เรื่องเด่น หลวงปู่ศุขปราบผี!! สมภารวัดตายไม่ละกิเลสเป็นผีหวงวัด หาใครปราบไม่ได้กลายเป็นวัดร้าง เจอทีเด็ดหลวงปู่! แค่นิดเดียว ผีหายกระเจิง!!

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย ษิตา, 28 กุมภาพันธ์ 2017.

  1. ษิตา

    ษิตา ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    10,209
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,230
    ค่าพลัง:
    +34,711
    หลวงปู่ศุขปราบผี!! สมภารวัดตายไม่ละกิเลสเป็นผีหวงวัด หาใครปราบไม่ได้กลายเป็นวัดร้าง เจอทีเด็ดหลวงปู่! แค่นิดเดียว ผีหายกระเจิง!!

    65_1810.jpg


    พระครูวิมลคุณากร (หลวงปู่ศุข ) วัดปากคลองมะขามเฒ่า

    "ชีวประวัติของหลวงปู่ศุข"
    (ภูมิลำเนา - ชีวิตก่อนบวช ) หลวงปู่ศุข ท่านอยู่ในละแวก วัดมะขามเฒ่า อำเภอวัดสิงห์ จังหวัดชัยนาท ปัจจุบันยังมี ลูกหลานของท่านอยู่ที่บ้านใต้วัดปากคลองมะขามเฒ่าอีกหลายคน หรือแม้แต่ร้านค้าขายภายในบริเวณวัดเองก็ยังมี หลวงปู่ศุข ท่านใช้นามสกุล เกศเวชสุริยา อีกสกุลหนึ่ง ท่านเป็นบุตรคนโตในจำนวนพี่น้อง 9 คน ด้วยกัน เมื่อหลวงปู่ศุข อยู่ในวัยฉกรรจ์ ท่านได้เดินทางเข้ามาในกรุงเทพฯ ทำมาหากินค้าขายเล็กๆน้อยๆ โดยยึดลำคลองบางเขน ซึ่งมีปากคลองเชื่อมกับแม่น้ำเจ้าพระยาตอนใต้จังหวัดนนทบุรีลงมา ปัจจุบันอยู่ข้างทางเข้าวัดทางหลวง เป็นที่ทำมาหากิน คลองบางเขนนี้ทอดขึ้นไปเชื่อมกับคลองรังสิต เมื่อก่อนนี้เป็นเส้นทางหลักในการคมนาคมทางน้ำ ที่สำคัญ และกว้างขวางเป็นอย่างมาก เมื่อการคมนาคมทางบกเจริญขึ้น การสัญจรทางน้ำก็หมดความสำคัญลง ปัจจุบันคงจะตื้นเขินไปแล้วก็ได้ เพราะขาดการทนุบำรุงที่ควร หลวงปู่ศุข ท่านทำมาหากินอยู่ในคลองบางเขนอยู่ระยะหนึ่ง จนกระทั่งได้ภรรยาชื่อนางสมบูรณ์ และกำเนิดบุตรชายคนหนึ่งชื่อ สอน เกศเวชสุริยา

    บวช

    หลวงปู่ศุข ท่านครองเพศฆราวาสอยู่ไม่นาน พออายุท่านครบ 22 ปี ท่านได้ลาไปอุปสมบท ณ วัดโพธิ์บางเขน หรือปัจจุบันชื่อว่า วัดโพธิ์ทองล่าง ซึ่งอยู่ปากคลองบางเขนตอนล่าง ส่วนวัดโพธิ์ทองบน อยู่ตอนเหนือของปากคลองบางเขน ตอนบนบริเวณจังหวัดปทุมธานี พระอุปัชฌาย์ท่านชื่อ หลวงพ่อเชย จันทสิริ อดีตท่านเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ทองล่าง ซึ่งเป็นพระสงฆ์ ฝ่ายรามัญ ที่ถือเคร่งในวัตรปฏิบัติและพระธรรมวินัยเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลวงพ่อเชยท่านยังเป็นอาจารย์ ฝ่ายวิปัสสนาธุระ มีความรู้และความชำนาญรู้แจ้งแทงตลอด อีกทั้งทางด้านวิทยาคม ก็แก่กล้าเป็นยิ่งนัก หลวงปู่ศุข ท่านได้รับถ่ายทอดวิชาความรู้จากพระอุปัชฌาย์ของท่านมาพร้อมกับพระอาจารย์ เปิง วัดชินวนาราม และหลวงปู่เฒ่าวัดหงษ์ จังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นศิษย์ในสายหลวงพ่อเชย วัดโพธิ์ทองล่างเหมือนกัน

