ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย koymoo, 25 มกราคม 2005.

  1. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================



    3 เม.ย. 54


    สองขุนศึก------พระองค์ดำ--------ขันอาสา
    ได้ลงมา--------ตั้งผาแบ่น---------แดนอีสาน
    นำผู้คน---------ขึ้นที่สูง-----------พ้นภัยพาล
    รีบหนีมาร-------ก่อนกำหนด-------ภัยที่มี

    อีกหนึ่งขุน-------ขุนศึกป๊อก-------หายไปไหน?
    คงหลงไหล------ปุถุชน-----------น่าสงสาร
    หนีหายหน้า------ไม่ประสบ--------พบกันนาน
    ผมอยากตาม-----ให้มาช่วย--------ด้วยอีกแรง

    ขุนศึกป๊อก--------คือต้นห้อง-------ท่านพ่อดำ
    เฝ้าติดตาม--------รับใช้พ่อ--------ไม่ย่อหย่อน
    ถูกดุบ้าง----------เอ็ดบ้าง---------ก็อ่อนน้อม
    ช่วยถนอม--------พระวรกาย--------พ่อองค์ดำ

    ขุนศึกจิ๊บ----------เริ่มขยับ----------การทำงาน
    ได้ช่วยตาม--------คุณหมอหญิง------เข้าร่วมกลุ่ม
    ช่วยประสาน-------การทำงาน--------ที่หมายมุ่ง
    เรื่องยุ่งๆ----------เริ่มคลี่คลาย-------ไปทางดี

    คุณหมอหญิง-------อยากจะช่วย-------ด้วยเงินล้าน
    ขอกราบกราน------ล่วงหน้าแทน-------เพื่อนในกลุ่ม
    ที่เมตตา-----------ช่วยมนุษย์---------ยามว้าวุ่น
    ช่วยกระตุ้น---------การทำงาน---------ฐานผาแบ่น

    อีกหนึ่งท่าน--------คือท่านโอม--------ลูกพ่อตาก
    มีความอยาก-------ช่วยเหลือคน-------ยามสับสน
    ที่เชียงคาน---------ซื้อที่แล้ว----------ด้วยหนึ่งคน
    ขอช่วยดล----------ให้สำเร็จ----------การทำงาน






    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"
     
  2. kowmoo

    kowmoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +1,896
    เมืองหลักภาคอีสานท่วมแล้ว ภาคใต้ท่วมแล้ว (2 นครท่วมแบบไม่เคยมีมาก่อน ข้อต่อไปไม่รู้นครไหน ลูกชายบอกกรุงเทพมหานคร )สาธุอย่าได้มาเลย
     
  3. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    <table class="tbis" align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="840"><tbody><tr class="tbis1" bgcolor="#336699"><td width="20%" nowrap="nowrap">วัน-เวลา *ประเทศไทย</td> <td align="center" width="10%" nowrap="nowrap">ขนาด</td> <td align="center" width="10%" nowrap="nowrap">Latitude</td> <td align="center" width="7%" nowrap="nowrap">Longitude</td> <td align="center" width="13%" nowrap="nowrap">Phase</td> <td width="" nowrap="nowrap">บริเวณที่เกิด</td> </tr> <tr class="tbis3"> <td valign="top">2554-04-04 11:28:53</td> <td align="center" valign="top">4.1</td> <td align="center" valign="top">20.59</td> <td align="center" valign="top">100.08</td> <td align="center" valign="top">10</td> <td valign="top">ประเทศลาว </td></tr></tbody></table>
     
  4. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    [​IMG]
    สำนักข่าวด่วนกัมพูชา อ้างการรายงานของ เจ้าหน้าที่กัมพูชา เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า เจ้าหน้าที่กัมพูชา ได้สั่งห้ามเจ้าหน้าที่ไทย ไม่ให้ก่อสร้างที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองด่านศุลกากร และที่ทำการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ด่านพรมแดนตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว
    โดยระบุว่า ไทย ควรรอการกำหนดที่ตั้งของหลักเขตแดนที่ 36 จากคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ให้เสร็จก่อน ไม่อย่างนั้นถ้าไทยก่อปัญหาใหญ่การเผชิญหน้ากันด้วยกำลังจะเกิดขึ้น
    โดย นาย นู โยค หัวหน้าด่านตรวจพรมแดนบึงตรอกวน ระบุว่า ถ้าไทยดำเนินการก่อสร้างต่อในพื้นที่ดังกล่าว จะเกิดการเผชิญหน้ากันอย่างรุนแรงขึ้นทันที
    นายบรัก ซำ หัวหน้าป้อมตำรวจด่านพรมแดนบึงตรอกวน ระบุว่า การใช้กำลังปักหลักเขตอาจเกิดขึ้น ถ้าไทยไม่รอมชอม รอดำเนินการกำหนดหลักเขตแดนที่ 36 และยังพยายามก่อสร้างที่ทำการตรวจคนเข้าเมืองและด่านศุลกากร และที่ทำการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองด่านตาพระยา
    ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก 15thmove
    Mthai News
    <LI class=news_src_item>[​IMG]<LI class=news_src_item>
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    รวมข้อมูลเรื่องภัยพิบัติ
    จากคุณคณานันท์ ทวีโภค

    [​IMG]

    [​IMG]

    kananun หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ

    คีย์ของเหตุการณีที่สำคัญมีดังนี้ครับ

    1.อิสราเอล โจมตี อิหร่าน ซีเรีย จะเป็นชนวนให้เกิดการเป็นสงครามศาสนา
    2.ถ้าอินโด มาเลย์ เข้าร่วมด้วยจะมีโอกาสที่ภาคใต้ของไทยจะพลอยได้รับผลกระทบจากการโจมตีไปด้วย คนที่อยู่ทางใต้เตรียมอพยพได้
    3.ถ้าประเทศฝรั่งเศสถูกโจมตี ให้คนไทยในต่างประเทศรีบกลับไทยด่วน
    4.ถ้ามีการใช้อาวุธชีวภาพ หรืออาวุธนิวเคลียร์ ในสงครามหรือการก่อการร้ายก็ตาม ให้สังเกตว่าจะมีขยายตัวเพิ่มหรือไม่ ถ้ามีคนตายหลักหมื่น ก็ให้เตรียมเก็บสะสมข้าวของเต็มอัตรา ถ้า จีน เกาหลีเหนือเข้าข้างแขก และมีการเข้าร่วมแต่ละฝ่ายเพิ่มขึ้นโอกาส ที่ขีปนาวุธนิวเคลียร์ของมหาอำนาจที่ตั้งระบบออโต้ไว้เมื่อถูกโจมตีจะทำงานอัตโนมัติ เมื่อมีสัญญาน จะเริ่มยิงไปตามเมืองเป้าหมาย คีย์นี้เราควร รีบย้ายไปหาที่หลบภัยได้แล้วครับ
    5.ถ้าเมืองใหญ่ทั่วโลกถูกโจมตีด้วยนุ้ก กรุงเทพจะเกิดจราจลเพราะคนแก่งแย่งกันหนีไปอยู่ป่าอยู่เขาครับ อาจไม่มีกฏหมาย มีการปล้นฆ่าแย่งชิงยานพาหนะ ข้าวของ อาหารกัน แมคโคร โลตัส คนเข้าไปปล้นเอาข้าวของตามใจ คนฆ่ากันเพียงเพื่อแย่งที่นั่งบนรถทัวร์ครับ เพราะฉะนั้นย้ายตอนนั้นอาจสายไปครับและอันตรายด้วย
    6.หลังจากนั้นจะเป็นภัยพิบัติจาก ผลกระทบของนิวเคลียร์ และตามด้วยภัยจากพลังธรรมชาติครับ
    7.หลังการกวาดล้างชุดนี้ คนที่อยู่รอดบางกลุ่มก็จะเริ่มฆ่ากันเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่อีกรอบครับ
    8.หลังจากนั้นจึงเหลือรอดแต่คนที่จิตใจดีจริงๆ และสมควรอยู่เพื่อสืบต่อ ชาติ ศาสนาครับ
    9.คนพวกนี้จะมีกลุ่มที่ได้อภิญญาและเริ่มช่วยคน รักษาคน และเยียวยาธรรมชาติครับ หลังนิวเคลียร์พืชพันธุ์จะยิ่งสมบูรณ์
    10.คนเริ่มเบื่อหน่ายในวัตถุหันมาค้นคว้าศึกษาความรู้ด้านจิตใจเพิ่มขึ้น จนความเจริญทางวัตถุและจิตใจสมดุลกัน พุทธศาสนากลับมาเจริญรุ่งเรืองคล้ายสมัยพุทธกาล มีผู้บรรลุธรรมเยอะ มีการสังคายนาพระไตรปิฎก สังคายนาพระวินัย และการรวมนิกายใหม่ เลิกแบ่งแยกสายการปฏิบัติ
    11.มนุษย์จิตใจเจริญขึ้น และมีมนุษย์จากดาวอื่นเข้ามาติดต่อ และตอบรับให้โลกเข้าสู่สมาพันธ์ดวงดาว โดยมี ดร. คนสำคัญคนหนึ่งของไทยทำหน้าที่เป็นทูตของสมาพันธ์ครับ
    12.แม้จะสูญเสียพลเมืองไปไม่น้อย แต่ประเทศไทยยังคงดำรงความเป็นชาติไทยที่มีองค์พระมหากษัตริย์เป็นพระประมุขเหมือนเดิมครับ แต่จะกลายเป็น"ไทยมหารัฐ"ครับผม

    21-07-2006, 03:22 PM

    ขออัพเดทข้อมูลเพิ่มครับ เพิ่งได้ข้อมูลทางสาย ลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านบอกให้ เริ่มเตรียมตัวรับภัยสงครามเพิ่มขึ้น ท่านให้ดูว่าถ้ามีการยิงนิวเคลียร์ขึ้นลูกแรก ก็ให้รีบ ซื้อหาอาหารแห้ง ปัจจัยสี่โดยเร็ว และมีเกลืออีกอย่างที่เป็นสิ่งจำเป็น ถ้าไม่มีไฟฟ้าไม่มีตู้เย็น ส่วนเมื่อมีลูกแรกแล้วให้รีบอพยพไปในที่ปลอดภัยจากเมืองใหญ่โดยเร็ว เพราะหลังจากนั้นจะมีการระเบิดต่อเนื่องติดตามกัน จากระบบโจมตีกลับอัตโนมัติเมื่อถูกโจมตี ทำให้มหาสงครามนิวเคลียร์ล้างโลกของจริงเกิดขึ้นครับ ดังนั้นช่วงนี้ ขอให้

    1. ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงท่านครับ
    2. ประหยัดชะลอการซื้อของฟุ่มเฟือยหรือเครื่องไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็คโทรนิคราคาแพงไว้ก่อน
    3. เลิก เหล้า บุหรี่ ยาเสพติด และมาฟิตร่างกายให้แข็งแรงครับ
    4. ฝึกจิต รักษาศีล นั่งสมาธิ เจริญวิปัสนากรรมฐานไว้ครับ
    5. ติดตามข่าว เหตุการณ์ต่างๆไว้เสมอ ใน เวปพลังจิตนี้ก็ได้ครับ มีหลายท่านคอยอัพเดทให้ข้อมูลความรู้อยู่ตลอด
    6. เริ่มคิดเริ่มหา เริ่มวางแผนกับคนในครอบครัวในกรณีที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นมาครับ จะได้ไม่ฉุกละหุก
    7. เตรียมเป้ หรือกระเป๋าฉุกเฉินไว้ใกล้ๆตัวครับ ในกรณีที่เกิดเร็วมากจนไม่ทันตั้งตัว ทั้งภัยธรรมชาติและภัยสงคราม
    8. เตรียมใจไว้รับความเปลี่ยนแปลงครับ ยอมรับว่าเป็นเรื่องธรรมชาติ และพยายามปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ให้มากที่สุดครับ

    13-08-2006, 04:00 PM

    ขออนุญาตเอามาแปะเพื่อเผยแพร่ข้อมูลต่อครับ:-

    เท่าที่คุยกับอาจารย์วันนี้ อาจารย์เทพนม เมืองแมน ให้ข้อมูลต่าง ๆ มากมาย คุยอยู่ตั้งชั่วโมงนึงแน่ะ จะสรุปคร่าว ๆ ที่อาจารย์คุยให้ฟังนะ

    - อาจารย์บอกว่ามนุษย์ต่างดาวบอกอาจารย์ตั้งแต่ต้นปีว่า 1.ปีนี้จะเกิดโรคระบาดที่มาจากนก ซึ่งตอนนี้ก็เกิดแล้วคือไข้หวัดนก 2.ภาคใต้จะเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์อีกครั้ง แต่อาจารย์บอกว่ามนุษย์ต่างดาวไม่ได้บอกว่าเป็นช่วงไหนและจะเกิดฝั่งใดของภาคใต้ อาจารย์บอกว่า 6 จังหวัดที่เคยโดนสึนามิมาแล้วให้ระวัง ถ้าเกิดแผ่นดินไหวที่อินโดเกิน 7 ริคเตอร์ ก็จะเกิดคลื่นสึนามิภายใน 1 ชม.

