สอบถามเรื่องภิกษุเหาะมาขอบรรลุธรรม

ในสมัยพุทธกาล ได้มี ภิกษุองค์หนึ่ง จากโลกอื่น เหาะมาขอจะบรรลุธรรมกับพระพุทธเจ้า แต่พระพุทธเจ้า ไม่อนุญาติ

1./ ผมอยากรู้ชื่อของพระท่านนั้น

2./ เรื่องราวของท่าน

3./ เรื่องของ จักรวาล โลก ว่าไม่ใช่มีแต่โลกของเรา ที่มีพระพุทธเจ้า.

 

คุณพงสิดเป็นพะม่ารื๋อขะเหมนคับ เห็นเขียนภาสาไทยเเปกๆ

 

เกือบถูกแล้ว ครับ
แล้วสิ่งที่ ผมเขียนไป คุณ neoworldเข้าใจไม่ครับ เพราะว่าผมอยากรู้จริงๆ ช่วยหาข้อมูล ให้ด้วยครับ ขอบคุณมากๆ

 

สงสัยจะลาวหรือไม่กระเหรี่ยง

 

ผมรอฟังคำตอบอยู่น่ะครับ

 

สัตตาวาสวรรคที่ ๓
ฐานสูตร
             [๒๒๕] ดูกรภิกษุทั้งหลาย มนุษย์ชาวอุตรกุรุทวีป ประเสริฐกว่าเทวดา
ชั้นดาวดึงส์และพวกมนุษย์ชาวชมพูทวีป ด้วยฐานะ ๓ ประการ ๓ ประการ
เป็นไฉน คือไม่มีทุกข์ ๑ ไม่มีความหวงแหน ๑ มีอายุแน่นอน ๑ ดูกรภิกษุ
ทั้งหลาย มนุษย์ชาวอุตรกุรุทวีปประเสริฐกว่าพวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ และพวกมนุษย์
ชาวชมพูทวีปด้วยฐานะ ๓ ประการนี้แล ฯ
             ดูกรภิกษุทั้งหลาย เทวดาชั้นดาวดึงส์ ประเสริฐกว่าพวกมนุษย์ชาวอุตร-
*กุรุทวีปและพวกมนุษย์ชาวชมพูทวีป ด้วยฐานะ ๓ ประการ ๓ ประการเป็นไฉน
คือ อายุทิพย์ ๑ วรรณะทิพย์ ๑ สุขทิพย์ ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เทวดาชั้น
ดาวดึงส์ ประเสริฐกว่าพวกมนุษย์ชาวอุตรกุรุทวีปและพวกมนุษย์ชาวชมพูทวีป
ด้วยฐานะ ๓ ประการนี้แล ฯ
             ดูกรภิกษุทั้งหลาย มนุษย์ชาวชมพูทวีป ประเสริฐกว่าพวกมนุษย์ชาว
อุตรกุรุทวีปและเทวดาชั้นดาวดึงส์ ด้วยฐานะ ๓ ประการ ๓ ประการเป็นไฉน
คือเป็นผู้กล้า ๑ เป็นผู้มีสติ ๑ เป็นผู้อยู่ประพฤติพรหมจรรย์อันเยี่ยม ๑ ดูกร
ภิกษุทั้งหลาย มนุษย์ชาวชมพูทวีปประเสริฐกว่าพวกมนุษย์ชาวอุตรกุรุทวีปและ
พวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ ด้วยฐานะ ๓ ประการนี้แล ฯ
จบสูตรที่ ๑

             เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ บรรทัดที่ ๘๔๑๗ - ๘๔๓๔. หน้าที่ ๓๖๔.

