 67 องค์ อาทิ หลวงพ่อคง, หลวงปู่ศรี, หลวงปู่สิม, หลวงปู่ชื้น เป็นต้น

    4. ชนวนตะกั่ว
    4.1 ตะกั่วแท่ง น้ำหนัก 10 กิโลกกรัม อธิษฐานโดยหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
    4.2 ตะกั่วหลอมจากตะกรุดโบราณ พบที่ อำเภอคง จ.นครราชสีมา น้ำหนัก 0.5 กิโลกกรัม จาก พ.อ.อ.นเรศ ทพิย์สุวรรณ์
    4.3 เนื้อชินกรอบโบราณ จากใกล้ ๆ วัดป้อมรามัญ ต.สวนพริก จ.พระนครศรีอยุธยา น้ำหนักประมาณ 0.5 กิโลกรัม


    พิธีพุทธาภเษก
    วาระที่ : 1
    - เมื่อวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2538 (วันจักรี) ณ วัดพุทไธศวรรย์ ตรงกัยวันพฤหัสบดี ขึ้น 7 ค่ำ เดือน 5 ปีกุน มีคณาจารย์หลายท่าน อาทิ
    1. หลวงพ่อหวล ภูริทัตโต วัดพุทไธศวรรค์ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา (เป็นพระอุปัชฌาย์ของอาจารย์ศุภรัตน์)
    2. หลวงปู่ทิม อัตตสันโต วัดพระขาว ต.พระขาว อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
    3. หลวงพ่อเมี้ยน พุทธสิริ วัดโพธิ์ ต.กบเจา อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา
    4. หลวงพ่อสวัสดิ์ จิตตะทศ วัดศาลาปูนวรวิหาร ต.ท่าวาสุกรี อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา

    5. หลวงพ่อเฉลิม ปิยทัสสี วัดพระญาติการาม ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
    6. หลวงพ่อเอียด วัดไผ่ล้อม อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
    7. พระอาจารย์แม้น อาจารสัมปันโน วัดหน้าต่างนอก ต.หน้าไม้ อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา
    8. ครูบาโอภาส วัดจองคำ อ.งาว จ.ลำปาง
    9. หลวงตาม้า วิริยธโร สำนักสงฆ์พุทธพรหมปัญโญ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่


    วาระที่ : 2
    - มนต์ (อฐิษฐานจิต) โดย หลวงปู่เกษม เขมโก จังหวัดลำปาง ตรงกับวันพุธ แรม 13 ค่ำ ปีกุน วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ.2538 เวลา 08.37 น. พร้อมกับพระรูปกรมพระกำแพงเพชรอัครโยธิน ของกรมสื่อสารทหารอากาศ เป็นเวลา 10 นาที

    วาระที่ : 3
    - เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ.2539 ตรงกับวันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปีชวด ณ สำนักสงฆ์พุทธพรหมปัญโญ โดยมีคณาจารย์หลายองค์ เช่น หลวงพ่อ วัดมหาวัน จ.เชียงใหม่, หลวงปู่สังข์ วัดป่าพระอาจารย์ตื้อ

    **** ในการปลุกเสกครั้งที่ 3 ที่ถ้ำเมืองนะ ผู้เขียนได้เรียนถามหลวงปู่สังข์ สังกิจโจ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ถึงพิธีในครั้งนี้ ท่านได้บอกว่า "สว่างไสวมาก มีครูบาอาจารย์มาช่วยกันเยอะ เห็นนางฟ้าเทวดามาร่วมโมทนากัน โปรยข้าวตอกดอกไม้ น้ำมนต์ในพิธี พระรุ่นนี้ดีมาก" โดยปกติหลวงปู่สังข์ เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านมักพูดน้อย ส่วนใหญ่จะสอนธรรมะมากกว่า เรื่องลึกลับซับซ้อนสำหรับผู้เขียนท่านไม่ค่อยปิดบัง นับเป็นความเมตตาอย่างยิ่ง ****
    ข้อมูลอ้างอิงจาก : หนังสือกายสิทธิ์ "ยุคอภิญญา"

    สภาพสวยผิวไฟแดงๆเดิมๆ พิมพ์คมชัดลึก นิยมตอกโค้ด พร้อมรอยจารหลวงตาม้า เหรียญดีชนวนโลหะเทพ พิธีอลังการอีกรุ่นที่น่ามีไว้บูชาติดตัวครับ ใช้บูชาแทนเหรียญเปิดโลกหลวงปู่ดู่ที่เป็นตำนานไปแล้วได้เลยครับ ดั่งเจตนาการดำริสร้างของเหรียญรุ่นนี้ แบ่งให้บูชา 1,888 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • BH9gB0.jpg
      BH9gB0.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1.1 MB
      เปิดดู:
      532
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2019
  7. thaicat2013

    thaicat2013 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    585
    ค่าพลัง:
    +1,010
    จองครับ 1035.สมปรารถนากันนิวเคลียร์(๕) เหรียญพระพิฆเนศร์
    หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน พระอรหันต์เจ้าผู้สำเร็จวิชารัตนจักร
     
  8. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333


    #### ปิดรายการแล้วครับ #####




    1041
    .ของดีที่ถูกลืม
    พระผงรูปเหมือนท่านเจ้าคุณนร
    เจ้าคุณนร อธิษฐานจิต 5 ธ.ค. 13 ของดีนอกวัดอีกรุ่นที่น่าบูชา

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    พระผงรูปเหมือนท่านเจ้าคุณนร หลังยันต์นูน วัดศีลขันธาราม จังหวัดอ่างทอง เนื้อผงพุทธคุณ จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2513 โดยท่านเจ้าคุณสนิท(สนิท ทองสีนวล) เป็นถึงพระราชาคณะ อดีตเจ้าอาวาสวัดขณะนั้น ท่านนับถือกันกับท่านเจ้าคุณนร วัดเทพศิรินทร์ฯ กทม. จึงนำพระเครื่องทั้งหมดหลายพิมพ์ รวมทั้งมวลสารที่เหลือจากการกดพิมพ์พระเข้าพิธีอธิษฐานจิตครั้งสุดท้าย ครั้งใหญ่ที่สุดของท่านเจ้าคุณนรฯ ณ อุโบสถวัดเทพศิรินทร์ เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2513

    โดยจุดสังเกตคือ
    - ด้านหลังเป็นยันต์นูน จะเป็นพระที่กดพิมพ์แล้วนำเข้าพิธี(ทันเจ้าคุณนรฯ)
    - ด้านหลังเป็นยันต์จม จะเป็นพิมพ์ที่กดทีหลังโดยนำมวลสารเก่าของชุดแรกที่เข้าพิธีมากดพิมพ์พระออกมาใหม่อีกวาระหนึ่ง(ไม่ทันเจ้าคุณนรฯ)


    สภาพสวยเดิมไม่หักไม่ซ่อม พระเก่าเก็บ พิมพ์คมชัดลึกด้านหลังยันต์ประทับเกือบเต็ม คราบแป้งเดิมๆ ของดีราคาถูกพุทธคุณสูงหรือเรียกอีกอย่างว่า พระนอกวัดของเจ้าคุณนรฯซึ่งเป็นที่นิยมอีกรุ่นหนึ่ง แบ่งให้บูชา 250 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • BHQh8e.jpg
      BHQh8e.jpg
      ขนาดไฟล์:
      956.3 KB
      เปิดดู:
      529
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 กันยายน 2019
  9. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    รายการจัดส่งพัสดุครับผม
    16/08/2561



    คุณธนกฤต
    - EMS เลขที่ ED511765825TH

    ---------------------------------------





    ***อย่าลืมชม สรุปรายการที่ หน้า1 นะครับผม***
    ขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม

    และอุดหนุนผมนะครับ
    Tel: 086-0441367, engineer0206nu@gmail.com


    7cfc555ed63097aca0f54ae6bea4-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif 7cfc555ed63097aca0f54ae6bea4-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif 7cfc555ed63097aca0f54ae6bea4-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif 7cfc555ed63097aca0f54ae6bea4-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif


    ==>> ตรวจสอบเลขEMS : http://track.thailandpost.co.th/tracking/default.aspx
     
  10. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    1042.สวยเดิมๆ(๑) เหรียญพระบรมรูปรัชกาลที่5 พิธีปืนแตก วัดราชบพิธฯ
    ลต.มหาบัว,ลป.เทศก์,ลป.โต๊ะ,ลพ.เงิน ร่วมอธิษฐานจิตพิธีใหญ่ 108รูป

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    BVZZOg.jpg
    เหรียญพระบรมรูปรัชกาลที่ 5 วัดราชบพิธฯ กรุงเทพมหานคร เนื้อทองแดงผิวไฟ จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2513 ประกอบพิธี มหาพุทธาภิเษก เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน คือระหว่างวันที่ 29-30-31 มกราคม พ.ศ. 2514 โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงมีพระมหากรุณา ธิคุณโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธี “จุดเทียนชัย” ในวันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2514

    ข้อมูลการจัดสร้างพระหูยานปืนแตก
    พระพิมพ์หูยานลพบุรี โดยสร้างล้อพิมพ์จาก “พระหูยานศิลปะลพบุรี” โดยแกะแม่พิมพ์ขึ้นใหม่มีความสวยงามขนาดพอเหมาะคือไม่ใหญ่และไม่เล็กจนเกินไป ด้านหลังประดิษฐานพระปรมาภิไธยย่อ “จ.ป.ร.”


    จัดสร้างวัตถุมงคลเพื่อฉลอง 100 ปีของวัดราชบพิธฯ ครั้งนั้นมีความพิถีพิถันมากโดยกำชับให้ช่างทำการเจือ “เนื้อโลหะ” ทั้งหมดที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเสด็จฯ เททองวัตถุมงคลเป็นปฐมฤกษ์ ผสมกับแผ่นยันต์ลงอักขระของบรรดา คณาจารย์ ผู้ทรงวิทยาคุณจากทั่วประเทศ ๑๐๘ รูป พร้อมทั้งชนวนโลหะวัตถุมงคลรุ่นเก่า ๆ ทุกรุ่นของวัดราชบพิธฯ ลงในวัตถุมงคล ทุกแบบทุกเนื้อและทุกพิมพ์ ให้ทั่วถึงกัน ทางวัดจึงกำหนดประกอบพิธี มหาพุทธาภิเษก เป็นเวลา 3 วัน 3 คืน คือระหว่างวันที่ 29-30-31 มกราคม พ.ศ. 2514 โดย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงมีพระมหากรุณา ธิคุณโปรดเกล้าฯ เสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธี “จุดเทียนชัย” ในวันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2514

    พระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณจากทั่วพระราชอาณาจักร ซึ่งล้วนเเต่เป็นพระคณาจารย์ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังด้านพุทธคมในยุคนั้นทั้งสิ้นที่รับนิมนต์มานั่งปรกปริกรรมเจริญภาวนาจำนวน 108 รูป โดยผลัดเปลี่ยนกันมาร่วมพิธีในเเต่ละวัน
    รายนามพระคณาจารย์ที่ร่วมอธิษฐานจิต 3 วัน 3 คืน อาทิ


    วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2514 ระหว่างเวลา 16.30-20.00 น.
    1.) พระเทพสังวรวิมล (เจียง) วัดเจริญสุขาราม จ.สมุทรสงคราม
    2.) พระราชธปรมากรณ์ (เงิน) วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม
    3.) พระศูพิพิธวิหารการ (หลวงพ่อเทียม) วัดกษัตราธิราช จ.พระนครศรีอยุธยา
    4.) หลวงพ่อกี วัดหูช้าง จ.นนทบุรี
    5.) พระครูโสภณพัฒนกิจ วัดอัมพวา บางกอกน้อย ธนบุรี กรุงเทพฯ
    6.) พระครูสุทธิการี (หลวงพ่อทองอยู่) วัดใหม่หนองพะอง จ.สมุทรสาคร
    7.) พระครูโพธิสารประสาธน์ (บุญมี) วัดโพธิ์สัมพันธ์ จ.ชลบุรี
    8.) พระครูอุภัยภาดาทร (หลวงพ่อขอม) วัดโพธาราม (วัดไผ่โรงวัว) จ.สุพรรณบุรี
    19.) พระครูนนทกิจวิมล (หลวงพ่อชื่น) วัดตำหนักเหนือ จ.นนท บุรี
    10.) พระครูสมุห์อำพล วัดประสาทบุญญาวาส กรุงเทพฯ
    11.) พระอาจารย์อรุณ วัดตะล่อม ธนบุรี กรุงเทพฯ
    12.) พระครูสมุห์สำรวย วัดกษัตราธิราช จ.พระนครศรีอยุธยา


    วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2514 ระหว่างเวลา 20.00-22.00 น.
    1.) พระราชสุทธาจารย์ (โชติ ระลึกชาติ) วัดวชิราลงกรณ์จ.นครราชสีมา
    2.) พระนิโรธรังสีคัมภีร์เมธาจารย์ (หลวงปู่เทสก์ เทสโก) วัดหินหมากเป้ง จ.หนองคาย
    3.) พระอินทสมาจารย์ (เงิน อินทสโร) วัดอินทรวิหาร กรุงเทพฯ
    4.) พระครูสภาพรพุทธมนต์ (สำเนียง อยู่สถาพร) วัดเวฬุวนาราม จ.นครปฐม
    5.) พระครูกัลป์ยานุกูล (เฮง) วัดกัลยาณมิตร ธนบุรี กรุงเทพฯ
    6.) พระครูภาวนาภิรม วัดปากน้ำภาษีเจริญ ธนบุรี กรุงเทพ
    7.) พระครูประภัสสรศีลคุณ (เอก) วัดไผ่ดำ จ.สิงห์บุรี
    8.) พระครูสมุห์หิน วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ
    9.) หลวง พ่อใหญ่อภินันโท (จุล) วัดถ้ำคูหาสวรรค์ จ.ลพบุรี
    10.) พระอาจารย์อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโศธาราม จ.อุดรธานี
    11.) พระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน (พระธรรมวิสุทธิมงคล) วัดป่าบ้านตาด จ.อุดรธานี
    12.) พระครูใบฎีกาสมาน (หลวงพ่อเณร) วัดพรพระร่วง กรุงเทพฯ


    วันศุกร์ที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2514 ระหว่างเวลา 22.00-24.00 น.
    1.) พระราชวตาจารย์ วัดมกุฏกษัตริยาราม กรุงเทพฯ
    2.) พระญาณโพธิ (เข็ม) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ
    3.) พระวิเชียรมุนี วัดอินทราม กรุงเทพฯ
    4.) พระพุทธมนต์วราจารย์ (สุพจน์) วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ
    5.) พระโสภณมหาจารย์ วัดดาวดึงนาราม กรุงเทพฯ
    6.) พระครูพิบูลมงคล วัดสุทัศนเทพวราราม กรุงเทพฯ
    7.) พระมงคลสุรี วัดนาคกลาง กรุงเทพฯ
    8.) พระครูปลัดสงัด วัดโพธิ์ท่าเตียน กรุงเทพฯ
    9.) พระครูวินัยธร (เดช) วัดสระเกศฯ กรุงเทพฯ
    10.) พระปลัดมานพ วัดชิโนรสราม กรุงเทพฯ
    11.) พระมหาวาส วัดปทุมวนาราม กรุงเทพฯ
    12.) พระอาจารย์ผ่อง จินดา วัดจักรวรรดิ (สามปลื้ม) กรุง เทพฯ


    พระสวดพุทธาภิเษก
    ระหว่างเวลา 16.30-21.00น. จำนวน 4 รูป จากวัดสุทัศนเทพวราราม,
    ระหว่าง เวลา 21.00-24.00 น. จำนวน 4 รูป จากวัดบวรนิเวศวิหาร
    วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2514 ระหว่างเวลา 18.00-20.00 น.

    1.) พระธรรมวราลังการ วัดบุปผาราม ธนบุรี กรุงเทพฯ,
    2.) พระโพธิวรคุณ (ไพฑูรย์) วัดโพธิ์นิมิต กรุงเทพฯ,
    3.) พระครูสีลวิสุทธาจารย์ วัดสง่างาม จ.ปราจีนบุรี
    4.) พระครูประภัศระธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อแต้ม) วัดพระลอย จ.สุพรรณบุรี
    5.) พระครูประสิทธิสารคุณ (พ้น) วัดอุบลวรรณาราม จ.ราชบุรี
    ๖.) พระครูสังฆวฒาจารย์ (หลวงปู่เย่อ) วัดอาฬาสงคราม จ.สมุทรปราการ
    7.) พระอาจารย์หนู วัดบางกะดี่ กรุงเทพฯ
    8.) พระอาจารย์มงคล (กิมไซ) วัดป่าเกตุ จ.สมุทรปราการ
    9.) พระครูสมุห์ทองคำ วัดเสาธงทอง จ.ลพบุรี
    10.) พระอาจารย์สมภพ เตชบุญโญ วัดสาลีโขภิรตาราม จ.นนทบุรี
    11.) พระอาจารย์ยาน วัดถ้ำเขาหลักไก่ จ.ราชบุรี,
    12.) พระอาจารย์บุญกู้ วัดอโศกตาราม จ.สมุทรปราการ


    วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2514 ระหว่างเวลา 20.00-22.00 น.
    1.) พระสุนทรธรรมภาณ วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
    2.) พระครูโสภณกัลป์นาณวัตร (เส่ง) วัดกัลยาณมิตร กรุงเทพฯ
    3.) พระครูวรพรตศีลขันธ์ (แฟ้ม) วัดป่าอรัญศิกาวาส จ.ชลบุรี
    4.) พระครูปสาธน์วิทยาคม (หลวงพ่อนอ) วัดกลางท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา
    5.) พระอาจารย์บุญเพ็ง วัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ
    6.) พระอาจารย์สุวัจน์ วัดป่าภูธรพิทักษ์ จ.สกลนคร
    7.) พระอาจารย์วัน วัดป่าอภัยวัน (ภูเหล็ก) จ.สกลนคร
    8.) พระอาจารย์สุพัฒน์ วัดบ้านใต้ จ.สกลนคร
    9.) พระอาจารย์ทองสุข วัดถ้ำเจ้าภูเขา จ.สกลนคร
    10.) พระอาจารย์ฟัก สันติธัมโม วัดเขาน้อยสามผา จ.จันทบุรี
    11.) พระอาจารย์ดวน วัดมเหยงค์ จ.นครศรีธรรมราช
    12.) พระอาจารย์สอาด วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ


    วันเสาร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2514 ระหว่างเวลา 22.00-24.00 น.
    1.)พระเทพเมธากร วัดเทพศิรินทราวาส กรุงเทพฯ
    2.) พระราชวรญาณมุนี นุภพศิริมาตราม กรุงเทพฯ
    3.) พระปัญญาพิศาลเถระ วัดราชประดิษฐ์ กรุงเทพฯ
    4.) พระครูโสภณสมาธิวัตร วัดเจ้ามูล ธนบุรี กรุงเทพฯ
    5.) พระครูวิริยะกิตติ (หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี) ธนบุรี กรุงเทพฯ
    6.) พระครูพิชัย ณรงค์ฤทธิ์ วัดสิตาราม กรุงเทพฯ
    7.) พระครูปลัดถวิล วัดยางระหงษ์ จ.จันทบุรี
    8.) พระอธิการพัตน์ วัดเเสนเกษม กรุงเทพฯ
    9.) พระอาจารย์เชื้อ หนูเพชร วัดสะพานสูง กรุงเทพฯ
    10.) พระอาจารย์รัตน์ วัดปทุมคงคา กรุเทพฯ
    11.) พระครูสังฆรักษ์ (กาวงค์) วัดป่าดาราภิรมย์ จ.เชียงใหม่
    12.) พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง


    โดยมีพระสวดพุทธาภิเษก
    เวลา 18.00-21.00 น. พระภิกษุ 4 รูป จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม
    เวลา 21.00-24.00 น. พระภิกษุ 4 รูป จากวัดราชประดิษฐ์
    วันอาทิตย์ที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2514


    ดังนั้น วัตถุมงคล ชุดฉลอง 100 ปี วัดราชบพิธฯ” นี้จึงเป็นวัตถุมงคลที่ถึงพร้อมด้วย พระพุทธคุณ, พระธรรมคุณ, พระสังฆคุณ และพระมหากรุณาธิคุณ ของพระมหากษัตริย์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐแก่ประเทศไทยถึง 2 พระองค์ ด้วยกันคือ รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 อย่างเปี่ยมล้นยิ่งนัก.

    มูลเหตุแห่งฉายา "พระหูยานปืนแตก"
    บรรดาเซียนพระยุคครั้งโน้น นิยมเรียกขานว่ารุ่น “ปืนแตก” โดยจากคำบอกเล่าของท่านเจ้าคุณ “พระธรรมเมธี (อัคค ชิโน)” เช่นกัน เหตุที่บรรดาเซียนพระยุคนั้นเรียกกันก็สืบเนื่องจาก หลังการจัดทำพิธีพุทธาภิเษกแล้ว ได้มีบรรดานายทหารจาก กรมรักษาดินแดน และ กระทรวงกลาโหม ซึ่งอยู่ใกล้กับ วัดราชบพิธฯ ได้ มาบูชาซึ่งสมัยนั้นราคาถูกมากเพียง “องค์ละ ๑๐ บาท” เท่านั้นและหลังจากบูชากันไปแล้วทหารหลายรายได้นำไปพิสูจน์ ความเข้มขลังด้วยการนำ “พระหูยาน จ.ป.ร.” ที่นำไปเลี่ยมพลาสติกแล้วไปแขวนกับ “ธงชาติ” แล้วชักธงชาติระดับเหนือศีรษะขึ้นจากนั้นทำการ ทดลองยิง ปรากฏว่า นัดแรก กระสุนปืนเกิดด้าน ยิงไม่ออก จึงทำการตรวจสอบปืนใหม่แล้วทดลอง “ยิงอีกนัด” คราวนี้ปรากฏว่าเกิดเสียง “ระเบิด” ดังขึ้นและพอสิ้นเสียงระเบิด “ทหาร” ผู้ทำการทดลองยิงก็ออกอาการ ตกใจ เมื่อเห็น ปากกระบอกปืน ที่ใช้ทดลองยิง แตกเป็นรอยร้าวทั้งลำกล้อง ใช้การไม่ได้อีกเลยตั้งแต่นั้นมาบรรดา ทหารที่อยู่ในเหตุการณ์ทดลองยิงจึงเรียก พระหูยาน จ.ป.ร. ว่ารุ่น “ปืนแตก” เป็นที่เลื่องลือกันมากในยุคนั้น นอกจากนี้บรรดาทหารที่อาสาสมัครไปร่วมรบใน “สมรภูมิเวียดนาม” ที่รอดชีวิตกลับมาก็มีการร่ำลือว่า เหตุที่รอดชีวิตเพราะได้พกพาพระหูยานรุ่นปืนแตกนี้ติดตัวไปด้วย พระหูยาน จ.ป.ร. มีพุทธคุณเข้มขลังด้าน ยอดเหนียว เนื่องจากมีเหตุ วัยรุ่นยกพวกตะลุมบอนกัน พร้อมทั้งใช้อาวุธที่มีทั้งมีดดาบและปืนฟันและยิงใส่กันแบบ เอาเป็นเอาตาย แต่ปรากฏว่าผู้ที่พกพา พระหูยาน จ.ป.ร. ติดตัวไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บเลยทั้งที่บางรายถูกฟันจนเสื้อขาดและบางรายถูกยิงจนเสื้อเป็นรูทะลุแต่จุดที่ถูกฟันและถูกยิงเป็นเพียง รอยจ้ำ ช้ำแดงเท่านั้น


