หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)

คุณจัดหิ้งพระแปลกๆครับ เอาของศักดิ์สิทธิ์มากไว้ข้างล่าง ศักดิ์สิทธิ์น้อยไว้ข้างบน แปลกดีครับ

 

ยินดีและขอบพระคุณครับ ท่านที่ปรึกษาหมายเลข 2 และ 3 ตามลำดับ

ด้วยความที่เห็นรุ่นพี่หลายๆท่านในที่นี้ปฏิบัติมาก่อนแรมปี จึงได้รู้ ได้เห็นในเรื่องอจินไตย มาก่อน โดยการเล่าให้ฟังบ้าง เขียนให้อ่านบ้าง ผมเองก็งงๆ เชื่อมั่ง วางเฉยมั่ง และเกิดอาการหงุดหงิดตัวเองมั่ง ว่า...ทำไมหนอเราถึงได้อ่อนหัดในเรื่องการปฏิบัติขนาดนี้ พร่ำรำพันว่า...บุญต่างๆเราก็ได้ทำมามากทุกกรณีทุกลมหายใจเข้า-ออก แต่ติดขัดเรื่องการปฏิบัติ ทั้งๆที่ได้พบเจอพ่อแม่ครูอาจารย์ของจริงท่านได้เมตตาเรามาโดยตลอด ก็เกรงท่านจะเลิกเมตตาเสีย เพราะความไม่ได้เรื่อง :'( ด้วยเหตุผลข้างต้น ผมก็เลยมุเอาจริงกะท่านมั่ง

ในฐานะที่พึ่งเริ่มต้นปฏิบัติหลักๆ เช้า,เย็น ได้ประมาณ 1 เดือนเศษ ก็ได้พบ ได้ประสพ เหตุการณ์แปลกๆ หรืออจินไตยกะท่านๆ หลายเรื่องหลายคราเช่นกัน ทำให้เข้าใจคำว่า ถึงแล้วจะรู้เอง ด้วยตัวเองแล้วครับผม

ดังนั้น...หากผมพบเห็นอะไรที่พอจะเล่าสู่กันฟัง ก็จำต้องขอเล่า ขอเขียนนะครับ ไม่งั้นบอร์ดอาจเหงาๆ หุหุ (หรืออกผมจะแตกเพราะไม่ได้พูด 5555) หากจะให้ผมกลับไปพูดไปเขียนเรื่องพระเครื่องพระพิมพ์เหมือนเดิม ณ ตอนนี้...อาจเรียกว่าอิ่มแล้ว พอแล้ว พอทั้งการแสวงหา และพอทั้งความสงสัยใครรู้ แต่คุยได้แม้ไม่มันส์เท่าเดิมหนา

นี่แหละหนอวิวัฒนาการไม่ทันข้ามปี...เข้าใจว่าการพัฒนาทางจิตเขาได้ขยับไปอีกระดับแล้ว จึงได้เกิดอาการวางเฉยในเรื่องที่แต่ก่อนเคยตื่นเต้นนักหนา...

ทว่า...ผู้ที่อยู่สูงกว่าก็อย่าพึ่งขำกันนะครับ หุหุ.. หรือเพื่อนๆ นรธ. ที่กำลังก้าวเดินไปด้วยกันก็โปรดอย่าพึ่งรำคาญ ให้ถือว่าอ่านนิยายเล่นๆ หากท่านเบื่อจริงๆก็กระซิบมาละกันนะครับ ผมจักได้หันกลับไปเขียนเล่าเรื่องของตัวเองให้ตัวเองอ่านใน blog ของตัวเองที่ซึ่งตัวเองกำลังหุม (หลง) อยู่ในขณะนี้ (หุหุ ของเล่นใหม่ของข้อย)

 

ขอบคุณที่เข้ามาเยี่ยมชมครับ...