    1357988146.jpg



    ผีสมภารวัดร้าง

    "ผีสมภารวัดร้าง" ซึ่งนายยอด สุขทอง ลูกศิษย์คนหนึ่งของท่านรับฟังมาและนำมาเล่าต่อ ดังมีรายละเอียดดังนี้

    ครั้งนั้นหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จาริกธุดงค์ ไปนมัสการพระพุทธบาทจังหวัดสระบุรี เมื่อท่านได้ถวายอภิวาทต่อรอยพระบาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยความปีติอิ่มใจแล้วจึงได้เดินธุดงค์กลับวัดปากคลองมะขามเฒ่าของท่าน ระหว่างเดินทางกลับท่านได้จาริมาพบวัดร้างแห่งหนึ่งในเวลาเย็นย่ำสนธยา ซึ่งถึงกาลอันสมควรหาสถานที่เหมาะสมเพื่อปักกลด หลวงปู่ศุข พิจารณาวัดร้างแห่งนี้เห็นว่าพอจะอาศัย เป็นสถานที่พักผ่อนในราตรีกาลที่จะมาถึงได้ ท่านจึงแบกกลดเข้าไปในเขตธรณีสงฆ์แห่งนั้น

    บริเวณทั่วไปของวัดร้างสงัดเงียบ มีโบสถ์ ศาลาการเปรียญและกุฏิ พระครบสมบูรณ์ เพียงแต่ปราศจากพระเณรจำพรรษาคอยดูและรักษาทำนุบำรุง เสนาสนะต่างๆ ดังนั้นศาสนสถานโดยทั่วไปจึงชำรุดทรุดโทรมผุพังเป็นที่น่าสังเวช หลวงปู่ศุขรู้สึกแปลกใจระคนสงสัยทีวัดนี้ ไม่ควรจะปล่อยร้างวังเวงดังที่เห็น เพราะสังเกตดูที่ตั้งขอวัดก็อยู่ในพื้นภูมิทำเลที่เหมาะสม ไม่ใกล้ไม่ไกลจากหมู่บ้านชุมชนเท่าไหร่นัก เหตุใดจึงขาดผู้มีจิตกุศลศรัทธาอุปัฎฐากพระเณรถึงเพียงนี้ หลวงปู่เพียงแค่สงสัย แต่ไม่คิดใฝ่ใจใคร่รู้สาเหตุที่มาของวัดร้าง ท่านจึงมองหาที่พักสำหรับคืนนี้ เห็นบริเวณระเบียงด้านหน้ากุฏิหลังใหญ่ดูกว้างขวาง และเปิดโล่งโปร่งสบายก็ตรงไปยังที่นั้น วางอัฐบริขารลง แล้วไปเก็บแขนงไม้มารวมกันปัดกวาดพื้นให้สะอาดพอปูอาสนะได้

    ขณะที่หลวงปู่ศุข กำลังปัดกวาดอยู่นั้น มีชาวบ้านเป็นชาย 2 - 3 คน เดินมาหาท่านแล้วนั่งยกมือไหว้นมัสการ คนที่มีอาวุโสที่สุดถามขึ้นว่า "หลวงพ่อมาจากไหนขอรับ" พวกกระผมเห็นหลวงพ่อเดินลัดตัดทุ่งตรงมาที่นี่ จึงรีบมาพบ" "อาตมาไปนมัสการพระพุทธบาทสระบุรีมา

