หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

รูปยิ้มถ้ามีอยากรอชมด้วยครับ..

 

ข้าพเจ้าขอนอบน้อมกราบนมัสการบูชาพระคุณของ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์สาวกครับ

ชมภาพที่ประทับใจกันต่อนะครับผม ^^

<a href="http://s1305.photobucket.com/user/pongba55/media/E1E0E480E2D0E2D0E380E1B0E040E380E150E430E190E420E1A0E2A0E160E4C01_zps80659aae.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1305.photobucket.com/albums/s546/pongba55/E1E0E480E2D0E2D0E380E1B0E040E380E150E430E190E420E1A0E2A0E160E4C01_zps80659aae.jpg" border="0" alt=" photo E1E0E480E2D0E2D0E380E1B0E040E380E150E430E190E420E1A0E2A0E160E4C01_zps80659aae.jpg"/></a>

<a href="http://s1305.photobucket.com/user/pongba55/media/E1E0E480E2D0E2D0E380E1B0E040E380E150E430E190E420E1A0E2A0E160E4C02_zps6bb402bf.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1305.photobucket.com/albums/s546/pongba55/E1E0E480E2D0E2D0E380E1B0E040E380E150E430E190E420E1A0E2A0E160E4C02_zps6bb402bf.jpg" border="0" alt=" photo E1E0E480E2D0E2D0E380E1B0E040E380E150E430E190E420E1A0E2A0E160E4C02_zps6bb402bf.jpg"/></a>

พระอรหันต์สาวก พระอุปคุตเถระเจ้า
ภาพในโบสถ์ วัดสันพระเจ้าแดง ครับผม

<a href="http://s1305.photobucket.com/user/pongba55/media/E040E230E390E1A0E320E2F0E170E480E320E190E080E310E1A0E230E390E1B0E2B0E250E480E2D0E2B0E250E270E070E1B0E390E480E1E0E340E2801_zps7ebfbde2.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1305.photobucket.com/albums/s546/pongba55/E040E230E390E1A0E320E2F0E170E480E320E190E080E310E1A0E230E390E1B0E2B0E250E480E2D0E2B0E250E270E070E1B0E390E480E1E0E340E2801_zps7ebfbde2.jpg" border="0" alt=" photo E040E230E390E1A0E320E2F0E170E480E320E190E080E310E1A0E230E390E1B0E2B0E250E480E2D0E2B0E250E270E070E1B0E390E480E1E0E340E2801_zps7ebfbde2.jpg"/></a>
ภาพนี้ประทับใจมาก ๆ ครับผม ^^

<a href="http://s1305.photobucket.com/user/pongba55/media/E1E0E350E480E150E310E490E210E190E270E140E400E170E490E320E170E480E320E1901_zps9f8256b0.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1305.photobucket.com/albums/s546/pongba55/E1E0E350E480E150E310E490E210E190E270E140E400E170E490E320E170E480E320E1901_zps9f8256b0.jpg" border="0" alt=" photo E1E0E350E480E150E310E490E210E190E270E140E400E170E490E320E170E480E320E1901_zps9f8256b0.jpg"/></a>

ภาพประทับใจมาก ๆ อีกภาพครับผม
พี่ตั้ม jedsadatum21นวดให้ท่านครูบากฤษดาครับ
ครูบา ฯ ท่านหันมายิ้มให้ เสียดายผมลืมเปิดเฟลช
( พี่jedsadatum21 เป็นผู้ที่คอยอุปฐากท่านครูบาฯ
ตั้งแต่ท่านไปอยู่กับ หลวงปู่พิศดู ที่วัดเทพธารทอง
จ.จันทบุรี แล้วครับผม ) ผมขออนุโมทนาบุญด้วย
นะครับผม พี่ตั้ม สาธุ สาธุ

<a href="http://s1305.photobucket.com/user/pongba55/media/E1E0E350E480E150E310E490E210E190E270E140E400E170E490E320E170E480E320E1904_zps384c4a96.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1305.photobucket.com/albums/s546/pongba55/E1E0E350E480E150E310E490E210E190E270E140E400E170E490E320E170E480E320E1904_zps384c4a96.jpg" border="0" alt=" photo E1E0E350E480E150E310E490E210E190E270E140E400E170E490E320E170E480E320E1904_zps384c4a96.jpg"/></a>

<a href="http://s1305.photobucket.com/user/pongba55/media/E1E0E350E480E150E310E490E210E190E270E140E400E170E490E320E170E480E320E1903_zpsefb58b78.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1305.photobucket.com/albums/s546/pongba55/E1E0E350E480E150E310E490E210E190E270E140E400E170E490E320E170E480E320E1903_zpsefb58b78.jpg" border="0" alt=" photo E1E0E350E480E150E310E490E210E190E270E140E400E170E490E320E170E480E320E1903_zpsefb58b78.jpg"/></a>

