นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (แหวนปฐพีไร้พ่าย)

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย konun88, 20 มิถุนายน 2016.

  1. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,097
    ค่าพลัง:
    +55,916
    การที่หนักใจและเป็นขั้นตอนยากที่สุด ก็คือ เราได้สร้างเพื่อนำมาใช้งานเอง ไม่ได้มุ่งหวังทำเป็นการค้า สร้างตามจำนวนชนวน เรียกว่า สั่งเพิ่มก็ไม่ได้ แถมช่างยังขอเก็บเป็นที่ระลึกอีก เพราะชนวนดีมาก ขลัง

    ได้ปรึกษาผู้รู้ทางเวทย์ ผู้รู้คือใคร ... อาทิตย์หน้าจะมาเล่าสู่กันฟังครับ โดยหลักสำคัญคือ ผู้รู้กล่าวว่า มีดระดับตำนานต้องเสกเดี่ยว ไปพิจารณาได้ มีดไม่ใช่พระเครื่องและมุ่งหวังผลการใช้ต่างกัน พระเครื่องหากอธิษฐานจิตมากครูบาอาจารย์ ยิ่งดีเพราะหวังพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ แต่มีดอย่างมีดระดับตำนานที่ผู้แสวงหาชื่นชื่นย่อมทราบว่า จะเสกเดี่ยวให้มีอิทธิคุณ นี่คือสิ่งที่หนักใจที่สุดครับ

    อะไรก็เปลี่ยนแปลงได้เสมอ อาทิตย์หน้าเมื่อผลชัดเจนแล้วจะมาเล่าสู่กันฟังครับ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 กันยายน 2017
  2. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,097
    ค่าพลัง:
    +55,916
    แนะนำ ให้อ่านเรื่องสนุก ๆ ของมีดหมอหลวงพ่อเดิมครับ โดย อ.ไพฑูรย์ พันธ์ุเชื้องาม ได้นำมาถ่ายทอดเรื่องจากชีวิตของท่านเอง (ปัจจุบันท่านเสียชีวิตไปแล้ว) ใน

    FB นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว
     
  3. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,097
    ค่าพลัง:
    +55,916
    ◎อาถรรพ์ป่าผีดิบกองกอย◎ (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

    ไพฑูรย์มักกล่าวบ่อยครั้งว่าคนที่กลัวตายมักตายเพราะความกลัวคนที่ไม่กลัวตายมักไม่ตายเพราะไม่มีความกลัวถูกตัดสินประหารชีวิต 2 คดีท่านว่าเหมือนกับตายไปแล้วไพฑูรย์จึงไม่กลัวตายเพราะอยู่หรือตายไม่แตกต่างอะไรกันนัก

    ไพฑูรย์เอ่ยถึงภาษิตตะวันตกที่ถือเป็นคติประจำใจมาแต่เมื่อเป็นนายทหารพระธรรมนูญที่สั้นง่ายแต่ความหมายลึกซึ้ง

    ‘’ชาติเสืออย่าร้องไห้’’

    ไพฑูรย์อธิบายว่าเสือโคร่งที่มันอยู่ในป่าเมื่อถูกพรานยิงมันจะคำรามเพียงครั้งเดียวแล้วหลบไปซ่อนตัวไปเลียจนแผลหายสนิทไม่เคยร้องครางแต่สุนัขเท่านั้นที่เมื่อเจ็บแล้วร้องเอ๋ง

    เมื่อถูกจับมาถูกโบยถูกซ้อม 2-3 สลบก็ไม่เคยปริปากร้องขอความปราณี กัดฟันทนจนสลบฟื้นขึ้นมาถูกอัดจนสลบอีกอย่าหวังว่าจะได้ยินเสียงร้องจากสิงโตหิน

    ไพฑูรย์บอกว่าเรื่องทุกเรื่องที่ได้เขียนและเล่าให้ผู้เขียนฟังมิได้ต้องการจะประกาศตัวเองว่าเก่งหรือการเป็นอาชญากรเป็นเรื่องดีแต่เขียนเพื่อสะท้อนให้เห็นว่าการเป็นอาชญากรนั้นเมื่อถูกตามล่าก็เหมือนเสือถูกพรานล่า นอนที่ไหนไม่เคยเต็มตื่น เพราะต้องเปลี่ยนที่นอนทุกคืนด้วยไม่แน่ใจว่าตำรวจจะตามมาพบเมื่อใด

    แม้มีที่ซุกหัวนอนพอตอนดึกก็ต้องออกไปนอนนอกบ้านที่เป็นที่หลบซ่อนนอนในสวนผลไม้ สวนยางก็แล้วแต่ว่าไปซุกหัวนอนที่ใด อยู่นานนักก็ไม่ได้ด้วยหากมีผู้สังเกตเห็นผิดสังเกตแล้วไปแจ้งตำรวจเงินสินบนนำจับ 20000 บาทมันยั่วยวนชวนกิเลสเป็นอย่างยิ่ง

    หนีไปในป่าต้องเจอกับไข้ป่า ผีป่า สัตว์ร้ายในป่าเช่นเสือ หมี เลี่ยงได้ก็เลี่ยงเลี่ยงไม่ได้ต้องสู้กันระหว่างเสือคนกับเสือลายพาดกลอนใครดีใครอยู่

    สำหรับไปค้างแรมในป่าหลวงพ่อเดิมท่านได้เมตตาให้คาถานอนป่าเอาไว้ว่า

    ตั้งนะโม 3 จบแล้วว่า

    ‘’สัพพะพุทธานุภาเวนะ สัพพะธัมมานุภาเวนะ สัพพะสังฆานุภาเวนะ สัพเพสัตตา ทวิปาทา จตุปาทา อปาทา สัพเพมิจฉาทิฐิเทวา ปีศาเจวะ อะปะราชะยัง’’

    ไปนอนในป่าในที่ไม่เคยคุ้นในที่วิเวกวังเวงหรือแม้แต่ในโรงแรม ให้ภาวนาคาถานี้ 3 จบ กราบลงที่หมอนจะป้องกันอันตรายได้

    ในป่าลึกของจังหวัดตากที่ติดกับชายแดนพม่าเป็นป่าดงดิบดงดำที่ไข้ป่าชุกชุมสัตว์ร้ายไปจนถึงงูชนิดต่างๆ แต่ไม่เท่ากับสิ่งที่เรียกกันว่า ‘’ผีกองกอย’’ ไพฑูรย์เล่าว่าเคยได้ยินเรื่องผีกองกอยมาแต่เมื่อเป็นเด็กโดยพ่อที่เป็นพรานป่ามาก่อนมักเล่าให้ฟังเสมอว่า

    ‘’กองกอยเป็นผีดิบประเภทหนึ่งกินของดิบโดยเฉพาะเลือดมนุษย์พ่อบอกว่ากองกอยมีมนต์ประหลาดที่เมื่อร่ายแล้วจะสะกดเหยื่อให้หลับใหลไม่ได้สติจึงออกมาช่วยกันเอาเขี้ยวเจาะเส้นเลือดแล้วดูดกินจนตายเพราะเลือดหมดตัวสำหรับพ่อมีกระสุนปืนแก๊ปพิเศษที่หลอมด้วยตะกั่วลงอาคมลูกปืนทั่วไปทำอันตรายผีกองกอยไม่ได้