ในเรื่องการจัดหิ้งพระเนี่ยผมก็ถูกดึงไปดึงมาครับ ตอนแรกก็จัดแบบเอาแรงเข้าว่า คำว่าแรงของผมคือระดับสมเด็จพระสัมมาฯทรงพระเมตตาอธิษฐานจิตให้เลยทีเดียว

มาพักหลังเมื่อ week ก่อนก็ถูกสอง ดร. ของคณะเราทักท้วงมา (ทักพร้อมกันสองคนผมถึงเชื่อนะ หุหุ) ว่าจัดไม่ถูก พระเบื้องบนขอให้จัดใหม่ ไอ้กระผมเป็นคนหัวอ่อนเชื่อคนง่ายครับ เอ้า...ท่านว่าให้จัดใหม่ก็ว่ากันใหม่ จะได้สบายใจไปทุกๆฝ่าย โดยเฉพาะตัวเอง...เวลาทำสมาธิจักได้ไม่กังวล (พึ่งเริ่ม) ก็ถึงได้ออกมาตามรูปนิแหละครับ

หากจะให้ย้อนอดีตชาติ พวกเราสามคน(ผมกับสอง ดร.) นั้น คงย้อนไปได้เป็นพันๆปี ถึงยุคทวารวดี สุโขทัย อยุธยา รัตนโกสินทร์ จนถึงบัดนี้ พวกเราไม่เคยทอดทิ้งกัน ใครจะไม่เชื่อผมไม่ว่าหรอกนะครับ เดี๋ยวจะหาว่าพูดลอยๆ นี่ผมมีหลักฐานมัดตัวท่านสอง ดร. 555

129 ห้องพระ ​

ห้องพระเหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่ บางบ้านอาจจะไม่มีห้องพระก็ได้ อาจทำแค่หิ้งพระเล็กๆ แทน ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่ความต้องการของเจ้าของบ้านเป็นหลัก ​

การ กำหนดห้องพระ มีหลักเกณฑ์ว่าด้วยเรื่องความเหมาะสม​

1. บ้านมากกว่า 1 ชั้น ห้องพระวางชั้นบนสุด ไม่ว่าบ้านจะกี่ชั้นก็ตาม เพราะพระเป็นของสูง เป็นที่สักการบูชา การวางต่ำกว่าคนในบ้าน ย่อมไม่เป็นมงคล ​

2. บ้าน ที่เอาห้องพระวางติดกับห้องส้วม ความศักดิ์สิทธิ์ขององค์พระจะเสื่อม เรื่องนี้เป็นความเชื่อผิดๆ เพราะผู้อ้างไม่เข้าใจเรื่อง “พุทโธอัปปมาโน” ​

3. ทำเลของห้องพระหรือหิ้งพระ จะอยู่บริเวณใดของบ้าน (ชั้นบน) ก็ได้ แต่มีเงื่อนไขเกี่ยวกับการจัดวางตำแหน่งขององค์พระทั้งหมดที่อยู่ในห้องพระ เช่น จัดเป็นหมวดหมู่ เช่น พระบูชา เทพเทวาดานางฟ้า รูปเหมือนคณาจารย์ รูปเคารพ ฯลฯ และต้องจัดตามลำดับความสำคัญขององค์พระต่างๆที่มีความสำคัญต้องอยู่สูงกว่าพระที่มีความสำคัญน้อยกว่าโดยถือตามความอาวุโสและการบรรลุธรรม​

4. ห้องพระหรือหิ้งพระอยู่ในห้องนอน หรือ ห้องติดกับห้องนอนห้ามวางเตียงในลักษณะหันปลายเท้าไปที่ห้องพระ (องค์พระ) เพราะถือเป็นการไม่เคารพสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไม่เป็นมงคลกับผู้อยู่อาศัยในบ้าน ​

5. บ้านเล่นระดับ ห้องพระจะอยู่ต่ำกว่าห้องอื่นก็ได้ ด้านบนของห้องพระไม่ควรมีห้องอื่นอยู่เหนือห้องพระ​

6. ทิศทางของการวางองค์พระมีส่วนสำคัญต้องหันหน้าให้ถูกทิศ พระเบื้องบนชี้แนะจะวางหันหน้าไปทิศ เหนือ ใต้ ออก ตก ได้ทุกทิศ สิ่งสำคัญอยู่ที่ประตูเข้าห้องพระ จะเข้าด้านหน้าองค์พระหรือด้านข้างองค์พระก็ได้ ข้อห้ามคือ ห้ามเดินเข้าทางด้านหลังองค์พระ​

7. ห้องพระไม่เป็นห้องมืดปิดตาย ควรมีช่องแสงสว่างส่องเข้าห้องพระในเวลากลางวัน โดยเฉพาะที่องค์พระประธานควรมีแสงสว่างตลอด 24 ชั่วโมง ​