    สภาพสวยพร้อมห่วงเดิม ผิวไฟแดงเดิมยังมีบางส่วนกลับดำบ้างตามอายุ โดยรวมๆถือว่ายังสดอยู่ครับ เหมาะแก่การสะสมเป็นอย่างสูง พิมพ์คมชัดลึก ของดีพิธีใหญ่ในหลวงทรงเสด็จ พุทธคุณหลักล้านราคาหลักร้อย แบ่งให้บูชา 650 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณpeesut จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 สิงหาคม 2018
  11. thaicat2013

    thaicat2013 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2013
    โพสต์:
    585
    ค่าพลัง:
    +1,010
    แจ้งโอนเงินแล้วครับ 345 บาท เมื่อ 17/8/18 เวลา 09.41 น. ที่อยู่สำหรับส่งของตาม PM ครับ
     
  12. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    รายการจัดส่งพัสดุครับผม
    17/08/2561



    คุณ ผอ.สุรศักดิ์
    - EMS เลขที่ ED511766689TH

    ---------------------------------------


    คุณthaicat2013
    - EMS เลขที่ ED511766692TH

    ---------------------------------------




    ***อย่าลืมชม สรุปรายการที่ หน้า1 นะครับผม***
    ขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม

    และอุดหนุนผมนะครับ
    Tel: 086-0441367, engineer0206nu@gmail.com


    555ed63097aca0f54ae6bea4-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif 555ed63097aca0f54ae6bea4-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif 555ed63097aca0f54ae6bea4-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif 555ed63097aca0f54ae6bea4-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif


    ==>> ตรวจสอบเลขEMS : http://track.thailandpost.co.th/tracking/default.aspx
     
  13. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    1043.ยอดเหรียญดีพุทธคุณล้นฟ้าราคาหลักร้อย เหรียญพุทโธอรหัง นิตยสารลานโพธิ์ ลป.โต๊ะ,ลป.ฝั้น,ลป.สาม,ลป.ศรี,ลพ.สนิท อธิษฐานจิต

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    BXGOeq.jpg

    BXGoaR.jpg

    BXG83l.jpg

    เหรียญพุทโธอรหัง เนื้อทองแดงรมน้ำตาล ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2520 จัดสร้างโดย นิตยสารพระเครื่องลานโพธิ์ ( สำนักพิมพ์บางกอกสาส์น ) เพื่อสมนาคุณผู้อ่านในฉบับที่ 115เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ปี พ.ศ.2521 โดยใช้ระยะเวลาการสร้างรวมทั้งการตระเวนปลุกเสกนานถึง 6เดือนจึงจะแล้วเสร็จ

    วาระพิธีพุทธาภิเษก

    1. หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กทม. ปลุกเสกเดี่ยว

    2. หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะอง สมุทรสาคร ปลุกเสกเดี่ยว

    3. หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ชัยนาท ปลุกเสกเดี่ยว

    4. หลวงพ่อสนิท วัดลำบัวลอย นครนายก ปลุกเสกเดี่ยว

    5. ครูบาอินทจักรรักษา วัดน้ำบ่อหลวง เชียงใหม่ ปลุกเสกเดี่ยว

    6. ครูบาพรหมจักรสังวร วัดพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน ปลุกเสกเดี่ยว

    7. ครูบาคำแสน วัดป่าดอนมูล เชียงใหม่ ปลุกเสกเดี่ยว

    8. ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี เชียงใหม่ ปลุกเสกเดี่ยว

    9. ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งหลวง เชียงใหม่ ปลุกเสกเดี่ยว

    10. หลวงพ่อดำ วัดตุยง ปัตตานี ปลุกเสกเดี่ยว

    11. พระอาจารย์แอบ วัดปากน้ำ สงขลา ปลุกเสกเดี่ยว

    12. พ่อหลวงสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ชุมพร ปลุกเสกเดี่ยว


    13. นำเข้าพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคลพระอาจารย์มั่น วัดบวรนิเวศฯ เมื่อวันที่ 26-27-28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2520 ณ พระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร กรุงเทพฯ มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังยุคนั้น และพระกรรมฐานสายพระอาจารย์มั่นร่วมปลุกเสก 3 วัน จำนวน 89 รูป

    - สมเด็จพระสังฆราช เป็นองค์ประธานจุดเทียนชัย
    - พระอาจารย์บุญมา ฐิตเปโม วัดป่าสิริสารวัล อุดรธานี เป็นองค์ที่ดับเทียนชัย


    วาระที่ : 1
    เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2520 รายนามพระเถระที่เข้าร่มพิธี
    1.สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศ กรุงเทพฯ
    2.หลวงปู่ธูป วัดสุนทรธรรมทาน (วัดแค) กรุงเทพฯ
    3.หลวงพ่อชิต วัดเขาเต่า ประจวบคีรีขันธ์
    4.หลวงพ่อศิริ วัดชนะสงคราม กรุงเทพฯ
    5.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี กรุงเทพฯ
    6.หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลย์ สุพรรณบุรี
    7.หลวงพ่อใหญ่ วัดสะแก อยุธยา
    8.หลวงพ่อไพฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิตร กรุงเทพฯ
    9.หลวงพ่อบาง วัดหนองพลับ สระบุรี
    10.หลวงพ่อสา วัดราชนัดดา กรุงเทพฯ
    11.หลวงพ่อเส็ง วัดน้อยนางหงษ์ กรุงเทพฯ
    12.หลวงพ่อเที่ยง วัดม่วงชุม กาณจนบุรี
    13.หลวงพ่อแฟ้ม วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี
    14.หลวงพ่อเส็ง วัดกัลยา กรุงเทพฯ
    15.หลวงพ่อหิน วัดระฆังโฆสิตาราม กรุงเทพฯ
    16.หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม สิงห์บุรี
    17.หลวงพ่อนนท์ วัดเหนือวน ราชบุรี
    18.หลวงพ่อเชื้อ วัดใหม่บำเพ็ญบุญ ชัยนาท
    19.พระอาจารย์พันเทพ ฐานวโร วัดศรีบุญเรือน เชียงใหม่
    20.หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังวิเวการาม กาญจนบุรี
    21.หลวงพ่อทองอยู่ วัดเกยชัยเหนือ นครสวรรค์
    22.พระโสภณวิสุทธิเถระ วัดศิลขันธาราม อ่างทอง
    23.พระครูประสิทธิ์วิทยาคม วัดเพียรบาตร ศรีสะเกษ


    วาระที่ : 2
    เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2520 รายนามพระเถระที่เข้าร่มพิธี
    1.หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง สิงห์บุรี
    2.พระคัมภีรญาณเถร วัดชัยภูมิวนาราม ชัยภูมิ
    3.หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม นครปฐม
    4.หลวงพ่อบุญ วัดวังมะนาว
    5.หลวงพ่อผิว วัดสง่างาม ปราจีนบุรี
    6.หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองพะองค์ สมุทรสาคร
    7.หลวงพ่อสุด วัดกาหลง สมุทรสาคร
    8.พระครูนนทสิทธิการ วัดไทรน้อย นนทบุรี
    9.หลวงพ่อพุฒ สารสุข วัดวงษ์ภาสน์ อ่างทอง
    10.หลวงพ่อรวย วัดท่าเรือแกลง ระยอง
    11.หลวงปู่คำมี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ ลพบุรี
    12.หลวงพ่อคง วัดสรรพรส จันทบุรี
    13.พระครูสารกิจประยุค วัดกุญชรนาราม มหาสารคาม
    14.หลวงพ่อพริ้ง วัดโบสถ์โก่งธนู ลพบุรี
    15.หลวงพ่อคร่ำ วัดวังหว้า ระยอง
    16.หลวงพ่อทองสุข วัดสะพานสูง นนทบุรี
    17.ครูบาธรรมชัย วัดทุ่งน้ำหลวง เชียงใหม่
    18.หลวงพ่อสด วัดหางน้ำสาคร ชัยนาท
    19.หลวงพ่อจ้วน วัดเขาลูกช้าง
    20.พระครูบวรชิมรัตน์ วัดนางพญา พิษณุโลก
    21.พระครูสุวรรณศิลาจารย์ วัดก้อนแก้ว ฉะเชิงเทรา


    วาระที่ : 3
    เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2520 รายนามพระเถระที่เข้าร่มพิธี
    1.พระเทพบัณฑิต วัดศรีเมือง หนองคาย
    2.พระอาจารย์จวน กุลเชโฐ หนองคาย
    3.พระอาจารย์คำพันธ์ วัดอรุณรังษี หนองคาย
    4.พระพิศาลศาสนกิจ วัดจันทาราม หนองคาย
    5.พระครูสุนทรนวกิจ วัดจันทาราม หนองคาย
    6.หลวงปู่อ่อนสี วัดพระงามศรีมงคล หนองคาย
    7.พระครูสมุทร์ญาณประยูติ วัดบึงปังพลาราม หนองคาย
    8.หลวงปู่เหรียญ วัดอรัญบรรพรต หนองคาย
    9.พระอาจารย์บัวพา วัดป่าพระสถิตย์ หนองคาย
    10.หลวงพ่อทองพูล วัดสามัคคีอุปถัมภ์ หนองคาย
    11.พระอาจารย์บุญมา วัดศิริสาละวัน อุดรธานี
    12.หลวงปู่ชม วัดบ้านวัวฆ้อง อุดรธานี
    13.พระอาจารย์บุญเพ็ง วัดถ้ำกลองเพล
    14.พระครูศรีธรรมาคุนาธาร วัดป่า อุดรธานี
    15.หลวงปู่เพียร วัดป่าหนองกอง อุดรธานี
    16.พระอาจารย์บุญเลิศ วัดโนนสง่า อุดรธานี
    17.หลวงปู่สิม พุทธจาโร วัดสันติสังฆราม สกลนคร
    18.หลวงปู่แว่น วัดป่าสุทธาวาส สกลนคร
    19.พระอาจารย์บุญ วัดศรีสว่างแดนดิน สกลนคร
    20.พระอาจารย์วัน วัดถ้ำอภัยดำรงธรรม สกลนคร
    21.พระอาจารย์ลี วัดเหวลึก สกลนคร
    22.หลวงปู่อ่อนสี วัดธรรมมิการาม สกลนคร
    23.หลวงปู่ผาง ปริปุญโณ วัดประสาทธรรม สกลนคร
    24.พระอาจารย์สุภาพ วัดทุ่งสว่าง สกลนคร
    25.พระอาจารย์คำบ่อ วัดใหม่บ้านตาล สกลนคร
    26.พระอาจารย์สนั่น วัดป่าบ้านหนองไผ่ สกลนคร
    27.พระอาจารย์สุพรรณ วัดประชานิมิตร สกลนคร
    28.พระอาจารย์จันดี วัดศรีสะอาด สกลนคร
    29.หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก สุรินทร์
    30.พระญาณสิทธาจารย์ วัดเทพพิทักษ์ปุณนาราม นครราชสีมา
    31.หลวงพ่อพุธ วัดป่าสาละวัน นครราชสีมา
    32.หลวงตาพวง วัดศรีธรรมาราม ยโสธร
    33.พระราชธรรมนุวัตร์ วัดประชานิยม กาฬสินธุ์
    34.พระอาจารย์หนูอินทร์ วัดพุทธคายา กาฬสินธุ์
    35พระอาจารย์หนู วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่
    36.หลวงปู่หลวง วัดสำราญนิวาส ลำปาง
    37.พระอาจารย์ไพบูลย์ วัดป่ารัตนาราม พะเยาว์
    38.หลวงปู่ศรีจันทร์ วัดเลยหลง เลย
    39.พระอาจารย์ผั่น วัดถ้ำเอราวัณ เลย
    40.หลวงปู่ซามา วัดป่าอัมพวัน เลย
    41.หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน เลย
    42.พระอาจารย์สีทน สีละธโน วัดถ้ำผาปู่ เลย
    43.พระพุทธิสารธโศภณ วัดศรีโพนแท่ง เลย
    44.พระอาจารย์บุญเย็น สำนักสงฆ์ เชียงใหม่
    45.หลวงปู่ศรี มหาวีโร วัดประชาคมวนาราม ร้อยเอ็ด


    14.พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง นครศรีธรรมราช ปลุกเสกเดี่ยว
    โดยในตอนบ่ายของวันที่ 9 ธค 2520 ณ สำนักงานของนิตยสารพระเครื่องลานโพธิ์ พ่อท่านคลิ้งได้เมตตาทำน้ำมนต์และปลุกเสกเหรียญ พุทโธอรหัง เป็นเวลาถึง 3ชั่วโมงเต็ม