    กำลังจะกลับวัดปากคลองมะขามเฒ่า คืนนี้คงต้องพักที่วัดนี้ชั่วคราว พวกโยมเป็นคนบ้านนี้กระมัง""ใช่ขอรับ กระผมเองอยู่เลยหลังวัดนี้ไปไม่เท่าไหร่ เอ้อ หลวงพ่อขอรับ ท่านพักอยู่ตรงระเบียงหน้ากุฏินี้เห็นทีจะไม่เหมาะสมกระมังครับ" "ทำไมหล่ะโยม อาตมาเห็นว่าเป็นวัดร้างไม่มีใครดูแลเป็นเจ้าของจึงไม่ได้ขออนุญาตใคร"

    " ไม่ใช่เรื่องขออนุญาต หรือไม่ขออนุญาตหรอกขอรับ แต่พวกกระผมเป็นห่วงหลวงพ่อ กลัวว่าหลวงพ่อจะเจอเรื่องไม่ดีไม่งามเข้าตอนกลางค่ำกลางคืน " "เรื่องไม่ดีไม่งามที่โยมว่านั่นน่ะ มันเรื่องอะไร" ชายสูงวัยทำท่าอึกอักก่อนจะตัดสินใจไปกราบเรียน "ผีที่นี่เฮี้ยนเหลือกำลังขอรับหลวงพ่อสาเหตุที่วัดนี้กลายเป็นวัดร้าง ก็เพราะผีดุนี่แหละครับ กระผมเองเคยเป็นมัคทายกวัดนี้รู้เรื่องดีเชียวละ"แล้วอดีตมัคทายกก็เล่าเรื่องผีวัดร้างให้หลวงปู่ศุข ฟังว่า เมื่อก่อนวัดนี้มีพระเณรจำพรรษาไม่เคยขาด ชาวบ้านร้านตลาดมาทำบุญทำทานกันตลอดเวลา

    ต่อมาสมภารเจ้าวัดมรณภาพ ยังไม่ทันจะหาสมภารรูปใหม่มาปกครองดูแลวัด ผีสมภารเปิดฉากออกอาละวาดหลอกหลอนแทบทุกคืนจนพระเณรอกสั่นขวัญหาย แม้ชาวบ้านจะร่วมกันทำบุญแผ่กุศลสักเท่าไหร่ ผีสมภารก็ไม่ยอมไปผุดไปเกิด ยังคงหลอกหลอนเหมือนเดิม กระทั่งพระเณรทนไม่ไหวพากันหนีหายย้ายไปอยู่วัดอื่นหมด เคยมีพระใหม่ใจกล้ารับอาสาจะมาช่วยบูรณะวัดฟื้นฟูวัด แต่อยู่ได้ไม่กี่วันก็หอบอัฐบริขารจากไป เพราะผีสมภารเล่นงานหลวงปู่ศุขรับฟังอดีตมัคทายกวัดเล่าเรื่องผีสมภารโดยสงบ มิได้แสดงความคิดเป็นแต่ประการใด เมื่อมัคทายกกราบเรียนแนะนำให้ท่านย้ายที่ปักกลดไปอยู่นอกเขตวัดจะดีกว่า ท่านก็เฉยเสีย บอกแต่เพียงว่าคงไม่เป็นไร เพราะท่านมาอาศัยคืนเดียวแล้วก็ไป ผีสมภารคงไม่ทำอะไร