(พระเบื้องบนชี้แนะ) 10/09/2554​

ดร.ณัฐชัย: ​

Wed 08/31/2011 5:24 PM
การจัด
- พระพุทธเจ้า (ยังมีหลายระดับ) จัดตามลำดับอาวุโส
- พระปัจเจกพุทธเจ้า
- พระอริยสงฆ์ (มีหลายระดับ) จัดตามลำดับอาวุโส (ว่าตามแดนนิพพาน)
- พระที่สร้างรูปเหมือน จัดตามอาวุโสของรูปเหมือน
- รูปเคารพ-รูปเทพ-รูปเซียน ยังต้องแยกเป็นหมวดหมู่ ตามลำดับชั้นและความสำคัญ
รูปภาพ จะเป็นรูปของใคร จัดตามความสำคัญที่กล่าวไว้ข้างต้น
***สอบถามพระ...ท่านบอกว่าข้อความด้านบน ถูกต้อง
สรุป ยิ่งเยอะยิ่งมาก เวียนหัวครับเจ้านาย...555
ธรรมสวัสดี
ดร.ณัฐชัย ​

Fri 09/09/2011 8:42 PM

- เปิดมาพบห้องพระของ ดร.นนต์ สัมผัสได้ถึงพลังการเกื้อหนุนที่รุนแรง เมื่อสอบถามพระเบื้องบน...สรุปว่าผ่าน
- มองมาด้านล่างเห็นห้องพระคุณสมบัติ แปลกๆ ไม่มีพลังเลย ถามพระเบื้องบน ไม่ผ่าน
- สักครู่ ดร.นนต์ส่งเมล์สรุปให้แก้ไขห้องพระคุณสมบัติ ยังไม่ทันถาม พระเบื้องบน...สรุปว่าผ่าน
ธรรมสวัสดี
ดร.ณัฐชัย​

Sun 09/11/2011 3:01 AM
- เห็นเพียงแค่เมล์ ยังไม่ทันคลิก มีพลังวิ่งเข้ามาสัมผัส
- เปิดเมล์ขึ้นมาดู ใช่เลยพลังวิ่งเข้ามาเต็มๆ แสดงว่าห้องพระมีพลังเต็มกำลัง
- สอบถามพระ...ผ่านครับผม
ธรรมสวัสดี
ดร.ณัฐชัย ​

Fri 09/09/2011 7:51 PM
เรียนท่านสมบัติ
ท่านจัดใหม่ดีแล้ว แต่ผมถามพระเบื้องบนแล้ว ท่านบอกว่ายังเหลือสองจุดที่ยังไม่ลงตัวคือ
1. พระเศรษฐีนวโกฏิ ท่านเป็นพระพุทธเจ้า ให้เอาไปวางรวมกับพระพุทธรูปสามองค์ตรงกลางดูตำแหน่งให้เหมาะสมตรงไหนก็ได้
2. รูปภาพคณะหลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร ให้ย้ายไปอีกด้าน(ด้านข้างก็ได้)และลดตำแหน่งลงเล็กน้อย
เมื่อจัดได้ตามนี้ จะไม่มีอุปสรรคใดๆเกิดขึ้นกับท่าน การภาวนาสมาธิจะเป็นแบบก้าวกระโดดครับ
อนุโมทนา
ดร.นนต์​

Sun 09/11/2011 11:12 AM
เรียนท่านสมบัติ
ให้สลับพระเศรษฐีนวโกฏิอีกครั้งไปอยู่ด้านขวามือแทนตำแหน่งพระลีลาและพระองค์เล็ก (คู่ซ้ายขวากับปางห้ามญาติ) แล้วนำพระลีลาไปแทนตำแหน่งพระนวโกฏิ ส่วนพระพุทธรูปองค์เล็กสีทองให้นำมาวางตรงหน้าองค์กลาง ตามลูกศรที่ผมชี้ตำแหน่งให้ พระเบื้องบนยืนยัน พระเศรษฐีนวโกฏิต้องนำมาวางในตำแหน่งร่วมกันกับบริเวณพระพุทธครับ
ส่วนอื่นๆดีแล้วครับ
ดร.นนต์​

Sun 09/11/2011 1:11 PM
ถูกต้อง ดีที่สุดแล้วครับ พลังท่านมาเย็นมากๆ พลังกระจายดีแล้ว
ท่านสมบัติจะได้รับสิ่งที่ดีที่มงคล ทั้งการพัฒนาจิต และเกียรยติยศ ทรัพย์สินเงินทอง ปรากฏขึ้นภายใน 1 เดือนนี้ครับ
ขออนุโมทนา
ดร.นนต์​

พอจัดใหม่เพียงวันเดียวกัน พัฒนาทางจิตของผมมันไปเร็วมากคือจากจิตออกกาย คือ กายเรืองแสงได้เองหึหึ ฟลุก!