<a href="http://s1305.photobucket.com/user/pongba55/media/E1E0E350E480E150E310E490E210E190E270E140E400E170E490E320E170E480E320E1902_zpsa69e2058.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1305.photobucket.com/albums/s546/pongba55/E1E0E350E480E150E310E490E210E190E270E140E400E170E490E320E170E480E320E1902_zpsa69e2058.jpg" border="0" alt=" photo E1E0E350E480E150E310E490E210E190E270E140E400E170E490E320E170E480E320E1902_zpsa69e2058.jpg"/></a>

 

สาธุ โชคดีจริงๆน้องตั้ม

 

ได้มีโอกาสไปร่วมงานกดพระที่วัดครูบามาเหมือนกันค่ะ ครูบาท่านเมตตากับทุกๆคนและเป็นกันเองมากค่ะ แต่เสียดายคืนนั้นไม่ได้นอนค้างวัด วันนั้นครูบาท่านรดน้ำมนต์เพื่อสิริมงคลด้วยค่ะ ลูกศิษย์ครูบาและพี่ๆทุกคนก็ใจดีเป็นกันเอง ต้อนรับอย่างดีค่ะ สนุกและประทับใจมากค่ะ ^^

 

ขอบคุณน้องพงษ์ครับ.. งานนี้ผมและคณะที่ไปประทับใจมากครับ กะว่าถ้ามีโอกาสกดพระอีกเมื่อไหร่ อยากจะไปร่วมบุญกันอีกครับ..

 

สาธุ.. โมทนาด้วยครับท่านตั้ม..

 

<a href="http://s1305.photobucket.com/user/pongba55/media/E040E230E390E1A0E320E2F0E170E480E320E190E080E310E1A0E230E390E1B0E2B0E250E480E2D0E2B0E250E270E070E1B0E390E480E1E0E340E2801_zps7ebfbde2.jpg.html" target="_blank"><img src="http://i1305.photobucket.com/albums/s546/pongba55/E040E230E390E1A0E320E2F0E170E480E320E190E080E310E1A0E230E390E1B0E2B0E250E480E2D0E2B0E250E270E070E1B0E390E480E1E0E340E2801_zps7ebfbde2.jpg" border="0" alt=" photo E040E230E390E1A0E320E2F0E170E480E320E190E080E310E1A0E230E390E1B0E2B0E250E480E2D0E2B0E250E270E070E1B0E390E480E1E0E340E2801_zps7ebfbde2.jpg"/></a>


รูปเหมือนบูชาหลวงปู่พิศดูรุ่นนี้ ครูบาท่านบอกว่า เหมือนหลวงปู่มากเลยน่ะ..

 

สาธุๆ ขออนุโมทนาด้วยนะครับเป็นภาพที่ประทับใจมากครับ

 

รู้สึกว่าช่วงนี้จะได้ยินแต่ประสบการณ์เรื่องผู้ถูกกระทำด้วยคุณไสยบ่อยๆครับ.. ล่าสุดพระขรรค์แก้ววัชรจักร รุ่น2 มีประสบการณ์อีกแล้ว..!!!
พอดีพระอาจารย์โทรมาบอกว่าลูกศิษย์ท่านมีประสบการณ์พระขรรค์จะเล่าให้ฟัง เรื่องนี้ผมพอทราบมาบ้างแล้ว แต่รายละเอียดยังไม่ทราบมากนัก ไว้ขอสอบถามให้แน่ชัดอีกทีก่อน ถ้าทราบแล้วจะกลับมาเล่าให้ทุกท่านฟังกันอีกทีนะครับ..

 

ข้าพเจ้าขอนอบน้อมกราบนมัสการบูชาพระคุณของ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์สาวกครับ

อยากอ่านต่อแล้วครับ พี่ชาย

 

กราบหลวงปู่พิศดู กราบครูบากฤษดาครับ
วันเสาร์ที่22มี.ค.57
ผมได้ไปกดพระด้วยครับ ส่วนใหญ่ผมได้กดพิมพ์นี้ครับ
ภาพพื้นสีแดงนำมาจากสมาชิกที่ลงในเฟสบุค
ดีใจครับที่เจอสมาชิกในเวปพลังจิต เฟสบุค ไลน์หลายท่าน

 