    - มนุษย์ต่างดาวย้งบอกว่า ก่อนสิ้นปีจะเกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่กรุงเทพ ซึ่งอาจารย์บอกว่าตึกสูงในกรุงเทพมีอยู่ 3,000 กว่าตึก และตึกในกรุงเทพก็ไม่เคยวางแผนรับมือกับแผ่นดินไหวไว้เลย ดังนั้น ถ้าเกิดแผ่นดินไหวจริง แล้วตึกเหล่านั้นถล่มลงมา จะเกิดอะไรขึ้น ลองคิดดู

    - จากข้อที่แล้ว อาจารย์บอกว่า ดร.สมิทธิ์ บอกว่าแนวแผ่นดินไหวในไทยไม่มี แต่ก็ยังมีแนวแยกในหลายจังหวัดที่อาจจะมีผลกระทบ เช่น ในเขตกาญจนบุรี สิ่งที่น่าเป็นห่วงยิ่งกว่าก็คือ รอยแยกตรงเขื่อนจุฬาและเขื่อนศรีนครินทร์เพราะเขื่อนทั้งสองนี้มีขนาดใหญ่ที่สุด อาจารย์บอกว่าถ้าเขื่อนศรีนครินทร์แตก คนในเมืองจะมีเวลาหนีเพียงแค่ 2 ช.ม และก็น้ำก็จะท่วมกรุงเทพมิด

    - นอกจากนี้มนุษย์ต่างดาวยังบอกอาจารย์เรื่องสงครามโลกครั้งที่ 3 อีกว่าจะเริ่มที่ตะวันออกกลางและจะขยายไปเรื่อย ๆ ถ้าจีนเข้าร่วมเมื่อไร ก็จะกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3

    - อาจารย์ยังบอกว่า อุกาบาตยักษ์จะพุ่งชนโลกภายในไม่เกิน 100 ปีนี้ และการชนครั้งนี้จะรุนแรงพอ ๆ กับตอนที่ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ เพราะถ้าอุกาบาตยักษ์นี้ตกลงไปในน้ำ ก็จะเกิดคลื่นยักษ์วิ่งไปทั่วโลก เมืองใหญ่ที่อยู่ติดทะเลจะถูกทำลายหมด แต่ถ้าอุกาบาตยักษ์นี้ตกลงไปบนแผ่นดิน ฝุ่นจะคลุ้งไปทั่วและก็เกิดระเบิดปรมาณูติด ๆ กันหลาย ๆ ลูกบนโลก อาจารย์บอกว่าทั่วโลกกำลังพยายามแก้ไขเรื่องนี้อยู่แต่ยังหาทางออกไม่ได้

    - เรื่องที่ตื่นเต้นที่สุดคือ มีการพบเมืองร้างที่ดาวอังคารใกล้เส้นศูนย์สูตร โดยอาจารย์บอกว่าได้ดูวิดีโอซึ่งถ่ายมาจากดาวอังคารจากเพื่อนที่นาซ่า จากวิดีโอนี้จะเห็นว่าในเมืองร้างนี้มีบ้านเมือง มีวิหารโบราณ มีท่อประปา มีอนุสาวรีย์หน้าคน ดังนั้นจึงมีการสันนิษฐานว่า บนดาวอังคารนี้จะต้องเคยมีสิ่งมีชีวิตอยู่และสิ่งมีชีวิตนี้จะต้องมีความสัมพันธ์กับโลกมนุษย์เราด้วย เพราะยังมีสิ่งก่อสร้างลักษณะเดียวกับปิรามิดที่อิยิปต์อีกด้วย

    จากข้อมูลนี้เราเลยถามอาจารย์ว่ามนุษย์ต่างดาวที่อาจารย์สื่อสารด้วยนั้นมาจากไหน อาจารย์บอกว่าก็มาจากดาวอังคารนี่แหละ แต่เมื่อถามว่าแล้วตอนนี้เค้าอยู่ไหนล่ะ อาจารย์บอกว่าตอนนี้เค้าอยู่ใต้ดิน (มิน่าล่ะ มนุษย์เราไปถึงไม่เจอ)

    - อาจารย์บอกว่า ภายใน 100 ปี น้ำมันจะหมดโลก และนักวิทยาศาสตร์ก็ยังหาพลังงานที่มีศักยภาพเทียบเท่าน้ำมันไม่ได้ ดังนั้นพวกฝรั่งจึงพยายามไปดาวอื่น ๆ เพื่อหาแหล่งพลังงานใหม่ ๆ ตอนนี้นาซ่ากำลังพัฒนาหุ่นยนต์เพื่อเลี้ยงเด็กและก็มีความคิดที่จะส่งเด็กและหุ่นยนต์นี้ออกไปนอกโลกเพื่อที่จะสร้างโลกใหม่

    ข้อมูลตังกล่าวข้างต้นเป็นเพียงข้อมูลคร่าว ๆ และอาจคลาดเคลื่อนบ้าง เพราะจริง ๆ อ่ะ อาจารย์พูดเยอะมากเลย แต่เราจดไม่ทัน ยังคิดเลยว่านี่ขนาดแค่โทรไปนัด อาจารย์ยังให้ข้อมูลเยอะขนาดนี้ ถ้าได้ไปเจออาจารย์จริง ๆ คงเก็บข้อมูลมาเพียบ กะว่าจะขอชมรูปถ่ายและวิดีโอมนุษย์ต่างดาวด้วย

    ขอขอบคุณคุณ soonyata มากๆครับสำหรับการประสานงานกับทาง อ.เทพพนม

    12-08-2006, 05:21 PM

    สำหรับการเตรียมตัวเตรียมใจเพื่อรับมือกับภัยพิบัตินี้ เราควรทำตัวอยู่ในสองมิติให้สมดุลครับ คือ ในฐานะของคนปกติใช้ชีวิต ทำอาชีพการงานตามปกติไม่ตื่นตระหนก บอกคนอื่นเรื่องนี้บ้าง เตือนบ้างตามโอกาสและกาลเทศะที่เหมาะสม ถ้าคนเค้าเชื่อเราค่อยแนะนำต่อ ถ้าเค้าไม่เชื่อก็เฉยๆ ให้วางใจเป็นอุเบกขาอย่าไปเดือดเนื้อร้อนใจกับพวกเขา กรรมใครกรรมมัน ให้เราระลึกไว้ว่าพวกเราไม่สามารถช่วยทุกคนบนโลกนี้ได้(ถึงแม้เราอยากจะทำอย่างนั้นก็ตาม) เพราะ กฏแห่งกรรม และพวกเขาเหล่านั้นต้องช่วยตัวเองด้วยครับ

    ส่วนในอีกมิติของพวกเราก็จงเป็นผู้ฝึกฝนตนเอง ทั้งร่างกาย และจิตใจ ให้มีพลังขึ้น มีความตั้งมั่นขึ้น มีความบริสุทธ์สูงขึ้น อย่าลืมว่าเกณฑ์ในการสงเคราะห์ของเบื้องบนนั้นท่าน เลือกผู้มีความเมตตา มีคุณธรรม มีจิตใจที่บริสุทธ์ครับ เพราะโลกในยุคสมัยหลังมีหลงเหลือแต่คนดี คนมีศีลธรรมครับ ยุคนั้น พระพุทธศาสนาจะเจริญรุ่งเรืองคล้ายสมัยพุทธกาล มากด้วยผู้บรรลุธรรมและพระอริยเจ้าครับ น่าชื่นใจจัง

    02-08-2006, 05:40 AM

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติครับ เป็นเรื่องของกฏแห่งกรรม และพลังงานของกรรมชั่วที่มนุษย์บนโลกได้กระทำสืบทอดสะสมกันมา เมื่อพลังงานของกรรมชั่วได้เพิ่มมากขึ้นจนเกินสมดุลของโลกจะทานไว้ได้ ก็มีการชำระล้างกันอีกรอบหนึ่งครับ เหตุที่มีการรู้สึกว่ามีการเลื่อนมา หลายปีนั้น ท่านบอกว่า มีมนุษย์เท่านั้นที่ติดสมมติเรื่องเวลา และภาษา ในโลกของจิตวิญญาน มีเพียงเหตุเป็นตัวกำหนดผลที่จะตามมาครับ นั้นคือกฏแห่งกรรมครับ

    ครั้งนี้มนุษย์โลภโมโทสัน และทำลายธรรมชาติยิ่งกว่ายุคสมัยใด ผมบอกได้เต็มปากเลยว่า เป็นความผิดของทุกคนบนโลก รวมทั้งตัวผมเองด้วย ในความเลวความชั่วแม้เพียงเล็กน้อยของเรา มันกลายมาเป็นผลของกรรมที่มาทำให้ต้องมาเผชิญในอนาคตอันใกล้นี้ครับ เรามาทำจิตของพวกเราให้บริสุทธ์และมีพลังเพื่ออย่างน้อยก็ให้มีโลกใบนี้หลงเหลืออยู่ มีประเทศไทยไว้สืบต่อพระศาสนาให้ครบ 5,000 ปีครับ แล้วก็เก็บประสบการณ์ที่ผิดพลาดนี้ไว้เล่าให้ลูกหลานของเราได้ฟังครับ

    01-08-2006, 02:10 PM

    สำหรับสถานที่หลบภัยผมแยกเป็นกลุ่มใหญ่ๆดังนี้

    1.เป็นวัดหรือถ้ำหรือสำนักปฏิบัติธรรมที่ทราบและมีการเตรียมตัวรับเรื่องนี้ไว้แล้ว
    2.วัดหรือสำนักปฏิบัติธรรมที่ไม่ทราบเรื่อง แต่ปรับตัวตามสถานการณ์มีผู้คนมาขอพักอาศัยเพื่อความปลอดภัย แต่จะปรากฏปัญหาความขาดแคลน ปัจจัยสี่
    3.เป็นหมู่บ้านหรือชุมชน หรือ โรงแรม รีสอร์ทที่ ทราบเรื่องนี้และปรับตัวเปลี่ยนเป็นสถานที่หลบภัยเมื่อเกิดเหตุการณ์
    4.เป็นหมู่บ้านหรือชุมชนที่ไม่ทราบเรื่องแต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ก็มีการรวมตัวเป็นหมู่คณะเพื่อความปลอดภัย แต่อาจมีปัญหาขาดองค์ความรู้ในทางธรรมทางพลังสมาธิ และการเอาชีวิตรอด
    5.ที่หลบภัยที่ชาวบ้านซึ่งอยู่ในที่ห่างไกลอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องย้ายไปไหน แต่ต้องปรับตัวเองตามสถานการณ์ที่เกิดเอง
    6.ที่หลบภัยส่วนตัวที่ ผู้มีทุนทรัพย์ไปจัดสร้างเตรียมไว้ในรูปของบ้านต่ากอากาศ
    7.ที่หลบภัยที่พระผู้มีอภิญญาในป่าท่านมาสงเคราะห์พาไป เนื่องจากมีหน้าที่และความเกี่ยวพันในอดีตชาติ
    8.ที่หลบภัยที่เป็นสถานที่ต่างมิติเช่น เมืองลับแล และเมืองบาดาล ของพญานาค ผู้ที่เข้าได้ต้องมีศีลธรรมและเกี่ยวพันกันมา
    9.ที่หลบภัยที่มนุษย์ต่างดาวได้มาช่วย โดยการส่งยานแม่มารับและพาออกไปนอกอวกาศ