 

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 13 คน ( เป็นสมาชิก 5 คน และ บุคคลทั่วไป 8 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>IT Man, nontayan+, Phoobes, กสิณัง, sittiporn.s+ </TD></TR></TBODY></TABLE>


สบายดียามเย็นๆครับพี่ๆ สบายดีนะครับ
ประเดี๋ยวออกไปรับน้องก่อนครับ

 

การจัดห้องพระนั้นสำคัญไฉน?

เมื่อเริ่มปฏิบัติใหม่ๆ บางคนก็มีพระพุทธรูปเพียงองค์เดียว จะจัดวางท่านไว้ในตำแหน่งที่สูงที่ใดก็ง่าย แต่เมื่อเริ่มมีมากขึ้น การจัดวางและหาพื้นที่ก็จำเป็นต้องพิถีพิถันมากขึ้น บางคนแม้จะมีพระพุทธรูปจำนวนมาก แต่หากไม่ค่อยได้ปฏิบัติก็ไม่ได้สนใจที่จะมาจัดมาวางให้ยุ่งยาก ปล่อยท่านไว้อย่างนั้น แต่เมื่อจิตของเราเริ่มละเอียดมากขึ้น ความนิ่งเฉยหรือเฉยเมยต่อสิ่งที่เรากราบไหว้ ย่อมได้รับการกระตุ้นให้ฉุกคิด อย่าลืมว่าเทวดาเขาก็ยังรักษาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เรามีอยู่ด้วย

เมื่อเรายังอยู่ในโลกสมมุติ ยังไม่หลุดพ้นไปสู่วิมุติได้ การอาศัยสิ่งสมมุติ (พระพุทธรูปก็เป็นสิ่งสมมุติ) เพื่อสร้างความศรัทธาของเราต่อพระพุทธเจ้าก็ย่อมสมควร เพราะความศรัทธาเป็นหนึ่งในการนำบุคคลไปสู่การบรรลุธรรม และเป็นข้อแรกๆของการบำเพ็ญภาวนา หรือจะเรียกว่า เป็นพุทธานุสสตินั่นเอง

ผู้พ้นแล้ว นิพพานแล้ว ไม่มีธาตุขันธ์ดำรงอยู่ในโลกสมมุติแล้ว ก็ไม่จำเป็นจะต้องมาอาศัยสิ่งสมมุติใดๆอีก ห้องพระก็ไม่มีความจำเป็นต่อผู้นิพพาน(ละสังขารแล้ว)อีกต่อไป

การจัดห้องพระเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ บางคนจัดตามตำรา ตามคัมภีร์ บางคนจัดตามความรู้สึกของตัวเอง บางคนจัดตามองค์เทพองค์บารมีเป็นผู้บอก บางคนจัดตามญาณบารมีของตัวเอง อาจมีทั้งถูกและผิด ถูกต้องมาก ถูกต้องน้อย ผิดมาก ผิดน้อย ตามแต่วัตถุหรือพระพุทธรูปและสถานที่ของแต่ละบุคคล มีหลายสิ่งหลายอย่างผสมผสานกัน มีข้อจำกัด มีความอิสระต่างกัน จะจัดอย่างไรก็แล้วแต่ ผู้บำเพ็ญจนมีญาณบารมี สามารถสัมผัสด้วยตนเองได้ เมื่อจัดวางห้องพระใหม่เสร็จแล้ว หากส่งผลต่อการบำเพ็ญภาวนาสมาธิที่ก้าวหน้า มีผลต่อทางจิต มีความสุขร่มเย็น ย่อมแสดงว่าจัดได้ถูกต้องแล้ว ตนจะรับรู้ด้วยตัวเองเป็นปัตจัตตัง จึงรับรองด้วยตัวเองว่า นั่นถูกต้องเหมาะสมแล้ว เรื่องเหนือโลกจึงเป็นเรื่องรับรู้เฉพาะผู้ที่อยู่ในสภาวะการรับรู้ได้เท่านั้น ผู้ยังเข้าไม่ถึงก็อาจงงๆ ก็ไม่ว่ากัน แต่ก็ไม่ได้ยืนยันว่า ผู้ที่สามารถสัมผัสได้จะถูกต้องเสมอไป เพราะมันยังเป็นแค่โลกียฌาน...