    พุทธคุณ :
    - ครอบครบทุกด้าน ดั่งคำสอนของหลวงปู่ฝั้น แห่งวัดป่าอุดมสมพร ที่กล่าวไว้ว่า " พุทโธ คำเดียว ครองได้ทั้ง 3โลก "


    ขอขอบคุณที่มาจาก :
    -
    จากหนังสือลานโพธิ์ ฉบับที่ 115 วันที่ 10 มกราคม พ.ศ.2521


    สภาพสวยเดิมใหม่กริ๊บ เหรียญดีที่น่าบูชาอีกรุ่น ที่พิธีใหญ่โตอลังการเหนือคำบรรยายสุดๆ แบ่งให้บูชา 199 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณลืมจัง จองแล้วครับ)



    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2018
  14. ลืมจัง

    ลืมจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +822
    จองครับ
     
  15. bat119

    bat119 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กันยายน 2009
    โพสต์:
    14,589
    ค่าพลัง:
    +30,884
    หวัดดียามเช้า.gif
     
  16. ลืมจัง

    ลืมจัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +822
    โอนแล้วครับรายการ 1043:):)
     
  17. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333



    - รับทราบการจอง,การแจ้งโอน,การแจ้งการได้รับของ และการเข้ามาเยี่ยมชมครับผม



    ขออนุญาตแจ้งเรื่องการจองและการเช่าบูชาครับ

    พระเครื่องที่ผมนำมาลงผ่านการคัดกรองมาแล้วอย่างดี หากท่านสมาชิกท่านใดที่จะทำการจองหรือเช่าบูชา ไม่เชื่อมั่นในตัวผม หรือ ยังไม่มีรายละเอียดในพระที่ต้องการเช่าบูชา ขอความกรุณาทำการศึกษาให้ตรวจสอบให้ดีก่อนตัดสินใจนะครับ หรือจะนำภาพที่ผมลงไว้ไปให้คนที่คุณไว้ใจตรวจสอบก่อนก็ได้ ส่วนผลจะออกมาอย่างไรก็แล้วแต่ครับ เพราะการตัดสินว่าพระไหนดีไหนไม่ดี มันต้องใช้ความชำนาญและประสบการณ์บวกกับการพิจารณความเป็นไปได้ด้วย คน10คนดูพระองค์เดียวกัน ผลที่ออกมาแทบไม่เหมือนกันเลย

    ถ้าท่านยังไม่ผ่านกระบวนการดังที่ผมกล่าวไว้นี้ และบวกกับยังไม่เชื่อมั่นในตัวผม ขอแนะนำว่าอย่าเพิ่งบูชาไปนะครับ เพราะถ้าเกิดความกังขาขึ้นในตัวองค์พระแล้วพุทธคุณไม่เกิดครับ ชี้แจงจากกรณีที่มีผู้ให้ผมตรวจสอบพระที่บูชามาจากที่อื่นให้ครับ คือบูชามาแล้วไม่สบายใจ บอกได้เลยว่ากรณีนี้ไม่เกิดประโยชน์กับใครทั้งนั้นครับ ทางที่ดีควร ศึกษา เรียนรู้ ไตร่ตรอง พิจารณาให้รอบคอบก่อนเช่าบูชานะครับ

    :););):);):):)



    ขออนุญาตแจ้งเรื่องการจัดส่ง

    เพื่อความสะดวกในการได้รับของครับผม เนื่องจากผมติดภารกิจ การจัดส่งของจะสะดวกในช่วงวัน วันพฤหัสบดี - วันศุกร์ นะครับพี่ๆ หากล่าช้าอย่างไรไปบ้างผมต้องขอประทานโทษไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ



    เข้ารับชมสรุปรายการที่ หน้า 1
    ได้เลยครับผม ตามลิ้งค์เลยครับ

    []
    []
    \/



    http://palungjit.org/threads/กระทู้ใหม่-4-วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย-หลากหลายสายราคาเบา-สรุปรายการ-น-1.573785/#post-10209663

    -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif


    ขอขอบพระคุณทุกๆท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม
    และอุดหนุนผมนะครับ
     
  18. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    1044.มหาพิธีหลังกึ่งพุทธกาล พระพุทธปทุมเสมิง(๖)
    รุ่นบูรพาจารย์ ลป.พิศดู,ลป.ลี,ลป.จันทร์เรียน อธิษฐานจิต 3วัน3คืน

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    BJLZsE.jpg

    image-b3ba_58c2479a-jpg-4102054-jpg-4112447-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    image-c6f1_58c2479a-jpg-4102055-jpg-4112448-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    พระพุทธปทุมเสมิง(ปทุมเจ็ดสระ) รุ่นบูรพาจารย์ วัดสำราญนิเวศ(ธรรมยุต) จังหวัดอำนาจเจริญ เนื้อผงมหาพุทธคุณโรยผงชนวน สุดยอดศาสตร์แห่งพิธีกรรมโบารณอันยิ่งใหญ่ สมบูรณ์ที่สุดรวมพิธี พุทธศาสตร์ และโหราศาสตร์ไว้เป็นหนึ่งเดียว ที่สุดแห่งการรวบรวมมวลสารอันเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ กว่าหมื่นรายการที่ไม่เคยปรากฏ ณ ที่แห่งใดมาก่อน จัดสร้างและมหาพิธีพุทธาภิเษกเมื่อ วันที่ 12,13,14 สิงหาคม พ.ศ.2548

    พระพุทธปทุมเสมิงบูรพาจารย์
    ตำราการสร้างอันเปี่ยมล้นด้วยศรัทธา วิริยะยอดยิ่ง อีกหนึ่งมรดกแห่ง องค์บูรพาจารย์ ท่านเจ้าคุณอุบาลี คุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) สูงส่งด้วยวัสดุมวลสาร ยากยิ่งด้วยกฎเกณฑ์ ฤกษ์ยามอันจำกัด ด้วยคาถาพรปทุมเสมิงนี้ โบราณจารย์ ตีค่าไว้ 7,000ตำลึงทองตรึกตรองใคร่ครวญพึงทราบได้ว่า ตำราท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ แต่ละวิชา แต่ละประการล้วนแต่สูงส่งลึกซึ้งยากเกินพรรณนาตำราการสถาปนาพระปทุมเสมิงกกล่าวไว้ว่าเมื่อถึงวันขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 จงประชุมหมู่ปทุมชาติอันขาวสะอาดจากสระน้ำในพระอารามทั้งหลายไกลและใกล้มุ่งหมายให้ได้9 พระอาราม ดอกบัวหลวงทั้ง 9 สระ มากน้อยประการใดพึงเก็บมาเพียงสระละ 9ดอก คัดตั้งแต่เพียงละอองเกสรนั้น ประกอบเป็นมวงสารขึ้นเป็นองค์ พระพุทธพิมพ์ สำเร็จเป็นพระปทุมเสมิง แล้วบูชาไว้ในสถานที่อันควร อนึ่งบัวหลวงทั้ง ๙สระ จำนวน 81 ดอกเก็บตามจำนวนพระชนม์มายุพระพุทธองค์ เพื่อเป็นพุทธบูชา 80 ดอก เศษอีก 1 ที่เกินเพิ่มไว้เป็นสิริมงคลแก่ผู้สัการะบูชา 81 ดอก จากสระบัวหลวงต่างพระอารามที่ต้องทำให้ครบจำนวน เพื่อ สถาปนาเป็นรูปพระพุทธปทุมเสมิงให้เสร็จสิ้นภายในวันเดียว

    พระคาถาพระพุทธปทุมเสมิง

    “โอมปะทุมะเสมิง นะสาระชะตะกะราเปิง พรหมะหิสสะ
    สัมพุทธะรูปะเปิง จตุเพิงสุมังคละ สะยาสะเนิง สัพพะเชิง ยังขะคะทาทีหิ
    ทุรักเขตตะ อะนาถบิณทิกะตุนนัง อานุภาเวนะพลวะ โลกัสสะมิง
    อะสีติ อะสีกะ คาถาระนะ พานิชชัง คุณะเสวิตัง ตันโปตี ฆาสะมัตตะ
    อะมะพะ อะกะกะ วิชัยยะ สัพพะ สิทธิ สวาหุมะ”
    พระมหาคาถาพระพุทธปทุมเสมิงนี้ โบราณจารย์ตีค่าไว้ 7,000ตำลึงทอง
    ด้วยเหตุนี้การสร้างพระปทุมเสมิง อันเป็นสิ่งที่ยากยิ่งแล้ว การบูชาครอบครอง พระปทุมเสมิงจึงถือเป็นสิริมงคลอย่างที่ยากจะพานพบ นอกเหนือจากการบูชาพระรัตนกตรัยแล้ว การบูชามหาวัตถุมงคลรุ่นบูรพาจารย์ทั้งหลายนี้ ยังเท่ากับเป็นการสร้างศาสนาสถาน 5 ประการ ดังแจ้งไว้ในหมายเหตุวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น

    วาระการพิธีพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ 3วัน3คืน

    - เมตตาอธิษฐานจิต โดยเกจิอาจารย์สุดยอดแห่งกองทัพธรรมและ ยอดคณาจารย์เกจิขลังแห่งยุค แผ่บารมีปลุกเสก วัตถุมงคล บูรพาจารย์ ทั้งสิ้น 74 พระองค์ รายนามดังเอกสารแนบด้านบน