    ทั้ง สามประเภทหลัง ผมว่าเราอย่าเพิ่งหวังเลยครับ ถ้าท่านมาช่วยจริงถือว่าเป็นโบนัสแห่งความดีที่เราได้ทำมาครับ เราควรไม่ประมาท มีสติ และช่วยตัวเองก่อน ทำตัวเองให้มีจิตใจที่ดี ที่บริสุทธ์ให้ได้ก่อนครับ ส่วนจะเลือกสถานที่แบบไหนลองใช้ปัญญาไตร่ตรองดูครับ ไม่ใช่เกิดเหตุการณ์แล้วไม่รู้จะอยู่ที่ไหน อยู่อย่างไร อยู่เพื่ออะไร ครับ

    31-07-2006, 04:21 PM

    ต่อไปผมขอจำแนก หมู่คนในเหตุการณ์ภัยพิบัติที่กำลังจะเกิดไว้ดังนี้

    1.ตาย โดยมีจิตใจเป็นอวิชชา เพราะตอนมีชีวิตมัวเมาในชีวิต ไม่มีศีลไม่มีธรรมมะประจำใจ เมื่อตายลงสู่อบายภูมิส่วนหนึ่ง อีกส่วนหนึ่งหลงในโลกตกค้างเป็นสัมพเวสีอยู่โลก รอพระอริยโพธิสัตว์และพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณท่านมาโปรด ขณะยังมีชีวิตไม่อาจสงเคราะห์ได้
    2.ตาย โดยที่เป็นผู้ที่มีศีลมีธรรม แต่เป็นวาระที่ถึงอายุขัยพอดีเนื่องจากกรรมในอดีต เมื่อตาย กลับสู่ สวรรค์ พรหม บางท่านบรรลุธรรมขณะจิตดับและเข้าสู่พระนิพพาน เมื่อยังมีชีวิตถ้าได้ฝึกจิตเตรียมตัวตายและอธิฐานขอจุติในจุดที่ต้องการจะเป็นประโยชน์มาก
    3.รอดตาย แต่วิกลจริต เนื่องจากความกลัว และความยึดติดในความมี ความเป็น ไม่เข้าใจเรื่องอนิจจังความไม่เที่ยง บางคนรักษาได้ บางคนไม่ได้
    4.รอดตายจากภัยพิบัติ แต่มาฆ่ากันตายเพื่อแย่งชิง น้ำ อาหาร ที่อยู่อาศัย ปัจจัยสี่
    5.รอดตายจากภัยพิบัติ แต่มาฆ่ากันตายเพื่อแย่งชิงความเป็นใหญ่
    6.รอดตายจากภัยพิบัติ อยู่รอดปลอดภัย เพื่อรักษาสืบต่อพระศาสนา
    7.รอดตายจากภัยพิบัติ และอยู่รอดเพื่อทำหน้าที่บำเพ็ญบารมีช่วยเหลือผู้คนและสรรพสัตว์ต่อไป

    ในหมู่ที่ 5. นี้น่าสลดสังเวชใจที่สุดเพราะบางคนมีวิชา และสมาธิสูงแต่ถูกมิจฉาทิษิฐิครอบงำจนลืมอุดมการณ์ความดีงามที่ได้เคยทำมา ทั้งที่ควรได้ใช้วิชาความรู้ที่มีมาเป็นกำลังช่วยเหลือผู้อื่น
    ขอให้ทุกคนอยู่รอดปลอดภัยครับ และตั้งใจเป็นประเภทที่ 6 และ 7 ครับ

    31-07-2006, 03:55 PM

    ส่วนใหญ่แล้วพวกเราถูกลงโปรแกรมไว้ว่าให้มีหน้าที่มาช่วยคนในช่วงกาลียุคนี้ครับ ก่อนหน้านี้สองอาทิตย์ผมยังบ้าเครื่องเสียงโมดิฟายจอ LCDอย่างเมามันครับ แป๊ปเดียว มาเป็นอย่างที่เห็นนี่ล่ะครับ ตั้งใจปฏิบัติเพิ่มขึ้น ตอบกระทู้วันละ 5-6 ชม. และได้เรียนรู้บางอย่างเพิ่มขึ้นไปพร้อมๆกันครับ

    - อานิสงค์ของการพบปะกันคือเป็นการทำความรู้จักเพื่อการประสานงานช่วยเหลือกันในอนาคตครับ ส่วนการon tour จะเพิ่มศรัทธาและกำลังใจให้เพิ่มขึ้นครับ เวลาไปทีไรมีเหตุการณ์ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นบ่อยครับ รอบที่แล้วขึ้นถ้ำวัวแดงก็ไปเจอพญานาคในถ้ำกัน ยิ่งทำให้เรายิ่งมั่นคงในคุณพระรัตนไตยครับ

    -ส่วนการเรียนมโนมยิทธิ ผมขออนุญาตให้ท่านไปเรียนแบบเป็นทางการ ขึ้นครูพระกรรมฐานอย่างถูกต้องกันก่อน หลังจากนั้นผมแนะนำให้ได้ครับ ส่วนใครจะเรียน ขั้นต้นจับลมสบายจนไปถึง เมตตาอัปปัณนาณฌาณ ลองนัดได้ครับ

    28-07-2006, 03:46 PM

    ที่มา http://palungjit.org/archive/t-42069.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1276127263.jpg
      1276127263.jpg
      ขนาดไฟล์:
      42.4 KB
      เปิดดู:
      2,956
    • M5422.jpg
      M5422.jpg
      ขนาดไฟล์:
      35.6 KB
      เปิดดู:
      2,955
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2011
  6. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    พม่าไหวต่อ

    <table class="tbis" align="center" border="0" cellpadding="3" cellspacing="0" width="840"><tbody><tr class="tbis1" bgcolor="#336699"><td width="20%" nowrap="nowrap">วัน-เวลา *ประเทศไทย</td> <td align="center" width="10%" nowrap="nowrap">ขนาด</td> <td align="center" width="10%" nowrap="nowrap">Latitude</td> <td align="center" width="7%" nowrap="nowrap">Longitude</td> <td align="center" width="13%" nowrap="nowrap">Phase</td> <td width="" nowrap="nowrap">บริเวณที่เกิด</td> </tr> <tr class="tbis3"> <td valign="top">2554-04-04 12:16:22</td> <td align="center" valign="top">3.5</td> <td align="center" valign="top">20.92</td> <td align="center" valign="top">99.96</td> <td align="center" valign="top">8</td> <td valign="top">ประเทศพม่า </td> </tr> <tr class="tbis2"> <td valign="top">2554-04-04 11:28:53</td> <td align="center" valign="top">4.1</td> <td align="center" valign="top">20.59</td> <td align="center" valign="top">100.08</td> <td align="center" valign="top">10</td> <td valign="top">ประเทศลาว </td></tr></tbody></table>
     
  7. kumpeang

    kumpeang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    546
    ค่าพลัง:
    +1,984
    "ความคิด" เหมือนกระสุนสโลว์โมชั่นใน The Matrix ฝึกสติ ให้มองเห็นได้ไวให้ทัน ฝ่อก่อนจะมาถึงตัว

    หยิบมาแซว สโลแกน น่ารักดีครับ ฮา..................
     
  8. Falkman

    Falkman พลังจิตนานาชาติ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    19,726
    ค่าพลัง:
    +77,792
    :boo::boo::boo::boo::boo::boo::boo::boo::boo::boo::boo::boo::boo::boo:
     
  9. poon-pan

    poon-pan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,300
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,126
    เข้ามาติดตามข่าวคราวจากเพื่อน ๆ พี่ อยู่ตลอดครับ
     
  10. doodee1

    doodee1 คนละพวก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,718
    วันที่ 04 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 17:49 น. ข่าวสดออนไลน์


    น้ำท่วม755วัดจม พระ-เณรเดือดร้อนหนัก ด้านกรมศิลป์ห่วงพระธาตุไชยา

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>วันที่ 4 เม.ย. นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมวัดและถวายเงินพระภิกษุสงฆ์สามเณรในจ.ชุมพร กระบี่ นครศรีธรรมราช พัทลุง ที่ถูกน้ำท่วม พบว่า ยอดวัดที่เสียหายจากน้ำท่วมจากเดิมอยู่ที่ 312 วัด ขณะนี้พุ่งขึ้นไปถึง 755 แห่ง ดังนี้ จ.ชุมพร 11 แห่ง กระบี่ 16 แห่ง นครศรีธรรมราช 417 แห่ง พัทลุง 142 แห่ง สุราษฎร์ธานี 132 แห่ง ตรัง 31 แห่ง ยะลา 6 แห่ง โดยที่จ.สุราษฎร์ธานีและนครศรีธรรมราชเสียหายหนักสุด บางวัดน้ำท่วมมิดทั้งหวัด บางวัดน้ำพัดศาลาหายไปทั้งหลัง กระเบื้องและพื้นแตกเสียหาย นอกจากนี้ บางวัดซึ่งอยู่ในสภาพเสียหายยังเป็นศูนย์ช่วยเหลือชาวบ้านที่มาอาศัยวัดเป็น 100 ชีวิต ทำให้วัดมีภาระต้องดูแลเรื่องอาหาร โดยชาวบ้านทั่วไปขาดเครื่องนุ่งหุ่ม พระสงฆ์สามเรณขาดสบง จีวร น้ำปานะ ยารักษาโรค
    “ช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมา พยายามจะลงพื้นที่ตรวจความเสียหายทั้งหมด แต่สามารถตรวจได้แค่ 4 จังหวัด ด้วยสุราษฏร์ธานียังเข้าพื้นที่ไม่ได้ ถนนถูกตัดขาด ดังนั้น วัดบางแห่งยังไม่ทราบชะตากรรม คาดว่ายอดความเสียหายจะเพิ่มสูงขึ้นมากกว่านี้ เบื้องต้น พศ.ให้การช่วยเหลืออย่างเต็มที่ใน 2 ทางคือ ถวายเครื่องอุปโภคบริโภคแด่พระสงฆ์ สามเณร หากพื้นที่ใหนเข้าไปไม่ถึง จะนำไปไว้ที่ศูนย์ความช่วยเหลือแล้วค่อยกระจายออกไป ส่วนการถวายเงินช่วยเหลือพระภิกษุสงฆ์ สามเณรรูปละ 100 บาทนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์น้ำท่วม หากจังหวัดใหนสถานการณ์นิ่งแล้วก็จะถวาย 20 วัน รูปละ 2,000 บาท หากจังหวัดใหนที่ท่วมอยู่ จะถวาย 30 วัน รูปละ 3,000 บาท หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายก็จะถวายต่อ” ผอ.สำนักพุทธฯ กล่าว
    ด้าน นางโสมสุดา ลียะวณิช อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรรู้สึกเป็นห่วงสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ ซึ่งส่งผลกระทบทำให้โบราณสถานและพิพิธภัณฑ์ได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะพระบรมธาตุไชยา และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ที่ขณะนี้ระดับน้ำยังเข้าท่วมสูง เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบความเสียหายโดยรวมได้ ทั้งนี้ตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่พยายามลงพื้นที่เพื่อเข้าไปตรวจสอบโดยเร็วที่สุด พร้อมประเมินการบูรณะซ่อมแซมทันทีหลังจากน้ำลด เนื่องจากเกรงว่าโครงสร้างของพระธาตุ และโบราณวัตถุภายในพิพิธภัณฑ์จะได้รับความเสียหาย เพราะแช่น้ำเป็นเวลานาน
    น.ส.แสงจันทร์ ไตรเกษม ผอ.สำนักศิลปากรที่ 14 นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้ จะส่งเจ้าหน้าที่ของสำนักศิลปากรที่ 14 เข้าไปสำรวจโบราณสถานในพื้นที่ภาคใต้ ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมทั้งหมด ซึ่งที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือพระบรมธาตุไชยา เพราะน้ำท่วมสูงมาก ส่วนในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติไชยา ขณะนี้ทราบว่าเจ้าหน้าที่ขนของหนีน้ำแล้ว

    พิษแผ่นดินไหวที่พม่า 'พระเจ้าตนหลวง'ร้าวเพิ่ม



    นายปรีชา กันธิยะ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมด้วยนายนภดล ภู่ชัย หัวหน้าหอจดหมายเหตุแห่งชาติเฉลิมพระเกียรติแห่งชาติฯ พะเยา และนายมงคล สิทธิหล่อ วัฒนธรรมจังหวัดพะเยา เข้าตรวจสอบความเสียหายพระเจ้าตนหลวง พระประธานในพระอุโบสถวัดศรีโคมคำ พระอารามหลวง ต.เวียง อ.เมือง จ.พะเยา หลังได้รับความเสียหายแตกร้าวบริเวณแขนด้านขวาไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตร จากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 24 มี.ค.

