รู้อะไร ให้รู้ตรงๆ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 2 มกราคม 2012.

  1. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    จะพูดธรรมที่ค่อนข้างยากให้ฟัง เกี่ยวกับการรู้ตัว แต่ธรรมที่ยากนี้แท้จริงเป็นเรื่องง่าย เพียงแต่ใจเรามีสมมติทีพันยุ่งเหยิงกันมากไป เราจึงว่าธรรมซับซ้อน

    การสังเกตุ การฝึกให้ใจของเรารู้ตรงๆ จึงเป็นการละทิ้งสมมติออกไป แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะปรากฎว่า คนที่มักจะสอนเราให้รู้ตรงๆ กลับกลายเป็นว่า เขามักจะไม่รู้ตรงๆตามที่สอนคนอื่น เนื่องจากเรามีความหลง ความไม่รู้เป็นทุนเดิม

    การรู้ตรงๆให้เราหมั่นเตือนตนเองว่า เรารู้เท่าที่เราเห็น หรือว่า เราหมายเอาไปมากกว่าที่เราเห็น เพราะธรรมดาคนเราก็มักจะผูกเรื่องราว เข้าใจอะไรไปตามประสบการณ์ที่ผ่านมา เรียกว่า ทึกทักไปเอง เช่นว่า เวลาคนพูดด้วยคำพูดธรรมดา เช่น ไอ้ ควาย มีอยู่สองคำธรรมดา คือ ไอ้ กับ ควาย แต่ถ้ามันมาถึงหูเรา หรือ ตาเรา ทำไมมันกลายเป็นว่า เราเข้าใจว่า คำนั้นเป็นคำด่าที่แสนจะน่ารังเกียจ นี่เป็นเพราะว่า เราไม่ได้รู้ตรงๆ เรารู้ไปถึงว่า ตัวควายนั้นเป็นสัตว์ คำว่า ไอ้นั้นเป็นคำเรียกที่ไม่ให้เกียรติ พอฟังไปหลายๆครั้งเข้า ก็เลยกลายเป็นความเคยชิน เมื่อใครเรียกเราว่า ไอ้ควายปั๊บ ยังไม่ต้องคิดอะไร โมโหทันที
    นี่เรียกว่า การที่เราไม่ได้รู้ตรงๆ

    บางคนหนักกว่านั้น เห็นเพียงเขากล่าว ธรรมะ รู้ไปจนถึงว่า เขาอวดตัว หรือบางคนหนักกว่านั้น เห็นเพียงเขากล่าวตอบธรรมะเพื่อนธรรม รู้ไปจนถึงว่า เขาตำหนิกัน ไม่ชอบใจกัน นี่เรียกว่า รู้เกินความเป็นจริง
    เมื่อทำเป็นนิสัยบ่อยๆ เข้า มันก็เลยแยกไม่ออกว่า อันไหนจริง อันไหนตรง อันไหนคิดปรุง

    ทีนีี้ ตัวเราก็เหมือนกัน ทุกข์อริยสัจ ก็เช่นเดียวกัน เวลาเราไปสัมผัสกับทุกข์ เราไม่สัมผัสมันตรงๆ แต่เราไปตักตวงเรื่องราวๆ ต่างๆ นอกเหนือจากสัมผัสนั้นเข้ามากินใจด้วย แทนที่จะเจ็บๆ อึดอัดเล็กๆน้อยๆ กลับกลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตค้างเติ่งอยู่ในใจ ดับไม่ลง
    นี่แหละ เขาเรียก การปรุงแต่งเหล่านีี้ว่า ปฏิจสมุบบาท ซึ่งเป็น ทางเดินแห่งการเกิดทุกข์ เพราะเราไม่ดูอะไรตรงๆ ตามความเป็นจริง
     
  2. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    รู้ซื่อๆ

    รู้เฉยๆ

    รู้ที่ไม่รู้ สุดยอดของการรู้

    รู้โดยไม่ปักใจ ก็คือ ระลึกที่การรู้

    รู้แล้วก็ปล่อย

    ปล่อยรู้

    * * * *

    รู้เฉยๆ = รู้ตรงๆ !?
     