    สุดยอดแห่งมหามงคลวัตถุมงคลังศักดิ์สิทธิ์แห่งยุค ตามรอยองค์ครูบูรพาจารย์
    ประมาณปี พุทธศักราช ๒๔๕๘ หลังจากที่ท่านพระอาจารย์เสาร์ และท่านพระอาจารย์มั่น ได้เดินธุดงค์กลับจากฝั่งลาว ท่านพระอาจารย์มั่น ตั้งใจจะกลับบ้านเกิดของท่าน เพื่อโปรดโยมมารดา ที่ บ้านคำบง ระหว่างที่พักอยู่ที่กุดเม็ก ท่านได้นำทองเก่าแก่หลายอย่างมาจากทางฝั่งลาว และฝั่งไทยมาหลอมรวมกันเพื่อเททองหล่อพระพุทธรูปขึ้น ๒ องค์ โดยท่านตั้งเตาหล่อพระ ด้วยตัวท่านเอง พระพุทธรูปสำริดองค์แรก ขนาดหน้าตัก ๙ นิ้ว เป็นฝีมือการหล่อของพระอาจารย์เสาร์ อีกองค์หนึ่งขนาดหน้าตัก ๗ นิ้ว เป็นฝีมือหล่อของท่านพระอาจารย์มั่น ได้นำมาประดิษฐานไว้ที่บ้านเกิดของ ท่านพระอาจารย์มั่น ณ บ้านตำบง ตราบจนถึงปัจจุบัน ยังมีพระพุทธรูปทองสำริดอีกจำนวนสามองค์ที่ท่านพระอาจารย์จันทร์ สิริจันโท ท่านพระอาจารย์เสาร์ ท่านพระอาจารย์มั่นได้ร่วมกันหล่อไว้เป็นอนุสรณ์ซึ่งพระพุทธรูปทั้งสามองค์นี้มีพุทธศิลป์แบบพื้นบ้าน ประกอบด้วย พุทธลักษณะที่เรียบง่าย สมตามสมณะสารูปอันสมถะสัน โดษของพระป่าโดยแท้ หากแต่แฝงอนุภาพครบถ้วนบริบูรณ์ ด้วยเหตุแห่งเจตนาการสร้าง หล่อหลอมมาจากศรัทธาอันบริสุทธิ์ สำเร็จจากสายสัมพันธ์อันแนบแน่นทั้งในอาจารย์และศิษย์ และในฐานะสหธรรมมิก ผู้เป็นกัลยาณมิตร ชี้แนะซึ่งกันและกัน สามพระอริยะสงฆ์ผู้เป็นองค์บูรพาจารย์แห่งพระสุปฏิปันโนในสายพระธรรมยุต ทั้งหลายทั้งปวงผู้ละแล้วซึ่งวัตถุทั้งหลาย ร่วมกันสถาปนาองค์พระพุทธรูปขึ้นมานั้นนับว่าเป็นนิมิตหมายอันน่าอัศจรรย์อาจจะกล่าวได้ว่ายากที่จะหาพระพุทธรูปใดที่จะทรงไว้ซึ่งคุณค่า เสมอหนึ่งตัวแทนแห่งพระอริยะบูรพาจารย์ได้ครบถ้วน เสมอด้วยพระพุทธรูปทั้งสามองค์นี้ที่มิมีอีกแล้ว
    และด้วยวาระครบรอบ 201 ปีแห่งการสถาปนาคณะสงฆ์ ธรรมยุตนิกาย และครบรอบ๗๒ ปี ของวัดสำราญนิเวศพระอารามหลวง โดยพระเดชพระคุณท่านพระวิชัยมุนี ดำริเห็นควรเพื่อเจริญศรัทธา ตามรอยบูรพาจารย์ทั้งสามท่าน อันประกอบด้วย พระเถระผู้เป็นดั่งนายกองเสบียงผู้ส่งเสริมทุกวิถีทาง ทั้งทางพุทธจักรแบะอาณาจักร เพื่อยังความเจริญแก่คณะสงฆ์ทั้งมวลจนมั่นคงเป็นปึกแผ่นตั้งแต่ต้นจนปัจจุบันนั้นนามว่า ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปการมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) อีกสองนามคือท่านพระอาจารย์เสาร์กันตสีโลและท่านพระอาจารย์มั่นภูริทัตโต สามพระอาจารย์ผู้เป็นดังแม่ทัพกองธรรม นำเหล่าศิษย์ยานุศิษย์ ย่างก้าวสู่ทุกแห่งบนแผ่นดินไทย ธุลีละอองจากการย้ำแสวงหาโมกข์ธรรม ตามรอยอริยะมรรคยังคงลอยละล่องตกต้องสู่เศียนเกล้า
    เหล่าศิษย์ให้ก้าวตามอยู่มิขาดสาย ด้วยเหตุที่ว่าพระพุทธรูปอันเนื่องในพระอาจารย์ใหญ่ทั้งสามท่านนี้ เป็นดั่งอนุสรณ์ เป็นประจักษ์พยานถึงความเป็นกัลยาณมิตรผู้ถึงพร้อมใจความเพียร เข้าถึงพระรัตนตรัยครบองค์ ๓ ด้วยเจตนาเพื่อเป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าด้วยผู้สร้างเข้าถึงพระธรรม พบวิมมุติโดยแท้จริงด้วยผู้สร้างเป็นสงฆ์ผู้สะอาดบริสุทธิ์
    ด้วยเหตุสำคัญแห่งองค์พระอาจารย์ทั้งสามควรด้วยประการทั้งปวง ที่จะอัญเชิญสถิตในรูปองค์จำลองขนาดย่อส่วนเป็นพระพุทธชัยวัฒน์ สถาปนานามว่า พระพุทธชัยวัฒน์บูรพาจารย์ ซึ่งมีขนาดเล็กพอเหมาะที่ศิษยานุศิษย์ผู้ปรารถนาเจริญรอยตามได้พกพาไว้ติดกาย เพื่อการบูชาคุณองค์บูรพจารย์ทั้งสามจะถึงพร้อมด้วยอามิสบูชาและปฏิบัติบูชาโดยพร้อมมูลวัดสำราญนิเวศ ได้สถปานาพระพุทธบูรพาจารย์โดยประสานด้วยโลหะธาตุ อันเป็นสิริมงคล ส่วนใหญ่ได้มาจาก บรรดาผู้มีจิตศรัทธาถวายมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งใต้ฐานได้จารึก นาม ฉายาขององค์อาจารย์ใหญ่ทั้งสามคือสิริจันโท กันตสีโล ภูริทัตโต พร้อมบรรจุมวลสารอนเป็นมงคลมีความสื่อไปยังทิศทางธรรมปฏิบัติของพระอาจารย์อันมีดินจากภายในถ้ำภูหล่น สถานที่พระอาจารย์เสาร์และพระอาจารย์มั่นได้บำเพ็ญเพียรอยู่เป็นเวลานานถึง ๖ ปี เป็นมวลสารหลักสำคัญมวลสารมงคลอื่น ๆ ก็มีดินจากถ้ำ , พระโมคคัลลานะ สารีบุตร ประเทศอินเดีย ผงพุทธคุณ ๕ ประการ ผงพุทธคุณ ๔๐๐ อาจารย์ผงอังคารธาตุ ผงพระกัมมัฏฐาน และผงพระกรุเก่าที่หัดชำรุดเป็นจำนวนมาก

    - การปรากฏขึ้นอีกครั้งของพระยันต์โบราณ “อาสัพโตนาคพันธ์”
    พระนาคพันธ์ปริวัตร และพระนาคพันธ์พรหมวิหาร จากตำราขององค์บูรพาจารย์ใหญ่ ท่านเจ้าคุณอุบาลีคุณูปมาจารย์ จันทร์ สิริจันโท ผู้เป็นเจ้าของตำราโบราณอันศักดิ์สิทธิ์พิสดารนับแต่พระเศรษฐีนวโกฏิ พระปทุมเสมิง จนถึงสุดยอดมหาวัตถุมงคลอย่าง พระนาคพันธ์ปริวัตร และพระนาคพันธ์พรหมวิหารอันล้ำลึก พระนาคพันธ์ปริวัตร และพระนาคพันธ์พรหมวิหาร จากตำราท่านเจ้าคุณอุบาลีฯ ไม่เคยปรากฏรูปแบบพิมพ์ที่ชัดเจน พระนาคพันธ์ปริวัตร และพระนาคพันธ์พรหมวิหาร อันล้ำลึก ผู้ขนาบกายไปในสามโลกมีขนาดหางโอบเมืองนรก ลำตัวพาดผ่านเมืองมนุษย์ แผ่เศียรปกป้องสวรรค์ 16 ชั้นฟ้า พญานาคพันธ์ ของท่านเจ้าคุณุบาลีฯ เคยปรากฏมีแต่เฉพาะในรูปอักขระมหายันต์และผงวิเศษนาคพันธ์ แต่ยังมีแบบพิมพ์ที่เหมาะสมในการสถาปนาองค์พญานาคพันธ์ขึ้นเป็นมหาวัตถุมงคล ประกอบกับรูปพระพุทธได้อย่างเหมาะควร โดยเหตุที่ว่าพญานาคพันธ์ผู้เป็นใหญ่แห่งลุ่มน้ำโขง อันมีตำนานเกี่ยวพันกับพระธาตุองค์สำคัญอย่างแนบแน่น เพราะมีเรื่องราวสอดคล้องจากคำบอกเล่าจากพระเถระฝ่ายวิปัสสนามาทุกทางสมัยต้นแบบพระพิมพ์นาคพันธ์ปริวัตร และนาคพันธ์ พรหมวิหาร มีมูลเหตุอันน่าอัศจรรย์ นับแต่ต้นแบบศิลปะพิมพ์พระที่พบโดยบังเอิญ บนซุ้มยอดพระธาตุอิงฮัง แขวงสวรรค์เขต ประเทศลาว ซึ่งมีพุทธลักษณะ อุดมคติสมตามอุปเท่ห์ตามพระตำราทุกประการแลที่สำคัญคือยากที่จะหาศิลปะใดในยุคปัจจุบันงดงามหมดจรดเสมอเหมือน

    - ยอดพระมหายันต์และมหาคาถาพญานำยูงทอง
    แต่เดิมครั้งสมัยพุทธกาล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่ทรงปฏิเสธความศักดิ์สิทธ์ของ “คาถา” ทรงเคยตรัสกับพระสงฆ์ที่บวชใหม่เมื่อเวลาไปบำเพ็ญภาวนาในสถานที่อันสัปปายะและเก็บความหวาดกลัวต่อภูตผีต่างๆ ก็ให้ภาวนาคาถาบท “อิติปิโสภควา” และยังทรงกล่าวถึงพระคาถาอีกหลายๆ บทด้วยสำหรับพระคาถา”พญานกยูงทอง”ก็เป็นคาถาที่มาจากประวัติของพระโพธิสัตว์ที่ได้เสวยพระชาติเป็น “พญานกยูงทอง” ซึ่งได้มีการท่องคาถาพญานกยงูทองจนทำให้แคล้วคลาดรอดพ้น จากภัยอันตรายต่างๆ มาได้หลายครั้ง ต่อมาคุณวิเศษนี้ก็ปรากฏเป็นที่เลื่องลือจึงมีการนับถือพระคาถาพญานกยูงทองว่ามีความศักดิ์สิทธิ์สามารถดลบันดาลให้เกิดเมตตาโชคลาภ และความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าได้อีกโสตหนึ่งด้วย “นะโมวิมุต ตานัง นะโมวิมุตติยา”

    ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแต่ผู้วิมุตแล้วทั้งหลาย ความนอบน้อมของข้าฯ จงมีแต่ผู้วิมุตธรรม อนึ่งสำหรับคำว่า” วิมุต” ก็หมายถึง “ผู้หลุดพ้น” หรือ”พระอรหันต์” นั่นเองสำหรับพระวิปัสสนากรรมฐานในสายพระอาจารย์ใหญ่ เมื่อจัดสร้างวัตถุมงคลแล้วอัญเชิญพระคาถาพญานกยูงทองมาประทับไว้ก็มีพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงอยู่หลายท่านด้วยกัน อาทิ พระอาจารย์ฝั่น อาจาโร , หลวงปู่สาม วัดป่าไตรวิเวก, พระอาจารย์กว่า วัดบ้านกู่, พระอาจารย์กงมา วัดดอยธรรมเจดีย์,หลวงปู่ขาว วัดถ้ำกลองเพล,พระอาจารย์จวน วัดภูทอก,พระอาจารย์บัว วัดป่าหนองแซง,หลวงพ่อพุธ วัดป่าสามวัน, พระอาจารย์มหาโส วัดป่าคีรีวรรณอรัญเขต เป็นต้น จนอาจกล่าวได้ว่าวัตถุมงคลใดที่ประทับด้วยพระคาถา “พญานกยูงทอง” ล้วนแต่สร้างโดย พระกรรมฐานสายพระอาจารย์ใหญ่ทั้งนั้น และด้วยความศักดิ์สิทธิ์อันสำคัญยิ่งของพระคาถานี้ ทางคณะผู้จัดสร้างจึงได้อัญเชิญพระคาถา”พญานกยุงทอง” มาเป็นส่วนผสมและประทับลงบนองค์ วัตถุมงคล รุ่น “บูรพาจารย์”ทุกพิมพ์ทุกเนื้อ!! ตำนานแต่ครั้งอดีตกาลขององค์ครูบูรพาจารย์ กับการสรรสร้างอันสุดล้ำลึก ประยุกต์ด้วยกรรมวิธีอันน่าอัศจรรย์ กับการอัญเชิญมวลสารศักดิ์สิทธิ์บูรพาจารย์ มาประดิษฐานไว้บนองค์พระในมหาวัตถุมงคล “บุรพาจารย์” ทุกเนื้อ!! ทุกพิมพ์!!
    สภาพสวยเดิมๆ พิมพ์คมชัดลึก โรยผงตะไบเพียบ ไม่แตกไม่หักไม่ซ่อม มวลสารดีพิธีใหญ่ พระคณาจารย์ที่ร่วมอธิษฐานจิตล้วนแล้วเป็นที่เคารพและนับถือเป็นอย่างยิ่ง แบ่งให้บูชา 650 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณก้านมะยม จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2018
  19. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    1045.สมปรารถนากันนิวเคลียร์(๙) เหรียญพระพิฆเนศร์
    หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน พระอรหันต์เจ้าผู้สำเร็จวิชารัตนจักร