    สำหรับพระเจ้าตนหลวงเป็นองค์พระประธานเก่าแก่ ศิลปะเชียงแสนที่ใหญ่ที่สุดในล้านนา ขนาดหน้าตักกว้าง 14 เมตร สูง 16 เมตร สร้างจากอิฐมอญผสมกับปูนขาว ชาวพะเยาถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ตามตำนานพระเจ้าตนหลวงสร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.2034 โดยอยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเมืองแก้ว เจ้าผู้ครองเมืองเชียงใหม่ และพระยาเมืองตู้ เจ้าผู้ครองเมืองพะเยาในสมัยนั้น เป็นที่เคารพสักการะยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวพะเยา รวมไปถึงพระพุทธรูปปางลีลา วัดอนาลโยพิทยาราม บนดอยบุษราคัม ต.สันป่าม่วง อ.เมือง ที่พบความเสียหายแตกร้าวเกือบทั้งองค์, พระธาตุเจดีย์วัดลี ใน ต.เวียง อ.เมือง และพระธาตุเจดีย์ที่วัดพระธาตุขิงแกง อ.จุน ที่ได้รับความเสียหายบริเวณยอดและฐานรวมไปถึงอุโบสถในวัดต่างๆ ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

    นายปรีชาเปิดเผยหลังตรวจสอบความเสียหายพบว่า พระพุทธรูป เจดีย์ต่างๆ รวมไปถึงอาคารวัดต่างๆ ได้รับความเสียหายแตกเป็นรอยร้าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากทิ้งไว้อาจเสียหายเพิ่มได้ โดยเฉพาะ "พระเจ้าตนหลวง" วัดศรีโคมคำ ที่พบว่าหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวได้มีการแตกร้าวเพิ่มมากขึ้นจากเดิมเกือบเท่าตัว ทั้งนี้ อาจเกิดเพราะได้มีน้ำไหลซึมผ่านเข้าไปภายในตัวพระพุทธรูปจึงส่งผลให้เกิดรอยร้าวเพิ่มมากขึ้น เบื้องต้นทางวัดได้เจาะรูบริเวณหลังพระพุทธรูปกว่า 50 รู เพื่อระบายความชื้น ชะลอการแตกร้าว ทั้งนี้ หากไม่เร่งดำเนินการซ่อมแซมบูรณะแล้ว เกรงว่าภายในอีก 4-5 วันข้างหน้านี้อาจได้เสียหายเพิ่มมากกว่านี้ก็เป็นได้

    แจงร่าง'กม.ธนาคารพุทธ'เสร็จแล้ว



    พระครูปลัดสุวัฒนจริยคุณ รองอธิการบดีฝ่ายประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในฐานะที่ปรึกษาคณะทำงานกองทุนพระพุทธศาสนาแห่งชาติ คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า คณะทำงานกองทุนพระพุทธศาสนาฯ ได้ร่างพ.ร.บ.ธนาคารพระพุทธศาสนาเสร็จแล้ว และได้เสนอไปยังนายวิรุฬ เตชะไพบูลย์ ประธานคณะกรรมาธิการการศาสนาฯ เพื่อเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาต่อไป และจะมีการนำร่างพ.ร.บ.ธนาคารพระพุทธศาสนา แจ้งต่อที่ประชุมมหาเถรสมาคมด้วย โดยร่างพ.ร.บ.นี้จะมีทั้งหมด 63 มาตรา มีวัตถุประสงค์ คือ เพื่อให้เป็นแหล่งทุนในการอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาเป็นหลัก ไม่มุ่งเน้นในเชิงธุรกิจเท่ากับธนาคารทั่วไป ทั้งยังจะมีการพิจารณาปล่อยเงินกู้ให้ผู้ที่มีคุณธรรม ศีลธรรม ซึ่งจะมีการใช้ทุนประเดิมในการจัดตั้ง 2,000 ล้านบาท แยกเป็นทุนจากรัฐบาล 1,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 1,000 ล้านบาท จะใช้วิธีการขอรับบริจาค ทั้งนี้ การดำเนินงานของธนาคารพระพุทธศาสนาจะเน้นช่วยเหลือคนรากหญ้า ที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ รวมทั้งต้องการให้พระสงฆ์ พุทธศาสนิกชนมีแหล่งเงินทุนในการนำไปอุปถัมภ์พระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง หากวัดบางแห่งไม่มีงบฯ ในการบูรณะ พัฒนาวัดก็จะได้มีแหล่งเงินทุนสนับสนุนอย่างชัดเจน แต่จะไม่แย่งลูกค้าของธนาคารแห่งอื่นๆ อย่างแน่นอน

    'ชาวกาญจนบุรี'โอด ลือเขื่อนแตก



    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=360 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#e0e0e0>[​IMG]




    </TD></TR></TBODY></TABLE>ท่องเที่ยวหดกาญจนบุรี มีเขื่อนกักเก็บน้ำขนาดใหญ่ถึง 3 เขื่อน ได้แก่ "เขื่อนวชิราลงกรณ" (เขื่อนเขาแหลม) ที่ อ.ทองผาภูมิ "เขื่อนศรีนครินทร์" ที่ อ.ศรีสวัสดิ์ และ "เขื่อนแม่กลอง" ที่ อ.ท่าม่วง ทั้งยังตั้งอยู่ใกล้ "รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์" จึงตกเป็นเป้าวิเคราะห์ถึงสถานการณ์ภัยธรรมชาติ และมีการปล่อยข่าวลือทำลายการท่องเที่ยวช่วงก่อนเทศกาลมาโดยตลอด

    ยิ่งปีนี้เกิดเหตุแผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่น และพม่า ข่าวลือที่ว่าก็ยิ่งสร้างความตื่นตระหนกให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปอีก

    นายณฐพลษ์ วิเชียรเพริศ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี กล่าวถึงข่าวลือนี้ว่า เป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล ทั้งยังทำลายการท่องเที่ยวของจังหวัดอย่างรุนแรง เพราะจ.กาญจนบุรีมีแหล่งท่องเที่ยวหลากหลาย เป็นเมืองสำคัญทางประวัติ ศาสตร์ และยิ่งในปีนี้จังหวัดจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดปี อาทิ งานอนุสรณ์สถานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ระหว่างวันที่ 23 เม.ย.-1 พ.ค.นี้ และกิจกรรมเฉลิมพระ เกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 84 พรรษา การพูดและนำเสนอข่าวควรจะให้ข้อเท็จจริงมากกว่าข่าวลือ

    ด้านนายทรงวุฒิ ศีลแดนจันทร์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยว จ.กาญจนบุรี กล่าวว่า การนำเสนอข่าวต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อท้องถิ่น และธุรกิจท่องเที่ยวซึ่งเป็นหัวใจหลักของจ.กาญจนบุรี ด้านหนึ่งเป็นกระบวนการลดความน่าเชื่อถือด้านการท่องเที่ยว เพราะปัจจุบันการท่องเที่ยวของจังหวัดมีอัตราการเติบโตสูง จึงมีขบวนการที่ต้องการให้ความนิยมลดลงไป

    จากประสบการณ์ทำธุรกิจรีสอร์ตใน อ.ศรี สวัสดิ์ มากว่า 10 ปี นายจรินทร์ พรบัณฑิตปัทมา ประธานชมรมท่องเที่ยว อ.ศรีสวัสดิ์ บอกว่า เจอกระแสข่าวเรื่องเขื่อนแตกทุกปี ที่ผ่านมา ตนกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในจังหวัดเคยร้องเรียนให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตออกมาตอบโต้ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับ ทุกครั้งที่มีข่าวลือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการจะรวมตัวกันตอบโต้และเรียกร้องความเป็นธรรมทุกครั้ง

    ประธานชมรมท่องเที่ยวบอกอีกว่า การเสนอ ข่าวควรหาข้อเท็จจริงมากกว่านี้ และควรเข้ามาดูในพื้นที่ก่อนนำเสนอออกไป ปัจจุบันการท่องเที่ยวใน อ.ศรี สวัสดิ์ มีอัตราเติบโตสูง มีนักลงทุนเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมากในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา จึงไม่อยากให้ทำลายบรรยากาศการท่องเที่ยว และขอความเป็นธรรมให้กับจ.กาญจนบุรีด้วย

    สอดคล้องกับ นายสหัสนัย ยืนยงค์ รองนายกเทศมนตรีตำบลเอราวัณ ที่บอกว่า การ นำเสนอข่าวเกี่ยวกับเขื่อนแต่ละครั้ง มักตรงกับช่วงเทศกาลของ จ.กาญจนบุรีโดยเฉพาะ อ.ศรีสวัสดิ์ ได้รับผลกระทบด้านการท่องเที่ยวมาโดยตลอด ขอให้นักวิเคราะห์ นักข่าว หรือนักจัดรายการต่างๆ มาดูพื้นที่และข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเขื่อนก่อนนำเสนอออกไป ยืนยันว่าเทศบาล องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิต และภาคเอกชน ยินดีพาไปพิสูจน์ เพราะไม่อยากให้ทำลายการท่องเที่ยวไปมากกว่านี้แล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 เมษายน 2011
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    เกิดแผ่นดินไหว 5.7 ริกเตอร์ทางตอนเหนือของอินเดีย
    [​IMG]
    นิวเดลี 4 เม.ย.- เจ้าหน้าที่สำนักอุตุนิยมวิทยาอินเดียรายงานว่า เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 5.7 ริกเตอร์ ในบริเวณตอนเหนือของอินเดีย แต่ไม่มีรายงานความเสียหาย

    รายงานระบุว่า ศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ใกล้พรมแดนอินเดีย-เนปาล และอยู่ลึกลงไปราว 10 กม.แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวครั้งนี้ ยังรู้สึกได้ถึงกรุงนิวเดลี ซึ่งมีประชาชนจำนวนมากวิ่งออกมานอกอาคาร นอกจากนี้ สองเมืองทางตะวันตกของเนปาล ก็รับรู้แรงสั่นสะเทือนได้เช่นกัน. -สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 4 เม.ย. 2554

    เทปโกเตรียมระบายน้ำ 11,500 ตันปนเปื้อนรังสีลงสู่ทะเล

    [​IMG]

    โตเกียว 4 เม.ย.- บริษัทเทปโก ผู้ดำเนินการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิ มีแผนจะระบายน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสี จำนวน 11,500 ตันลงสู่ทะเล เพื่อสำรองที่ว่างสำหรับเก็บน้ำที่ปนเปื้อนกัมมันตรังสีระดับสูงที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์