พระบารมีของพระพุทธเจ้า นั้น ประมาณมิได้ เหนือกว่าบารมีของเทพและองค์ปู่เจ้าทั้งหลาย เหนือกว่าคัมภีร์ใดๆ ดังนั้น ความแม่นยำย่อมเหนือกว่าสิ่งอื่นใดทั้งปวง... ผู้อยู่ในเครือข่าย(พุทธวงศ์)เดียวกันจึงรับรู้ร่วมกันได้ และเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของผู้คนทั่วไป... จงพิจารณาเอาเองเถิด ถึงแล้วจะรู้เอง

 

ยินดีครับ.....รอฟังเรื่องเล่าความก้าวหน้าและพัฒนาการแบบรายวันนะ...หึหึ ช่วงนี้ไปได้ฉลุยเลยนะ ชื่นชม ชื่นชม... ต่างคนต่างอาการ...และต่างก็ได้พบเจอสัมผัสในสิ่งที่ต่างกันออกไป...นำมาเล่าสู่กันฟังก็เป็นเรื่องที่ดีแล้วครับเห็นด้วยเพราะในหลายๆสิ่งหลายๆอย่างอาจจะเกิดประโยชน์และให้ข้อคิดต่อหลายๆท่านที่กำลังตามหลังมาติดๆ...(เช็คยอดอยู่) ได้ใช้เป็นแนวทางในการปฎิบัติต่อไป...

โมทนาด้วยครับ...

 

รอยพระบาทของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กัปก่อนหน้านี้ครับ

 

**********โชร์เยอะจังตั้ง 8 องค์
ขอโชร์ 2 องค์ก็พอละ หุหุ*******

รูปแรก แสงน้อยไปหน่อย
รูปที่ 2 วัยรุ่นใจร้อน ยิงแสงแฟชใส่ แสงสว่างมากไป

(ไว้ว่างๆจะถ่ายงามๆมาให้ชม)

 

ยินดีด้วยนะครับ...รู้สึกพระพิมพ์ของคุณอ๊อดจะเริ่มเบาบางลงพอสมควร ก็โมทนาด้วย

เหล็กไหลของหลวงปู่หวลนั้นตรวจกับสอง ดร. แล้วว่าเป็นของดีของแท้แรงกว่าพระสมเด็จขนาดแรงมาตรฐานเซียนนิยมครับ แต่ห่างไกลมากจากสร้อยประคำเหล็กไหลไพลดำที่พึ่งได้ไป (พลังเท่า TOP4)

ขอเรียนให้ทราบว่า...เมื่อมีแต่ของดีของสูงขึ้นเรื่อยๆ ก็เพื่อช่วยอำนวยผลให้เรา ลด ละ เลิก ได้เร็วขึ้นๆนั่นเอง

 

การจัดห้องพระนั้นสำคัญไฉน?
สำคัญมากทุกๆด้านเลย
หากจัดผิด อะไรๆก็มักผิดมักเพี้ยนไปหมดเลย
โมทนาสาธุทุกประการครับ

 

ขอบคุณครับ รอยพระบาทพระองค์ท่านช่างใหญ่โตแท้หนอ

 

Wow! ต้นเดือนหน้าต้องขอเข้าไปชมพระบารมีมั่งแล้ว
ปล: ท่านนนต์ก็ไปด้วยครับ

 