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    bjewfb-jpg.jpg
    เหรียญพระพิฆเนศร์ เทพแห่งความสำเร็จ หลวงปู่ชื้น พุทธสโร วัดญาณเสน จ.อยุธยา เนื้อทองทิพย์ ตอกโค้ดกำกับ จำนวนการสร้าง 233 เหรียญ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2546 โดยคณะชมรมศิษย์เก่าดนตรีไทย ร่วมกับทางคณะศิษย์ขอร่วมสร้างไว้เพื่อบูชากันในกลุ่มลูกศิษย์ทางชมรม จึงมีจำนวนสร้างไม่มากนัก

    จำนวนการสร้าง
    - เหรียญเนื้อทองคำ 9 เหรียญ
    - เหรียญเงินลงยา 159 เหรียญ โดยแบ่งออกมีทั้งหมด 3 สี คือ ลงยาสีเขียว 39 เหรียญ, ลงยาสีน้ำเงิน 50 เหรียญ, ลงยาสีแดง 70 เหรียญ
    - เหรียญเนื้อทองแดงเนื้อทองฝาบาตรและเนื้อทองทิพย์สร้างรวม 699 เหรียญ ( เนื้อละ 233 เหรียญเท่านั้น )


    พุทธคุณ
    - วัตถุมงคลที่หลวงปู่ชื้นอธิษฐานจิต ท่านประกาศไว้ว่า สามารถป้องกันได้ถึงจรวดปรมณู และรังสี และเปี่ยมด้วยพุทธคุณในทางเมตตามหานิยม แคล้วคลาด และเจริญก้าวหน้า

    คำอาราธนาพระเครื่อง
    ให้อาราธนาว่าดังนี้ ข้าพเจ้าขอพระบารมีคุณ
    พระพุทโธ พระธัมโม พระสังโฆ เป็นที่พึ่ง......... หรือ
    พุทธัง ฤทธิ ธัมมัง ฤทธิ สังฆัง ฤทธิ ชัยยะมังคะลัง
    เอหิ พุทธัง เอหิ ธัมมัง เอหิ สังฆัง เอหิ จิตตัง มะมะ เอหิ


    ให้ท่านอาราธนาทุกเช้าค่ำแล้วท่านจะสำเร็จตามความปรารถนาตามที่ท่านอธิษฐาน

    ประวัติโดยย่อหลวงปู่ชื้น พุทธสโร
    หลวงปู่ชื้น พุทธสโร มีนามเดิมว่า "ชื้น" เกิดเมื่อวันพุธ เดือน 4 ปีมะแม ตรงกับวันที่ 18 มีนาคม 2450 เป็นบุตรของนายจัน และนางหงิม นามสกุล “ยอดฉิม” เป็นชาวหมู่บ้านไฝต่ำ อ.หนองแค จ.สระบุรี โดยครอบครัวได้ประกอบอาชีพด้านกสิกรรม เบื้องต้นได้ศึกษาเล่าเรียนที่ วัดเกาะลอย ซึ่งอยู่ในหมู่บ้าน เมื่ออายุได้ 15 ปี ก็บรรพชาเป็นสามเณร จนถึงอายุ 18 ปี จึงลาสิกขาบทออกมาช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนาอยู่ประมาณ 3 ปี

    ชีวิตสมณะ การแสวงหาธรรม และปฏิปทา
    หลวงปู่ได้อุปสมบท ณ วัดเกาะลอย ในวันที่ 14 พฤษภาคม 2470 โดยมีหลวงพ่อยอด วัดหนองปลาหมอ จ.สระบุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการมาด วัดหนองแคเก่า เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการทองดี วัดเกาะลอย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “พุทธสโร” ท่านเป็นพระที่ขยันหมั่นเพียรในการเรียนพระปริยัติธรรม จนกระทั่งพรรษาที่ 3 จึงสอบได้นักธรรมตรี ก่อนที่จะตัดสินใจเลิกเรียนทางด้านนี้ แล้วเบนเข็มทิศไปหาความรู้ทางด้านไสยศาสตร์วิชาอาคมจากครูบาอาจารย์วัดเกาะลอย ซึ่งทั้งวิชาไสยเวทย์และแพทย์แผนโบราณ เมื่อมีความรู้รักษาตนเองได้ จึงออกธุดงค์บำเพ็ญเพียรเสาะหาพระเกจิอาจารย์เพื่อร่ำเรียนวิชาอาคมอย่างต่อเนื่อง ได้ออกเดินทางจากจังหวัดสระบุรีเรื่อยมาจนถึงจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และมาหยุดจำพรรษาที่วัดญาณเสนในปัจจุบันนี้

    ณ อารามแห่งนี้ ท่านได้ศึกษาวิชาไสยศาสตร์ โหราศาสตร์และวิชาเล่นแร่แปรธาตุกับพระอาจารย์สาย หรือขุนโจรย่ามแดงในอดีต ได้อยู่จำพรรษาตั้งแต่นั้นมา โดยพึงพอใจกับวิชาความรู้ที่ช่วยสงเคราะห์ญาติโยมที่มาให้ท่านช่วยปัดเป่า บรรเทาความเดือดร้อนอยู่หลายปีด้วยกัน ช่วงเวลานั้นชื่อเสียงของพระอาจารย์สายและพระอาจารย์ชื้นเป็นที่ร่ำลือถึงความเข้มขลังและศักดิ์สิทธิ์ ไม่ว่าใครจะเป็นอะไรมาท่านทั้งสองจะช่วยสงเคราะห์ได้หมด ชื่อเสียงขจรไกลถึงกรุงเทพฯ ซึ่งขณะนั้นได้มีเศรษฐีผู้หนึ่งได้เกิดเป็นโรคเหน็บชา รักษาอย่างไรก็ไม่หาย ยาไทยยาเทศกี่ขนานก็เอาไม่อยู่ เมื่อล่วงรู้เกียรติศักดิ์ของหลวงพ่อชื้น จึงเดินทางมาให้ท่านรักษา ท่านเสกไพรไปให้ทานปรากฏว่าหายเป็นปลิดทิ้ง เขาจึงกราบเรียนท่านไปจำพรรษาอยู่ที่วัดแค นางเลิ้ง (วัดสุนทรธรรมทาน) กรุงเทพฯ พร้อมถวายตัวเป็นโยมอุปัฎฐาก แต่เมื่อท่านไปปรึกษากับพระอาจารย์สาย ได้รับเหตุผลและแง่คิดมากมาย จนทำให้ต้องบอกปฏิเสธไป ต่อมาพระอาจารย์สายได้ลาสิกขาบทออกไป ทำให้หลวงปู่ชื้นต้องอยู่อย่างลำพังต้อนรับญาติโยมที่นับวันจะมากขึ้นทุกวัน จึงเริ่มเบื่อหน่ายในวิชาไสยศาสตร์และคาถาอาคม ทำให้ร่างกายและจิตใจของท่านเกิดความร้อนรุ่ม

    ประกอบกับมีข่าวเกี่ยวกับพระภิกษุรูปหนึ่งมาปลักกลดอยู่ที่หน้าวัดกุฎีทอง มีญาติโยมขึ้นกันมากมาย ปฏิปทาของพระอาจารย์รูปนั้นเป็นที่โจษขานกันมากโดยในวันพระจะไม่พูดกับใครเลยและจะไม่ฉันอาหารใดๆทั้งสิ้น ส่วนวันธรรมดาก็จะพูดน้อยมาก อัฐบริขารก็จะมีเพียงกลด จีวรและรองเท้าเก่าๆ ส่วนในย่ามก็มีเพียงกะลาสำหรับเป็นภาชนะใส่ข้าวและช้อนที่ทำจากกะลาเท่านั้น มารู้ภายหลังว่าพระอาจารย์รูปนั้นคือ “พระอาจารย์เสน เตชธัมโม ธุดงค์มาจาก อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา หลวงปู่ชื้นจึงไม่รีรอที่จะเข้าไปใกล้ชิด เพื่อสัมผัสและพิสูจน์ตามคำโจษขานนั้น และได้รับคำทักท้วงว่า “ท่านเดินผิดทางแล้ว” พระอาจารย์เสนย้ำอยู่อย่างนี้หลายครั้งหลายหน จนท่านนำคำพูดนั้นมาทบทวน และค่อยใช้สติสมาธิพิจารณาถึงความหมาย จนกระทั่งพบข้อเท็จจริงแห่งสัจธรรม ทั้งสองท่านก็ปรารถณาเป็นศิษย์-อาจารย์กัน ทบทวนศีล พระธรรมวินัยต่างๆ โดยหลวงปู่ชื้นได้นำตำราไสยศาสตร์วิชาอาคมต่างๆที่เล้าเรียนมาตั้งแต่ต้นเผาทิ้งจนหมดสิ้น จึงกลับมาปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัดกับพระอาจารย์เสน พร้อมทั้งนิมนต์ให้ผู้เป็นอาจารย์มาจำพรรษาที่วัดญาณเสน จากปฏิปทาที่เปลี่ยนแปลงไปของท่าน จึงมีเสียงครหาไปในทางไม่สู้ดี แต่ท่านก็ไม่สนใจยังคงมุ่งหน้าที่จะมุ่งปฏิบัติต่อไปจนถึงขั้นอุกฤษฎ์ใต้ต้นโพธิ์ข้างโบสถ์เป็นเวลา 1 เดือน ด้วยการนั่งสมาธิตลอดเวลา ยกเว้น เวลาฉัน ปัสสาวะและขับถ่ายเท่านั้น ชั่วเวลาเพียง 24 วัน จากการเริ่มปฏิบัติท่านก็สำเร็จสุดยอดวิชา“รัตนจักร” พร้อมกันนั้นท่านก็ถูกร้องเรียนไปทางคณะสงฆ์จังหวัดพระนครศรีอยุธยาให้พิจารณาในปฏิปทาที่เพี้ยนๆเป็นต้นว่า ชอบอยู่อย่างสมถะ สันโดษ ข้างของที่ญาติโยมนำมาถวาย ใครจะหยิบอย่างไรก็ไม่ห้ามปราม หมู หมา กา ไก่ ฯลฯ จะมาอยู่ในวัดสร้างความสกปรกอย่างไรท่านก็วางเฉยไม่ดำเนินการใดๆทั้งสิ้น จึงมีมติให้ปลดท่านจากการเป็นเจ้าอาวาส หลวงปู่ชื้นท่านก็มิได้อนาทรร้อนใจใดๆทั้งสิ้น เพียงขอทางคณะสงฆ์ว่า การตั้งเจ้าอาวาสให้ตั้งจากพระที่มาจากวัดญาณเสนเท่านั้น ในความรู้สึกของชาวบ้านและญาติโยมทั่วไปก็ยังคงเคารพนับถือหลวงปู่ชื้นไม่มีเสื่อมคลาย ในวัตถุมงคลของหลวงปู่ชื้นที่ผ่านการอธิษฐานจิตจากท่าน หลวงปู่จะอัญเชิญพระรัตนจักรมาสถิตในวัตถุมงคลนั้นๆเสมอ

    หลวงปู่ชื้น พุทฺธสโร มรณภาพอย่างสงบในวัย 97 ปี ภายในกุฏิตึกทรงธรรม ต่อหน้าลูกศิษย์จำนวนมากที่เฝ้าดูแลใกล้ชิด หลังจากอาพาธมานานด้วยโรคประจำตัวหลายโรคด้วยกัน เมื่อ 17 มิ.ย. 2546

    เล่นแร่แปรธาตุ
    ในสมัยนั้นบรรดาเกจิอาจารย์นิยมเล่นแร่แปรธาตุ โดยนำโลหะต่างชนิดกันมาผสมกัน เพื่อให้เป็นทองคำให้เป็นแร่ธาตุกายสิทธิ์ผสมโลหะ 5 อย่าง 7 อย่าง 9 อย่าง ออกมาเป็นสัตตโลหะ นวโลหะ อย่างเช่น หอกของหลายชุมพล ปลายหอกทำด้วยสัตตโลหะ ใครที่ว่าเหนียว เมื่อเจอโลหะผสมก็เปื่อยเป็นเนื้อต้มทีเดียว หลวงพ่อชื้น ท่านก็ลองวิชาของท่านเหมือนกัน นำโลหะมาผสมได้เนื้อเหลืองทางทองคำก็มี เนื้อเหลือบใสแดงขาวก็มี ท่านเรียกโลหะของท่านว่า เนื้อลูกแก้ว ท่านผสมไว้มากมายใต้ถุนกุฏิ เมื่อใครมาขอท่านก็หลอมเป็นลูกอมเล็ก ๆ ให้พกติดตัว ผู้ที่ได้ไปก็แคล้วคลาดภัยอันตรายต่าง ๆ ถ้าวันใดว่าง ๆ ท่านก็จะให้ศิษย์ไปหาตะปูสังฆวานรตามเจดีย์ร้างเก่า ๆ มาหลอมรีดเป็นตะกรุด ผู้ได้ไปก็มีความคงกระพันชาตรี มหาอุด หยุดลูกปืน จนท่านทำให้แทบไม่หวาดไหว