    โฆษกของเทปโกเผยว่า น้ำที่ระบายออกสู่ทะเลมีกัมมันตรังสีเพียงเล็กน้อย และว่าเทปโกไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้วิธีนี้เพื่อความปลอดภัย โฆษกกล่าวว่า น้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีประมาณ 10,000 ตันจะถูกปล่อยลงสู่ทะเล ส่วนอีก 1,500 ตันเป็นน้ำจากอุโมงค์ที่อยู่ใต้เตาปฏิกรณ์หมายเลข 5 และ 6

    ด้านนายยูกิยะ อามาโนะ ผู้อำนวยการทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (ไอเออีเอ) กล่าวต่อที่ประชุมความปลอดภัยนิวเคลียร์วาระพิเศษที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียว่า ต่อแต่นี้โลกไม่สามารถดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานนิวเคลียร์ได้เป็นปกติหลังจากเกิดภัยพิบัตินิวเคลียร์ขึ้นที่ญี่ปุ่น

    นายอามาโนะ กล่าวว่า วิกฤติที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิ มีนัยที่สำคัญมากต่อพลังงานนิวเคลียร์และทุกคนกำลังเผชิญกับสิ่งท้าทายที่สำคัญ.-สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 4 เม.ย. 2554

    เทปโกยังคงพยายามค้นหาจุดรั่วไหลของรังสีลงสู่ทะเล

    [​IMG]

    โตเกียว 4 เม.ย. - บรรษัทกระจายเสียงของญี่ปุ่น หรือเอ็นเอชเค รายงานว่า บริษัทโตเกียว อิเล็กทริก พาวเวอร์ (เทปโก) ยังไม่แน่ใจว่าน้ำที่ปนเปื้อนกัมมันตรังสีในระดับสูงกำลังไหลออกจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกุชิมะ ไดอิจิลงสู่ทะเลด้วยเส้นทางใด

    เทปโกคิดว่ารังสีรั่วไหลออกจากรอยแตกร้าวที่อุโมงค์คอนกรีตแห่งหนึ่งของโรงไฟฟ้า จึงสั่งการให้คนงานนำของเหลวสีขาวเทลงไปในท่อที่ต่อไปยังอุโมงค์ดังกล่าว เพื่อหาตำแหน่งเส้นทางเดินของน้ำที่แน่ชัดที่ไหลออกจากอุโมงค์แห่งนี้ซึ่งอยู่ใกล้เตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 ไปยังทะเล

    อย่างไรก็ตาม ของเหลวสีขาวไม่ได้ไหลสู่อุโมงค์คอนกรีต จึงเชื่อว่าน้ำที่ปนเปื้อนกัมมันตรังสีจะต้องไหลมาจากเส้นทางอื่น และเพื่อแก้ปัญหาเบื้องต้น เทปโกกำลังพิจารณาสร้างกำแพงโคลนใกล้ปากท่อระบายน้ำของเตาปฏิกรณ์หมายเลข 2 เพื่อป้องกันสารกัมมันตรังสีแพร่กระจายลงสู่มหาสมุทร

    บริษัทเทปโกกล่าวด้วยว่า กำลังเคลื่อนย้ายน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีออกจากห้องใต้ดินของอาคารกังหันผลิตไฟฟ้าของเตาปฏิกรณ์ 2 แห่ง โดยลำเลียงไปที่ถังเก็บ และทันทีที่เครื่องควบแน่นว่างเปล่า น้ำจากเตาปฏิกรณ์ก็จะถูกระบายเข้าสู่เครื่องควบแน่นเพื่อเริ่มงานฟื้นฟูระบบหล่อเย็นของเตาปฏิกรณ์ต่อไป

    การถ่ายเทน้ำเริ่มขึ้นเมื่อวานนี้ที่เตาปฏิกรณ์หมายเลข 1 และ 2 ส่วนที่เตาหมายเลข 3 จะเริ่มขึ้นในวันนี้.- สำนักข่าวไทย

    วันจันทร์ ที่ 4 เม.ย. 2554

    ที่มา http://www.mcot.net
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** ทุกท่านต้องพึ่งตนเอง ****

    ทุกท่าน ต้องพึ่งผลการกระทำของตนเอง
    แต่ตอนนี้ มองหาการกระทำเที่ยงของผู้คนได้ยาก
    ผู้คนขาดสัจจะ ไม่รักษาคำพูด ไม่รักษาสัญญาใจตนเอง
    เมื่อไม่มีการกระทำเที่ยง ก็ไม่มีผลตอบแทนเที่ยง
    ใครไม่มีสัจจะ ก็ไม่มีการกระทำเที่ยง กรรมมาก็รับไปตรงๆ
    ใครมีสัจจะ ทำได้จริง ก็มีตัวกระทำเที่ยง เบี่ยงเบนให้รอดพ้นกรรมได้
    ทุกท่านต้องอยู่ด้วย หลักตนพึ่งตน

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  13. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,698
    ค่าพลัง:
    +51,933
    *** โหดร้ายมาก ****

    จิตใจโหดร้าย ขาดเมตตา โลกเขาไม่ปล่อยไว้

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  14. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    "รถบ้าน"การเตรียมพร้อมรับมือกับภัยพิบัติ ?

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    วิมานติดล้อ..ท่องโลก วิกรม กรมดิษฐ์

    วิมานติดล้อ“มอเตอร์โฮม”คันใหญ่กับคาราวานท่องโลก พิชิตการเดินทางแสนกิโลเมตรภายในเวลา 5 ปีของวิกรม กรมดิษฐ์ เจ้าพ่อนิคมฯอมตะ

    วิกรม กรมดิษฐ์ เปรียบเปรยช่วงชีวิตของเขาเป็นคล้ายดั่งวัฏจักรหนอนผีเสื้อ ในวันที่หลักกิโลเมตรชีวิตเข้าใกล้เลข 60 ชีวิตของซีอีโอหลุดโลกได้เวลาของการผลัดใบใหม่อีกรอบหนึ่ง

    จากตัวดักแด้ที่เคยซุกตัวอยู่ในถ้ำ “กุฎาคาร” ที่เขาใหญ่ กำลังขยับปีกโผผินเป็นผีเสื้อบินสู่โลกกว้างด้วยวิมานติดล้อ “มอเตอร์โฮม” คันใหญ่ เริ่มต้นภารกิจคาราวานท่องโลก พิชิตการเดินทางแสนกิโลเมตรภายในเวลา 5 ปี

    วิกรม เริ่มต้นประเดิมเส้นทางแรกด้วย “คาราวานท่องลุ่มน้ำโขง” โดยขบวนคาราวานประกอบด้วยรถมอเตอร์โฮม 3 คัน รถกระบะโตโยต้าวีโก้นำและปิดขบวน 2 คัน และทีมงานอีก 15 ชีวิต เพิ่งจะล้อหมุนออกจากกรุงเทพฯ เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติในเมืองไทย และเตรียมข้ามต่อไปยังลาว เวียดนาม จีนตอนใต้ มณฑลกวางสีและยูนนาน ต่อด้วยพม่า และวกกลับเข้าไทย สิ้นสุดการเดินทางที่ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่ ทริปนี้วิกรมจะใช้เวลาท่องโลกด้วยมอเตอร์โฮมนาน 3 เดือนเต็ม

    เหตุผลที่เดินทางด้วย “รถบ้าน” หรือ “มอเตอร์โฮม” วิกรม บอกว่า เพราะเขาเป็นคนชอบอิสระ ท่องเที่ยวแบบไปเรื่อยๆ ชอบตรงไหนอยากอยู่นานๆ ก็อยู่ ค่ำไหนนอนนั่น ไม่ชอบเดินทางแบบรีบ เร่ง ลวก แข่งกับเวลา

    บนรถมอเตอร์โฮมคันนี้ถูกออกแบบให้มีทั้งห้องนอน ห้องน้ำ และยังเป็นออฟฟิศเคลื่อนที่ สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เป็นการสร้างความแตกต่างที่เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมอมตะอยากสร้างสีสันใหม่ๆ ให้แก่ชีวิต แทนที่ตื่นเช้ามาจะนั่งทำงานในสิ่งแวดล้อมเดิมๆ ทุกวัน ได้เปลี่ยนออกมาพบเห็นอะไรใหม่ๆ ดูบ้าง เปิดโลกทัศน์ สัมผัสวิถีชีวิตผู้คนในประเทศเพื่อนบ้าน

    การเดินทางครั้งนี้ยังมาพร้อมกับโปรเจคถ่ายทำ สารคดี “เบิกฟ้าท้าโลก” ความยาว 20 ตอน ร่วมกับ พาโนราม่า เวิลด์ไวด์ ออกอากาศทุกวันหยุดนักขัตฤกษ์ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี โดยงานนี้วิกรมขอทำหน้าที่พาเที่ยวผ่านจอด้วยตัวเอง

    นอกจากท่องธรรมชาติ สัมผัสวัฒนธรรม อาหารการกิน สนทนากับผู้คนที่น่าสนใจ วิกรมยังอยากพาไปเปิดมุมมองใหม่ๆ ด้านเศรษฐกิจซึ่งประเทศเพื่อนบ้านในแถบนี้มีศักยภาพหลายด้านที่น่าจับตา รับกับกระแสการค้าไร้พรมแดนที่จะเกิดขึ้นในอีก 4 ปีข้างหน้าจากการเปิดเขตการค้าเสรีตั้งแต่ 1 มกราคม 2558

    เบื้องหลังขบวนคาราวานครั้งนี้ วิกรมควักกระเป๋าใช้เงินไปร่วม 30 ล้าน โดยมีน้องชาย วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ซึ่งจบมาทางด้านวิศวะ ดูแลร่วมกับช่างชาวญี่ปุ่นออกแบบรถมอเตอร์โฮมขึ้นเป็นพิเศษทั้ง 3 คัน หากสั่งนำเข้ารถมอเตอร์โฮมไซส์ใหญ่ขนาดนี้ทั้งคันจากต่างประเทศ วิวัฒน์เล่าว่าราคาจะสูงมากคันละถึง 24 ล้านบาท ขนาดยังไม่รวมภาษี

    งานนี้เลยลงทุนสั่งต่อเองในเมืองไทยประหยัดกว่าเยอะ โจทย์ของวิกรมคืออยากได้บ้านติดล้อที่มีสมรรถนะสูง เดินทางได้สมบุกสมบัน ไต่ขึ้นเขาไปถึงหลังคาโลกอย่างทิเบตได้ ใช้เป็นที่ทำงานและที่กินอยู่หลับนอน ระหว่างทริปสำรวจโลกตลอด 5 ปี

    ในที่สุดเลยมาลงตัวที่การดัดแปลงรถบรรทุกฮีโน่ 10 ล้อ กับ 6 ล้อ เครื่องยนต์ 212 แรงม้าที่ผลิตในเมืองไทย โดยมีบริษัท พานทอง บอดี้บัส ที่ จ.ชลบุรี ออกแบบทำตัวถังภายนอก ส่วนงานออกแบบตกแต่งภายในมีบริษัทมอเตอร์โฮมของญี่ปุ่นที่ตั้งโรงงานอยู่ในเมืองไทยออกแบบและติดตั้งให้ เบ็ดเสร็จแล้วสนนราคาจึงเหลืออยู่ที่ประมาณคันละ 7 ล้านบาท

    มอเตอร์โฮมของวิกรม ไม่ใช่รถบ้านแบบมหาเศรษฐีที่เน้นความโอ่อ่าหรูหรา แต่เน้นที่ประโยชน์การใช้งานแบบอเนกประสงค์ ตอบโจทย์การเดินทางและไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของเจ้าของรถ ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะสำหรับนั่งเขียนหนังสือ หลังคาที่เปิดขึ้นไปเป็นเต็นท์นอนดูดาวยามค่ำคืน ห้องครัวพร้อมตู้แช่และอุปกรณ์ทำครัวครบชุดสามารถทำกับข้าวเลี้ยงคนได้ 20-30 คน ในห้องครัวตุนเสบียงอาหารแห้งไว้เพียบ อย่างเช่น ปลาสลิดแห้งแช่แข็ง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