    เมื่อหลวงปู่ยืนยันเช่นนี้ ชาวบ้านก็จำต้องนมัสการกราบลากลับไป ทั้งที่ห่วงใยท่านจะทานวิญญาณร้ายของสมภารเจ้าวัดที่ตายไปไม่ไหว หลวงปู่กางกลด จัดวางบริขารและปูอาสนะเรียบร้อย เมื่อความมืดของราตรีมาเยือน วัดก็ยิ่งวังเวงหนักขึ้น หลวงปู่ไหว้พระสวดมนต์ทำวัตรเย็นตามกิจของท่านแล้วเข้ากลด เจริญสมาธิภาวนาเช่นที่เคยปฎิบัติมา โดยไม่มีเหตุการณ์ใดเกิดขึ้น ตราบกระทั่งดึกสงัด ก็ปรากฎเสียงบานหน้าต่างของกุฎิหลังใหญ่กระแทกเปิดปิดดังสนั่น ทั้งๆ ที่ประตูหน้าต่างใส่ดาลลั่นกลอนปิดสนิท จะเป็นเพราะลมก็ไม่ใช่เพราะเวลานั้นลมสงบเงียบเชียบ หลวงปู่ศุข กำลังพักผ่อนต้องลุกขึ้นมานั่ง คอยดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นต่อไปอีก

    ท่านก็ไม่ต้องคอยนาน เมื่อตรงหน้ากลดนั้นร่างดำมึนดูทะมึนของสมภารวัดได้ผุดวูบขึ้นมา ให้เห็นถนัดชัดเจน พร้อมกับพูดขึ้นด้วยเสียงแหบห้าวดุจไม่พอใจ " มาทำไม?" "ผมไปรุกขมูลมา จะขออาศัยนอนที่นี่สักคืน" หลวงปู่ศุข ตอบผีสมภารนิ่งแล้วหายวับ คราวนี้เกิดเสียงดังโครมครามสนั่นหวั่นไหว ภายในกุฎิไม่ยอมหยุด ประหนึ่งต้องการขับไล่หลวงปู่ศุข ทว่าหลวงปู่มิได้หวั่นไหวต่อการแสดงฤทธิ์ของผีสมภาร ยิ่งไปกว่านั้น ท่านยังรู้สึกสงสารเวทนาต่อดวงวิญญาณมิจฉาทิฐิ ที่หลงวนเวียนยึดเหนี่ยวในสถานที่นี้ไม่ยอมไปผุดไปเกิดในภพภูมิที่ดีกว่า ทั้งๆที่บวชเรียนในพระพุทธศาสนามานานถึงขึ้นเป็นสมภารเจ้าวัด หลวงปู่ศุข สำรวมจิตแผ่เมตตาไปให้ แต่เสียงสนั่นหวั่นไหวภายในกุฎิ ก็ไม่ยอมหยุด สวดมนต์อีกหลายบท ผีสมภารก็ยังไม่รับรู้ มิหนำซ้ำ ผีสมภารยังมาปรากฏร่างยืนตระหว่างตรงหน้ากลด แผดเสียงหัวเราะเย้ยหยันแล้วคำรามลั่นบอกว่า "ไม่กลัวหรอก มีคาถาอะไรก็ว่ามาอีกซิ"

    หลวงปู่ศุข เห็นผีสมภารดื้อด้านถึงเพียงนี้ ท่านจึงกล่าวออกมาดังๆว่า "อนิจจาเอ๋ยไม่เคยเห็น ผีตายหรือจะสู้กับผีเป็น นะโมพุทธายะ" ด้วยถ้อยคำประโยคนี้ ผีสมภารก็หายวับไป ไม่มีเสียงโครมครามใดๆ ตามมาอีก และหลวงปู่ศุขก็ไม่ใส่ใจสนใจอีกต่อไป เอนกายลงพักผ่อนตามปกติของท่าน

    new-8.jpg




    เช้าวันรุ่งขึ้นอดีตมัคทายกและชาวบ้านกลุ่มใหญ่รีบมาที่วัดแต่เช้า เห็นหลวงปู่ศุขเป็นปกติดีไม่มีอะไร ต่างปีตีดีใจเข้ามากราบไหว้นมัสการสอบถาม ว่าเมื่อคืนมีเหตุการณ์ร้ายๆอะไรเกิดขึ้นหรือไม่ หลวงปู่ไม่ตอบ ได้แต่ยิ้มๆ ทำนองมิให้ซักไซร้ให้มากความ ชาวบ้านจึงไม่กล้าละลาบละล้วงถามอีก จากนั้นก็กลับไปจัดหาภัตราหารเช้ามาถวาย