รอติดตามประสบการณ์ครับ เพราะอีกวันสองวันผมก็จะออกไปตามสถานที่ต่างๆเช่นกัน แถบภาคอีสานแถบๆลำน้ำโขง จะนำพระขรรค์ติดตัวไปด้วย เพื่อความปลอดภัย

 

ผมไม่ถึงขนาดอุปฐากท่านครูบาหรอกครับ เคยได้มีโอกาสทำบุญกับท่านตอนที่อยู่วัดเทพธารทอง ท่านเมตตตาคุยและให้กำลังใจทั้งทางโลกและทางธรรม และครั้งล่าสุดที่นวดขาท่านครูบาท่าน ท่านเมตตาเป่าหัวให้นานครับ ท่านบอกว่าเวลาไปไนไปกู้ภัยให้นึกถึงพระอุปคุตกับหลวงปู่ไว้นะ ท่านจะคุ้มครอง ท่านเมตตาให้ใบโพธิ์เคลือบพลาสติกใส ท่านบอกไว้ป้องกันตัวนะ ไว้บังภัย แล้วท่านก็เมตตาให้กร๊าดครูบากับท้าวเวสสุวรรณมาแจกเพื่อนๆกู้ภัยครับ

 

พระกสิน สำนักวัดกลางบางแก้ว​

 

(ข้อมูลย่อจาก หนังสือลานโพธิ์ ฉบับ969 เดือนกุมภาพันธ์ 2550 ซึ่งเขียนโดย... คุณสุธน ศรีหิรัญ)
พระเครื่องเนื้อดินเผาของหลวงปู่บุญ สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2456 นับเป็นพระเครื่องชุดแรกๆ ที่หลวงปู่สร้างขึ้น ขณะนั้น อายุของหลวงปู่ราว 65 ปี ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกลางบางแก้ว และเป็นเจ้าคณะหมวดปกครอง คณะสงฆ์แล้ว “พ.ศ.2456” ซึ่งกล่าวว่าเป็นปีซึ่งสร้างพระเครื่องเนื้อดินเผานี้ได้รับคำยืนยันจากหลวงปู่เพิ่ม ซึ่งเล่าว่าขณะนั้นหลวงปู่เพิ่มบวชได้ราว 7-8 พรรษา ได้ช่วยสร้างพระเครื่องเนื้อดินดังกล่าวโดยเป็นคนกรองดินจากตุ่มหมักดิน ซึ่งเมื่อเทียบ พ.ศ. แล้วจะตรงกับ พ.ศ.2456 พอดี และเมื่อผู้เขียนสอบถามจากนายซ้ง ทยาพัชร ก็ได้รับคำยืนยัน พ.ศ.สร้างตรงกัน
เมื่อนำมาประกอบพิจารณาจากบาตรดินเผา ซึ่งมีเนื้อดินเหมือนเนื้อพระทุกประการ และใช้บรรจุพระเครื่องไว้ในเพดานมณฑป ที่บาตรดินดังกล่าวนั้นเขียนไว้ว่า “พ.ศ.2456” จากหลักฐานคำบอกเล่าจากผู้มีชีวิตทันร่วมสร้างพระเครื่องดังกล่าว และหลักฐานจากข้อความที่จารึกไว้ที่บาตรบรรจุพระ จึงพอจะยืนยันได้อย่างแน่นอนว่า พ.ศ. ซึ่งสร้างพระเครื่องเนื้อดินของหลวงปู่บุญนั้นเป็นปี พ.ศ.2456 ซึ่งนับถึงปีปัจจุบัน (2557) ก็รวมอายุพระเนื้อดินของหลวงปู่บุญได้ 100 ปีแล้ว นับว่ามีอายุการสร้างมานานไม่น้อย สภาพพระเนื้อดินของหลวงปู่บุญ เคยมีผู้สงสัยว่าวรรณะทำไมจึงแลดูสดใสไม่ปรากฏคราบกรุหรือคราบความเก่าปรากฏอยู่เลย จึงขอชี้แจงไว้ในส่วนแรกนี้เพื่อขจัดความสงสัยดังกล่าวนั้นเสียก่อนพระเนื้อดินเผา หลวงปู่ ปรากฏพบอยู่ตามบ้านคนทั่วไป ซึ่งเก็บเอาไว้บนหิ้งบูชาอย่างดี พระดังกล่าวผู้ได้รับไปได้รับสมัยหลวงปู่มีชีวิตอยู่มอบให้ไป จึงเก็บรักษาบูชาไว้อย่างดีสภาพพระที่อยู่ตามบ้านชาวนครชัยศรีจึงอยู่ในสภาพสมบูรณ์ทุกประการ

 