    มอเตอร์โฮมคันแรกเป็น “รถขบวน” ออกแบบให้เป็นออฟฟิศและห้องนอนของวิกรม มีเก้าอี้โซฟาและโต๊ะทำงานที่กดเปิดจอคอมพิวเตอร์ออกมาได้ มีโซฟาปรับพับขยายเป็นที่นั่งประชุมเล็กๆ หรือไว้ต้อนรับแขก 4-5 คน มีห้องนอนขนาดเตียงคู่ ห้องอาบน้ำ อ่างล้างมือและโถส้วมซึ่งเป็นระบบเผาไหม้ของเสีย เวลาขับถ่ายแล้วจะเผาไหม้เป็นขี้เถ้าแห้งๆ ไม่มีกลิ่นรบกวน

    คันที่สอง ออกแบบให้เป็น “รถออฟฟิศ” สำหรับใช้เป็นทั้งที่ทำงานของพนักงาน ห้องประชุมใหญ่ 8-10 ที่นั่ง ห้องครัว เครื่องซักผ้า ห้องนอนพ่อครัวและทีมงานด้านไอที

    คันที่สาม เป็นรถสำหรับพนักงานมีห้องนอน ห้องทำงาน ห้องปฐมพยาบาล มอเตอร์โฮมแต่ละคันบรรจุน้ำได้ 500 ลิตร ส่วนแหล่งพลังงานมีทั้งไดชาร์จอัดไฟเข้าแบตเตอรี่ เครื่องปั่นไฟขนาดเล็ก และเสียบใช้ไฟจากภายนอก ทั้ง 3 คันยังติดสติกเกอร์ประชาสัมพันธ์ประเทศไทย แนะนำวัฒนธรรมไทย แหล่งท่องเที่ยว สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมที่โดดเด่นของเมืองไทย นอกจากนี้ใต้ท้องรถยังขนมอเตอร์ไซค์วิบากไปด้วยอีก 2 คันและรถจักรยานไว้ใช้งานในเส้นทางที่รถใหญ่วิ่งเข้าไปไม่ได้

    5 ปีจากนี้ วิกรมวางแผนไว้ว่าจะออกเดินทางไกลด้วยคาราวานมอเตอร์โฮมทุกปี หลังจากคาราวานลุ่มแม่น้ำโขง ลาว เวียดนาม จีนตอนใต้และพม่าในปีแรกแล้ว ทริปในปีต่อๆ ไป วางแผนบุกไปถึงมองโกเลีย ทิเบต และไซบีเรีย ก่อนจะปิดท้ายด้วยทริปการเดินทางในปีที่ 5 ซึ่งตั้งใจอยากจะไปถึงแคชเมียร์ อินเดีย ทริปนี้จะเป็นทริปที่ทรหดที่สุด คาดว่าใช้เวลาเดินทางถึง 8 เดือน ระยะทางไกลถึง 3-4 หมื่นกิโลเมตร เบ็ดเสร็จรวมระยะทางทั้งหมด 5 ปีนี้น่าจะถึงแสนกิโลเมตร

    เป็นความฝันและการผจญภัยครั้งใหม่ที่ผีเสื้ออย่าง“วิกรม” กำลังขยับปีกโบยบินไปให้ถึง

    โดย : ดุลยปวีณ กรณฑ์แสง

    ที่มา http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/society/20110404/385135/วิมานติดล้อ..ท่องโลกวิกรม-กรมดิษฐ์.html
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. PrinceCharming

    PrinceCharming เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +773
    วิกรมนี่หรอครับ เคยออกมาให้สัมภาษณ์หน้าตาเฉยนี่นาว่าเป็นคนให้ภรรยาไปทำแท้ง
    บอกว่าเป็นเพราะเด็กเกิดมาไม่มีกินสู้ให้ตายไปก่อนดีกว่า หากย้อนเวลากลับได้ก็ยังจะทำแบบนั้น แล้วยังเคยเนรคุณบุพการีด้วย นี่เหรอครับคนดี นี่หรอครับคนที่ควรเอาเป็นแบบอย่าง สร้างที่อยู่และธุรกิจขนาดนั้นน่ะตัดไม้ทำลายป่าไปขนาดไหน โกงกินไปเท่าไร ทำไมไม่ทำหนังสือ CEO แฉความเลวตัวเอง ออกมาบ้างจะไปหาซื้อมาอ่านซักเล่ม

    ผมคนหนึ่งละที่จะเป็นเยาวชนที่ไม่ติดตามไม่ชื่นชมการกระทำใดๆของผู้ชายคนนี้เลย
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,193
    [​IMG]

    เขามีส่วน เลวบ้าง ช่างหัวเขา
    จงเลือกเอา ส่วนดี เขามีอยู่
    เป็นประโยชน์ ต่อโลกบ้าง ยังน่าดู
    ส่วนที่เลว อย่าไปรู้ ของเขาเลย
    จะหาคน มีดี เพียงด้านเดียว
    อย่ามัวเที่ยว มองหาเลย สหายเอ๋ย
    เหมือนเที่ยวหา หนวดเต่า ตายเปล่าเอย
    ฝึกให้เคย มองแต่ดี มีคุณจริง"

    คำสอนของท่านพุทธทาสภิกขุ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • DSC03080.jpg
      DSC03080.jpg
      ขนาดไฟล์:
      36 KB
      เปิดดู:
      1,464
  17. วรเดช

    วรเดช เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1,753
    ค่าพลัง:
    +6,146
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD> อุตุฯเตือน5-6เม.ย.นี้ภาคเหนือ อิสาน กลาง ตอ.และกทม.ระวังฝนฟ้าคะนอง </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>
    กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ ประจำวันที่ 5 เมษายน 2554 ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.

    บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางอีกระลอกหนึ่งจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมา ปกคลุมด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทะเลจีนใต้

    ลักษณะเช่นนี้จะทำให้บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานคร มีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้นได้ในระยะนี้ (5-6 เม.ย.54)

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

    ภาคเหนือ
    อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค
    อุณหภูมิต่ำสุด 19-23 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิต่ำสุด 19-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่กับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยา กาญจนบุรี และราชบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก ทางตอนบนของภาค อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 60 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
    ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ กับลมกระโชกบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
    <TABLE border=0 width=670 bgColor=#ffffff><TBODY><TR bgColor=#ffcae3><TD>[​IMG] ชี้ภัยพิบัติไทย-อินโด-ปินส์เหตุโลกร้อน </TD></TR><TR><TD></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=center><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 width=668><TBODY><TR><TD class=A2 vAlign=top><TABLE border=0 cellSpacing=2 cellPadding=2 bgColor=#f5f5f5 align=center><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR><TR><TD align=center></TD></TR></TBODY></TABLE>คมชัดลึก : ไทยเป็นเจ้าภาพประชุมโลกร้อนนัดแรก ก่อนส่งไม้ต่อเวทีใหญ่ที่แอฟิกาใต้ ปลายปีนี้ ย้ำต้องจับจุดแข็งภาคเกษตร ดินรับการปรับตัว ส่วนเอ็นจีโอ เรียกร้องให้อาเซียนแสดงความเป็นผู้นำในเวทีเจรจาเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ ยกภัยพิบัติในไทย อินโดนีเซีย ฟิลลิปินส์ ผลพวงจากโลกร้อน



    (4เม.ย.) นางนิศากร โฆษิตรัตน์ เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 3-8 เม.ย.นี้ ทส.เป็นเจ้าภาพร่วม กับสำนักงานเลขาธิการกรอบอนุสัญญาหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จัดประชุมโลก United Nations Climate Change Conference , Bangkok , 2011 ซึ่งถือเป็นการประชุมแรกต่อจากเวทีโลกร้อนครั้งที่ 16 ที่เมืองแคนคูน เม็กซิโก เมื่อปลายปี 2553 โดยมีผู้แทนจากทั่วโลกกว่า 2 , 000 คน ภายใต้คณะทำงาน 2 ชุดว่าด้วยการความร่วมมือระยะยาวของอนุสัญญาฯ และคณะทำงานภายใต้พิธีสารเกียวโต เข้าร่วมประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการกำหนดข้อเจรจา และท่าทีเบื้องต้นของประเทศภาคีสมาชิก ก่อนจะสรุปในเวทีโลกร้อนครั้งที่ 17 ที่เมืองเดอบัน ประเทศแอฟริกาใต้ในปลายปีนี้



    เลขาธิการสผ.กล่าวว่า สำหรับไทยยังเน้นจุดยืนเดิมคือการสนับสนุนพิธีสารเกียวโต ให้ประเทศพัฒนาแล้วต้องรับผิดชอบในการลดก๊าซเรือนกระจก ขณะเดียวกันไทยยังพร้อมลดก๊าซภายในประเทศเองแบบไม่มีเงื่อนไข และอยู่ภายใต้ความเหมาะสมของประเทศตัวเอง พร้อมจะเปิดรับการช่วยเหลือทางด้านการเงินและเทคโนโลยีสำหรับการปรับตัว ซึ่งล่าสุดสผ.ได้ส่งราย งานแห่งชาติฉบับที่ 2 ให้กับสำนักงานอนุสัญญาฯไปแล้ว โดยพบว่าจากการคาดการณ์การปล่อยก๊าซเรือนกระจกในช่วง 10 ปีที่เดิมเคยประเมินว่าจะมีสัดส่วนแบบก้าวกระโดดนั้นไม่ได้เกิดขึ้นจริง โดยตัวเลขการปล่อยก๊าซขณะที่อยู่ 229 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี หรือ 0.1% ของอัตราการปล่อยของโลกเท่านั้น

    “สำหรับการเตรียมความพร้อมภายในประเทศ ก่อนพิธีสารเกียวโตฉบับแรกจะสิ้นสุดลงในปี 2555 คาดว่าภาคพลังงานจะเป็นกลุ่มแรกๆที่ต้องลดก๊าซเรือนกระจก เพราะขณะนี้ 70% ของการปลดปล่อยมาจากส่วนนี้ ขณะที่ภาคเกษตร จะเป็นจุดแข็งที่รัฐจะเร่งให้เกษตรกรมีการปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ พร้อมกันนี้ สผ.กำลังทบทวนแผนแม่บทโลกร้อน ตามข้อเสนอของภาคประชาชนที่ต้องการให้มีแผนปฏิบัติการเป็นรายจังหวัดด้วย ทั้งนี้หลังการจัดเวที 4 ภูมิภาคแล้วจึงจะสรุปเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศแห่งชาติ ต่อไป” นางนิศากร ระบุ


    วันเดียวกันที่หน้าองค์การสหประชาชาติ นักกิจกรรมรณรงค์ด้านสภาพภูมิอากาศจากกรีนพีช อ็อกแฟรม และกองทุนสัตว์ป่าโลก สวมชุดกันหนาว ชุดกันฝน และชุดชายหาดเพื่อแสดงถึงความโกลาหลของสภาพภูมิอากาศที่กำลังสร้างผลกระทบอันรุนแรงไปทั่วทั้งภูมิภาคในขณะนี้ และได้พบกับนางคริสเตียน่า ฟิกูเอเรส เลขาธิการบริหารของกรอบอนุสัญญาสหประชา ชาติว่าด้วยการเปลี่ยน แปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อเรียกร้องให้เกิดข้อตกลงด้านสภาพภูมิอากาศที่มุ่งมั่นจากรัฐบาลต่าง ๆ ทั่วโลก ในนามของประชาชนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีความล่อ แหลมมากที่สุดและมีการรับมือน้อยที่สุดจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ


    “เราต้องการส่งสาส์นถึงผู้นำประเทศ โดยเฉพาะผู้แทนจากประเทศในกลุ่มอาเซียน ว่าข้อตกลงที่เป็นธรรม มุ่งมั่นและมีผบังคับใช้ทางกฎหมาย เป็นสิ่งจำเป็นต่อความอยู่รอดของประชากรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยต้องการเห็นอาเซียนควรมีจุดยืนร่วมที่เข้มแข็งและเป็นหนึ่งเดียวเพื่อยกระดับการตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศให้เร่งรัดและจริงจังมากขึ้น ” เซลดา โซริยาโน ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย กรีนพีซ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าว