  3. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ลุงๆ ไป สอนพี่ชาติหน่อยสิ ตอนนี้ พี่ชาติเขาเข้า อรหัตถมรรคแล้ว

    เพราะ เขาจะปรารภว่า รู้ปฏิสนธิวิญญาณ จะสิ้นภพ สิ้นชาติ แล้วหละนั่น !

    สักกายทิฏฐิยังไม่รู้ว่าพี่ชาติ แจ้งหรือยัง แต่ พี่ชาติเขาโหนไปนู้นนนน

    ไป ปฏิสนธิวิญญาณ จะไปเป็น ลูกไก่ในฝองไข่ ถึงเวลาฝักออกไปเอง แล้ว

    กลุ้มยิ่งกว่าค่าย 4S อีก
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2012
  4. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    อ้าว พึ่งเห็น ตรงนี้

    ถ้ากล่าวแบบนี้ ก็เข้าข่าย ปฏิจสมุปบาท ในชีวิต ประจำวัน

    แบบนี้ก็ ไม่ต้องไป สอนพี่ชาติ และ เพราะ เดี๋ยว ยกสอง<!-- google_ad_section_end -->
     
  5. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    รู้อะไร ให้รู้ตรงๆ

    รู้ตรงๆ คืออะไร คือ ธาตุรู้ ที่มีแต่ รู้ ไม่มีเรื่องราวมาเกี่ยว

    เมื่อเอา รู้ตรงๆ แทนด้วยคำว่า ธาตุรู้ จะได้อะไร

    * * * *

    รู้อะไร ให้รู้ ธาตุรู้ ธรรมชาติรู้ ซึ่งมีแต่ รู้ (ตรงๆ)

    ธาตุรู้คืออะไร ใช่ จิต เปล่าหว่า

    ตกลง

    รู้อะไร ให้ดูจิต
     
  6. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    มันจะไปรู้ซื่อๆ อย่างคำสอนเพี้ยนๆ ได้อย่างไร นั่นมันคำสอนที่ดีแต่พูด
    ที่สอนเพี้ยนๆกัน ที่ว่า โกรธก็ให้รู้ว่า โกรธ ถามว่า มันรู้เหตุไหม
    เขาให้รู้ตรงๆ ที่เหตุ ไม่ใช่รู้ตรงๆที่ผล

    รู้ตรงๆที่ผล มันก็เหมือน ของเกิดแล้วเอามาพูด แบบพ่อของเด็กปลาบู่ มันไม่ได้ช่วยอะไร
    รู้ต้องรู้ที่เหตุ ดับที่เหตุ
     
  7. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    ใช่ครับ ไม่งั้นพระอริยเจ้าที่ยังมีชีวิต(มีชีวิต ใช้ชีวิตประจำวัน) ท่านยังมีรูปขันธิ์ อยู่ แล้วท่านจะดับรูปขันธิ์ยังไงละครับ(อันนี้ ไม่ขอกล่าวส่วน สัญญา เวทนา สังขาร วิญญาน เพราะมองไม่เห็น).......แล้วทำไมมุ่งตรงสู่การ ละกิเลสตัณหาเป็นหลักใหญ่ใจความสำคัญในพระศาสนาเรา.......:cool:
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มกราคม 2012
  8. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    การรู้นี่ อย่าให้มันรู้มากเกินกว่าตรงหน้า
    การรู้มากกว่า ตรงหน้า มันปรุงแต่งมากเกิน ไปอยู่ในโลกของมาร

    เช่น เห็นจันทรุปราคา ก็เข้าใจไปว่า ราหูอมจันทร์
    หรือ เห็นน้ำท่วม ก็เข้าใจเลยไปจนถึง โลกจะแตก

    นี่แหละ ผลของความ ปรุงแต่ง ไม่เข้าใจ ไม่รู้ ไม่เห็นเท่าที่มันเป็น แล้วจะทำให้เกิดความจำที่ว่า มันต้องเป็นเช่นนั้นเสมอไป หรือ มันเป็นอย่างนั้นจริง จนไม่ลืมหูลืมตา