กราบขอบพระคุณพี่อ๊อดเช่นกันครับ ที่ได้มอบพระสมเด็จวัดกุฏีทองและพระปิดตาสี่กรหลวงปู่ใหญ่ เนื้อหินลับมีดให้กับผม
แต่ที่ต้องขอบพระคุณเป็นอย่างสูงก็ด้วยจิตใจที่เอื้อเฟื้อและอารีของท่าน จากแรกเริ่มที่ไม่ได้รู้จักมักจี่กันมาก่อน ได้กรุณาแนะนำแนวทางศึกษาพระพญาเหล็กด้วยความอยากได้ใคร่รู้ของผม สืบต่อมาถึงเรื่องพระวังและเข้าสู่กลุ่มนักรบธรรมและสายธรรมที่ลึกเป็นที่สุด
เรื่องการแบ่งปันดูจะเป็นธรรมเนียมของกลุ่มนรธ.ไปเสียแล้ว ไม่ว่าจะเป็นวัตถุมงคล ความรู้ทางธรรม หรือแบ่งปันประสพการณ์ในการปฏิบัติ ทั้งนี้ก็ด้วยจิตใจที่เอื้ออาทรปรารถนาดีต่อกัน มีแนวทางใดที่ช่วยส่งเสริมกันได้ก็ยินดีที่จะเกื้อหนุน เอื้อเฟื้อต่อกันเพราะความเป็นญาติธรรมและสายธรรมเดียวกัน นี้แลครับสังคมศรีอารยะ
สำหรับสร้อยประคำเหล็กไหลไพลดำองค์นี้และองค์อื่นๆที่อยู่ในครอบครองของผม ก็สืบต่อมาจากประคำเหล็กไหลไพลดำ องค์อธิษฐานบารมี ที่ผมได้รับเมตตามาจากท่านดร.นนท์ มาเป็นสื่ออธิษฐานบุญบารมีในส่วนตนน้อมขออัญเชิญองค์อื่นๆเหมือนได้ดึงดูดกันมา เพื่อยังประโยชน์แก่ผู้อยู่ในสายธรรม และเพื่อการพระศาสนาในภายภาคหน้าที่จะธำรงให้สืบต่อไป ทั้งนี้สุดแล้วแต่ความเหมาะสมของบุคคลและเหตุปัจจัยแห่งกาลเวลา
อย่างไรก็ดีก็ต้องกราบขอบพระคุณในความเมตตาของท่านดร.นนท์พี่ใหญ่กลุ่มนรธ.ที่ทุกคนให้ความเคารพ และในความดีของพี่อ๊อดมา ณ ที่นี้ เช่นเดียวกันครับ
ความดีของบุรุษผู้หนึ่งข้าพเจ้าขอสลักชื่อท่านไว้บนผืนแผ่นผา เฉกเช่นเดียวกันความไม่ดีของบุรุษผู้หนึ่งข้าพเจ้าก็ขอขีดเขียนไว้บนผืนผิวทราย
คำคมของบุคคลผู้หนึ่งที่จำชื่อไม่ได้

 

การจัดห้องพระและการจัดวางพระของท่านดร.นนท์ เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ทั้งรูปธรรมและนามธรรม (ทางนอกและทางใน) ถูกต้องเบื้องบนและถูกใจเบื้องล่าง งดงามและเปี่ยมด้วยพลานุภาพพร้อมสรรพ เป็นแบบแผนและแบบอย่างแก่กลุ่มนักรบธรรม สายธรรมนี้

 

วันนี้ (18 กย. 54) เวลาประมาณ 09.30 น. ขณะที่ผมกำลังอัญเชิญพระสมเด็จวัดระฆังเพื่อถ่ายภาพลงในเว็บบอร์ด ปรากฏว่า ดวงอาทิตย์ได้แผ่จ้าและทรงกลดวงใหญ่สวยงามมาก ผมจึงนึกขึ้นได้ว่า ผมคงต้องทำอะไรสักอย่าง จึงได้อัญเชิญสร้อยประคำเหล็กไหลไพลดำ ลูกแก้วสุริยเทพ ลูกแก้ววรรณะกษัตริย์ ลูกแก้วสุริยันจันทรา มาอาบแสงสุริยเทพ พร้อมกับทำการสรงน้ำสร้อยประคำเหล็กไหล และขอพุทธานุญาตอัญเชิญพระบารมีพระเบื้องบนแผ่ฉัพพรรณรังสี และเพิ่มพลังพุทธานุภาพ ธรรมานุภาพ สังฆานุภาพ และความเป็นสิริมงคล แก่วัตถุมงคล สรรพสัตว์ ญาติธรรม เหล่านักรบธรรม พ่อแม่ครูอาจารย์ ญาติพี่น้อง
พระอาทิตย์ทรงกลดอยู่นานนับชั่วโมง จนกระทั่ง 10.30 น. จึงเลือนหายไป... ผมได้นั่งพิจารณาธรรมเช่นเดียวกันกับตอนที่อยู่ภูผาผึ้ง... ความปีติบางอย่าง เกิดขึ้น รู้แล้ว ก็ดับไป... ทุกอย่างมันก็เป็นอย่างนั้นเอง... เกิดมาหลายภพหลายชาติมันก็เป็นอย่างนั้นเอง... สภาวะบางอย่างมันก็เป็นอย่างนั้นเอง... คุณแม่ชมเคยบอกว่า สภาวะอย่างนั้น ใครจะเรียกอย่างไรก็ช่างมัน... รู้แล้วก็ปล่อยวาง...(ปริศนาแห่งสุริยเทพอาจมีอะไรบางอย่างกระมัง)...