    แต่กระสุนปืนที่หลอมด้วยตะกั่วลงอาคมจะล้างอาถรรพ์ผีกองกอยได้ที่น่าแปลกคือแม้ยิงถูกก็ไม่ได้ศพมีแต่รอยเลือดสีดำคล้ำหยดเป็นทางหายไปตรงโคนต้นไม้ใหญ่ไร้ร่องรอยต้องรีบออกจากอาณาเขตกองกอยอย่าให้ทันตะวันตกดินจะเกิดอันตรายได้’’

    ไพฑูรย์ซอกซอนหนีเข้าป่าจะข้ามไปพม่าตอนนี้นอนเป็นสุขที่สุดไม่มีตำรวจหน้าไหนตามมารังควานเพราะป่าทึบแบบนี้ไม่ว่ากองปราบไม่ว่าท้องที่ไม่กล้าโผล่หัวตามมา แต่เวลานอนนั้นจะหลับบนพื้นดินไม่ได้เพราะการก่อกองไฟนั้นอาจเผลอหลับไปไม่ได้เติมฟืนพอไฟมอดเสือจะเข้ามาลากไปกินต้องไปผูกเปลผ้าขาวม้านอนบนคบไม้สูงหน่อยเพราะหากนอนเตี้ยๆเสือจะปีนขึ้นไปคาบขบสมอง

    ถามว่าไม่กลัวตกลงมาตายหรือคนที่ไม่เคยใช้ชีวิตแบบพรานเดี่ยวคิดว่านอนดิ้นแล้วตกจากเปล แต่สำหรับพรานแล้วนอนในเปลดิ้นไม่ได้เพราะเปลบังคับเอาไว้พอขยับตัวเปลก็ไหวต้องตื่นอยู่ดี

    คืนนั้นขึ้นไปนอนบนเปลเป็นคืนเดือนเพ็ญ ป่าทั้งป่าไม่มีสงบสัตว์น้อยใหญ่ออกมาอาบแสงจันทร์และเล่นสนุกกันแต่หัวค่ำยิ่งดึกยิ่งได้ยินเสียงชัดเจนเสียงเสือคํารามเสียงสัตว์เช่น เก้ง กวาง ร้องเรียกกัน นกกลางคืนส่งเสียงวิเวก หลับไปเมื่อใดไม่รู้ตื่นมาอีกทีเพราะปวดปัสสาวะจึงรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ หรีดหริ่งเรไรที่เคยกรีดปีกร้องเงียบกริบเสียงสัตว์ที่เคยส่งเสียงร้องกลับเงียบสนิท

    ในท่ามกลางความเยือกเย็นของน้ำค้างเสียงหนึ่งดังแหวกความเงียบขึ้นมา
    ‘’ปอย ย ย ๆ ๆ ๆ’’

    เป็นเสียงประหลาดที่ออกเสียงสั้นแล้วลากเสียงยาว แม้จะออกป่ากับพ่อหลายหนแต่ไม่เคยได้ยินแบบนี้นึกถึงคำของพ่อที่ว่าผีกองกอยมักส่งเสียงที่โหยหวนแต่ก็ไม่เคยประสบกับหูตัวเอง เสียงดังใกล้เข้ามาคล้ายกับพวกมันกำลังรุมล้อมเข้ามาที่ต้นไม้ที่ไพฑูรย์นอนอยู่

    ไพฑูรย์ลุกขึ้นจากเปลมานั่งห้อยขาอยู่ที่คบไม้ปืนในมือวาดปากกระบอกไปทางต้นเสียงที่ได้ยินใกล้เข้ามา

    มีลมพัดมาวูบหนึ่งเมื่อกระทบตัวแล้วหนาวยะเยือกไปถึงท้องน้อย พ่อเคยบอกว่ามนต์กองกอยนี้ร้ายนัก ให้จุดบุหรี่สูบพ่นควันให้มากๆ ภาวนาคาถา 4 ตัวว่า ‘’ทุ สะ นะ โส’’ ช้าๆ ชัดๆ พ่อบอกว่าเป็นหัวใจเปรตไม่ว่าผีธรรมดาหรือกองกอยได้ยินแล้วจะแก้วหูแตกอย่ากลัวให้ทำจิตให้สงบเสียงที่ดังใกล้เข้ามากลับหยุดแต่แล้วกลับดังคล้ายแยกกันดังทั้งด้านหน้าและด้านหลังคล้ายกับล้อมเข้ามา

    ปืนคู่มือเป็นปืนที่ได้นำไปให้หลวงพ่อเดิมท่านเสกให้เพราะไพฑูรย์นับถือหลวงพ่อเดิมประดุจพ่อบังเกิดเกล้าและสมัยนั้นพวกตำรวจทหารนักนิยมนำปืนพกประจำตัวไปให้หลวงพ่อเดิมเสกเพื่อเป็นสิริมงคลหลวงพ่อเดิมท่านก็ทำให้

    เสียงดังใกล้เข้ามาอยู่ห่างจากต้นไม้ที่ไพฑูรย์นั่งห้อยขาจนต้องหดขาขึ้นมาเป็นนั่งยองๆ

    ท่ามกลางแสงจันทร์วันเพ็ญร่างของอสูรกายก็ปรากฏขึ้น ลักษณะของมันคล้ายลิงแต่มีขนดกทั่วตัวคลุมหน้าคลุมตาจนมองไม่เห็นองคาพยพ เวลาเดินหน้าหรือถอยหลังบอกไม่ถูก พ่อบอกว่าผีดิบพวกนี้เท้าของมันกลับด้านหน้าเป็นหลังกลับหลังเป็นหน้ารวมกัน 3 ตัว ไพฑูรย์ยิงปืนใส่เพื่อสกัดโดนเข้าอย่างจังจนหงายหลังแต่ลุกขึ้นมาทันที

    เข้าตาจนแล้วไพฑูรย์เห็นควรอันตรายอยู่ตรงหน้านึกถึงคำพ่อ ลูกปืนธรรมดาทำอะไรมันไม่ได้ต้องลูกปืนเสกแล้วจะเสกอย่างไรกัน ในเมื่อพ่อไม่ได้บอกคาถาไว้

    ในนาทีวิกฤติไพฑูรย์นึกถึงมีดหมอหลวงพ่อเดิมขึ้นมาได้จะลงไปแทงกับมันหรือเป็นไปไม่ได้ทันนึกคิดดึงมีดหมอปากกาออกมาถอดมีดออกจากฝักยกขึ้นจรดหน้าผากรำลึกถึงหลวงพ่อเดิมว่าลูกเข้าตาจนแล้วขอมีดหมอหลวงพ่อช่วยลูกด้วย

    ปลดโม่ออกดึงลูกปืนออกมาทีละลูกใช้ใบมีดกีดบนรอบหัวลูกปืนจนครบ 5 ลูกเพราะยิงไปแล้ว 1 ลูกบรรจุกลับเข้าไปในโม่เจ้าอสูรกาย 3 ตัวนั้นเข้ามาประชิดโคนต้นไม้ไพฑูรย์เล็งศูนย์ลงมาที่หัวของเจ้าตัวที่ทำท่าจะปีนขึ้นมา

    ‘’ตูม!’’