    เมื่อท่านกระทำภัตกิจเรียบร้อย ชาวบ้านนิมนต์ให้ท่านพักอยู่ที่นี่ก่อน เพื่อพวกเขาจะได้มีโอกาสทำบุญสร้างกุศลกันบ้าง หลวงปู่ศุข ก็เมตตารับนิมนต์ หลวงปู่พำนักอยู่ที่กุฎิร้างของสมภารเก่า ๕ คืน ไม่ปรากฏมีผีสมภารออกอาละวาดอีกเลย ท่านเห็นว่าสมควรแก่เวลาแล้วจึงเก็บอัฐบริขารเพื่อเดินทางต่อไปชาวบ้านอ้อนวอนให้ท่านเป็นสมภารวัดร้างแห่งนี้ แต่หลวงปู่ไม่อาจรับศรัทธาญาติโยมข้อนี้ได้

    กลับภูมิลำเนา

    หลวงปู่ท่านเพลินอยู่ในธรรมเสียหลายปี จนกระทั่งมารดาที่วัดปากคลองมะขามเฒ่าได้ชราภาพลงตามอายุขัย ด้วยความเป็นห่วงใยในมารดาและบิดา ท่านจึงได้เดินทางกลับภูมิลำเนาเดิม และได้อยู่จำพรรษาปีแรกๆที่วัดอู่ทองคลองมะขามเฒ่า ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่แต่โบราณที่อยู่ลึก เข้าไปในคลองมะขามเฒ่าหรือบริเวณต้นแม่น้ำท่าจีนในปัจจุบัน แต่ทว่าสภาพวัดในขณะนั้น ชำรุดทรุดโทรมลงตามสภาพ เกินกว่าที่จะบูรณะให้กลับคืนในสภาพที่ดีได้ต่อไป ท่านจึงได้ ขยับขยายออกมา ที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาและได้สร้างกุฏิขึ้นครั้งแรกหนึ่งหลังพอเป็นที่อยู่อาศัย ไปพลางก่อน

    16729157_1649010968736410_4128252897306846889_n.jpg

    ที่มา ขอบคุณข้อมูลจาก อิทธิปาฏิหาริย์ พระเครื่อง

    พระกรุ เกจิยุคเก่า

    ศักดิ์ศรี ทีมข่าวปัญญาญาณ รายงาน




    --------------------------
    ขอบคุณที่มา
    http://www.tnews.co.th/contents/303228
     
  2. เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา

    เทพบุตรลั้ลลาลั้ลลั้ลลาาา เพื่อมวลมนุษย์แลสรรพสัตว์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    872
    ค่าพลัง:
    +1,936
    IMG_20170222_012227.JPG
     
  3. Igiko_L

    Igiko_L เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    1,407
    ค่าพลัง:
    +2,836
    หนูขอกราบหลวงปู่ เป็นพระอาจารย์ด้วย คะ
    พระอาจารย์สุดยอดเลยค่ะ :):)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 มีนาคม 2017
  4. ra_15

    ra_15 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    155
    ค่าพลัง:
    +116
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  5. basu2763

    basu2763 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2016
    โพสต์:
    215
    ค่าพลัง:
    +3,773
    อนุโมทนาสาธุครับ
     
  6. bonuszaa118

    bonuszaa118 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    122
    ค่าพลัง:
    +44
    อนุภาพท่านแกร่งนัก
     

แชร์หน้านี้

Loading...