    ด้าน ชาลิมาร์ ไวทัน ผู้ประสานงานด้านนโยบายและงานรณรงค์เอเชียตะวันออก จากอ็อกซ์แฟม กล่าวว่า ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา อากาศในฤดูร้อนของ ไทยกลับมีอุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ อุทกภัยและดินถล่มในภาคใต้ ก็ส่งผลกระทบต่อผู้คนกว่า 2 ล้านคน ช่วงเดือนเดียวกันนี้ได้เกิดภัยพิบัติทางตอนกลางและตอนใต้ของประเทศฟิลิปปินส์ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตประชาชนนับหมื่นคน ในประเทศอินโดนีเซีย ปัญหาอุทกภัยยังส่งผลให้ประชาชนหลายพันคนต้องอพยพย้ายถิ่นฐาน ทั้งนี้เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นภูมิภาคที่มักได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่สุดขั้ว และมีความเสี่ยงค่อนข้างสูง ผู้แทนอาเซียนจะต้องรับประกันด้วยว่าจะต้องมีการให้การสนับสนุนด้านทรัพยากรทั้งหลายที่จำเป็นต่อการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพราะนี่เป็นเรื่องเร่งด่วน และต้องเรียกร้องให้ประเทศพัฒนาแล้วลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้มากที่สุด


    “กลุ่มเอ็นจีโอ ได้ยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายต่ออาเซียนระหว่างการประชุมที่กรุงเทพฯ หนึ่งในข้อเสนอต่างๆ คือการรับประกันว่าคณะกรรมการกองทุนเพื่อการปรับตัวที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ นั้นจะต้องประกอบด้วยกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเป็นหลัก ทั้งเรียกร้องให้อาเซียนผลักดันในเรื่องเป้าหมายการลดก๊าซเรือนกระจกโดยที่การปล่อยก๊าซจะเพิ่มสูงสุดในปี 2558 และลดลงหลังจากนั้น และเรียกร้องให้ประเทศที่พัฒนาแล้วลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ร้อยละ 40 ภายในปี 2563 และจะต้องลดลงอย่างน้อยร้อยละ 95 ภายในปี 2593 ให้ได้ต่ำกว่าระดับในช่วงปีฐาน 2533 ” ผู้แทนจากกองทุนสัตว์ป่าโลก ระบุ




    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD><CENTER>ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก
    [​IMG]</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. kumpeang

    kumpeang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    546
    ค่าพลัง:
    +1,984
    อะแฮ้ม . . . .. นานๆ จะโพสต์กับเขา เข้ามาอ่านมานาน

    ฝากไว้เรื่องหนึ่ง พิจจารณา กัน นะครับ ไหนๆ ก็ กล่าวถึงภัยพิบัติ ที่มาได้หลายทาง
    และ การเร่งปฎิบัตตน ของชาวพุทธ

    ผมชอบ คุณหนุมาน เรื่องสัจจะมีจริง ให้ผลจริง ตัวกระทำมีจริง อะไรนี้แหละ

    และที่แน่ๆ เวรกรรมมีจริง บาปบุญมีจริง และ อภิญญาณมีจริง วาจาสิทธิ์ก็มีจริง


    ผมจะยกตัวอย่างบางเหตุการณ์ให้อ่านเล่นๆ กัน เหตุการณ์ต่อไปนี้ ลองอ่านแล้วเอาไปพิจารณากันดู ความเชื่อส่วนบุคคล ไม่ต้องเชื่อก็ได้ ไม่ว่าอะไรกัน ถือว่าเป็นนิทานสนุกๆ

    ผม เปลี่ยนสรรพนามชื่อบุคคลสนทนาหน่อยนะครับ ใน msn ต่างเวลา ต่างสถานที่
    เหตุการณ์ พ่อ กับ ลูก คุณพ่อท่านอยู่ ต่างประเทศ คุณลูกอยู่ไทย ใช้ msn ติดต่อกัน

    สังเกตุ วันเวลาที่เขาคุยกันนะครับ

    -------------------------------------------------------------------------------

    7/12/2553 16:14:11 ลูก Dr.Natpong วันนี้คุณพ่อเข้า รพ.
    7/12/2553 16:14:15 ลูก Dr.Natpong ไปรอ ผ่าตัด
    7/12/2553 16:14:20 ลูก Dr.Natpong พี่ชายว่าอารมณ์ดี
    7/12/2553 16:14:26 ลูก Dr.Natpong ไม่บอกว่าอะไร แต่บอกว่า สะใจ
    7/12/2553 16:14:30 ลูก Dr.Natpong :D
    7/12/2553 16:14:42 ลูก Dr.Natpong แล้วหัวเราะ
    7/12/2553 16:15:04 ลูก Dr.Natpong ไปหาน้ำเก๊กฮวยก่อน ผมร้อนใน เป็นแผลในปาก
    7/12/2553 16:15:10 ลูก Dr.Natpong นี่ก็คง วจีกรรม
    7/12/2553 16:15:36 Dr.Natpong ลูก 5555
    7/12/2553 16:15:44 Dr.Natpong ลูก ผมตัวซวยป่าวคับเนี่ย
    7/12/2553 16:15:55 Dr.Natpong ลูก รู้สึกจะเป็นอะไรกันช่วงนี้นะคับ
    7/12/2553 16:17:59 ลูก Dr.Natpong 555
    7/12/2553 16:18:04 ลูก Dr.Natpong ไม่มีขาย
    7/12/2553 16:18:06 ลูก Dr.Natpong ก่า
    7/12/2553 16:18:19 ลูก Dr.Natpong :D
    7/12/2553 16:18:44 Dr.Natpong ลูก กินเก๊กฮวยช่วยได้หรอคับ
    7/12/2553 16:19:05 ลูก Dr.Natpong แก้ร้อนใน
    7/12/2553 16:19:12 ลูก Dr.Natpong หรือจะแก้ เก๊กซิม
    7/12/2553 16:19:14 ลูก Dr.Natpong 555
    7/12/2553 16:19:33 Dr.Natpong ลูก 555
    >>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>
    8/12/2553 15:01:16 พ่อ ลูก ไปกันใหญ่แล้วแกนะ
    8/12/2553 15:01:23 พ่อ ลูก พักผ่อนไม่พอใช่ไหมลูก
    8/12/2553 15:01:32 ลูก พ่อ ง่า...
    8/12/2553 15:01:34 ลูก พ่อ หรือคิดมาก
    8/12/2553 15:01:41 ลูก พ่อ จิตฟุ้ง แฮ่ๆ
    8/12/2553 15:01:51 พ่อ ลูก แกอกหักหรือไง
    8/12/2553 15:01:57 พ่อ ลูก ถึงบ้าบอได้
    8/12/2553 15:02:02 ลูก พ่อ งิก พ่อ อะ
    8/12/2553 15:02:36 ลูก พ่อ เปล่านา
    8/12/2553 15:03:04 พ่อ ลูก หนูnnnน่ารักเรียบร้อยอย่างกับเจ้าหญิง
    8/12/2553 15:03:06 พ่อ ลูก ดูแกดิ
    8/12/2553 15:03:13 พ่อ ลูก นับวันเลอะเทอะเรื่อยเปื่อย
    8/12/2553 15:03:41 ลูก พ่อ ง่า พ่ออะ ผมก็ทำงานอยู่นินา ไม่ได้เพี้ยนสักหน่อย
    8/12/2553 15:04:03 พ่อ ลูก แกชอบพูดอะไรเลอะเทอะให้พ่อฟังเรื่อย
    8/12/2553 15:04:17 ลูก พ่อ แต่ๆ ช่วงนี้ก็ไมเกรนเหมือนกันเนาะ ปวดๆ ดั้ง กับ เบ้าตา
    8/12/2553 15:05:08 ลูก พ่อ หรือจิต้องโทรไปอ้อนน้องดี น๊าาาา
    8/12/2553 15:05:10 ลูก พ่อ อิอิ
    8/12/2553 15:05:42 พ่อ ลูก หยุคดความคิดแกเลย
    8/12/2553 15:05:45 พ่อ ลูก ไม่ต้องไปยุ่งกับน้องเลย
    8/12/2553 15:05:49 พ่อ ลูก แกยุ่งทีไรมีแต่เรื่อง
    8/12/2553 15:05:52 ลูก พ่อ อ้าว
    8/12/2553 15:05:59 ลูก พ่อ แล้วจิได้กำลังใจยังไงอะ
    8/12/2553 15:06:35 พ่อ ลูก แกก็ไปหาเอาข้างหน้าดิ
    8/12/2553 15:06:38 พ่อ ลูก คนของแกไง
    8/12/2553 15:06:44 พ่อ ลูก จะมาอะไรหนักหนา
    8/12/2553 15:07:50 ลูก พ่อ ง่า
    8/12/2553 15:07:53 ลูก พ่อ มะมีแย้วนา
    8/12/2553 15:08:03 ลูก พ่อ นี่ก็ จะเป็น พระลอ 5 ปี แล้วนา
    8/12/2553 15:08:04 ลูก พ่อ แฮ่ๆ
    8/12/2553 15:08:14 พ่อ ลูก พูดอีกแล้วเดี๋ยวพ่อจะตีปากแกเจ้าหนึ่ง
    8/12/2553 15:08:29 ลูก พ่อ ง่า ไม่พูดแล้วครับ
    8/12/2553 15:08:32 พ่อ ลูก ที่พ่อแช่งให้แกเป็นแผลในปากนะ
    8/12/2553 15:08:34 พ่อ ลูก แกเป็นหรือยังหละ
    8/12/2553 15:08:36 ลูก พ่อ ไม่ๆๆๆๆ
    8/12/2553 15:08:43 ลูก พ่อ โอ มิน่า
    8/12/2553 15:08:45 ลูก พ่อ พ่ออะ
    8/12/2553 15:08:49 ลูก พ่อ เป็นแผลร้อนในนี่ไง
    8/12/2553 15:08:53 ลูก พ่อ โหหหหหหหหหหหหหหหหหหหห
    8/12/2553 15:08:54 ลูก พ่อ พ่อ อะ
    8/12/2553 15:08:55 ลูก พ่อ ไม่เอา
    8/12/2553 15:09:01 ลูก พ่อ เจ็บปาก
    8/12/2553 15:09:04 ลูก พ่อ ว่าแล้วเชียว
    8/12/2553 15:09:09 ลูก พ่อ :'(
    8/12/2553 15:09:17 พ่อ ลูก สมควรแล้วพูดเรื่อยเปื่อยไปทั่ว
    8/12/2553 15:09:34 ลูก พ่อ แงๆ มิน่า ผมเป็นบ่อยมากเลย
    8/12/2553 15:09:38 ลูก พ่อ เจ็บอยู่เนี่ย
    8/12/2553 15:10:04 ลูก พ่อ พ่ออะ
    8/12/2553 15:10:11 พ่อ ลูก พ่อไม่ถอนออกหรอก
    8/12/2553 15:10:14 ลูก พ่อ อ้าว
    8/12/2553 15:10:14 พ่อ ลูก ปล่อยไว้อย่างนั้นหละ
    8/12/2553 15:10:17 พ่อ ลูก แกจะได้เลิกซ่า
    8/12/2553 15:10:20 ลูก พ่อ อ้าว
    8/12/2553 15:10:29 ลูก พ่อ โธ่ แปรงฟันก็เจ็บ กินข้าวก็มะได้
    8/12/2553 15:10:33 ลูก พ่อ แล้วจะอ้วนไงอะ
    8/12/2553 15:10:50 พ่อ ลูก ดูดน้ำข้าวต้มไป
    8/12/2553 15:11:00 ลูก พ่อ โห โจ๊กมาหลายวันแล้วอะ
    8/12/2553 15:11:13 ลูก พ่อ :'(
    8/12/2553 15:11:16 พ่อ ลูก กินเท่านั้นหละดีแล้ว
    8/12/2553 15:11:21 พ่อ ลูก เอาให้ผอมโกรกไปเลย
    8/12/2553 15:11:25 พ่อ ลูก อย่าทำร้ายหนูnnnนัก
    8/12/2553 15:11:34 ลูก พ่อ โห
    8/12/2553 15:11:39 ลูก พ่อ พ่ออะ
    8/12/2553 15:11:42 ลูก พ่อ ถอนๆๆ นะพ่อนะ
    8/12/2553 15:12:01 พ่อ ลูก ฉันว่าจะให้หลานไปเหยียบ ที่ อกแกอยู่เนี่ย
    8/12/2553 15:12:03 พ่อ ลูก หมั่นไส้
    8/12/2553 15:12:06 ลูก พ่อ เอ๋า
    8/12/2553 15:12:13 ลูก พ่อ อารายอะ ก็ทำตัวน่ารัก แล้วนา
    8/12/2553 15:12:44 ลูก พ่อ มะได้ออกไปไหนเลย วันๆ
    8/12/2553 15:13:17 ลูก พ่อ พ่อคร้าบบบบบ
    8/12/2553 15:13:28 ลูก พ่อ ถอนให้ลูกหน่อยนะ เจ็บปากเนี่ย
    8/12/2553 15:13:37 ลูก พ่อ ถ้าไม่พูดก็ไม่ เฉลียวใจเลย นา
    8/12/2553 15:14:32 ลูก พ่อ :$
    8/12/2553 15:14:56 พ่อ ลูก ฉันบอกแกว่าอะไรเจ้าหนึ่ง
    8/12/2553 15:15:21 ลูก พ่อ ไม่พูดเหรอ
    8/12/2553 15:16:02 พ่อ ลูก 3 เดือนนี้แกทำอะไรๆให้ได้ก่อนเถอะ
    8/12/2553 15:16:08 พ่อ ลูก มันก็หายเองหละ