 

(ตอบข้อ๓ พระพุทธเจ้าเกิดขึ้นครั้งละองค์เท่านั้น
องค์อื่นๆที่ตถาคตตรัสไว้มีแต่เรื่องระยะเวลาที่ห่างกัน ไม่มีระยะทางไกลกัน
ถ้าเข้าใจข้อนี้ ก็เข้าใจข้อ ๑ และ ๒ ด้วยว่าไม่มีที่ ตถาคตตรัส แต่คนอื่นพูดและแต่งขึ้นมีแน่)
[๑๖๑] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่บุคคลผู้ถึงพร้อมด้วยทิฐิ จะพึงถือศาสดาอื่นนั้น
มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาสที่จะมีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย แต่ข้อที่ปุถุชนจะพึงถือศาสดาอื่น เป็นฐานะ
ที่จะมีได้ ฯ
[๑๖๒] ดูกรภิกษุทั้งหลาย ข้อที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าสองพระองค์ จะพึงเสด็จ
อุบัติขึ้นพร้อมกันในโลกธาตุเดียวกันนั้น มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาสที่จะมีได้ ดูกรภิกษุทั้งหลาย
แต่ข้อที่พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์เดียว จะพึงเสด็จอุบัติขึ้นในโลกธาตุอันหนึ่งนั้น
เป็นฐานะที่จะมีได้ ฯ

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๐
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๒ อังคุตตรนิกาย เอก-ทุก-ติกนิบาต
หน้าที่ ๒๙/๒๙๐

(ถึงพร้อมด้วยทิฐิ =บุคคลตั้งแต่ โสดาบัน ขึ้นไป)

 

ที่มีหลายองค์ คือ พระปัจเจกพุทธเจ้า มีอยู่ในภูเขาลูกเดียวกันมีมากถึง๕๐๐องค์ก็มีที่ตถาคต ตรัสไว้แต่ไม่ใช่ยุคเดียวกับพระพุทธเจ้า

[๒๔๙] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว พระปัจเจกพุทธ ๕๐๐ องค์ ได้อาศัยอยู่
ที่ภูเขาอิสิคิลินี้มานาน พระปัจเจกพุทธเหล่านั้น เมื่อกำลังเข้าไปสู่ภูเขานี้ คนแลเห็น แต่ท่าน
เข้าไปแล้ว คนไม่แลเห็น มนุษย์ทั้งหลายเห็นเหตุ ดังนี้นั้น จึงพูดกันอย่างนี้ว่า ภูเขาลูกนี้
กลืนกินฤาษีเหล่านี้ ชื่อว่า อิสิคิลิ นี้แล จึงได้เกิดขึ้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักบอก จัก
ระบุ จักแสดงชื่อของพระปัจเจกพุทธทั้งหลาย พวกเธอจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าวต่อไป
ภิกษุเหล่านั้นทูลรับพระผู้มีพระภาคว่า ชอบแล้ว พระพุทธเจ้าข้า ฯ

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๔

 

เท่าที่ข้าพเจ้าทราบ ไม่มี ภิกษุจากโลกอื่น ขอรับ เพราะ โลกมนุษย์ มีเพียงโลกเดียว แต่ ดาวดวงอื่น ก็มีสิ่งมีชีวิต ที่คล้ายคลึงมนุษย์แต่ไม่เหมือนมนุษย์ (ข้าพเจ้าเรียกว่า เทวดา หรือ เทพเจ้า) แต่เจริญก้าวหน้ากว่ามนุษย์ จักรวาล ในท้องฟ้าที่เราเห็น ก็มีเพียง จักรวาลเดียวขอรับ ไม่มีหลายจักรวาล
พระพุทธเจ้า ก็มีเพียง บนโลกมนุษย์ บนโลกอื่น เขาไม่เรียก พระพุทธเจ้าขอรับ เขาเรียก "ศาสนดาแห่งศาสนา" (ข้าพเจ้าบัญญัติชื่อเองนะขอรับ)
ถ้าอยากเห็นเทวดาที่มาจากโลกอื่น ก็มาดูที่ตัวข้าพเจ้าได้เลยขอรับ (อิ อิ อิ อิ อิ)

 

