หลวงพ่อสิริ สิริวัฑฒโน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย guawn, 13 มีนาคม 2010.

  1. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,625
    ถ้าตอบตามความรู้คงเป็นพระธาตุใช่ไหมครับ
    ขนาดพรแจกท่านยังดีขนาดนี้เลย
    เหมือนหลวงปู่ทิมวัดพระขาวเลยครับชานหมากแจกฟรีต่อมามีคนต้องการเยอะมากเลย
     
  2. sunny2

    sunny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,293
    ค่าพลัง:
    +3,808
    ใจผมก็คิดว่าคงจะเป็นอย่างนั้นแหละครับ แต่จริงๆก็ไม่ทราบเหมือนกันครับว่าคืออะไร พระของหลวงพ่อสิริฯก็เป็นพระที่พวกเซียนพระเค้าเรียกว่าพระโรงงานครับ แต่เวลามีคนนำไปเช็คพลังนี่สุดยอดเลยครับ :cool:
     
  3. auto1471

    auto1471 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,472
    ค่าพลัง:
    +6,418
    พี่โป้ โทรถาม อ.จเร ดิ ไปกราบนมัสการหลวงพ่อกัน
     
  4. สิงโตหิน

    สิงโตหิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กันยายน 2008
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +209
    อยากสอบถามผู้รู้ ผมแขวนพระชัยวัฒน์ของหลวงพ่อสิริอยู่
    ถ้าจะสวดมนต์ในสายของหลวงพ่อสิริ ก่อนนอนควรสวดบทไหนดีครับ
     
  5. sunny2

    sunny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,293
    ค่าพลัง:
    +3,808
    ผมเคยถามถึงคาถาที่หลวงพ่อฯท่านใช้บ่อยๆ คือ "จิ เจ รุ นิ" ว่าหมายความว่าอย่างไร ท่านบอกว่า "อธิบายสามวันก็ไม่จบนะ" แต่ส่วนใหญ่ท่านจะให้ระลึกถึงคุณ 5 ประการตลอดครับ คือ คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระสงฆ์ คุณบิดามารดา คุณอุปัชฌาย์ครูบาอาจารย์ ครับ

    ในความเห็นผมส่วนตัว ผมว่าให้ระลึกถึงคุณ 5 ประการแล้วสวดมนต์บทไหนก็ได้ที่เราชอบ หรือจะภาวนา "จิ เจ รุ นิ" ไปจนหลับก็ได้ครับ
     
  6. auto1471

    auto1471 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,472
    ค่าพลัง:
    +6,418

    "จิ เจ รุ นิ" เป็นหัวใจพระคาถาพระไตรปิฏกครับ....
     
  7. poman

    poman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    12,300
    ค่าพลัง:
    +35,301
    :cool: จะไปชวนผมด้วยนะคร้าบบบบบบบ ^^
     
  8. kang_som

    kang_som เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    11,853
    ค่าพลัง:
    +27,806
    ไปด้วยยยยยยยยย คนจ้า.................
     
  9. ธรรมประทีป

    ธรรมประทีป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    2,208
    ค่าพลัง:
    +6,617




    ผมขออนุญาติ
    คุณsunny2 นำมาเผยแพร่ต่อนะครับ

    สาธุ อนุโมทนาบุญครับ


    ...
     
  10. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,625
    เซียนก็พูดไปทั่วแหละครับ
    ผมละเกียจเซียนพระมากเลยครับยิ่งชอบหาว่าพระคนอื่นปลอม
    แต่ของตัวเองแท้นะโหยิ่งเกียจเลยผมไม่เคยเชื่อถือเซียนพระสักคนนอกจาก
    คนที่สามรถจับพลังวัตถุมงคลได้
     
  11. sunny2

    sunny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,293
    ค่าพลัง:
    +3,808
    อนุโมทนาบุญในการเผยแพร่ด้วยครับ
     
  12. sunny2

    sunny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,293
    ค่าพลัง:
    +3,808
    [​IMG]