    ชีวิตของคน เวลาทุกข์ใจ ค่อยๆ ย่นย่อ เหตุแห่งทุกข์นั้นมาสิ จากเรื่องราวใหญ่โต กลายมาเป็นผัสสะเล็กๆ ที่หาตำแหน่งไม่เจอเสียด้วยซ้ำ
    เช่น บางคนไม่ประสบความสำเร็จ ไล่ลงมาว่า ทุกข์อยู่ตรงไหน มันเป็นภาพหรือ ก็ไม่ใช่ มันเป็นเรื่องเป็นราวภายนอกหรือก็ไม่ใช่ เราก็ดูว่า อาการที่เราทุกข์ มันอยู่ตรงไหน มันก็จะมาเจอว่า มันเป็นสัมผัสทางใจ หนักๆเข้าก็รวมไปทางกาย เป็นประสาทเกร็งหรืออะไรก็ตาม
    นี่ให้ รู้ตรงๆ ในตำแหน่งของทุกข์ แบบนี้ แล้วมันจะเข้าใจแล้วแยกได้ออก
    ระหว่าง จริง หรือ ปรุงแต่ง
     
  9. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    แล้ว ถ้าที่เขาสอน เขาก็สอนแบบ ที่ลุง พูดๆๆๆๆๆ เนี่ยะ

    มัน อายหมาเลยนะ

    เพราะ เขาก็สอนเหมือนกัน และ ดีกว่าที่ลุงสอนอีกหลายขุม แต่ คนมัน
    อยากพูด หรือ อยากแสดง หรือ อยากให้ คำพูดของตนเท่านั้นที่ถูกไง

    ก็เลย ใส่อะไรสารพัด บิดเบือนเขาไปเรื่อย

    แล้วก็พา พรรคพวกโง่ๆ ให้ หลงเชื่อตามไปด้วย กับสิ่งที่ ตนเองแต่งเติมเขาเข้าไป
     
  10. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    อาการของทุกข์ ที่เราไม่เข้าใจ ไม่สอนใจตัวเอง ก็จะไปเหมารวมเอาสิ่งภายนอกว่า นั่นแหละ เหตุการณ์แบบนั้น ทำให้เราทุกข์ เหตุการณ์แบบนี้ทำให้เราทุกข์ เราก็ดับไม่ได้นะสิ เช่น คนตายไปแล้ว เราเศร้าใจ หรือ เหตุการณ์บางอย่างหวนคืนมาไม่ได้ เราก็เศร้าใจ ดับมันไม่ได้ เพราะไปผูกเหตุที่ตรงสิ่งที่ไม่มีทางหวนกลับ ถ้าแบบนั้น ต้องให้คนตายฟื้นคืนมา หรือ สิ่งที่ไม่ได้ดังใจกลับคืนได้ดังใจ มันก็เหมือนทำสายน้ำให้ไหลย้อนกลับ เมื่อไม่ได้ดังที่หวังก็ทุกข์ไปเรื่อยๆ ทั้งชีวิต

    แต่ ความจริงคือ แทนที่เราจะดูภายนอก เรารู้ตรงๆที่ตัวเราว่า มันกระทบตรงไหน อย่าไปเอาเหตุหรือ เรื่องราวภายนอกมายุ่งเกี่ยว ดูไปที่ตัวเองตรงๆ ว่า กระทบตรงไหน ปวดใจ หรือ ปวดกาย หรือ สับสนงงงวยกับความคิด ดับมันเสียก็สิ้นเรื่อง

    นี่แหละ เรียกว่า ดับที่เหตุ แล้วเราจะรู้อยู่กับเหตุที่แท้จริง ดับมันได้จริง

    นี่จำเอาไว้ ทำกันให้ได้ ย้อมใจที่เคยปรุง ให้มันเข้าใจด้วยธรรม แล้วมันจะดับได้หมด เป็นนิโรธไป

    เมื่อดับได้แล้ว ก็ฝึกเจริญ ศีล สมาธิ ปัญญา ตามอริยมรรค จะทำให้เราเห็นแจ้ง เหตุไปมากกว่านี้เรื่อยๆ
     
  11. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ใครสอนดีกว่า ก็สอนไป นั่นก็เป็นเรื่องที่ต้องอนุโมทนากันกับเขาไม่ใช่หรือ
    แต่ ถ้าใครสอนผิด แล้วไปว่า ดีกว่า นั่นมันก็อีกเรื่องหนึ่ง มันก็ต้องมาทำความเข้าใจให้มันตรง
     