พระพุทธเจ้าที่บังเกิดในจักรวาลอื่นมีครับ แต่จะเกิดขึ้นจักรวาลละ2พระองค์ไม่ได้ พระมหาโมคคัลลานะยังเคยเหาะไปเที่ยวในจักรวาล แล้วหลงไปจักรวาลข้างเคียงไปกราบพระพุทธเจ้าในจักรวาลนั้นพระพุทธเจ้าในจักรวาลนั้นยังต้องส่งพระมหาโมคคัลลานะกลับตามฉัพรรณรังสี ในหนึ่งจักรวาล จะมีอบายภูมิ4 โลก4 สวรรค์6 รูปพรหม16 อรูปพรหม4 จะเป็นอย่างนี้หมดทุกอนันตจักรวาล ถ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีอยู่ตรัสรู้แค่ จักรวาลเดี่ยว แล้วมนุษย์หรือเทวดาสิ่งมีชีวิต โลกอื่นละครับ จะรู้เรื่องกฏแก่งกรรมการเวียนว่ายตายเกิดและนิพพานเช่นไร ความจริงจักรวาลเรานั้น(ชื่อมงคลจักรวาลของเราเพราะมีพระพุทธเจ้าตรัสรู5พระองค์) ไม่ได้มีอยู่แห่งเดี่ยวแต่มีมากถึงอนันตจักรวาล แล้วแต่ว่าพระโพธิ์สัตร์จะบำเพ็ญเพียนในขอบเขตจักรวาลไหน ก้อจะตรัสรู้ในของเขตจักรวาลนั้น มี ชาติเขตหมื่นจักรวาล มีอาณาเขตหรืออำนาจเขตอนันตจักรวาล มีวิสัยเขตหรือเขตแห่งอารมณ์ไม่มีขอบเขต รอผู้รู้ท่านต่อไป ขอบคุณครับ

 

เออ มันเพี้ยนจริงๆ ด้วยแฮะ

ก็ปัจจุบันอยู่ในกายสังขารมนุษย์ มันยังหลอกตัวเองว่าไม่ใช่มนุษย์

 

เหนือนคำตอบที่ผมกำลังหาอยู่เลย เพราะผมเคยได้ยินจากพระอาจาร์ ท่านหนื่ง ท่านก็พูดในทำนองนี่ ครับ

 

(คนธรรพเทพบุตรนามว่าปัญจสิขะ ยืนเรียบร้อย
แล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์จะขอกราบทูลข้อความที่ข้า
พระองค์สดับมาแล้ว รับมาแล้ว ต่อหน้าพวกเทวดาชั้นดาวดึงส์ แด่พระผู้มีพระภาค ฯ
พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า เชิญท่านบอกแก่พวกเราเถิดปัญจสิขะ ฯ)


ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ท้าวสักกะจอมเทพ ทรงยกพระคุณตามที่มีจริง ๘ ประการนี้แล
ของพระผู้มีพระภาค ขึ้นแสดงแก่เทวดาชั้นดาวดึงส์ ฯ

[๒๑๒] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ได้ยินว่า เพราะเหตุนั้น เทวดาชั้น ดาวดึงส์ได้สดับ
พระคุณตามที่มีจริง ๘ ประการของพระผู้มีพระภาคจึงปลื้มใจ เบิก บาน เกิดปีติและโสมนัสยิ่งกว่า
ประมาณ ในเทวดาเหล่านั้น เทวดาบางพวก กล่าวอย่างนี้ว่า ดูกรท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลาย โอหนอ
การที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๔ พระองค์ พึงอุบัติในโลก พึงทรงแสดงธรรมเหมือนพระผู้มีพระภาค
ข้อนั้น พึงเป็นไปเพื่อเกื้อกูลแก่ชนเป็นอันมากเพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์
โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้ง หลาย ฯ

เทวดาบางพวกกล่าวอย่างนี้ว่า ดูกรท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลาย พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๔
พระองค์ ยกไว้เถิด การที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๓ พระองค์ พึง อุบัติในโลก พึงทรงแสดงธรรม
เหมือนพระผู้มีพระภาค ข้อนั้นก็จะพึงเป็นไป เพื่อเกื้อกูลแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อความสุขแก่ชน
เป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์
ทั้งหลาย ฯ