    ขึ้นชื่อว่าเซียนก็อย่างว่าแหละครับ พระของหลวงพ่อเซียนไม่สนใจหรอกครับเพราะพระที่หลวงพ่อสิริฯท่านแจกส่วนใหญ่เป็นพระที่โยมอุปัฎฐากสั่งจากโรงงานทำพระมีมากมายหลากหลายพิมพ์ บางพิมพ์ก็เป็นพิมพ์ที่ถอดพิมพ์จากพระเกจิอาจารย์ต่าง ๆ ซึ่งมีจำนวนมาก หากจะเล่นหากันก็คงลำบากเพราะไม่มีเอกลักษณ์ เช่น พระสมเด็จฯ พระปิดตา ฯลฯ ซึ่งมีมากมาย บรรดาลูกศิษย์อย่างพวกผมก็อยากจะให้คนอื่นรู้ เวลาหลวงพ่อท่านแจกพระมาให้ พวกผมก็ขออนุญาตท่านปั๊มตรายางชื่อหลวงพ่อเอาไว้เพื่อจะได้แยกแยะได้ว่าเป็นพระของหลวงพ่อ หรือเวลาแจกคนอื่นไปคนอื่นจะได้รู้ว่าเป็นพระที่หลวงพ่อสิริฯท่านเสก เว้นแต่บางพิมพ์ที่ลูกศิษย์ลูกหาจัดสร้างก็จะใส่ชื่อหลวงพ่อเอาไว้ซึ่งก็มีจำนวนมาก

    พระของหลวงพ่อนี่มากจริงๆนะครับ เพราะท่านแจกมาตั้งนานแล้ว มีเยอะมาก ทุกวันนี้บางพิมพ์ที่พวกผมเพิ่งจะมาเห็นก็มี ทั้งที่ตามเก็บพระของหลวงพ่อกันมาพอสมควร โดยเฉพาะตะกรุดของหลวงพ่อนี่ผมว่าถ้ารวมๆทั้งดอกใหญ่ดอกเล็กดอกน้อยที่หลวงพ่อแจกมานี่น่าจะหลักหมื่นดอก หรือดีไม่ดีเป็นแสนดอกครับ อย่างเช่นตะกรุดของพี่คนตลาดพลูคนเดียวนี่ก็หลายสิบดอกแล้วครับ และเวลาหลวงพ่อท่านแจกพระหรือแจกตะกรุดท่านแจกทีนึงนี่ไม่ใช่น้อยๆ ทีละกำมือเวียนหลายๆรอบ เวลาไปกราบหลวงพ่อครั้งนึงได้พระกลับบ้านเป็นร้อยๆองค์ พี่ธรรมประทีปคงทราบ แต่พระของหลวงพ่อทุกองค์นี่ผมว่าสุดยอดจริงๆครับ ตอนนี้ดูเหมือนไม่มีค่าแต่ต่อไปจะหากันแทบพลิกแผ่นดิน

    เดี๋ยวผมจะค่อยๆทยอยมาเล่าเรื่องของหลวงพ่อสิริฯที่ผมได้มีโอกาสได้รู้จักท่านได้มีโอกาสกราบท่านเป็นครูบาอาจารย์ และประสบการณ์ต่างๆที่ได้ประสบทั้งของผมเองและบรรดาลูกศิษย์ของหลวงพ่อที่ผมได้รับฟังมา รวมถึงพระเครื่องและตะกรุดของหลวงพ่อทั้งหมดที่ผมได้พยายามรวบรวมมา จะค่อยๆนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMGP8429.JPG
      IMGP8429.JPG
      ขนาดไฟล์:
      182.3 KB
      เปิดดู:
      1,888
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2013
  13. poman

    poman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    12,300
    ค่าพลัง:
    +35,301
  14. auto1471

    auto1471 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    1,472
    ค่าพลัง:
    +6,418

    สวยๆๆๆๆ มาก :cool::cool:
     
  15. บุญเก่า

    บุญเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +3,525
    พระคาถา จิเจรุนิ คือพระคาถา หัวใจพระสังคหะ จะใช้ในลักษณะเสกตริงคาถาอื่น ๆ เช่นจิเจรุนิ อิสะเยนะ วิกึงคะเร เมื่อตกอยู่ในท่ามกลางอันตรายใช้ภาวนากันได้ทมั้งปวงครับ ประเสริฐนักแล
    บทของท่านครูบาอาจารย์ ให้ระลึกถึงคุณ บิดามารดา ครูบาอาจารย์
    ที่สูงสุดยอด แล้วอธิฐานตั้งจิตให้มั่นพระชัยวัฒน์ท่านสุดยอดแล้วครับท่านผู้บูชา
     