พระเครื่องเนื้อดินเผาซึ่งปรากฏออกจากกรุครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2501 โดยเด็กวัด (รวมทั้งผู้เขียนเองด้วย) เล่นฟุตบอลไปกระแทกซุ้มประตูมณฑป ด้านหน้าซึ่งชำรุดอยู่แล้วแผ่นปูนส่วนหน้าแตก พระเครื่องที่บรรจุไว้ภายในทะลักออกมา พระเครื่องซึ่งแตกออกมา คราวนั้นเป็นเนื้อดินเผาทั้งหมด และมีอยู่เพียงพิมพ์เดียวคือ “พิมพ์ปรกโพธิ์ใหญ่” ด้านหลังเป็นยันต์ปั๊มสี่เหลี่ยม มีอักขระปรากฏในช่องตารางสี่ช่องทั้งหมด และไม่เคยเห็นมีด้านหลังจารอักขระด้วยมือแม้แต่องค์เดียว เด็กๆ ได้นำพระไปคนละองค์ สององค์ ความทราบถึงหลวงปู่เพิ่ม ท่านมอบให้พระปลัดใบ คุณวีโร ไปนำพระมาเก็บไว้โดยนำใส่บาตรพระได้ประมาณ 5 บาตร แล้วนำไปเก็บไว้บนหอสวดมนต์ เมื่อพิจารณาจากสภาพกรุบนซุ้มประตูมณฑปแล้วจะเห็นว่าภายในเป็นห้องสี่เหลี่ยมโบกปูนสนิทแน่นทุกด้าน ไม่มีโอกาสที่น้ำจะไหลหรือซึมเข้าไปได้แม้แต่น้อย ดังนั้น สภาพพระจึงคงสภาพ ปกติสมบูรณ์ทุกประการนอกจากแสดงออกแห่งความแกร่งของเนื้อเท่านั้น
พระเครื่องเนื้อดินเผา ปรากฏออกจากกรุอีกครั้งหนึ่งเมื่อปี พ.ศ.2516 ขโมยเข้าโจรกรรมพระบูชาภายในมณฑปไปเป็นจำนวนมาก และพยายามจะปีนขึ้นไปบนเพดานด้านบนแต่สุดวิสัยจะทำได้ พระภายในวัดได้พบร่องรอยถูกงัดในตอนเช้าจึงนำความไปบอกหลวงปู่เพิ่ม ท่านจึงมอบให้พระปลัดใบ คุณวีโร ไปนำพระเครื่องซึ่งใส่บาตรเดินเผา ซึ่งบรรจุไว้บนเพดานมณฑป จำนวน 22 บาตร ลงมาทั้งหมด ซึ่งในครั้งนี้ปรากฏว่าในบาตรดินเผาเหล่านั้นเป็นพระเครื่องหลายเนื้อด้วยกัน มีทั้งเนื้อดินเผาและเนื้อผงผสมว่าน เนื้อโลหะมากมายหลายแบบหลายพิมพ์

 

การพบกรุพระทั้งสองคราวนั้น หลวงปู่เพิ่มเล่าว่า ท่านรู้เพราะว่าหลวงปู่บุญเป็นผู้ให้ท่านไปร่วมสวดบรรจุด้วยทุกครั้งที่มีการบรรจุกรุพระเครื่องในสมัยหลวงปู่บุญ ที่บริเวณวัดกลางบางแก้ว ดังนั้นท่านจึงยืนยันได้โดยทั้งสิ้นว่าพระเครื่องเหล่านั้นเป็นพระที่หลวงปู่บุญสร้างขึ้น อายุของดินเผา 81 ปี โดยไม่มีการได้รับความชื้น หรือฝังอยู่ในดินแช่อยู่ในน้ำ ย่อมมีสภาพสมบูรณ์สดใส ข้อนี้สามารถพิสูจน์ได้แน่นอน ท่านคงเคยเห็นอิฐซึ่งเป็นดินเผา สมัยอยุธยาก็ดีหรือต้นรัตนโกสินทร์ก็ตาม ซึ่งมีอายุนับ 100 ปี ซึ่งถูกฉาบปูนทับไว้เมื่อหักดูแล้วสภาพของดินเผาที่ยังคงสดใสเฉกเช่นกัน
หลวงปู่เพิ่มเคยเล่าเรื่องการสร้างพระเนื้อดินเผาของหลวงปู่บุญให้ผู้เขียนฟังครั้งหนึ่ง ต่อมา นายกาญจน์ สายกัลยา ได้เล่าว่าทราบจากญาติผู้ใหญ่เล่าว่าหลวงปู่บุญสร้างพระเครื่องอย่างไร เนื้อความที่เล่านั้นมีความตรงกันเป็นส่วนมาก จึงขอนำความนั้นมาเขียนไว้เพื่อเป็นหลักฐานต่อไป
- นายสุน หูตึง เป็นผู้งมดินเหนียว จากริมตลิ่งแม่น้ำนครชัยศรีขึ้นมาส่วนหนึ่ง
- ตาทุยและตามุ้ย บางกระเบา เป็นผู้ไปหาดินขุยปูรูอุดตัน จากทุ่งนามาผสม
- พระสิน เป็นผู้ร่อนทรายเสกและเม็ดแร่บด
- พระเพิ่ม (หลวงปู่เพิ่ม) เป็นผู้กรองดินจากตุ่มหมักดินกับน้ำ เพื่อให้ได้เนื้อดินละเอียด
บรรดาพระภายในวัดช่วยกันนวดดิน โดยมีหลวงปู่บุญนำผงมาผสมลงในเนื้อดิน กรรมวิธีการนวดดินใช้ไม้ไผ่ตอ ท่อนยาวประมาณ 2 วา ผูกปลายไว้ด้านหนึ่งด้วยหวายก็คันรับช่วงต้นทำเป็นโก่งแล้วคนนวดดินถือปลายอีกด้านหนึ่งกดลงกับดินซึ่งวางไว้ใต้คานไม้มีคนคอยปัดดินเข้าหากัน คนถือปลายไม้ก็มีหน้าที่โก่งกดนวดไปเรื่อยๆ จนได้ดินเหนียวได้ที่แล้วจึงช่วยกันกดพิมพ์