เทวดาบางพวกกล่าวอย่างนี้ว่า ดูกรท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลายพระสัมมา สัมพุทธเจ้า ๓
พระองค์ ยกไว้เถิด การที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ๒ พระองค์ พึง อุบัติในโลก พึงทรงแสดงธรรม
เหมือนพระผู้มีพระภาค ข้อนั้นก็จะพึงเป็นไป เพื่อ เกื้อกูลแก่ชนเป็นอันมาก เพื่อความสุขแก่ชน
เป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์
ทั้งหลาย ฯ

ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อเทวดาทั้งหลายกล่าวอย่างนี้ ท้าวสักกะจอมเทพ ได้ตรัสกะ
เทวดาชั้นดาวดึงส์ว่า ดูกรท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลาย ข้อที่พระอรหันตสัมมา สัมพุทธเจ้า ๒ พระองค์
พึงอุบัติในโลกธาตุเดียวกัน ไม่ก่อนไม่หลังนี้ ไม่ใช่ ฐานะ ไม่ใช่โอกาส ข้อนี้ไม่ใช่ฐานะที่จะมี
ได้ ดูกรท่านผู้นิรทุกข์ทั้งหลาย ขอ ให้สมความหวัง ขอพระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น มีพระอาพาธ
น้อย มีพระโรคเบา บาง พึงดำรงอยู่ตลอดกาลนาน ข้อนั้นก็จะพึงเป็นไปเพื่อเกื้อกูลแก่ชนเป็น
อันมาก เพื่อความสุขแก่ชนเป็นอันมาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อ
ความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ฯ

(ย่อมาจาก)
พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๐
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค
หน้าที่ ๑๗๑/๒๖๑

ไม่ก่อนไม่หลังนี้=เวลาที่ใกล้กันยังเป็นไปไม่ได้เลย เวลาเดียวจะมีได้หรือ

 

(๑๐) ย่อมรู้ชัดว่า ข้อที่มิใช่ฐานะ มิใช่โอกาส คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธ ๒ พระองค์
พึงเสด็จอุบัติในโลกธาตุเดียวกัน ไม่ก่อนไม่หลัง กัน นั่นไม่ใช่ฐานะที่มีได้ และรู้ชัดว่า
ข้อที่เป็นฐานะมีได้แล คือ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธพระองค์เดียว พึงเสด็จอุบัติในโลกธาตุเดียว
นั่นเป็นฐานะที่มีได้ ฯ

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๔

 

ตอบท่านเจ้าของกระทู้ที่ถามทางpm โลก4หมายความว่า ใน1จักรวาลจะมีโลกมนุษย์อยู่4โลกคือ ปุพพวิเทหโลก อปรโคยานโลก อุตรกุรุโลก และชมพูโลก(โลกเราเนี้ยหรือชมพูทวีป) โดยลอยอยู่ในอากาศ(อวกาศ) ในระดับเดี่ยวกับไหล่เขาสุเมรุ และมีสีต่างกันไป อายุในโลกก้อต่างกันไป ความสามารถในการสร้างบารมีก้อต่างกันไป แต่ชมพูโลกหรือโลกของเรา สามารถสร้างบารมีได้ไม่มีประมาณ และสร้างบาปได้ไม่มีประมาณได้เช่นเดี่ยวกัน มีอายุยืนถึง1อสงไขย์(1บวกศูนย์140ตัวคือจำนวน1อสงไขย์) และสั้นสุด10ปี และพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะมาตรัสรู้ที่ชมพูโลกนี้เท่านั้น ในจักรวาลอื่นก้อเหมือนกันครับ ไม่ไปเกิดที่โลกอื่น เหตุทำไมต้องชมพูโลก เพราะการทำบุญให้ได้มากที่สุดก้อคือภพมนุษย์ชมพูโลกเท่านั้น พระโพธิสัตว์ทั้งหลายและสาวกจึงลงมาสร้างบารมีที่ชมพูโลกเท่านั้น คงจะหายสงสัยบ่างแล้วนะครับ รอผู้รู้ท่านต่อไป ขอบคุณครับ