  16. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,625

    ผมแค่เห็นรูปหลวงพ่อผมก็หายเครียดแล้วครับ
    เรียนมาเหนื่อยๆมาดูรูปท่านก็หายเครียดแล้วครับ
    ผมว่าท่านแจกโดยไม่หวังปัจจัยใดๆทั้งสิ้นเลยนะครับ
    พี่โชคดีจังครับได้พระหลวงพ่อผมเพิ่งรู้จักหลวงพ่อเพราะเห็นขุนแผนของท่านจากพี่โป้ครับผมว่าพระท่านห้อยแล้วสบายใจมากแน่เลย
     
  17. watjang2

    watjang2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,146
    ค่าพลัง:
    +5,017

    อาจารย์จเร ดวงธรรม
    มาตอบเองเลย

    กราบอาจารย์ด้วยครับ
     
  18. sunny2

    sunny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,293
    ค่าพลัง:
    +3,808
    พูดถึงประวัติหลวงพ่อสิริฯหากจะหาข้อมูลในระบบอินเตอร์เน็ทก็จะมีข้อมูลที่ซ้ำๆกันและส่วนใหญ่จะเป็นประวัติคร่าวๆ วันนี้ผมจะนำข้อมูลประวัติของหลวงพ่อที่ท่านอนุญาตให้ลูกศิษย์ใกล้ชิดเป็นผู้พิมพ์เผยแพร่เป็นที่ระลึกในงานทำบุญอายุครบ 4 รอบ (28 พรรษา) ของหลวงพ่อเมื่อวันทีี่ 2 พฤษภาคม 2531 จัดพิมพ์ถวายทั้งหมดจำนวน 1,000 เล่ม ถือว่าเป็นประวัติของหลวงพ่อที่เป็นทางการเล่มเดียวครับ ผมเองก็มีแต่สำเนาถ่ายเอกสารมาอีกทอดหนึ่งจึงนำมาเผยแพร่ให้ลูกศิษย์ผู้ที่นับถือหลวงพ่อได้อ่่านกัน โดยผมถอดความทั้งหมดจากหนังสือดังกล่าวครับ ขอเชิญอ่านครับ

    [​IMG]

    คำปรารภ

    หนังสือที่ระลึกในงานทำบุญอายุครบ 4 รอบ (28 พรรษา) ของหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน เล่มนี้เป็นหนังสือเล่มแรกที่ลงประวัติของท่าน ได้มีลูกศิษย์หลายคนประสงค์จะพิมพ์หนังสือประวัติของท่าน เพื่อเผยแพร่มาหลายครั้งแล้ว แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ในที่สุดข้าพเจ้าเป็นผู้โชคดีคนแรกที่ได้มีโอกาสจัดพิมพ์ประวัติของท่าน ข้าพเจ้าและครอบครัวรู้สึกปลื้มปิติมากที่ได้จัดพิมพ์ประวัติของท่านพร้อมทั้ง บทคาถา บทสวดมนต์ต่าง ๆ ที่หลวงพ่อได้ใช้อยู่ในการปฏิบัติภารกิจประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้มีโอกาสเผยแพร่ในงานอันเป็นมงคลเนื่องในวันคล้ายวันเกิดของท่าน

    ข้าพเจ้าและครอบครัวมีความศรัทธามาตั้งแต่ท่านยังเป็นเณร ซึ่งขณะนั้นอายุได้เพียง 17 ปี ความศรัทธาเกิดขึ้นตั้งแต่ได้พบเห็นท่านครั้งแรก ด้วยท่านมีลักษณะพิเศษคือ มีมือยาว เท้ายาว และหูยาว ซึ่งไม่เคยพบเห็นผู้ใดมาก่อน นอกจากนี้ท่านยังมีลักษณะสงบ เยือกเย็นและมีจริยาวัตรอันงดงามมาก แม้ว่าท่านจะพูดน้อยมาก คำพูดแต่ละคำแต่ละประโยคมีความหมายลึกซึ้ง ยังผลให้เกิดความประทับใจเป็นอันมาก ในระยะแรกข้าพเจ้าเองก็ยังไม่ทราบนามของท่านที่แท้จริง แต่ก็ได้ตั้งฉายาว่า ”หลวงพ่อพระศรีอาริย์” โดยเป็นที่รู้กันในครอบครัวของข้าพเจ้าว่าเมื่อกล่าวถึงหลวงพ่อสิริ ก็จะเรียกนามท่านว่า หลวงพ่อพระศรีอาริย์ ทุกครั้งไป ข้าพเจ้าและครอบครัวมีความเคารพนับถือศรัทธาท่านมาก สิ่งที่ทำให้ข้าพเจ้าและครอบครัวเลื่อมใสก็ด้วยแนวธรรมที่ท่านได้ปฏิบัติเสมอมา คือท่านยึดหลักสมถะ ปราศจากความโลภ โกรธ หลง ซึ่งเป็นหนทางที่ทำให้หลุดพ้นจากความทุกข์ที่แท้จริงได้ ด้วยเมตตาบารมีแก่ประชาชนทุกชนชั้นวรรณะ จึงสมควรยกย่องท่านในฐานะพระอาจารย์ชั้นสูงเยี่ยง หลวงปู่ หลวงพ่อ ที่เป็นที่เคารพนับถือของปวงชนชาวไทยทั้งมวล

    การจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้จะไม่สามารถสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ถ้าปราศจากความเมตตาของหลวงพ่อที่ได้กรุณาสละเวลาอันมีค่า ให้สัมภาษณ์คำถามทุกคำถาม ศิษยานุศิษย์หลายท่านที่ได้อุทิศเวลาและแรงกายช่วยสัมภาษณ์และบันทึกข้อความไว้ ทำให้ข้าพเจ้าสามารถเรียบเรียงเป็นประวัติที่ปรากฏอยู่ในหนังสือเล่มนี้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งบทสวดน้ำมนต์ บทกรวดน้ำ และบทคาถาต่าง ๆ ได้รับความช่วยเหลืออย่างดีจาก คุณสมชาย ปิมิลักษณ์ หากหนังสือเล่มนี้จะมีความดีอยู่บ้าง ข้าพเจ้าก็ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญในครั้งนี้ ให้แก่หลวงพ่อสิริที่ข้าพเจ้าและครอบครัวบูชายิ่ง บิดามารดา ปู่ย่าตายาย ครูบาอาจารย์ ญาติกาทั้งหลาย พร้อมทั้งศิษยานุศิษย์ที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น หากหนังสือเล่มนี้มีข้อความผิดพลาดประการใด ข้าพเจ้าและครอบครัวขอน้อมรับไว้ทุกประการ และขอกราบอภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

    ดัรชั้นลาล-ซิตาวันตี สัจเดว์และครอบครัว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กรกฎาคม 2013
  19. sunny2

    sunny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,293
    ค่าพลัง:
    +3,808
    ประวัติหลวงพ่อสิริ​

    หลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน มีนามเดิมว่า ศิริ แก้วกาญจน์ เกิดที่โรงพยาบาลศิริราช วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม พุทธศักราช 2484 ตรงกับวันขึ้น 6 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง ปัจจุบันอายุได้ 48 ปี หลวงพ่อมีเชื้อสายรามัญ(มอญ) โยมบิดามีนามว่า นายเต๊ะ แก้วกาญจน์ มีเชื้อสายไทยรามัญ มาจากคลอง 5 จังหวัดปุทมธานี โยมมารดามีนามว่า นางผาด แก้วกาญจน์ มีเชื้อสายจีนรามัญ มาจากตำบลบางตะไนย์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี เมื่อสมรสกันแล้วตั้งรกรากครอบครัวอยู่ที่บ้านของโยมมารดาใกล้วัดตาล ดยมบิดามีอาชีพเป็นช่างไม้ ส่วนโยมมารดามีอาชีพทำนา โยมมารดาถึงแก่กรรมก่อนเมื่ออายุได้ 50 ปีกว่า ด้วยโรคปัจจุบัน ส่วนโยมบิดาถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 88 ปี ด้วยโรคชรา หลวงพ่อมีพี่น้องต่างบิดามารดาด้วยกัน 5 คน เป็นชาย 2 คน และหญิง 3 คน ปัจจุบันพี่น้องยังมีชีวิตอยู่ครบทุกคน

    ขณะที่หลวงพ่อเกิดมีสิ่งแปลกประหลาดหลายประการ โยมมารดาเล่าให้ท่านฟังว่าเมื่อคลอดออกมาท่านมีฟันหนึ่งซี่ติดมาด้วย และมีขนสีขาว เมื่ออายุได้ 7 วัน ท่านเคลื่อนออกจากเบาะประมาณ 10 ศอก โดยที่ไม่มีใครอุ้มเคลื่อนย้ายที่เลย