    พระธุดงค์มาสอนธรรมะเพื่อความหลุดพ้น
    ต้นปี พ.ศ. 2500 มีพระธุดงค์รูปหนึ่งได้ธุดงค์ผ่านมาที่วัดญาณเสน พบกับ หลวงพ่อชื้นเข้าโดยบังเอิญ ท่านอาจารย์ทั้งสองเกิดถูกอัธยาศัยกัน จึงได้สนทนาธรรมกับผู้ศึกษาธรรมย่อมรู้ญาณซึ่งกันและกัน เพียงสนทนากันไม่กี่ประโยคก็ทราบได้ว่ามีความรู้เพียงใด บำเพ็ญเพียร มามากเพียงใด

    อาจารย์ต้องการศิษย์….ศิษย์ต้องการอาจารย์
    พระธุดงค์เปรยขึ้นมาว่า ที่ท่านชื้นได้ร่ำเรียนวิชามานั้น ยังยึดมั่นถือมั่นอยู่ในวัตถุ ต้องปล่อยปละละวาง ละความโลภ โกรธ หลง ทั้งปวง พร้อมทั้งแนะนำธรรมะ และข้อปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้นอีกหลายข้อ ตามแนวทางของพระพุทธองค์หลวงพ่อชื้น จึงได้กราบขอเป็นศิษย์ พระธุดงค์รูปนั้นก็มิได้ปฏิเสธ และพูดว่า “นับเป็นกุศลของอาตมาที่จะได้ช่วยให้ผู้มีบุญวาสนาอยู่แล้วได้สำเร็จมรรคผล” นับแต่วันนั้นมาพระภิกษุทั้ง 2 รูป ก็ได้ทบทวนศีล 227 ข้อ พระธรรมวินัยต่าง ๆ ภายในพระอุโบสถ ครั้นยามค่ำคืนก็พากันนั่งสมาธิอยู่โคนต้นโพธิ์ ภายในวัดญาณเสน โดยที่หลวงพ่อชื้นจะภาวนาพระคาถาต่าง ๆ ไปด้วย และลงท้ายด้วยภาวนา นัตถิเม มีพระธุดงค์รูปนั้น ได้นั่งสมาธิคุมไปด้วย

    ความสำเร็จ
    จนกระทั่งเวลาได้ผ่านไป 2 เดือน กับอีก 27 วัน หลวงพ่อชื้น ท่านก็ยังไม่ได้อะไร เพียงแต่ว่าจิตใจสบายและสงบขึ้น และในคืนวันที่ 27 นั้นตอนใกล้รุ่งที่โคนต้นโพธิ์ หลวงพ่อชื้น ท่านได้ยินเสียงเหมือนคนหว่านทรายมารอบ ๆ ตัวท่าน จึงลืมตาถาม พระธุดงค์ พี่เลี้ยงว่า “นั่นเสียงอะไร” พระธุดงค์ จึงตอบว่า “ผีประจำต้นโพธิ์มันจะเข้าต้นไม้ มันไล่ท่านแล้ว” คืนต่อมาหลวงพ่อชื้น จึงขอเข้ามานั่งสมาธิอยู่ในโบสถ์ จะได้ไม่ไปรบกวนเจ้าที่เจ้าทาง หลังจากนั่งในพระอุโบสถคืนที่ 3 ใกล้รุ่ง หลวงพ่อชื้น ก็นิมิตเห็น องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั่งสมาธิลอยมา ถึง 3 พระองค์ และพระธรรมจักร เปล่งรัศมีโชติช่วง หมุนอยู่ระหว่างกลาง องค์พระทั้ง 3 พระองค์ เมื่อหลวงพ่อชื้นถอนสมาธิก็บังเกิดความสว่างขึ้นภายในดวงใจ เต็มไปด้วยความปิติ จะนึกสิ่งใดต้องการรู้สิ่งใดก็มีคำตอบขึ้นมาเสร็จ ท่านจึงได้เล่านิมิตให้พระธุดงค์ฟัง พระธุดงค์รูปนั้นท่านก็บอก ว่า “อาตมาหมดหน้าที่แล้ว อาตมาจะกลับไปที่บ้านเกิดของอาตมา ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดโบสถ์ อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา”

    พระอาจารย์มรณภาพ
    หลังจากวันนั้นแล้วพระธุดงค์องค์นั้นก็ธุดงค์กลับ แม้หลวงพ่อชื้นจะอ้อนวอนให้อยู่ต่อ เพื่อจะได้สนองคุณดูแลเมื่อยามแก่เฒ่า หลวงพ่อชื้น เล่าว่า พระธุดงค์องค์นี้ ชื่อ หลวงพ่อเสน เตชะธัมโม เป็นชาวโคราช อำเภอสูงเนิน มาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งแต่เล็ก ๆ กับพระยาท่านหนึ่ง ต่อมาได้อุปสมบทที่วัดบรมนิวาส ได้เล่าเรียนพระปริยัตธรรม วิปัสสนากรรมฐานอยู่กับ พระอุบาลีคุณูปมาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) จนกระทั่งมีความคงแก่เรียน จึงได้ออกรุกขมูลธุดงค์หาความวิเวกไปตามสถานที่ต่าง ๆ จนกระทั่งบำเพ็ญเพียรถึงขั้นสูงสุดหลวงพ่อชื้น เล่าว่า ท่านได้ส่งกระแสจิตถึงกันอยู่เสมอ เพียงแต่นึกถึงกัน ก็สนทนากันได้แล้ว และหลังจากนั้นอีก 5 ปี พระอาจารย์เสน เตชะธัมโม ก็มรณภาพ ในท่านั่งสมาธิอยู่บนภูเขาแห่งหนึ่ง ในอำเภอสูงเนิน เมื่อหลวงพ่อชื้นทราบข่าว ก็ขึ้นไปทันที กว่าจะหาศพพบ ก็เป็นเวลา 7 วัน ปรากฏว่านั่งมรณภาพในขณะสมาธบำเพ็ญเพียรอยู่ในซอกหิน ศพไม่เน่าเปื่อยเหมือนคนหลับธรรมดา สัตว์ป่า หรือ มด แมลง ก็มิได้มาไต่ตอมหลวงพ่อชื้น ท่านก็ได้ช่วยทำการฌาปนกิจอย่างสมเกียรติ แล้วจึงเดินทางกลับ

    - หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก จ.อยุธยา ยังบอกว่า "ถ้าข้าไม่อยู่แล้ว ให้ไปกราบพี่ชื้น วัดญาณเสน"

    - หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา ยังได้บอกศิษย์ว่า ให้ไปทำบุญกับหลวงปู่ชื้น จ.อยุธยา

    - หลวงปู่พรหมา เขมจาโร ยังให้ลูกศิษย์ที่เป็นฤาษี มาเก็บพระหลวงปู่ชื้น

    - หลวงปู่แหวน วัดดอกแม่ปั๋ง จ.เชียงใหม่ ยังเคยเอ็ดเอากับชาวอยุธยาว่า "ใกล้เกลือกินด่าง" หมายความว่า ชาวอยุธยาผู้นั้นเดินผ่านวัดหลวงปู่ชื้นกลับไม่รู้ว่ามีเพชรแท้อยู่หน้าบ้านตัวเอง แต่กลับไปกราบหลวงปู่แหวน ซึ่งห่างไปตั้งหลายร้อยกิโล

    - ผมเคยถามท่านด้วยตัวเองว่า พระของหลวงปู่กันนิวเคลียร์ได้ใช่ไหมครับ (เคยได้ยินมาก่อนหน้านี้) ท่านตอบว่า "ได้" และบอกอีกว่า นิวเคลียร์เป็นพลังทางโลกจะสู้พลังทางธรรมไม่ได้!

    สภาพสวยเดิมใหม่กริ๊บพร้อมกล่องเดิมๆ เก็บเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมโค้ดชัดลึก พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 345 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณmanote จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • BJewfb.jpg
      BJewfb.jpg
      ขนาดไฟล์:
      1,002.1 KB
      เปิดดู:
      306
    • fdywOa.jpg
      fdywOa.jpg
      ขนาดไฟล์:
      961.7 KB
      เปิดดู:
      215
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2018
  20. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    1046.ดีนอกดีในเจตนาบริสุทธิ์ รูปหล่อญาท่านกรรมฐานแพง รุ่นแรก
    ลป.เกลี้ยง,ลป.คำบุ,ญาท่านเกษม ปลุกเสกบินเดี่ยว

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    BL9Dw0.jpg

    รูปหล่อลอยองค์หลวงปู่กรรมฐานแพง รุ่นแรก (สร้างศาลา) วัดสิงหาญ บ้านสะพือ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี เนื้อโลหะผสม ใต้ฐานบรรจุมวลสารศักดิ์สิทธิ์, ฝังพลอยเสก, ข้าวก้นบาตร, เกศา และแผ่นโค้ด รันนัมเบอร์ 102 ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2546 ผลงานจากสำนักห้วยไผ่ โดยอาจารย์อำพล เจน

    หลวงปู่กรรมฐานแพง จันทสาโร ตำนานพระกรรมฐานศิษย์สำเร็จลุน และท่านยังเป็นอาจารย์ของหลวงปู่ญาท่านสวนอีกด้วย พระรุ่นนี้สร้างขึ้นเพื่อหารายได้สร้างศาลาวัดวัดสิงหาญ บ้านสะพือ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี ซึ่งเป็นวัดที่หลวงปู่ญาท่านกรรมฐานแพงใช้อาศัยจำพรรษา


    วัตถุประสงค์
    1. เพื่อสมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญวัดสิงหาญ อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนี้
    2. เพื่อน้อมรำลึกถึงองค์หลวงปู่กรรมฐานแพง จนฺทสาโร อดีตเจ้าอาวาสวัดสิงหาญ
    3.เพื่อเป็นพุทธานุสสติหนึ่งในกัมมัฏฐาน 40 กองตามพุทธฎีกาและเป็นมหากุศลสืบต่อพระพุทธศาสนาให้ยาวนานสืบไป

    รายนามพระเถระอธิฐานจิตปลุกเสกเดี่ยว
    1. หลวงปู่เกลี้ยง เตชธมฺโม วัดโนนเกด จังหวัดศรีสะเกษ
    2. หลวงปู่บุญ ขนฺตโร วัดแสงน้อย อำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี อายุ 95 ปี (เสก 9 วัน)
    3. หลวงปู่แสง ญาณโร ที่พักสงฆ์บ้านเวินชัย จังหวัดยโสธร
    4. หลวงปู่คำบุ คุตฺตจิตโต วัดกุดชมพู อำเภอพิบูลมังสาหาร จังหวัดอุบลราชธานี อายุ 92 ปี
    5. หลวงพ่อมหาประดิษฐ์ วัดทุ่งเกษม อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี
    6. หลวงปู่คล้าย อธิเตโช วัดสุมังคลาราม อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี อายุ 91 ปี
    7. หลวงปู่ดู่ วัดป่าบ้านไทย อายุ 95 ปี
    8. พระครูประภัสท์เขมาภิรมณ์ วัดเก่าน้อย อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด (ศิษย์เอก หลวงปู่ทองมา)
    9. พระครูเกษมธรรมานุวัตร วัดเกษมสำราญ อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี (ศิษย์เอกญาท่านสวน วัดนาอุดม)