 

ดูกรอานนท์ เทวดาในหมื่นโลกธาตุมา ประชุมกันโดยมาก
เพื่อจะเห็นตถาคต เมืองกุสินารา สาลวัน อันเป็นที่แวะพัก แห่งพวกเจ้ามัลละเพียงเท่าใด โดย
รอบถึง ๑๒ โยชน์ ตลอดที่เพียงเท่านี้ จะหา ประเทศแม้มาตรว่าเป็นที่จรดลงแห่งปลายขนทราย
อันเทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ไม่ถูก ต้องแล้วมิได้มี พวกเทวดายกโทษอยู่ว่า พวกเรามาแต่ที่ไกลเพื่อจะ
เห็นพระตถาคต พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเสด็จอุบัติในโลก ในบางครั้งบางคราว
ใน ปัจฉิมยามแห่งราตรีในวันนี้แหละ พระตถาคตจักปรินิพพาน ก็ภิกษุผู้มีศักดิ์ใหญ่ รูปนี้ ยืนบัง
อยู่เบื้องพระพักตร์พระผู้มีพระภาค พวกเราไม่ได้เห็นพระตถาคตใน กาลเป็นครั้งสุดท้าย ฯ

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๐
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๒ ทีฆนิกาย มหาวรรค
หน้าที่ ๑๑๓/๒๖๑

ข้อนี้ข้าพเจ้าได้สดับมาเฉพาะพระพักตร์ ได้รับเรียนมา
เฉพาะพระพักตร์พระผู้มีพระภาคว่า พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย ในอนาคต จักเป็นผู้มี
ความรู้เสมอเท่ากับเราในสัมโพธิญาณ ข้อนี้ข้าพเจ้าได้สดับมา เฉพาะพระพักตร์ ได้รับเรียนมา
เฉพาะพระพักตร์ พระผู้มีพระภาคว่า ข้อที่ พระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ๒ พระองค์
จะเกิดพร้อมกันในโลกธาตุเดียวกันนั้น ไม่ใช่ฐานะ ไม่ใช่โอกาส นั่นเป็นฐานะที่จะมีไม่ได้ ฯ
[๙๒] ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ เมื่อข้าพระองค์ถูกเขาถามอย่างนี้ ตอบ อย่างนี้ จะนับว่า
เป็นผู้กล่าวตามพระพุทธพจน์ที่พระผู้มีพระภาคตรัสไว้แล้วแล ไม่ ชื่อว่ากล่าวตู่พระผู้มีพระภาค
ด้วยคำไม่จริงแลหรือ ชื่อว่าแก้ไปตามธรรมสมควรแก่ ธรรมแลหรือ ทั้งการโต้ตอบอันมีเหตุ
อย่างไรๆ มิได้มาถึงสถานะอันควรติเตียน แลหรือ ฯ
ถูกแล้วสารีบุตร เมื่อเธอถูกเขาถามอย่างนี้ แก้อย่างนี้นับว่าเป็นผู้กล่าวตามพุทธพจน์
ที่เรากล่าวแล้วทีเดียว ไม่ชื่อว่ากล่าวตู่เราด้วยคำไม่จริง ชื่อว่าแก้ ไปตามธรรมสมควรแก่ธรรม
ทั้งการโต้ตอบอันมีเหตุอย่างไรๆ ก็มิได้มาถึงสถานะ อันควรติเตียน ฯ

พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๑
พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๓ ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค
หน้าที่ ๘๙/๒๘๘

(ลองเทียบหลายๆสำนวนการแปลดูนะครับ ใครเก่งบาลี ลองไปหาดูนะครับ ว่าบาลีเหมือนกันหรือเปล่า)

 