    ในวัยเด็กท่านมีลักษณะที่แตกต่างกับเด็กวัยเดียวกัน คือ ไม่ชอบวิ่งเล่นซุกซนเหมือนเด็กทั่ว ๆ ไป ท่านมีลักษณะขี้อายและเก็บตัว ท่านจะไม่ชอบเล่นและพูดจากับเด็กผู้หญิงด้วยเลย แต่ท่านกลับสนใจเกี่ยวกับพระเครื่องและเรื่องคาถาอาคมเป็นพิเศษ ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนจนถึงชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่โรงเรียนวัดตาล ด้วยความที่ท่านเป็นเด็กสงบเสงี่ยม เรียบร้อย ไม่ซุกซน ทำให้ครูใหญ่รักใคร่ท่านมาก

    เมื่อหลวงพ่ออายุได้ 14 ปี ท่านได้บวชเณรที่วัดสวนมะม่วง จังหวัดปทุมธานี โดยมีพระอริยธัชเถร(ไพ่) เป็นพระอุปัชฌาจารย์ ท่านบวชได้ครบ 7 วัน ก็สึกเพื่อรับใบสุทธิชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ระยะที่บวชท่านมีศรัทธาเลื่อมใสในพุทธศาสนามาก โยมบิดาและโยมมารดาก็ให้ความสนับสนุน หลังจากสึกได้ 3 วัน ท่านจึงได้บวชเณรอีกครั้งหนึ่งที่วัดปรมัยยิกาวาส อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โดยมีพระไตรสรณรัช(มหาแสน) เป็นพระอุปัชฌาจารย์ ท่านบวชอยู่ระยะหนึ่งก็ได้มาจำพรรษาที่วัดบางตะไนย์ 1 พรรษา จากนั้นได้มาอยู่วัดตาลระยะหนึ่ง ท่านเจ้าอาวาสวัดสวนมะม่วง ได้นิมนต์ไปจำพรรษาที่วัดสวนมะม่วง ท่านจึงได้จำพรรษาที่วัดสวนมะม่วง 1 พรรษา หลังจากนั้นเป็นต้นมาจึงมาจำพรรษาอยู่ที่วัดตาล ตลอดมาจนกระทั่งบวชเป็นพระ

    ระหว่างที่เป็นเณรท่านชอบฟังเทศน์ฟังธรรม รักความสงบ ท่านเจ้าคุณซึ่งเป็นเจ้าอาวาสได้ให้ความเมตตากับท่านเป็นพิเศษมากกว่าพระเณรทั้งหลายในวัด ระหว่างที่ท่านเป็นเณรท่านได้มีโอกาสเล่าเรียนด้านพระปริยัติธรรมด้วย โดยได้ศึกษาเน้นทางด้านการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานจากพระอริยธัชเถร ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาจารย์ ตั้งแต่บวชเณร หลวงพ่อฉันอาหารเพลเพียงมื้อเดียว เพื่อมิให้เป็นภาระยุ่งยากและกังวลใจ โดยท่านได้ฉันเพลมื้อเดียวเรื่อยมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน ในสมัยที่ท่านเป็นเณรและแม้แต่ช่วงที่ท่านเป็นพระก็ตาม ถ้าหากไปฉันร่วมกับพระองค์อื่น ท่านจะไม่ฉันและยอมอดฉันเพลบ่อย ๆ หลายครั้งด้วยกัน ซึ่งมีผลทำให้สุขภาพของท่านทรุดโทรมในปัจจุบันนี้

    ท่านได้ปฏิบัติกรรมฐานตั้งแต่บวชเป็นเณร ซึ่งขณะที่นั่งสมาธิได้รับความสบายใจและปลื้มใจมาก ตอนที่อยู่วัดสวนมะม่วงได้นั่งสมาธิติดต่อกัน 24 ชั่วโมง หลายครั้งด้วยกัน และที่วัดตาลท่านเคยนั่งสมาธิติดต่อกันถึง 5 วัน 5 คืน โดยมิได้ฉันภัตตาหารเลย หลวงพ่อมีความอุตสาหวิริยะมาก ประสงค์จะนั่งกรรมฐานต่ออีก 5 วัน 5 คืน เพื่อให้ครบ 10 วัน 10 คืน แต่ลูกศิษย์ได้ขอร้องไว้ ท่านจึงไม่ได้นั่งกรรมฐานต่อ การที่ท่านได้บวชเป็นเณร และเลื่อมใสในพุทธศาสนานั้น ยังความปลื้มปิติให้แก่โยมบิดาและโยมมารดาเป็นอันมาก ในระยะหลังต่อมาโยมบิดาและโยมมารดาของท่านก็ได้นั่งวิปัสสนากรรมฐานเช่นกัน