    กระสุนเข้าที่หัวเห็นถนัดเลือดสีดำๆพุ่งสวนรูทะลุของลูกปืนออกมามันหงายหลังดิ้นพราดๆ เจ้าสองตัวที่เหลือเข้าไปดูส่งเสียงร้องแหลมคล้ายเสียงหวีดไพฑูรย์เล็งใส่แล้วเหนี่ยวไก

    ‘’ตูม!’’

    เข้าที่หน้าอก 1 ใน 2 ตัวล้มลงดิ้นพราดไปอีกตัว เจ้าตัวที่เหลือออกวิ่งกลับไปทางที่มันมาไพฑูรย์หอบหายใจด้วยความตื่นเต้นเพราะหากลูกปืนที่ใช้ปลายมีดหมอหลวงพ่อเดิมขีดวนรอบไม่ได้ผลก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

    นั่งอยู่บนคบไม้จนสว่างไม่กล้าลงไปจนสายแดดจ้าแล้วจึงเก็บเปลแล้วไต่ลงไปดูเจ้าอสูรกายนั่น

    เจ้าอสูรกาย 2 ตัวกลายเป็นซากเน่าเหมือนตายมาแล้วหลายวันส่งกลิ่นเน่าเหมือนศพไพฑูรย์บอกว่าต้องโก่งคออาเจียนออกมาโอ้กใหญ่ไม่กล้าแม้จะเอาเท้าเขี่ยได้แต่เอากิ่งไม้แห้งใบไม้แห้งทับบนล่างของอสุรกายทั้งสองร่างจุดไฟแล้วหาฟืนมาใส่ทำการเผาซากเพื่อให้ไปผุดไปเกิดไม่ต้องมาทนทุกข์เวทนาเป็นผีดิบอีกต่อไป

    ไพฑูรย์บอกว่าป่ามีอันตรายยิ่งยวดโดยเฉพาะป่าดงดิบเพราะเป็นดินแดนอาถรรพณ์ป่าบางแห่งเหมือนแดนหิมพานต์ไม่มีความรู้เรื่องป่าแบบพรานละก็ ร้อยทั้งร้อยหลงป่าเอาชีวิตไปทิ้งแม้จะมีวิชาพรานที่เคยออกเที่ยวป่ากับพ่อไพฑูรย์ก็แทบเอาชีวิตไม่รอดเพราะเจ้าผีดิบกองกอยที่ได้พบเห็นเพียงครั้งเดียวในชีวิต

    ไพฑูรย์เล่าว่าผีกองกอย มีผู้พบเห็นกันในรูปลักษณะที่แตกต่างกันเพราะผีดีบพวกนี้มีมนต์ตราที่สามารถสะกดผู้คนให้หลับใหลแล้วดูดเลือดกินสดๆจนตายป่าดงดิบก็คือป่าหิมพานต์ในโลกมนุษย์เราดีๆนี่เองแต่ปัจจุบันป่าดงดิบกำลังถูกทำลายลงไปทุกวันจนแทบไม่เหลือความเป็นป่าดงดิบเอาไว้ ให้กองกอยได้อยู่อาศัยจนอาจสูญพันธุ์ผีดิบไปแล้วก็ได้

    ที่มา

    FB นักเลง โบราณ ตำนานหนังเหนียว

     
  4. ar_korat

    ar_korat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    134
    ค่าพลัง:
    +2,015
    เสร็จเมื่อไรขอร่วมทำบุญซักเล่มนะครับ
     
  5. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,097
    ค่าพลัง:
    +55,916
    จุดเริ่มต้นการสร้างขึ้นนี้ เกิดจากรวมกลุ่มกับเพื่อน ๆ โดยพวกเราแต่ก่อน ก็เป็น ผู้บริโภค คือชอบสะสมไปเช่ามีดหมอจากวัด สำนักต่าง ๆ และแน่นอน ท่านที่เคยเช่าหามาย่อมทราบ สำนักหรือวัดที่สืบสายดัง ๆ ย่อมมีอัตราค่าบูชาที่สูง ยิ่งแบบ เนื้อพิเศษเช่น ใบมีดเหล็กช่อฟ้า เหล็กน้ำพี้ หรือ ใบมีดชนวนต่าง ๆ (ชนวนเหล็กจะผสมกับทองแดง ทองเหลืองไม่ได้หากได้ก็ได้น้อยมาก จึงต้องใช้วิธีตามที่กล่าวมาแล้ว) ย่อมมีอัตราค่าบูชาที่แพงมาก ๆ
    ส่วนจะชนวนเข้มข้นแค่ไหน ก็ไม่ทราบได้ เพราะเราไม่ได้ไปอยู่ในเหตุการณ์ตอนที่ตี หรือผสม และแน่นอน หากแพงมากเราก็ได้แค่มอง แค่ชม (
    ส่วนผลจะเป็นไปตามที่เราคาดหวังไหม ก็ต้องแล้วแต่คนที่ได้ไป เป็นปัจจัตตังไปครับ)

    จึงเป็นจุดเริ่มต้นของโครงการนี้ โดยได้พบกับผู้รู้ทางเวทย์ ผู้รู้ที่กล่าวมา เป็น ศิษย์ของยอดเกจิอาจารย์ท่านหนึ่ง ที่มรณภาพไปหลายปีแล้ว จากเดิมเราทราบว่า ยอดเกจิอาจารย์ท่านนี้สมัยก่อน ได้รักษา ช่วยคนมามาก ด้านการขับภัยมืด อวิชชา หรือภูตผีปีศาจ และแน่นอน ท่านได้ มอบมีดหมอตกทอดมาแต่ผู้รู้ท่านนี้ โดยมีดนี้ สร้างไว้ใช้งานเอง ไม่ได้มีเปิดให้เช่าบูชาใด ๆ

    ต่อมาได้ทราบว่าผู้รู้ที่ปรึกษาโครงการนี้ สืบสายวิชาอาคมมาแต่รุ่นทวด เรียกว่า ท่านเป็นรุ่นที่ 4 และได้ศึกษามาทั้งวิชาด้านมืด และสว่าง ปัจจุบันท่านก็ใช้วิชาที่ร่ำเรียนมาช่วยคนแบบเงียบ ๆ

    พวกเราจึงเริ่มต้นอยากเป็น
    ผู้ผลิต ...... ซึ่งก็ได้ทราบในสิ่งที่ไม่เคยทราบอีกมากมาย เช่น ชนวนผสมได้ไหม อะไรผสมไม่ได้ การโฆษณาทางการค้าที่เกินจริง..ฯลฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2017
  6. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,097
    ค่าพลัง:
    +55,916
    มีดหมอโดยสรุปมี 2 แบบ คือ แบบมีคมและไม่มีคม

    1.แบบมีคม ก็เป็นมีด แบบที่เราเห็น ใช้ในพิธีกรรมทางไสยศาสตร์ (สายพุทธคุณไม่มีวิชาการสร้างมีดแน่ครับ มีแต่ให้ใช้แบบ ธรรมาวุธ คือใช้ธรรมะเป็นอาวุธ)