 

สวัสดีครับช่วงนี้กำลังขนย้ายของเข้าบ้านใหม่ครับเลยไม่ได้มาอ่านข้อความพี่ๆครับ
ยังไงก็อย่าลืมกันเด้อ

 

สร้อยประคำเหล็กไหลไพลดำของสมเด็จโต สร้างในวาระปี 2407 หลายรุ่น (สามรุ่น) มีจำนวนไม่มาก ผมบังเอิญมีครบทั้งสามรุ่น ข้อสังเกตอยู่ที่ความเก่าของทองคำและการเคลือบผิว และต้องสอบถามจากพระเบื้องบน จึงจะทราบได้ รุ่น 1 มีแค่ 32 เส้น(เส้นเล็ก) รุ่น 2 มี 50 เส้น(เล็ก) รุ่น 3 มีทั้งเส้นเล็กเส้นใหญ่ มีจำนวน.... และยังมีอีกในปี 2408 และ 2409 ใครโชคดีและเชื่อก็ยังมีโอกาสจะได้รับ ลองชมดูนะครับ

ปล. ข่าวล่าสุด ดร.ณัฐชัย ไปพบสร้อยประคำเหล็กไหลไพลดำปลอมระบาดออกมาล็อตละไม่ต่ำกว่า 50 เส้น จึงโปรดระวัง....

 

<table class="tborder" width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"><tbody><tr> <td class="thead"> ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 8 คน ( เป็นสมาชิก 3 คน และ บุคคลทั่วไป 5 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> สาวกธรรม1, nontayan, หมวดซุบ
ลูกศิษย์รุ่นแรกรายงานตัวครับ
</td></tr></tbody></table>

 

สวยงามมากโมทนาสาธุครับ
ทราบมาว่า...ทาง กท. ก็มีเหตุการณ์อัศจรรย์ครับ
หวังเหมือนกันว่า จะเกิดเหตุการณ์ซ้ำ ณ ภูดานไห

 

ขอบคุณมากๆครับผม
ผมเองก็สงสัยมาตั้งแต่แรกแล้วสำหรับความรู้สึกตอนอัญเชิญ แม้ความเข้าใจแรกจักคิดว่าเป็นประคำเหล็กไหลไพลดำเช่นกันก็ตามที
รู้สึกค่อนข้างแตกต่างกัน ทั้งน้ำหนัก ทั้งความรู้สึกสัมผัส ทั้งความรู้สึกภายใน (ตรึงจิต) จนต้องเอ่ยปากในเรื่องนี้กะท่านนนต์และท่านฤาษี(เย็นนี้)

วันนี้ผมถ่ายองค์ธรรมะเสนาภักดีมาให้ชมอีกมุม ไว้พรุ่งนี้ค่อยชมแบบรวมมิตร ก่อนขึ้นภู...

ปล...เส้นทางขึ้นภู หฤโหดยิ่งขึ้น เพราะหนทางตอนนี้ไม่ต่างจากแม่น้ำน้อยๆ แถมมีหลุมมากมาย รถเก๋งหมดสิทธิ์ สองวันมานี้ครูชาติใช้แรงกายแรงใจขนหินมาลงด้วยตัวเอง ก็เพื่อรอต้อนรับพวกเรา (เกรงจะได้เดินขึ้นภูเป็นกิโล...)