    ระหว่างที่ท่านยังเป็นเณรนั้นมีชาวบ้านในบริเวณใกล้เคียงและประชาชนจากถิ่นอื่นมากมายได้มาสมัครเป็นลูกศิษย์ของท่าน ด้วยน้ำมนต์ของท่านเป็นที่เล่าลือว่ามีความศักดิ์สิทธิ์มาก นอกจากนั้นท่านยังได้ปลุกเสกผ้ายันต์พระล๊อคเก็ต เพื่อเป็นที่ระลึกให้แก่ลูกศิษย์ที่มาสักการะท่านด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 กันยายน 2012
  20. sunny2

    sunny2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,293
    ค่าพลัง:
    +3,808
    เมื่อหลวงพ่ออายุครบ 20 ปี ท่านเจ้าอาวาสวัดนวลนรดิศ เห็นว่าหลวงพ่อสมควรได้บวชเป็นพระ จึงได้บวชเป็นพระเมื่อเดือนเมษายน พุทธศักราช 2504 เวลา 8.33 นาฬิกา ณ วัดตาล ตำบลบางตะไนย์ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมีพระอริยธัชเถรเป็นพระอุปัชฌาจารย์ พระอธิการเปลือย(วัดตาล) เป็นพระกรรมวาจารย์ พระปลัดกัณหา(วัดมหาธาตุ) เป็นพระอนุสาวนาจารย์ โดยพระอริยธัชเถรได้ตั้งฉายานามว่า สิริวัฒโน วันที่หลวงพ่อได้บวชเป็นพระนั้นมีญาติโยมลูกศิษย์ ชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงได้มาร่วมงานอุปสมบทนับเป็นพัน ๆ คน นับว่าเป็นเหตุการณ์ที่มหัศจรรย์สำหรับชาวบ้านที่ได้พบเห็น และยังปรากฎว่าในวันนั้นมีประชาชนที่เลื่อมใสหลวงพ่อได้ใช้ผ้าขาวสะอาดปูลาดทางเดินตั้งแต่หน้าโบสถ์จนถึงศาลากรรมฐาน เพื่อให้ท่านเดิน ปัจจุบันนี้ยังมีรูปถ่ายเป็นหลักฐานปรากฏไว้

    เมื่อท่านเป็นพระแล้วได้โปรดญาติโยมที่เป็นลูกศิษย์ลูกหาทั่วหน้ากัน ใครมีความทุกข์ร้อนก็ได้มาพึ่งความเมตตาจากหลวงพ่อ ให้ท่านช่วยปลุกเสกน้ำมนต์บ้าง ทำเครื่องรางของขลัง เหรียญรูปต่างๆ ตามที่ศิษย์ได้นำมาถวายเพื่อเป็นที่ระลึกและคุ้มครองภัยอันตรายต่าง ๆ ให้ มีญาติโยมมากราบเคารพบูชามาก ทำให้ท่านมีเวลาที่จะปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานน้อยลง จนกระทั่งครั้งหนึ่งท่านเคยคิดจะหยุดโปรดญาติโยม เลิกปลุกเสกน้ำมนต์ และหันกลับไปปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอย่างเดียว เพราะท่านไม่ปรารถนาความสุขทางโลกอยู่แล้ว ท่านปรารถนาพุทธภูมิ แต่เนื่องจากท่านได้ยึดหลักปฏิบัติของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือไม่เห็นแก่ความสุขส่วนตัว ช่วยเหลือคนทุกชั้นวรรณะ เพื่อประโยชน์สุขโดยส่วนรวม ด้วยเมตตาจิตของท่านทำให้ไม่สามารถหยุดให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนและศิษย์ทั้งหลายได้ ท่านจึงปฏิบัติภารกิจทั้งหลายเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนต่อไป ลูกศิษย์ทั้งหลายที่ได้มีโอกาสไปที่กุฏิของท่านอาจจะพบรูปนายทหาร นายตำรวจใหญ่น้อยหลายรูปด้วยกัน ลูกศิษย์บางคนอาจเกิดความสงสัยเช่นเดียวกับข้าพเจ้า ท่านอธิบายว่า “ทหารเป็นรั้วของชาติ และได้ไปรบเพื่อคนไทยทั้งชาติ อาตมาเป็นห่วง ตำรวจก็เช่นเดียวกัน เป็นผู้ที่รักษาความสงบสุขของมหาชนให้ประชาชนได้อยู่เย็นเป็นสุข” นายทหาร นายตำรวจบางนายก็นำรูปมาไว้ที่กฏิเพื่อให้หลวงพ่อช่วยเจิมเสริมดวงและเลื่อนขั้น