อินทรบุตร อ้างอิง:
ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ telwada อ่านข้อความ
เท่าที่ข้าพเจ้าทราบ ไม่มี ภิกษุจากโลกอื่น ขอรับ เพราะ โลกมนุษย์ มีเพียงโลกเดียว แต่ ดาวดวงอื่น ก็มีสิ่งมีชีวิต ที่คล้ายคลึงมนุษย์แต่ไม่เหมือนมนุษย์ (ข้าพเจ้าเรียกว่า เทวดา หรือ เทพเจ้า) แต่เจริญก้าวหน้ากว่ามนุษย์ จักรวาล ในท้องฟ้าที่เราเห็น ก็มีเพียง จักรวาลเดียวขอรับ ไม่มีหลายจักรวาล
พระพุทธเจ้า ก็มีเพียง บนโลกมนุษย์ บนโลกอื่น เขาไม่เรียก พระพุทธเจ้าขอรับ เขาเรียก "ศาสนดาแห่งศาสนา" (ข้าพเจ้าบัญญัติชื่อเองนะขอรับ)
ถ้าอยากเห็นเทวดาที่มาจากโลกอื่น ก็มาดูที่ตัวข้าพเจ้าได้เลยขอรับ (อิ อิ อิ อิ อิ)

เออ มันเพี้ยนจริงๆ ด้วยแฮะ

ก็ปัจจุบันอยู่ในกายสังขารมนุษย์ มันยังหลอกตัวเองว่าไม่ใช่มนุษย์


--------------------------------------------------------------------------------------

ฮ่า .. ฮ่า... เองผู้มีปัญญอันน้อยนิด แค่ภาษาไทยเองยังอ่านไม่ได้รู้เรื่อง ดีแต่ทำเป็นวางฟอร์มสอนคนนั้นสอนคนนี้ บางที สอนให้เจริญสติ เองรู้เหรอ ว่า เจริญสติ เจริญอย่างไร ไหนลองตอบมาซิ เจ้าผู้ใช้ชื่อว่า อินทรบุตร (เปลี่ยนเป็น บุตรอย่างอื่นดีกว่ามั้ง)
เองคิดว่าข้าพเจ้าเพี้ยน ก็มาพิสูจน์ซิจ๊ะ มัวแต่เห่าหอน(ขออภัย)อยู่นั่นแหละ ผิดวิสัยของมนุษย์นะขอรับ

 

"เมื่อมาถึงประมาณปี 2524 - 2526 ความคิดของข้าพเจ้าเริ่มหมุนกลับ ถึงกับรู้สึกว่าตัวเอง เป็นลูกของพระมหากษัตริย์ แต่เมื่อไปพบจิตแพทย์ ก็ได้รับคำตอบว่า ผมอยู่ในภาวะสับสน เมื่อรู้แล้ว ผมจึงได้หายคิดบ้าๆแบบนั้น

แต่อยู่มา ข้าพเจ้า ก็ค้นพบวิชชา 3 วิชชา 8 ซึ่งข้าพเจ้าเอง จำเป็นต้องค้นหา เพราะเมื่อได้เริ่มฝึกฝน พบความลำบากมากมาย ไม่ฝึกก็ไม่ได้ เหมือนมีใครคอยคุมอยู่ ไม่ฝึกก็จะเหตุต่างๆอันไม่ดีเกิดขึ้นกับข้าพเจ้า ไม่ฝึกก็จะมีอาการคล้ายกับคนบ้าเดี๋ยวดีเดี๊ยวร้าย สับสน"

"2. มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้นกับข้าพเจ้า มีอยู่ช่วงหนึ่งที่หากข้าพเจ้า อ้าปากโลกทั้งหมด ก็จะเข้ามาอยู่ในปากของข้าพเจ้า "

"ลืมบอกไปอย่างหนึ่งว่าที่สำคั_ที่สุด ฉัพพรรณรังสีที่เกิดจากสรีระร่างกายของข้าพเจ้านั้น มีหลายสี และทุกคนสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
ข้าพเจ้ากล้าท้าให้พิสูจน์ได้ด้วยขอรับ"

http://palungjit.org/threads/telwada-ทำไมจึงคิดว่าตัวเองเป็น-พระศรีอารย์.202/

ตอนนี้ telwada ยังมีรังสีที่คนอื่นเห็นได้ด้วยตาเปล่าอยู่ไหม?