    พิธีกรรมทางไสยศาสตร์ อาจเป็นเช่นอาราธนาทำน้ำมนต์ หรือขับไล่ภูตผีปีศาจ หรืออาจใช้เป็นอาวุธ ได้เลย แบบมีดระดับตำนาน ที่ว่า หากนำไปทิ่มแทงผู้ที่ อยู่ยงคงกระพันชาตรี ก็แทงทะลุ ไม่ว่าจะมีเครื่องรางของขลังใด ๆ ก็ล้างอาคมได้หมด เป็นแผลแล้วก็เสื่อมไปเลย ไม่มีความขลังใด ๆ อีก ถึงขนาด แผลจะไม่หาย ต้องใช้ด้ามมีดฝนกับน้ำมาล้างแผล แผลถึงจะรักษาหายได้ (
    เขาว่ามาครับไม่ทราบจริงหรือไม่จริง ยุคปัจจุบันเราคงไม่ต้องขนาดนั้นแน่)

    2. แบบไม่มีคม อาจทำด้วยวัตถุอื่น ๆ เช่น เขาสัตว์ งาช้าง
    (นิยมงาช้างกำจัด งากระเด็น) หรือเป็นไม้มงคล ทางเหนือเรียกว่า มีดแหก คือนำมาใช้กับร่างกายคนเรา ขับไล่โรคภัยไข้เจ็บ หรืออาการโรคประหลาด

    การปลุกเสก ย่อมต้องต่างจากการอธิษฐานจิตพระเครื่อง ตามการใช้งานและวัตถุประสงค์ที่นำมาใช้ ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 ตุลาคม 2017
  7. NEWESTTSEWEN

    NEWESTTSEWEN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    484
    ค่าพลัง:
    +2,661
    น่าสนใจมากครับ ถ้ามีเหลือส่งข่าวกันบ้างนะครับ
     
  8. lotary01

    lotary01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +1,053
    ผมสนใจ ขอคิดตามด้วยคนครับ
     
  9. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,241
    ตามอย่างจดจ่อ..

    มีข่าวคราวคืบหน้า
    จะขอร่วทบุญกันอีก

    อนุโมทนา ครับ
     
  10. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,097
    ค่าพลัง:
    +55,916
    ความรู้จากช่าง อีกอย่างหนึ่ง คือการ ผสานชนวนเหล็กหลายชนิด อย่างชุดที่ พวกเราทำนี้
    การหลอมเหล็กหลายชนิดได้นำไปหลอมที่ จ.อุตรดิตถ์ แล้วนำชนวนมวลสารผสมกับเหล็กน้ำพี้และเหล็กใบเลื่อยหลอมเข้าด้วยกัน โดยสรุป สัดส่วน เป็นชนวน 70% เหล็กน้ำพี้ 15 % เหล็กใบเลื่อย 15% (ผสมเหล็กใบเลื่อยเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของเนื้อเหล็ก)

    เหล็กใบเลื่อยที่ว่า คือ ใบเลื่อยสายพาน ครับ (ตามภาพคือ เหล็กแท่งสี่เหลี่ยมซ้ายบน)

    image-BDFC_59D22653.jpg

    เหตุที่ใส่เหล็กใบเลื่อยผสมไปด้วยทั้งที่เป็นเหล็กธรรมดาไม่ได้มีคุณสมบัติพิเศษใด เพื่อให้รวมมวลสารเหล็กชนิดต่าง ๆ ให้ดี หากไม่มีจะขาดความแข็งแรงสวยงามทนทาน ยิ่งผสมเหล็กน้ำพี้ด้วยแล้ว หากไม่มีเหล็กใบเลื่อยตอนตีจะแตกได้

    แม้ใช้เหล็กชนิดอื่นผสมก็จะไม่ดีเท่าเหล็กใบเลื่อยสายพาน

    จะเห็นได้ว่า การหลอมผสานชนวนเหล็กหลายชนิดเป็นเรื่องยากยิ่งนัก จึงต้องเดินทางไปทำถึง จ.อุตรดิตถ์

    กระทู้นี้ จึงขอบอกเล่า ประสบการณ์ที่ได้พบจากการสร้างเทพอาวุธในครั้งนี้ เพื่อหวังจะเป็นข้อมูลด้านหนึ่งที่ได้พบ...
     
  11. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,097
    ค่าพลัง:
    +55,916


    การหลอมเหล็กครับ เป็นงานหลอมตีมือด้วยฆ้อน ปัจจุบันสามารถนำไปหลอมด้วยเตาหลอมในโรงงานใหญ่ ๆ ได้ แต่เราชอบแบบโบราณ

    จากคลิป ขณะหลอมจะมีการสวดภาวนาคาถากำกับด้วย ฆราวาสผู้เรืองวิชา

    หมายเหตุ คลิปนี้ไม่ใช่งานของพวกผมครับ แต่ใช้วิธีเดียวกันโดยช่างคนเดียวกัน
     
  12. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,097
    ค่าพลัง:
    +55,916


    การยืดเหล็ก จะภาวนาคาถากำกับตลอด โดยฆราวาสผู้เรืองวิชา

    หมายเหตุ คลิปนี้ไม่ใช่งานของพวกผมครับ แต่ใช้วิธีเดียวกันโดยช่างคนเดียวกัน

    สรุป ไม่ง่ายเลย การจะสร้างเทพอาวุธซักชิ้น



     
  13. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,097
    ค่าพลัง:
    +55,916
    image-DE2C_59D31C45.jpg

    จึงมาเป็นแท่งเหล็กตามในภาพ ตามที่วงไว้ครับ ที่ไม่วง เป็นงานของท่านอื่น จากการผสม ชนวนมวลสาร เหล็กน้ำพี้ และเหล็กใบเลื่อย

    จึงได้หายสงสัย ว่าทำไม การหลอมเหล็กหลายชนิด ต้องเดินทางไปถึง จ.อุตรดิตถ์ ทำไม ไม่หลอมใกล้ ๆ เพื่อความขลัง ความสวยงาม และความคลาสสิคนั่นเอง


    กระทู้นี้ จึงขอบอกเล่า ประสบการณ์ที่ได้พบจากการสร้างเทพอาวุธในครั้งนี้ เพื่อหวังจะเป็นข้อมูลด้านหนึ่งที่ได้พบ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 ตุลาคม 2017
  14. sutthasiri

    sutthasiri เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    395
    ค่าพลัง:
    +6,478
    รอติดตามครับ
     
  15. chattrg

    chattrg เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    4,337
    ค่าพลัง:
    +13,241
    สาธุ...
     