    ในปีพุทธศักราช 2519 นี้เองท่านได้ไปจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์คลองกี่สามัคคีธรรม อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา เพื่อไปเจริวิปัสสนากรรมฐาน แสวงหาความสงบ ท่านได้ไปจำพรรษาอยู่นานถึง 9 เดือน แล้วจึงกลับมาอยู่ที่วัดตาลดังเดิม สำนักสงฆ์คลองกี่ ที่ท่านไปเจริญวิปัสสนากรรมฐานนั้นห่างไกลความเจริญมาก ไม่มีไฟฟ้า น้ำประปาใช้ ชาวบ้านในแถบนั้นก็ยากจนแร้นแค้น สำนักสงฆ์คลองกี่ มีลักษณะที่ว่างเปล่าไม่มีโบสถ์ ไม่มีพระประธาน ไม่มีธรรมาสน์ ไม่มีแม้แต่โต๊ะหมู่บูชา หลวงพ่อท่านรู้สึกสงสารพระที่จำพรรษา ที่นั้นรวมทั้งชาวบ้านเป็นอันมาก เมื่อท่านกลับมาจำพรรษาที่วัดตาล จึงได้มีโอกาสนำลูกศิษย์ที่การไฟฟ้าไปทอดกฐิน และลูกศิษย์ที่กรมยุทธศึกษาทหารบกไปทอดผ้าป่า ได้ปัจจัยจำนวนมากพอจึงได้ซื้อที่ดินเพิ่มเติมให้แก่สำนักสงฆ์นี้ หลวงพ่อได้เมตตาเป็นผู้อุปถัมภ์สำนักสงฆ์นี้เรื่อยมา ท่านได้มีโอกาสพาลูกศิษย์ไปทอดกฐินและทอดผ้าป่าทุกปี เพื่อบูรณะสำนักสงฆ์นี้ให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ชาวบ้านแถบนั้นรู้สึกปลื้มปิติในความเมตตาของหลวงพ่อมากที่ทำให้สำนักสงฆ์นี้เป็นที่พึ่งทางใจ สามารถปฏิบัติภารกิจทางศาสนาได้อย่างสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น จึงพร้อมใจกันเสนอขอเปลี่ยนชื่อสำนักสงฆ์นี้เป็นสำนักสงฆ์คลองกี่ศิริวนาราม เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชาวบ้าน รวมทั้งเป็นเกียรติประวัติและที่ระลึกแด่หลวงพ่อ ปัจจุบันหลวงพ่อก็ยังคงเป็นผู้อุปถัมภ์สำนักสงฆ์คลองกี่ศิริวนาราม อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะได้รับการสนับสนุนจากลูกศิษย์หลายฝ่ายก็ตาม ก็ยังขาดทุนทรัพย์อีกเป็นจำนวนมาก หลวงพ่อได้ปรารภว่าอยากจะพยายามช่วยเหลือสำนักสงฆ์เท่าที่จะกระทำได้ นับว่าเป็นบุญบารมีของญาติโยมที่อำเภอสูงเนิน เป็นอย่างมาก ที่มีหลวงพ่อคอยอุปถัมภ์

    หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท เป็นบรมครูต้นตระกูลของหลวงพ่อ บทสวดมนต์ส่วนใหญ่ได้มาจากตำราเก่าของหลวงปู่ศุข และบางส่วนก็ได้มาจากโยมบิดาและเจ้าคุณอุปัชฌาจารย์ หลวงพ่อมิได้นับถือหลวงปู่ศุขเพียงองค์เดียว แต่ท่านเคารพนับถือหลวงปู่ หลวงพ่อทุกองค์ที่ปฏิบัติองค์เคร่งครัดเป็นแบบอย่างที่ดีและเป็นที่เคารพศรัทธาแก่ปวงชนทั้งหลายทั้งประเทศ ดังจะเห็นได้จากบทสวดมนต์ทำน้ำมนต์ บทกรวดน้ำ เป็นต้น ชาวบ้านจากทุกสารทิศที่มากราบไหว้หลวงพ่อ ส่วนใหญ่จะหลั่งไหลกันมาเพื่ออาบน้ำมนต์อันศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อใช้เวลาในการสวดคาถาเพื่อทำน้ำมนต์แต่ละครั้งประมาณ 1 ชั่วโมง บทที่ใช้สวดนั้นประกอบด้วยสี่บทใหญ่ด้วยกัน คือ คาถาคงกระพัน ป้องกันภัยอันตราย คาถามหาอำนาจ ป้องกันศัตรู คาถาเมตตาและคาถาโชคลาภ ผู้ที่ได้อาบน้ำมนต์แล้วจะรู้สึกเย็นชื่นใจและอยากกลับมาอาบน้ำมนต์อีก

    หลวงพ่อเป็นพระที่ได้ศึกษาทั้งทางด้านสมถะกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน ท่านได้ให้แนวทางอันประเสริฐไว้ 3 แนวทางด้วยกันคือ ทาน ศีล และภาวนา ท่านสอนว่าบุคคลที่บริจาคทานไปเกิดในภพใดชาติใดก็จะมีความบริบูรณ์ บุคคลที่ถือศีล 5 หรือถือศีล 8 เป็นนิจศีล ไปเกิดในภพใดชาติใดก็ได้เกิดเป็นคนสวยคนงาม บุคคลที่ได้ปฏิบัติภาวนาไปเกิดในภพใดชาติใดย่อมไม่ตกต่ำ ตามแนวคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ที่มีความเลื่อมใสในการนั่งสมถะวิปัสสนา ท่านสอนว่าถ้าหากมีความโกรธให้แผ่เมตตา ถ้ายังมีความโลภยึดมั่นถือมั่นในทรัพย์สมบัติให้พิจารณาว่าสิ่งของทั้งหลายเหล่านี้ไม่แน่นอนถ้าปฏิบัติไปแล้วจิตใจยังไม่สงบก็ให้นึกถึงอสุภกรรมฐาน บางคนก็ตายไปตั้งแต่ยังหนุ่มยังสาว เมื่อตายแล้วร่างกายก็เน่าเปื่อยผุพังเป็นธรรมดา ไม่มีความจีรังยั่งยืน และเมื่อใจสงบยิ่งขึ้นก็ให้เพียงภาวนาพุทโธต่อไป หากผู้ใดได้มีโอกาสปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานเช่นนี้แล้วนับได้ว่าเป็นมหากุศลอันยิ่งใหญ่

    หลวงพ่อท่านได้ปรารภว่าในระยะหลัง ๆ นี้มีโอกาสนั่งวิปัสสนากรรมฐานน้อยมาก เนื่องจากมีภารกิจที่ต้องปฏิบัติให้กับญาติโยมที่มากราบไหว้ที่วัด รวมทั้งการรับนิมนต์ไปที่ต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ท่านได้ตั้งใจที่จะไปปฏิบัติวิปัสสนาในวันมาฆะบูชา และวันวิสาขบูชา ที่พุทธมณฑล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ด้วย

    ประวัติที่ข้าพเจ้าได้บันทึกไว้นี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น สำหรับประวัติในรายละเอียดส่วนที่เป็นอภินิหาร ความเก่งกล้าทางอาคม และการตรวจดวงชะตาราศีนั้น เป็นที่เลื่องลือและรู้จักกันดีในหมู่ลูกศิษย์ทั้งหลายของหลวงพ่ออยู่แล้ว ข้าพเจ้าจึงไม่ได้นำมาบันทึกไว้ และเพื่อเป็นไปตามความประสงค์ของหลวงพ่อ หากผู้ใดมีบุญวาสนามาพบหลวงพ่อ ท่านก็จะให้ความเมตตาให้ความช่วยเหลือทุกคนทั่วหน้าเท่าเทียมกันดังได้กล่าวไว้แล้วข้างต้น

    สุดท้ายนี้ข้าพเจ้าขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย จงคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งหลายทั้งปวง ขอให้หลวงพ่อปราศจากโรคภัย มีอายุยั่งยืนนานเป็นที่พึ่งพาของศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย และขอให้หลวงพ่อได้บรรลุมรรคผลนิพพานโดยเร็วเทอญ
     

แชร์หน้านี้

Loading...