เรื่องเด่น วิจารณ์แซ่ด! เด้ง “พงศ์พร” พ้นสำนักพุทธฯ

กลายเป็นประเด็นที่จะเรียกว่า “หมูไม่กลัวน้ำร้อน” ได้หรือเปล่า เพราะหลังจากคณะรัฐมนตรีมีมติให้โอนย้าย พันตำรวจโท พงศ์พร พราหมเสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ไปเป็นผู้ตรวจราชการประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แ



ละ คุณออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ได้แต่งตั้งรองผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ เข้าไปรักษาราชการแทนผู้อำนวยการฯ / ปรากฏว่า คุณพงศ์พร กลับทำหนังสือโต้แย้งคำสั่งย้าย ยืนยันว่าไม่มีผลทางกฎหมาย และตนเองยังอยู่ในตำแหน่งเดิม ขณะที่การเปลี่ยนตัวผู้อำนวยการสำนักพุทธฯครั้งนี้ มีเสียงวิจารณ์กันให้แซ่ดว่ารัฐบาลถูกกดดันจากพระผู้ใหญ่ที่ไม่พอใจการตรวจสอบเรื่อง “เงินทอนวัด” หรือเปล่า

นี่คือหนังสือของ พันตำรวจโท พงศ์พร ที่ทำถึง คุณออมสิน ชีวะพฤกษ์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุเหตุผลรวมทั้งหมด 7 ข้อ สรุปก็คือการรับโอนและการให้ไปช่วยราชการเป็นผู้ตรวจราชการสำนักนายกฯนั้น ไม่ได้เป็นไปโดยความสมัครใจ และเรื่องนี้จะมีผลให้พ้นจากตำแหน่งจริงๆ นับแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ฉะนั้นวันนี้ตนเองยังอยู่ในตำแหน่งต่อไป และมีอำนาจหน้าที่ในตำแหน่งทุกประการ จนกว่าจะเข้าเงื่อนไข / ส่วนการตั้งบุคคลเข้ามารักษาราชการแทน ย่อมเข้ามาไม่ได้ เพราะคุณพงศ์พร บอกว่าตนยังไม่ได้ถูกย้ายไปไหน เนื่องจากคำสั่งย้ายยังไม่มีผล และไม่ได้เป็นไปตามกฎหมาย เพราะสำนักพุทธฯ ไม่ได้ขึ้นกับสำนักนายกรัฐมนตรี

เมื่อโดนโต้แย้งคำสั่งแบบนี้ นักข่าวก็ไปสอบถามคุณออมสิน ชีวะพฤกษ์ โดยรัฐมนตรีออมสิน บอกว่า นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ตนกำกับดูแลงานของสำนักพุทธฯ ดังนั้นถือว่าตนเป็นผู้บังคับบัญชาของ พันตำรวจโทพงศ์พร จะไม่รับคำสั่งของผู้บังคับบัญชาคงไม่ได้

ขณะที่ คุณวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย บอกว่า การจะไปหรือไม่ไปเป็นเรื่องของผู้บังคับบัญชา สำหรับกรณีของ พันตำรวจโทพงศ์พร แบ่งเป็น 2 ประเด็น / ประเด็นแรก เป็นเรื่องการโยกย้าย จะต้องเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณานำขึ้นกราบบังคมทูลฯ แต่ในระหว่างรอการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งที่จะต้องใช้เวลา จึงอาจเกิดปัญหาที่จะต้องเข้าไปจัดการ ทำให้ต้องหาคนเข้าไปรักษาราชการแทน ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติปกติของทางราชการ

ประเด็นที่สอง สำนักพุทธฯมีภาระในการร่วมจัดศาสนพิธี ในการถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ร่วมกับกรมการศาสนา จึงเป็นสาเหตุที่ ครม.เห็นชอบให้ นายมานัส ทารัตน์ใจ อธิบดีกรมการศาสนา ไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักพุทธฯคนใหม่ และตั้งใจว่าจะให้รักษาการในตำแหน่งเดิมต่อไปด้วย จนกว่าจะเสร็จงานพระราชพิธี

นอกจากนั้นยังมีกรณีที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ ที่สำนักพุทธฯและมหาเถรสมาคม จะต้องร่วมกันแก้ไขปัญหาให้กับผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน เพราะซื้อที่ดินมาโดยสุจริต ระหว่างนี้จึงต้องให้ นายกนก แสนประเสริฐ รองผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการ ไปเป็นผู้รักษาการช่วยงานไปพลางก่อน เนื่องจาก นายกนก มีความเชี่ยวชาญเรื่องการรังวัดที่ดิน ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาที่ดินอัลไพน์ได้ดี

แต่ทั้งหมดนี้หาก พันตำรวจโท พงศ์พร เห็นว่าคำสั่งโยกย้ายไม่เป็นธรรม คุณวิษณุ บอกว่า ก็สามารถยื่นอุทธรณ์ร้องเรียนได้ตามขั้นตอน โดยตนจะเข้าไปช่วยแก้ไขปัญหา ไม่เกิน 24 ชั่วโมงเรื่องต้องจบ

ปัญหานี้ โลกโซเชียลฯได้แสดงความเห็นและวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง โดยมีความเห็นแตกออกเป็น 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายที่สนับสนุน พันตำรวจโท พงศ์พร มองว่าคำสั่งโยกย้ายเป็นการกลั่นแกล้งอย่างไม่เป็นธรรม ทั้งๆ ที่ พันตำรวจโท พงศ์พร เป็นคนเก่ง คนดี มีความรู้ความสามารถ ทำงานสนองนโยบายรัฐบาลมาตลอด พอเสร็จภารกิจกลับโดนเขี่ยทิ้ง เข้าทำนอง “เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล”

ขณะที่ความคิดเห็นอีกฝ่ายหนึ่งเห็นด้วยกับคำสั่งโยกย้าย โดยบอกว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้ว เพราะช่วงที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักพุทธฯ ก็มีส่วนสร้างความแตกแยกในคณะสงฆ์ และภารกิจการสะสางปมทุจริตเงินทอนวัดก็ทำไม่สำเร็จ

ขอขอบคุณที่มา
http://www.nationtv.tv/main/content/social/378567593/