    ประวัติโดยย่อหลวงปู่กรรมฐานแพง
    หลวงปู่กรรมฐานแพง จันทสาโร (แพง พรหมสีใหม่)
    หลวงปู่กรรมฐานแพง จันทสาโร(อาจารย์แพง บ้านสะพือ)

    หลวงปู่กรรมฐานแพง จันทสาโร(แพง พรหมสีใหม่) เกิดเมื่อวันที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๔๒๗ ตรงกับวันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีวอก บิดาชื่อชาพิจิตร(มา) พรหมสีใหม่ มีตำแหน่งเป็นผู้ช่วยอุปฮาด(อุปราช) เมืองตระการพืชผล มารคาชื่อผิว พรหมสีใหม่ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน ๗ คน เป็นชาย ๖ คน หญิง ๑ คน ดังนี้
    ๑.สมเด็จสอน (ถึงกาลมรณะภาพขณะอยู่ในเพศบรรพชิต)
    ๒.หลวงปู่กรรมฐานแพง จันทสาโร
    ๓.อาจารย์ทอง (ถึงแก่กรรม)
    ๔.อาจารย์ไพ (นายไพ เทพสิทธา) ได้เปลี่ยนนามสกุลเป็น “เทพสิทธา” ตามขุนกสิกรพิศาล ได้รับพระราชทาน (นายกัณหา พรหมสีใหม่ บิดาของขุนกสิกรพิศาล เป็นบิดาน้องชายนายชาพิจิตร) (ถึงแก่กรรม)
    ๕.อาจารย์สิงห์ (ถึงแก่กรรม)
    ๖.นายเพ็ง (ถึงแก่กรรม)
    ๗.นางนวล อินโสม
    ถือว่าเป็นตระกูลที่มีใจฝักใฝ่แก่การศาสนาและเป็นนักบวชเสียส่วนมาก เรียกว่าเกือบทั้งหมดของลูกชาย นับว่าเป็นตระกูลนักปราชญ์ เป็นครูบาอาจารย์สืบทอดต่อกันมายังลูกหลาน ซึ่งได้ใช้นามสกุลใหม่ที่รับพระราชทานมา คือ “เทพสิทธา”
    ในปัจจุบันสกุล “เทพสิทธา” ได้รับราชการเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียง และสร้างคุณงามความดีอย่างเต็มกำลังความสามารถอย่างเช่น คุณสมพร เทพสิทธา
    หลวงปู่กรรมฐานแพง เป็นผู้มีศรัทธาแก่กล้าในพระพุทธศาสนามากท่านหนึ่ง โดยเฉพาะในสายวิปัสสนากรรมฐาน บรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ ๑๕ ปี ณ. วัดสิงหาย บ้านสะพือ ตำบลตระการพืชผล อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี อันเป็นวัดบ้านเกิด เมื่ออายุ ๑๗ ปีได้ศึกษาวิชาสายวิปัสสนากรรมฐานกับอาจารย์พระครูสีดา(ญาท่านสีดา บ้านสะพือ) พออายุครบบวชได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุแล้ว ออกเดินทางธุดงค์ไปศึกษาวิปัสสนาเพิ่มเติมกับพระอาจารย์ศรีทัตถ์(ญาท่านศรีทัตถ์) ที่เมืองท่าอุเทน จังหวัดนครพนม จากนั้นได้เดินทางไปศึกษาต่อที่นครหลวงพระบาง ประเทศลาวนานถึง ๖ ปี
    ผ่านการศึกษาตามสายวิชาที่สนใจมาแล้ว จากนั้นก็เริ่มออกเดินธุดงค์ไปตามขุนเขาน้อยใหญ่ ทั้งป่ารกดงทึบที่มากไปด้วยภัยอันตรายต่างๆนานาทั่วทั้งไทยและลาว จากเหนือจรดใต้ ทั้งสิบสองปันนา สิบสองเจ้าไท ตลอดไปจนถึงเวียตนามและกัมพูชาหรือที่เรารู้จักและเรียกกันว่าเขมร อาศัยอยู่ตามคูหาและหลืบถ้ำในป่าดงดิบ เช่น ถ้ำพระฤษีที่ประเทศลาว

    ออกจากเขมรกลับเข้าไทย ออกจากไทยต่อเข้าประเทศพม่า การไปพม่าจะไปทางเมืองมะระแหม่ง ธุดงค์ไปจนสุดแผ่นดินไม่สามารถจะไปต่อได้เพราะไม่มีแผ่นดินให้เดิน เมื่อท่านธุดงค์ไปจนสุดขอบแผ่นดินที่เบื้องหน้าเป็นเวิ้งน้ำกว้างใหญ่ของทะเล
    เมื่อไปจนสุดแผ่นดินแล้วท่านจึงธุดงค์มุ่งหน้ากลับบ้านสะพือ ซึ่งเป็นบ้านเกิดเมื่ออายุได้ ๓๐ ปี(หลังบวชเป็นพระภิกษุได้ ๑๐ พรรษา) ตลอดระยะเวลาที่ท่านออกธุดงค์กรรมฐานนั้น พ่อแม่ญาติศรีพี่น้องทุกคนต่างก็นึกว่าท่านมรณภาพไปแล้ว นั่นก็เพราะว่านับตั้งแต่ท่านออกจากบ้านไป ก็ไม่เคยได้ส่งข่าวกลับมาบอกใครๆที่บ้านอีกเลยว่าท่านไปทำอะไรหรือไปอยู่ที่ไหน
    กรณีนี้เข้าใจว่า อาจจะเป็นเพราะท่านเฝ้าแต่เพียรปฏิบัติฝึกฝนภาวนาอยู่ตามป่าตามเขา จนไม่มีเวลาหรือโอกาสส่งข่าวบอกใครก็เป็นได้

    หลังกลับมาเยี่ยมบ้านและเผยแพร่ธรรมะให้กับญาติๆได้ระยะหนึ่ง ท่านก็เริ่มออกธุดงค์อีกครั้ง คราวนี้ไปลาวใต้ มุ่งหน้านครจำปาสัก
    ที่แขวงจำปาสักนี้ มีเหตุสำคัญทำให้ท่านมีอันต้องลาสิกขาจากร่มกาสาวพัตร์อยู่ที่บ้านเวินไชย อำเภอเมืองเก่า แขวงจำปาสัก ประเทศลาว ไปมีครอบครัวอย่างสามัญอยู่นานถึง ๙ ปี ช่วงเวลานี้ว่ากันว่าเป็นช่วงเวลาที่ท่านต้องการชำระกรรม ล้างสัญญาเดิมที่เหลือหมดสิ้นไปจึงได้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

    เมื่อสิ้นสัญญาเดิมหมดกรรมเก่า ท่านได้กลับมาอุปสมบทอีกเป็นครั้งที่ ๒ ณ.บานเวินไชย อำเภอเมืองเก่า แขวงนครจำปาสัก ประเทศลาว ได้ศึกษาวิปัสสนากรรมฐานตลอดจนหลักธรรมต่างๆเพิ่มเติมที่นี่กับท่านสมเด็จลุน ได้ถือโอกาสฝากตัวเป็นลูกศิษย์ท่านสมเด็จลุน ซึ่งท่านสมเด็จลุนองค์นี้ เป็นที่เลื่องลือว่ามีกิตติคุณเป็นผู้มีธรรมวิเศษ หาตัวจับยากองค์หนึ่งในยุคสมัยนั้น ว่ากันว่าท่านสามารถบรรลุธรรมอันสูงสุดได้ ในขณะที่ยังครองสังขารอยู่ในช่วงวัยอันน่าฉงน และเป็นผู้แตกฉานในทุกด้านไม่ว่าจะด้านปริยัติหรือปฏิบัติ ทั้งยังเป็นผู้เข้าใจในปาฏิโมกข์อย่างไร้ข้อกังขาอีกด้วย กฤษดาภินิหาริย์ของท่านสมเด็จลุนขจรขจายไปทั่วทุกสารทิศ

    ต่อมาท่านได้อุปสมบทอีกเป็นครั้งที่สอง ณ บ้านเวินไชย อำเภอเมืองเก่า แขวงนครจำปาศักดิ์ ประเทศลาว ได้ศึกษาวิปัสสนาตลอดจนหลักธรรมต่าง ๆ เพิ่มเติม จากท่านสมเด็จลุน ณ บ้านเวินไชย (เป็นลูกศิษย์สมเด็จลุน) ท่านสมเด็จลุนองค์นี้ เป็นที่ลือชาปรากฏว่าเป็นผู้บรรลุธรรมวิเศษ สามารถเหยียบเรือกำปั่นใหญ่ของฝรั่งเศส ให้จมน้ำโขงได้
    และได้จากบ้านเวินไชย มาจำพรรษาอยู่ที่บ้านด่าน อำเภอโขงเจียม จากบ้านด่าน มาจำพรรษาที่อยู่บ้านคำผ่าน และวัดทุ่งศรีทวีผล บ้านสะพือ จึงได้มาเป็นเจ้าอาวาสอยู่ที่ วัดสิงหาญ บ้านสะพือ

    ต่อมาลูกหลานทางเมืองอุบล ซึ่งมีนายไพ เทพสิทธา น้องชาย พร้อมด้วยญาติและลูก ๆ หลาน ๆ เห็นว่าท่านชรามากแล้ว จึงได้พร้อมใจกันสร้างกุฏิขึ้นหลังหนึ่งที่วัดปทุมมาลัย จังหวัดอุบลราชธานี ถวายท่าน แล้วนิมนต์มาจำพรรษาอยู่ที่วัดปทุมมาลัย แต่ปี พ.ศ.๒๕๐๕ - ๒๕๐๗

    ท่านเห็นว่าท่านชรามากแล้ว จึงขอกลับไปอยู่บ้านเกิด ขอตายอยู่กับครูอาจารย์ที่มาติภูมิ ลูกหลานและศิษย์สานุศิษย์ของนิมนต์ไว้ ให้จำพรรษาอยู่ที่วัดปทุมต่อไป ท่านก็ไม่ยอม จึงได้กลับไปจำพรรษาอยู่ที่วัดสิงหาญ บ้านสะพือ เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๘ และได้ถึงแก่มรณภาพด้วยโรคชรา เมื่อวันที่ ๒๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๐๙ ตรงกับวันขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะเมีย เวลา ๐๑.๒๕ น. ด้วยอาการสงบ ( ซึ่งท่านบอกเวลาไว้ล่วงหน้าว่า ตีหนึ่งวันใหม่ท่านจะจากไป ) รวมอายุได้ ๘๒ ปี

    ตลอดระยะเวลาที่อยู่บำเพ็ญในบวรพุทธศาสนา ท่านเป็นร่มโพธิ์ร่มทองของพุทธศาสนิกชนแผ่เมตตาให้แก่คนทั่วไป ซึ่งท่านมีศิษย์สานุศิษย์มากมาย ทั้งประเทศลาวและประเทศไทยชื่อเสียงและคุณงามความดีของท่านแผ่กระจายทั่วไป ในนามกัมฐานแพง ศิษย์สมเด็จลุน ซึ่งใคร ๆ ย่อมทราบดี ก่อนจะมรณภาพ ท่านได้สร้างพระพุทธรูปใหญ่ เป็นพระประธานในอุโบสถ พร้อมด้วยโต๊ะหมู่บูชา ที่วัดบูรพาตำบลสะพือ อำเภอตระการพืชผล เพื่อเป็นสาธารณะกุศลด้วย

    แหล่งที่มาจาก “ หนังสือสวดมนต์ทำวัตรเช้า - เย็น (แปล) จาก
    คุณแม่เกษแก้ว ทองเกลี้ยง บุตร – ธิดา หลานทุกคน เนื่องในงานทำบุญกฐิน
    ถวายวัดสิงหาญ อ.ตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่
    นายหงส์ ทองเกลี้ยง และ ร.อ.สุริยา ทองเกลี้ยง วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๓๗


    สภาพสวยเดิมใหม่กริ๊บพร้อมกล่องเดิมๆ เก็บเก็บไม่ผ่านการบูชา พิมพ์คมโค้ดชัดลึก พุทธคุณครอบครบ แบ่งให้บูชา 599 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)




    (คุณmanote จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 สิงหาคม 2018

แชร์หน้านี้

Loading...