    8/12/2553 15:16:12 ลูก พ่อ งิก
    8/12/2553 15:16:22 ลูก พ่อ ครับๆ สามเดือน
    8/12/2553 15:16:27 ลูก พ่อ ได้ๆๆๆ
    8/12/2553 15:16:45 ลูก พ่อ งั้นสามเดือน ก็อวยชัยให้ลูกมีกำลังใจเข้มแข็งด้วยนา
    8/12/2553 15:16:59 พ่อ ลูก ไม่
    8/12/2553 15:17:04 ลูก พ่อ เอ๋า
    8/12/2553 15:17:10 พ่อ ลูก ต่างคนต่างอยู่
    8/12/2553 15:17:13 ลูก พ่อ เอ๋า
    8/12/2553 15:17:16 ลูก พ่อ ไหงงั้นอะ
    8/12/2553 15:17:47 ลูก พ่อ ก็ตั้งใจแล้วนินา
    8/12/2553 15:17:54 พ่อ ลูก ก็เพราแกไปทำเขาไง
    8/12/2553 15:17:58 พ่อ ลูก พ่อถึงได้ต้องทำแกบ้าง

    8/12/2553 15:18:07 พ่อ ลูก จะได้รู้ว่าเวลามีแผลนะมันเจ็บยังไง
    8/12/2553 15:18:25 ลูก พ่อ ว่าแล้ว.... ผมอะ เฉลียวใจ ติดวจีกรรมใคร
    8/12/2553 15:18:45 ลูก พ่อ :D
    8/12/2553 15:18:57 ลูก พ่อ ได้ๆๆ งั้นผมจะตั้งใจ สามเดือน
    8/12/2553 15:19:22 พ่อ ลูก แล้วไม่ต้องคิดไปฟ้องหนูnnnหละ
    8/12/2553 15:19:29 ลูก พ่อ งิก
    8/12/2553 15:19:29 พ่อ ลูก พ่อจะให้น้องเปลี่ยนเบอร์มือถือแล้ว
    8/12/2553 15:19:33 ลูก พ่อ เอ๋า
    8/12/2553 15:19:36 ลูก พ่อ ไม่ได้
    8/12/2553 15:19:50 ลูก พ่อ เปลี่ยนแล้ว ผมจะโทรไงอะ
    8/12/2553 15:20:38 ลูก พ่อ :$
    8/12/2553 15:21:06 ลูก พ่อ มีดักคอด้วย
    8/12/2553 15:21:29 พ่อ ลูก เปลี่ยนหนีแกไง
    8/12/2553 15:21:34 พ่อ ลูก จะได้ไม่ต้องยุ่ง
    8/12/2553 15:21:36 ลูก พ่อ ว้าย ไม่ได้ ไม่ได้
    8/12/2553 15:21:45 พ่อ ลูก พ่อจะให้น้องไปรู้จักกับลูกเพื่อนแล้ว
    8/12/2553 15:21:50 ลูก พ่อ ว้าย ไม่ดี
    8/12/2553 15:22:20 ลูก พ่อ ลูกพ่อนี่แหละน่ารักที่สุดแล้ว
    8/12/2553 15:22:26 ลูก พ่อ :D
    8/12/2553 15:23:17 พ่อ ลูก ฉันยังไม่เห็นความน่ารักแกเลยเจ้าหนึ่ง
    8/12/2553 15:23:21 พ่อ ลูก ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ
    8/12/2553 15:23:24 พ่อ ลูก ดูแลน้องก็ไม่ได้
    8/12/2553 15:23:40 พ่อ ลูก ถ้ามีแล้วไม่ดีพ่อว่า ให้น้องทำหมันไปซะเลย
    8/12/2553 15:23:44 พ่อ ลูก ไม่อยากได้แล้วหลานย
    8/12/2553 15:23:49 ลูก พ่อ ง่า...
    8/12/2553 15:24:04 ลูก พ่อ โห ดี จิ ดีสิ เรียบร้อย น่ารัก ช่างฉอเลาะ ฉลาด
    8/12/2553 15:24:06 ลูก พ่อ เห้นป่ะ
    8/12/2553 15:24:50 ลูก พ่อ คุยประกิดก็ได้ ท่าไหว้ไทยก็สวย
    8/12/2553 15:25:22 พ่อ ลูก ไม่อะ
    8/12/2553 15:25:26 พ่อ ลูก ภาพลวงตาทั้งนั้น
    8/12/2553 15:25:39 ลูก พ่อ ง่า...
    8/12/2553 15:26:44 ลูก พ่อ ง้านลูกมะพูดมากหละ แฮ่ๆ เจ็บปากอะ จริงๆ พ่อ
    8/12/2553 15:27:11 พ่อ ลูก ก็ดีแล้วนิเจ้าหนึ่ง
    8/12/2553 15:27:18 พ่อ ลูก หัดเจ็บกับเขาเป็นซะบ้าง
    8/12/2553 15:27:22 พ่อ ลูก แกสบายมาเยอะและ
    8/12/2553 15:27:29 ลูก พ่อ ง่า....
    8/12/2553 15:28:09 ลูก พ่อ :$

    <><><><><><><><><><><><><><><><>

    ไว้ ผมจะ ทยอย หาเรื่องมาเล่าให้ฟังเพลินๆ กันนะครับ แต่คงจะหลังสึกมาแล้ว

    วันที่ 12 เมษายนนี้ ผมก็จะเข้าบวชอุปสมบท ณ วัดท้ายตลาด อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์แล้วนะครับ ถือโอกาสลาบวช และขออโหสิกรรมทุกท่าน ที่เกินล่วงเกินกัน ณ โอกาสนี้

    ขอทุกท่านมีส่วนบุญร่วมกันกับผมในครั้งนี้ครับ อนุโมทนาสาธุ . . .



    ปล. เดือนที่แล้วยังเป็นแผลอยู่ เดือนนี้ผมไม่เจ็บปากแล้ว ดีใจจัง ฮา.......
     
  19. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ยิ้มด้วย .. นี่มาจาก ปฏิจจสมุปมาทเลยนะ อย่าพูดเป็นเล่นไป
    จริงปะคุณ Falkman :d
     
  20. Lazaza

    Lazaza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +5,549
    ======================================



    4 เม.ย. 54


    ที่หลบภัย

    ทุกที่ไป---------ความจริงใจ------ท่านต้องมี
    เพราะชีวี--------ฝากไว้กับ--------เจ้าของฐาน
    หากมั่วซั่ว-------ขาดสัจจะ-------ท่านก็อาน
    เหล่าหมู่มาร-----ไม่เก็บไว้--------รกแผ่นดิน

    ความมุ่งมั่น------เข้าช่วยฐาน------เพื่อก่อเกิด
    ก่อกำเนิด--------กำแพงกั้น-------สิ่งชั่วร้าย
    ช่วยปกป้อง------ทุกชีวี-----------ไม่มลาย
    ให้คงไว้----------คู่บ้าน-----------คู่แผ่นดิน

    อีกทั้งเงิน--------ต้องช่วยออก------พอทำเนา
    เพื่อบรรเทา------ทั้งที่อยู่-----------ที่อาศัย
    ทั้งอาหาร------หยูกยา-------------ต้องเตรียมไว้
    ป้องกันภัย-------และปลดทุกข์------ให้น้อยลง

    สิ่งสำคัญ---------ที่สุด---------ท่านต้องมี
    คือความดี--------บารมี--------ที่สะสม
    เอาไว้ป้อง-------ไว้ปราบ-------มารผจญ
    เพื่ออยู่คง--------ชีวิตเรา-------และครอบครัว

    รีบเข้าเถิด-------รีบเข้า---------เร่งเตรียมการ
    ทำให้ทัน--------ภัยพิบัติ--------ที่จะเกิด
    เพราะเวลา------เหลือน้อย------ใกล้ระเบิด
    ต้องรีบเปิด------ขึ้นที่สูง--------ที่เตรียมการ

    ฐานผาแบ่น-----ได้เตรียมการ------นานสี่ปี
    เริ่มโชคดี-------มีหมอหญิง--------ขันอาสา
    จะช่วยออก------เงินส่วนตัว-------ร่วมล้าน...นา
    เพื่อจะพา--------มวลมนุษย์-------พ้นเพศภัย

    หากท่านใด-------สนใจ---------ให้มาคุย
    มาช่วยลุย--------การงาน-------ที่จะเตรียม
    ช่วยกันออก-------ปัจจัยสี่-------ให้พอเพียง
    มาร่วมเรียง-------เคียงข้าง------กันทำงาน

    ท่านมีมาก--------มีน้อย---------ไม่ว่ากัน
    เพราะบุญทำ------กรรมแต่ง------เป็นเช่นนี้
    อย่าน้อยใจ-------เวรกรรม-------ที่เคยมี
    เร่งความดี--------ให้ทันกาล------มารจะมา

    เข้ามาคุย--------กับอาเค--------เป็นผู้นำ
    ผู้กระทำ---------ฐานผาแบ่น-----ไว้รองรับ
    อีกทั้งหลาน------ลาซาซ่า-------ก็ได้ครับ
    รีบสมัคร---------เข้ามา----------เหลือไม่มาก

    สามขุนศึก--------ต่างลงมา-------กู้เพศภัย
    อโยธยาไซร้------ตามตำนาน------ที่กึกก้อง
    2112------------คงจำได้--------ที่ผ่านมา
    อันพวกข้าฯ-------ตามพ่อกู--------กู้แผ่นดิน

    คนที่กลัว---------คนที่ขลาด------ไม่ขอรับ
    เพราะผมจัก------เฝ้าดู------------เป็นพิเศษ
    ต้องทำงาน-------ฐานผาแบ่น------ไม่เหลือเศษ
    ต้องปวดเฮด------เสียเวลา--------ในการคุย




    องค์อินทร์ ๙๗
    ทำการแทน

    ======================================
    ภาพฐานผาแบ่นค่ะ(tanphaban.blogspot.com)
    ที่มา นาม "องค์อินทร์ ๙๗"
     

แชร์หน้านี้

Loading...