 

ตามที่กล่าวมานั้นเป็นคำบอกเล่าเรื่องวิธีการสร้างพระของหลวงปู่ เมื่อกดแม่พิมพ์แล้ว จึงปล่อยให้เนื้อดินแห้งสนิท จากนั้นจึงนำไปเผา สถานที่เผา คือใต้ต้นสมอพิเภกด้านหน้าวิหาร โดยขุดหลุมลงไปในพื้นดินแล้วสุมด้วยแกลบ เพื่อปลุกเสกโดยเดินกสิณลงไปในด้านเตโชธาตุ โดยเฉพาะยามกลางคืนท่านจะเดินจงกรมรอบเตาเผาซึ่งสุมไว้ข้ามคืน จนพระสุกดีแล้วจึงนำขึ้น
หลวงปู่เพิ่มเล่าว่า พระที่นำขึ้นมาแล้วนั้น หลวงปู่ท่านให้ใส่บาตรเดินเอาไปไว้บนหอสวดมนต์ แล้วท่านจะปลุกเสกอยู่ทุกวัน หลังจาก สวดมนต์แล้วเป็นประจำนานหลายปีติดต่อกันมาโดยไม่มีใครสนใจ พระเครื่องเหล่านั้น คงเป็นด้วยสมัยนั้นความนิยมพระเครื่องยังมีน้อยก็เป็นได้ ขณะพิมพ์พระเครื่องเนื้อดินนั้น หลวงปู่เพิ่มเล่าว่า หลวงปู่บุญท่านมาคุมอยู่ตลอดเวลา บางครั้งท่านก็หยิบพระที่พิมพ์แล้วมาลงจารด้านหลัง บางทีพระที่เผาแล้วท่านก็จาร ซึ่งจะพบว่าพระเนื้อดินบางองค์มีจารอักขระลายมือ งดงามหลายแบบต่างๆ กัน และนั่นก็คือ ลายมือจารของหลวงปู่บุญนั่นเอง
ประมาณว่าพระเนื้อดินนี้หลวงปู่บุญปลุกเสกอยู่ได้ประมาณ 20 ปีติดต่อกัน เพราะพระเครื่องจากหอสวดมนต์ทั้งหมด หลวงปู่ให้นำไปบรรจุกรุที่มณฑปเมื่อปี พ.ศ. 2476 เมื่อรื้อหอสวดมนต์เก่าสร้างซ่อมแซมใหม่ทั้งหลัง จึงได้เคลื่อนย้ายพระเครื่องจากหอสวดมนต์ไปตลอดเวลา 20 ปีนั้น หลวงปู่ท่านสวดมนต์บนหอสวดมนต์ประจำ เช้า-เย็น และปลุกเสกอยู่เป็นประจำ นับเป็นพระเครื่องที่มีการปลุกเสกนานที่สุดก็เป็นได้ ถือว่าเป็นพระเครื่องของหลวงปู่บุญที่น่าใช้ที่สุด เพราะท่านปลุกเสกนาน

 

(ภาพประกอบจากเว็ปพระเครื่องสุโขทัย)