  16. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,097
    ค่าพลัง:
    +55,916
    ◎อำนาจแห่งมีดหมอคุ้มชีวี◎(ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

    ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม เป็นผู้ที่เก็บความทรงจำในอดีตที่ผ่านมาได้สมบูรณ์ทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนกับว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ไพฑูรย์ไขข้อสงสัยให้ฟังว่า

    " ผมเผชิญกับภยันตรายมาแล้วทุกรูปแบบเผชิญหน้ากับคนมามากมายตั้งแต่เลวจนถึงเลวที่สุด เจ็บแค้นที่สุด เหี้ยมโหดที่สุดทุกอย่างเมื่อเกิดขึ้นมันฝังลึกลงในสมองส่วนที่เป็นความจำอัดไว้จนแน่น ความทรงจำเหล่านั้นถูกรื้อค้นออกมานับแต่เริ่มเขียนเรื่อง " จอมอาชญากรหมายเลข 1" ตอนแรก ได้ถูกเรียงร้อยกันเป็นเรื่องราวจากชีวิตจริงของผู้ที่เป็นนักโทษประหารตั้งแต่เป็นนักโทษชายนักโทษชั้นเลวจนได้เป็นผู้ช่วยผู้คุมและได้รับอภัยโทษในที่สุด

    แม้แต่ภูตผีปีศาจไพฑูรย์บอกว่าเจอมามากแต่ไม่เคยกลัวเพราะคนที่มีมีดหมอหลวงพ่อเดิมไม่ว่าขนาดเล็กหรือใหญ่ภูตผีปีศาจจะไม่มารบกวน ก็แค่ส่งเสียงให้ตกใจไม่กล้าปรากฏตัว มีดหมอหลวงพ่อเดิมนั้นหลวงพ่อสั่งไว้ว่า

    " ใช้ได้ทั้งกันและแก้สำหรับการแก้คือการป้องกันชีวิตเพื่อเอาตัวรอดเท่านั้นหากจะแก้จนอีกฝ่ายหนึ่งถึงตายต้องรอให้น้ำตาไหลเป็นเลือดเสียก่อน"

    ไพฑูรย์บอกว่าคำว่าน้ำตาไหลเป็นเลือดนั้นเป็นคำพราหมณ์ เพราะไม่เคยมีใครเลยที่มีน้ำตาไหลเป็นเลือดอาจเป็นเพราะไพฑูรย์ใช้มีดหมอปลิดชีวิตคนไปหลายคนแม้เป็นการป้องกันตัว แต่ละเมิดคำห้ามของหลวงพ่อเดิมเพราะน้ำตายังไม่ไหลเป็นเลือด จึงต้องเวียนวนอยู่ในเรือนจำแหกคุกถูกจับกลับมา

    จนสุดท้ายหลังใช้มีดหมอกับนักโทษชายจอมโหดขณะที่เป็นผู้ช่วยผู้คุมแล้วจึงหันหน้าไปทางที่ตั้งของวัดหนองโพประกาศว่านับแต่นี้ไปจะไม่ใช้มีดหมอนี้ฆ่าคนอีกต่อไป

    มีดหมอหลวงพ่อเดิมมีดีหลายอย่าง อาทิ ใครก็ตามที่ว่าคงกระพัน( ยกเว้นกินว่าน ว่านเป็นของดีตามธรรมชาติมิได้มีการปลุกเสกลงเลขยันต์เหมือนเครื่องราง การสัก การฝังเข็ม) หากถูกมีดหมอหลวงพ่อเดิมกรีดหรือแทงแล้วจะหมดความคงกระพันทันที

    แม้รักษาแผลหายแล้วความคงกระพันก็จะไม่เกิดขึ้นอีก ด้วยหลวงพ่อเดิมท่านได้เสกคาถาที่เรียกว่า" ประจุขาด" เอาไว้ในมีดหมอของท่านทุกเล่ม ไพฑูรย์บอกว่าเจอมากับตัวเองจนชิน

    ขับภูตผีปีศาจใช้ปลายจี้กลางกระหม่อมหรือที่หน้าผาก ผีจะรีบออกจากตัวคนทันทีด้วยหลวงพ่อปลุกเสกมีดหมอด้วยคาถาอาวุธ 5 ประการความว่า

    นารายณ์ยัสสะ จักราวุธัง (จักรกรดอาวุธประจำองค์พระนารายณ์)

    สักกัสสะ วชิราวุธัง (อาวุธประจำองค์อินทราชเจ้าจอมดาวดึงส์)

    อาฬวะกะทุสาวุธัง (ผ้าขาวแห่งอาฬวะกะยักษ์)

    เวสสุวัณนัสสะคธาวุธัง (ตระบองอาวุธประจำองค์ท่านท้าวเวสสุวรรณ)

    ยมนัสสะนัยนาวุธัง (ดวงพระเนตรแห่งท่านพญายมราช)

    ปัญจะอาวุธานัง เอเตสังอานุภาเวนะ ปัญจะอาวุธานัง ภัคคะภัคขา วิจุณนัง วิจุณนัง โลมาเมนะ ผุสสันติ อะมุมหิ โอกาเสติถาหิ

    ใช้เป็นคาถาอาราธนามีดหมอหลวงพ่อเดิมได้ด้วย

    ด้วยเหตุนี้มีดหมอของหลวงพ่อเดิมจึงมีค่ามีราคาหายากและมีของปลอมเกลื่อนไปหมดใครมีของจริงนับว่าเป็นโชคดีอย่างยิ่งมีดหมอเคยช่วยชีวิตไพฑูรย์ในช่วงแห่งความเป็นความตายที่ไพฑูรย์เรียกว่า" มีดหมอคุ้มชีวี"

    โรงสีไฟเฮ็งหลี อยู่โพนางดำออก ตำบลสรรพยา จังหวัดชัยนาท อินทเนียร์(เอนจิเนียร์) หมายถึงช่างเครื่อง ชื่อบุญพันธ์ พันธุ์เชื้องามเป็นหลานชายแท้ๆของบิดาไพฑูรย์ เป็นช่างซ่อมเครื่องยนต์ทั้งเครื่องสีข้าวและเรือกลไฟเถ้าแก่ฮงไว้ใจให้ดูแลเครื่องสีข้าวและเครื่องเรือที่ไปซื้อข้าวเปลือกได้รับแต๊ะเอียปีละหลายร้อยบาท 100 บาทสมัยนั้นใช้กันไม่หวาดไม่ไหว

    บิดาไพฑูรย์ เคยบอกไพฑูรย์ไว้ว่า มีหลานชื่อบุญพันธ์ พันธุ์เชื้องามอยู่โรงสีไฟเฮ็งหลีอยู่ที่โพนางดำออก จังหวัดชัยนาทเมื่อไพฑูรย์แหกคุกออกมาได้หนีไปหาบุญพันธ์ที่มีศักดิ์เป็นอา

    ไปหาตอนกลางคืน เพื่อมิให้เป็นที่ผิดสังเกตอาบุญพันธ์ตกใจมากที่จู่จู่ไพฑูรย์ก็มาพบ เพราะรู้ข่าวว่าไพฑูรย์อยู่ในบางขวาง ไม่รอให้ถามกระซิบว่า

    “ผมแหกคุกมาครับอาผมขอซุกหัวนอนไม่นานจะหนีต่อไปเพราะตำรวจออกประกาศจับไปทั่วทุกพื้นที่ ที่คาดว่าผมจะเดินทางไปแต่ที่นี่คาดว่ายังไม่เป็นที่ต้องสงสัย”

    เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ อาบุญพันธ์ให้พักอยู่ในบ้านพักบอกให้พักผ่อนให้เต็มที่พรุ่งนี้จะพาไปพบเถ้าแก่ฮงเพื่อบอกกล่าวและจัดงานให้ทำ ต่อหน้าเถ้าแก่ฮงอาบุญพันธ์แนะนำว่าชื่ออรุณเป็นหลานในใส้มาหางานทำเถ้าแก่ฮงถามว่า

    “อารุณลื้อเคยทำงานด้านบู๊มาบ้างไหมเพราะเวลาอั๊วไปซื้อข้าวเปลือกมาสีต้องพกเงินสดติดตัวไปคราวละมากๆหากถูกปล้นลื้อคุ้มภัยให้อั๊วละก็ลื้อได้งานทำ รูปร่างลื้อเป็นจับกังแบกกระสอบข้าวสารไม่ได้แน่”

    “เคยทำครับเถ้าแก่ใช้อาวุธปืนได้คล่องทั้งยาวสั้นมีดไม้คมแฝกก็ถนัดพูดไปก็พาลจะทำให้เถ้าแก่เหม็นขี้ฟันเอาไว้ถึงเวลาแล้วเถ้าแก่จะบอกว่าผมแน่”

    เถ้าแก่ให้เสมียนไปหยิบปืนลูกซองแฝด กับปืนลูกโม่ .38 โคลท์ตราม้าจากอเมริกาให้ไพฑูรย์เลือกไพฑูรย์บอกว่าขอลูกซองแฝดส่วนปืนพกขอใช้ปืนประจำตัวเพราะถนัดกว่าเถ้าแก่หัวเราะด้วยความพอใจบอกกับไพฑูรย์ว่า

    “อีก 3 วันจะไปซื้อข้าวที่สุพรรณบุรีเอาเรือลากจูงเรือเอี้ยมจุ๊น 3 ลำ อารุณอยู่กับอั๊วในเรือจะได้นอนหลับสบายตลอดคืนไม่งั้นต้องหลับหลับตื่นตื่นๆมีปืนอั๊วก็ใช้ไม่ถนัดเป็นพ่อค้าไม่ใช่มือปืน”

    รถพ่วงซื้อข้าวออกเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางคือสุพรรณบุรีเรือเทียบท่าข้าวที่เป็นตลาดกลางเพื่อประมูลซื้อข้าวจากชาวนาโดยแบ่งรายได้ส่วนหนึ่งให้กับเจ้าของท่าข้าวเป็นกำนัล เถ้าแก่ฮงเอาเงินใส่ในซองหนังที่ติดอยู่กับสายคาดหนังแถบใหญ่ที่นอกจากจะเก็บเงินได้มิดชิดแล้ว ยังเป็นผลป้องกันการแทงด้วยของมีคมที่พุงกะทิอีกด้วย

    ไพฑูรย์นั่งคอยมองความเคลื่อนไหวของคนรอบข้าง พลันเห็นความผิดสังเกตของชาย 2 คนที่ใบหน้าท่าทางไม่ได้บอกว่าเป็นชาวนา แต่บอกว่าเป็นพวกโจรมากกว่า คอยดูเถ้าแก่ฮงควักเงินจากกระเป๋าจ่ายค่าข้าวเปลือกเมื่อข้าวที่นำมาประมูลหมดเจ้าสองคนนั่นก็แวบหายไปเถ้าแก่ฮงเดินมาหาไพฑูรย์สั่งว่า

    " คืนนี้ค้างที่นี่พรุ่งนี้มีประมูลอีกครั้ง พอหมดการประมูลแล้วค่อยเดินทางต่อ"

    " ได้ครับเถ้าแก่แต่ผมขอให้เถ้าแก่กลับไปนอนในเรืออย่าค้างแรมตามที่เจ้าของท่าข้าวจัดให้ผมสังหรณ์ว่าอาจเกิดเหตุร้ายขึ้นได้"

    " ลื้อคิดเหมือนอั๊วเลยเอาละกลับไปที่เรือนายท้ายเรือมันหุงหาอาหารเตรียมไว้ให้แล้วล่ะกินแล้วจะได้นอนพัก"

    เรือยนต์ถอยออกไปทอดสมอห่างจากตลิ่ง ไม่กีดขวางการเดินเรือ เถ้าแก่นอนหลับกรนครอกไปแล้วส่วนไพฑูรย์เผลอม่อยหลับไปเพราะรู้สึกผ่อนคลายแถบนี้มีชื่อเรื่องแมวน้ำ เป็นพวกย่องเบาทางน้ำหรือไม่ก็ปล้นเหยื่อที่นอนค้างแรมในเรือ มารู้สึกตัวเมื่อเรือไหวยวบ ขึ้นมาก็มองเห็นประกายไฟรอบๆตามมาด้วยเสียงตูมเสียงกระสุนแหวกอากาศเฉียดร่างไพฑูรย์จนรู้สึกถึงความร้อนของหัวกระสุนที่ไหม้เนื้อหนัง

    มีดหมอปากกาที่เสียบไว้ในกระเป๋าเสื้อสําแดงเดชทำให้ลูกปืนแคล้วคลาดเพราะหากถูกยิงไพฑูรย์จะหมดโอกาสได้ต่อสู้กลิ้งตัวหลบกระสุนที่ถูกยิงใส่พอตั้งหลักได้จึงดึงปืนออโตเมติกหางนกขึ้นแล้วสวนกลับ มือปืนกระเด็นตกจากเรือเสียงน้ำกระจายอีก 2 คนที่เหลือคนหนึ่งถูกเถ้าแก่สอยด้วยลูกซองตกน้ำไป อีกคนที่เหลือถอดใจกระโดดน้ำหนี ความมืด

    ไม่ได้นอนจนรุ่งเช้าพอนายท้ายเรือหุงหาอาหารเช้าให้กิน แล้วจึงขึ้นไปบนท่าข้าวเพื่อประมูลซื้อข้าว เจ้าของท่าข้าวถามว่าเมื่อคืนได้ยินเสียงปืนดังมาจากเรือเกิดอะไรขึ้นเถ้าแก่บอกว่าถูกแมวน้ำเล่นงาน ตกน้ำไปสองอีกคนหนึ่งกระโดดน้ำหนีไปได้ เจ้าของท่าข้าวถามเถ้าแก่ว่าจะไปแจ้งความไหมจะให้คนพาแต่ไพฑูรย์ ชิงพูดขึ้นว่า

    “ไม่ต้องหรอกเพราะพวกมันไม่ได้อะไรไปแถมถูกยิงหงายหลังตกน้ำเป็นตายไม่รู้เดี๋ยวก็จะออกเดินทางแล้ว”

    การประมูลซื้อข้าววันที่ 2 จบลง เถ้าแก่ให้ขนข้าวเปลือกที่ซื้อไว้ลงไปในเรือจนหมดจึงออกเดินทางต่อเถ้าแก่ชมไพฑูรย์ไปตลอดทาง แต่ไพฑูรย์นึกในใจว่า ไม่ต้องชมหรอกเพราะเผลอม่อยหลับไปหากมีดหมอไม่ช่วยไว้คงกลายเป็นศพไปแล้ว พอดึงมีดหมอมาดูว่าทำไมคราวนี้ไม่เป็นมหาอุด พบว่า ปลอกมีดไม่ได้ล็อคใบมีด มีดจริงเข้าฝักไม่มิด