  12. paetrix

    paetrix เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2011
    โพสต์:
    2,478
    ค่าพลัง:
    +1,878
    เพราะ มีพระวจนะอันหนึ่งที่น่าสนใจที่พระองค์กล่าวว่า " ภพ แม้ชั่วขณะดีดนิ้วมือก็ น่ารังเกียจ"พระวจนะ "ภิกษุทั้งหลาย คูถ แม้ นิดเดียว ก็เป็นของมีกลิ่นเหม็น ฉันใด ภิกษุทั้งหลาย สิ่งที่เรียกว่า "ภพ" ก็ฉันนั้นเหมือนกัน แม้มีประมาณชั่วลัดนิ้วมือเดียว ก็ไม่มีคุณอะไร ที่ พอจะกล่าว..............-เอก.อํ.20/46/203.(ภพ นี้ อยู่ในปฎิจสมุปบาท ):cool:ผมไม่อาจอธิบาย คำว่า ภพ ตรงนี้ได้ ว่าเกิด ในระหว่างที่เราใช้ชีวิตอยู่หรือไม่?
     
  13. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ไฟนี่ เวลามันลุกขึ้นแล้ว มันยากนะ ที่จะทำให้มันดับ

    ยิ่งพูด ยิ่งคุย ก็จะ ออกอาการ สุ่มไฟ ใส่ไฟ ให้เร่ง ไม่มีหรอกจะหยุด

    มันหยุดไม่ได้ ก็ ไฟมันจะไหม้
     
  14. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ใครไปใส่ไฟอะไร มีแต่ จริง กับ ไม่จริง ใครไปใส่ไฟให้ใครหรือ
     
  15. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ติดไปเรื่อยแหละ ดูไม่ออกหรอก
     
  16. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    มันมีภพน้อยภพใหญ่ ติดชั่วขณะก็เรียกว่า ติดภพน้อย ติดทั้งชาติ นี่ก็ภพใหญ่

    แต่ ภพใหญ่นั่น เป็น กรรม ซึ่งมีหลายอย่างนะ เอาภพน้อยนี่ให้แจ้งก่อน
     
  17. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    ก็ถ้าจะดูให้ออก มันก็ต้องทำกรรมดี ชะล้างไปเรื่อยๆ ด้วยสิ
    ทำบุญ ทาน ศีล ภาวนา นั่นแหละ เป็นตัวชะล้างไปเรื่อยๆ
     
  18. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ลุง อ่านภาษาไทย ไม่ออกเหรอ ภพ ชั่วดีดนิ้วเนี่ยะ เด็กอ่านมันก็รู้นะว่า ภพเล็กๆ

    แต่ ลุงอยากอวดไง อยากกลบคำของศาสดาให้ต่ำกว่าคำพูดตน

    ก็เลย พูดกลบหน้าตาเฉย
     
  19. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    อ้าว แล้ว ลุงเห็น ใครไม่ทำเหรอ

    หรือว่า ไม่เห็น แต่ เดามั่วซั่วไปว่า เขาไม่ทำกัน

    ไฟมันจะลุก หละน๊า หาอะไรใส่มือ ใส่ปาก ก็โยนเข้าใส่ มั่วไปเลย
     
  20. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,182
    นี่เป็นตัวอย่าง ของการ รู้ไม่ตรง แค่เขาพูดเท่านั้น ถ้าไม่ปรุงแต่งไป ก็จะดูที่ธรรม ไม่ได้ดูไปที่บุคคล สัตว์ สิ่งของ
    ยังไม่มีใครพูดเรื่อง ทำหรือไม่ทำ

    ขึ้นชื่อว่า ธรรม แม้จะตอกย้ำสักกี่ครั้ง มันก็ต้องชุ่มใจ
    แต่ถ้ากิเลส อวดดี มันว่า เรื่องพื้นๆ รู้ได้อย่างไรว่า คนอื่นไม่ทำ
    ก็ถ้าทำแล้ว มันจะมาเถียงสุ่มสี่สุ่มห้าแบบนี้หรือ
     

แชร์หน้านี้

Loading...