    มีดหมอหลวงพ่อเดิม ถ้ากดใบมีดลงไปในปลอกจนมิดแล้วให้กดใบมีดลงด้านล่างให้ดังกึกเป็นการล็อค จะดึงมีดไม่ออกจนกว่าจะดันคมมีดขึ้นด้านบนเพื่อปลดล็อคเสียก่อนลักษณะเช่นนั้นจะเป็นมหาอุด ถ้าดึงใบมีดขึ้นเล็กน้อยแล้วกดล็อกในลักษณะที่ใบมีดไม่เข้าไม่มิดฝักจะเป็นแคล้วคลาด

    ที่มา

     
  17. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,097
    ค่าพลัง:
    +55,916
    เหตุใด สร้างเป็นรูปกริช ? เพราะกริชมีเสน่ห์ แหลมคมประดุจเขี้ยวเสือ คดเหมือนเปลวไฟ และเป็นอาวุธที่เชื่อว่าทำลายล้างสิ่งอัปมงคล

    เหตุใดทำเป็นแบบปากกาบรรจุในปากกาสแตนเลส ? เพราะพกพาง่าย ในยุคปัจจุบันเราคงไม่สะดวกพกเป็นด้ามใหญ่

    อักขระที่บรรจุ เป็นคาถาใด ที่ว่าไม่ซ้ำแบบใคร ?
    อักขระที่ยิงเลเซอร์ กำกับโดยผู้เชี่ยวชาญด้ายเวทย์ ด้านหนึ่ง บรรจุคาถาหักมนต์ ถอดมาจากบท นวหรคุณ โดยมีการสลับอักขระ เรียกว่าการหักมนต์

    ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งได้เล่าถึงการต่อสู้ทางจิต คาถาอาคม ซึ่งจะมีหลายขั้นตอน ดังเช่น การมัดครู , การคัดของ, การดึงเทวดาออกจากตัวศัตรู แล้วมาเข้าตัวเรา, การสูบของ, รวมถึงการหักมนต์ จึงเหมาะอย่างยิ่งอัญเชิญคาถานี้มาบรรจุในกริช
    อักขระอีกด้านเป็นของหลวงปู่โน ซึ่งศิษย์ที่ผ่านการยกครูมาแล้ว ได้แต่งขัน 8 ขัน 5 ขออนุญาตนำมาใช้ โดยอานุภาพคาถานี้คือ ตัดได้ทุกอย่าง
     
  18. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,097
    ค่าพลัง:
    +55,916
    อีก 2 วันจะมาเล่า ขั้นตอนที่ยากที่สุด หนักใจที่สุดครับ
     
  19. paween

    paween เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2010
    โพสต์:
    142
    ค่าพลัง:
    +336
    ติดตาม..งานนี้ปราณีต...จริงๆ....ครับ
     
  20. konun88

    konun88 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มกราคม 2012
    โพสต์:
    5,097
    ค่าพลัง:
    +55,916
    ◎มีดหมอหลวงพ่อเดิมปะทะดาบล้างอาถรรพ์◎ (ไพฑูรย์ พันธุ์เชื้องาม)

    จากลานเทไปซ่อนตัวอยู่ที่ตำบลมหาราชกับกำนันสมาน ที่พี่เสงี่ยมได้เคยแนะนำให้ไปพึ่งเมื่อเดือดร้อนเพราะกำนันสมานเป็นญาติกับพี่เสงี่ยมการแนะนำตัวก็ไม่ยาก

    พี่เสงี่ยมจะบอกรหัสติดต่อที่รู้กัน เมื่อไพฑูรย์พูดกับกำนันสมาน กำนันก็ร้องอ้อแล้วให้ไปพักในที่สำหรับรับแขกพิเศษที่มาขอพึ่งพาอาศัยในสวนกล้วยน้ำว้าที่ห่างไกลผู้คน

    กำนันสมานคนนี้สืบเชื้อสายมาจาก ‘’เสืออ่วม อกโรย’’ ขุนโจรชื่อดังเมื่อต้นรัชสมัยพระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวบรมมหาราชาธิราชที่ท่านเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ดำรงตำแหน่งผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน

    เสืออ่วม อกโรย ออกอาละวาดปล้นฆ่าจนเป็นที่ครั่นคร้ามของบรรดาชาวกรุงเก่าเลยไปบางเสด็จ,ป่าโมก ไปจนถึงวิเศษชัยชาญ กรมการเมืองกรุงเก่าถูกเรียกมาพบกับท่านเจ้าพระยาฯ ได้ซักไซ้ไล่เรียงจนได้ความแน่ชัดจึงสั่งให้กรมพระนครบาลนำกำลังออกไปปราบเสืออ่วมอกโรยทั้งทางน้ำและทางบก ท่านเจ้าพระยาฯ นำกำลังไปเสริมอีกหน่วยหนึ่ง

    เสืออ่วมไม่คิดว่าทางการจะระดมกำลังปราบ จึงไม่ได้ระวังตัวเท่าที่ควร มัวเพลินกับลูกสาวชาวบ้านที่ปล้นฆ่าบิดาแล้วฉุดลูกสาวมาทำเมีย ถูกกำลังนครบาลที่ตั้งด่านสกัดรวบตัวได้ขณะกำลังเปลือยกายสาวร้องบอกให้ทางนครบาลรู้ว่าเป็นเสืออ่วม เสืออ่วมถูกขังไว้รอท่านเจ้าพระยาฯมาทำการพิจารณาคดี

    ท่านเจ้าพระยาสั่งให้กรมการเมืองกรุงเก่านำพยานมายืนยันมั่นเหมาะ ศาลขณะนั้นมิได้พิจารณาคดีแบบปัจจุบัน ท่านเจ้าพระยาฯ ตัดสินให้ประหารชีวิตซึ่งตามปกติเป็นการตัดหัวให้มีคนมาดู เมื่อตระเวนน้ำตระเวนบกแล้วก็นำตัวไปประหาร

    แต่การประหารคราวนี้เป็นการใช้ขวานผ่าอกแทนการตัดคอ บรรดาญาติพี่น้องของเสืออ่วมต่างพากันไม่ดำเนินรอยตาเสืออ่วม เป็นคนดีสืบเชื้อสายอกโรยที่เป็นถึงกำนัน

    กำนันสมานกำชับไพฑูรย์ให้อยู่แต่ในที่พักห้ามออกไปเที่ยวเล่น เพราะหากถูกจับชื่อเสียงของแกจะพังหมด ไพฑูรย์รับปากเพราะเกรงใจทั้งกำนันสมานและพี่เสงี่ยม ได้แต่นั่งๆนอนๆ

    จนเช้าวันหนึ่งมีคนมาตามให้ไปบ้านกำนันสมาน พอไปถึงก็พบกำนันสมานนอนบาดเจ็บถูกฟันเข้าที่ต้นแขน กำนันสมานบอกว่าเสือปลั่ง บ้านสามบัณฑิต ใช้ดาบอาคมฟันจนบาดเจ็บขณะบุกเข้าจับกุม

    ไพฑูรย์เอามีดหมดหลวงพ่อเดิมออกมา เอาด้ามฝนกับฝาละมีหม้อดิน เอาน้ำล้างใบมีดหมอผสม นำไปทาแผลแก้อาถรรพ์ เพราะปากแผลเขียว แผลกำลังจะเป็นแผลกลาย สามวันแผลก็เป็นปกติ กำนันสมานออกปากว่าเคยได้ยินชื่อมีดหมอหลวงพ่อเดิม แต่ไม่เคยรู้มีสรรพคุณเพียงนี้

    ไพฑูรย์ได้บอกเส้นทางไปรับมีดหมอหลวงพ่อเดิม แล้วกระซิบบอกกับกำนันสมานว่าจะตามล้างแค้นให้เอง

    กำนันสมานห้ามเสียงหลงเพราะดาบอาคมของเสือปลั่งทำลายอาถรรพ์ ไม่ว่าจะเป็นรอยสักหรือเครื่องรางต่างๆมามากต่อมาก

    แต่ไพฑูรย์บอกว่ามีดหมอหลวงพ่อเดิมก็จะล้างอาถรรพ์เสือปลั่งเหมือนกัน

    กำนันสมานให้ลูกชายไปหยิบดาบอรัญญิกที่ดีขึ้นจากเหล็กน้ำพี้ผสมทองแดงยอดนพศูล กับเหล็กอรัญญิกเดิม หลอมแล้วจึงตีขึ้นรูปตีแล้วจุ่มน้ำผสมน้ำพระจันทร์เพ็ญเดือน12 ตอนเที่ยงคืนเพื่อให้เนื้อเหล็กผ่านร้อนผ่านเย็นเป็นร้อยเป็นพันครั้งเกิดความเหนียวไม่เปราะง่ายเหมือนที่ตีจากเหล็กน้ำพี้บ่อพระแสงที่คมจริง แต่ใช้ต่อสู้ติดต่อกันเป็นเวลานานๆจะเกิดความร้อนและเปราะหักง่าย

    ไพฑูรย์ถือโอกาสลากำนันสมานแล้วเดินทางไปกับลุงสนิท มือขวาของกำนันสมานเป็นคนแกะรอยเก่งเป็นสายสืบเก่า แต่ลาออกมาช่วยกำนันสมานเพราะเป็นคนที่มีเชื้อสายอกโรยเหมือนกัน

    สืบจนได้ที่ว่าเสือปลั่งจะปลอมตัวมาเล่นพนันไก่ชนที่บ้านอรัญญิกทุกวันโกน บ่อนไก่เปิดจนปิดเสือปลั่งได้เงินพนันมากโขเอาใส่ย่ามไว้เดินมาที่ลานโพธิ์หลังบ่อน เป็นที่ๆลุงสนิทนัดให้เสือปลั่งมาประลองเพลงดาบ เสือปลั่งเห็นเสือไพฑูรย์ถือดาบเดี่ยว ก็โยนดาบเล่มหนึ่งให้ลูกน้องถือไว้

    ‘’ไอ้หน้าอ่อนแว่นตาดำ(ไพฑูรย์ใส่แว่นตาดำอำพรางใบหน้าตลอด) แน่ใจนะว่ารับมือไหว ให้เลือกว่าพอเอาเลือดตกยางออกหรือเอาถึงตายล่ะ’’

    ‘’ประลองแค่เลือดตกยางออกก็พอแล้ว’’

    ไพฑูรย์ถอดแว่นตาดำส่งให้ลุงสนิท ดาบประดาบ ไพฑูรย์ใช้เชิงกระบี่กระบองที่เรียนมาจากบ้านเกิดจังหวัดตาก ผสมกับที่อาจารย์กี้สอนตอนที่เป็นนักเรียนประยุกต์เข้าด้วยกัน เสือปลั่งใช้เพลงดาบแบบรุกฆาต เป็นการใช้ดาบตะลุยฟันแบบม้วนเดียวจบหูได้ยินคำสอนของอาจารย์กี้ที่ว่า

    ‘’เจอดาบแบบรุกฆาตอย่าไปตกใจให้รับมือให้ดี ยั่วให้ฟันเหงื่อตกแล้วรุกคืนช้าๆมันโต้ตอบไม่ได้ถนัดหรอก เพราะดาบรุกฆาตนั้นหากไม่อาจทำอันตรายคู่ต่อสู้ได้แล้วละก็จะตกเป็นรองทันที’’

    ไพฑูรย์รับถอยหลอกล่อไปมา คมดามอาถรรพ์ของเสือปลั่งได้แต่เพียงเฉียดไปมาแบบขนลุกเพราะไพฑูรย์ระวัง ครู่ใหญ่แรงที่ฟันเข้ามาเริ่มอ่อนลง ไพฑูรย์รุกกลับด้วยการฟันสลับบนล่างและในที่สุดดาบลวงพรางก็สำแดงเดช

    ดาบลวงพรางเป็นดาบที่เรียกกันว่าดาบครึ่งเพลง หมายถึงทำทีเป็นโถมฟันบนแล้วยั้งฟันตวัดขึ้นทำให้คู่ต่อสู้รับมือไม่ถนัดดาบลวงพรางสำแดงเดชผล

    เมื่อไพฑูรย์ฟันแบบฝานบวบ คือฟันจากบ่าซ้ายตัดหน้าอกไปออกชายโครงขวาเสือปลั่งยกดาบขึ้นกันบนไพฑูรย์พลันยั้งมือแล้วฟันข้องอ้อยคือการฟันตรงแบบฟันลำอ้อย

    เสือปลั่งลดดาบลงมากันไม่ทันไพฑูรย์ใช้ปลายดาบฟันชายโครงเสียงดังบึก เสือปลั่งเหนียวจริง แรงฟันทำให้เสือปลั่งเสียหลัก

    ไพฑูรย์เข้าระยะประชิดมือซ้ายดึงมีดหมอหลวงพ่อเดิมที่เอวออกมาสะบัดปลอกออก แทงให้เฉียดชายโครงเสือปลั่ง อำนาจมีดหมอทำลายอาคมเสือปลั่ง เสือปลั่งปล่อยดาบหลุดมือเอามือกุมเอวที่เลือดทะลักออกมา

    ‘’มึงใช้มีดอะไรวะไอ้แว่นดำ’’

    ‘’มีดหมอหลวงพ่อเดิมเอาแค่นี้พอแล้ว’’

    ไพฑูรย์เอามีดหมอฝนกับหินลับมีด เอาน้ำประสะไปทาบาดแผลถอนอาถรรพ์มิให้แผลกลาย แล้วเดินทางหนีต่อไป ฝากดาบให้ลุงสนิทคืนให้กำนันสมานจากนั้นอีก 3 เดือนก็ได้ข่าวว่ากำนันสมานยิงเสือปลั่งตายขณะต่อสู้ เพราะนับแต่ถูกไพฑูรย์แทงเนื้อหนังที่เคยแกร่งเป็นหินของเสือปลั่งก็หมดสรรพคุณ

    ที่มา

     

แชร์หน้านี้

Loading...