พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ได้ไปพบสถานที่แห่งหนึ่งภายในวังหน้าที่มีความเกี่ยวพันกับพระพิมพ์วังหน้าอยู่พิมพ์หนึ่ง เป็นพระพิมพ์วังหน้าที่ผมชอบมากที่สุด เหมือนดลใจให้ได้รับการไขความสงสัยจนเกิดความเข้าใจในวันนี้เอง น้องที่เป็นไกด์พาชมวังหน้าเข้าใจว่าน่าจะเป็นอย่างนี้ๆ คนที่มีพระพิมพ์ก็มีความสงสัยในศิลปะว่าเกิดแรงบันดาลในการสร้างมาจากไหนกัน? มันเหมือนกับการต่อ jigsaw ครับ

วันนี้ผมมีความรู้สึกอยากไปสถานที่แห่งหนึ่งอยู่ที่เดียวแทนที่ High light น่าจะเป็น ๙ พระศักดิ์สิทธิ์ แล้วนั่งอยู่ ณ ที่แห่งนี้เป็นเวลานานจริงๆ จนได้ทราบความลับเรื่องหนึ่ง แม้กระทั่งไกด์ที่พาชมวังหน้าก็เพิ่งจะทราบข้อเท็จจริงกันวันนี้เอง


เพียง ๒ เรื่องก็พอแล้วที่มาทำให้อยากแล้วจากไป..s6..s6...

 

วันนี้ผมคิดจะไปอยู่เหมือนกันครับ เเต่เคลียร์เวลาไม่ลงตัว เลยไม่ได้ไป โชคดีท่ีอธิบดีเลื่อนปิดงานออกไปปลายเดือนอ่ะครับ
ปล. ข้อสองน่ี ผมเดาว่าเป็นเก่ียวกับพระปัญจสิริ ครับ

 

คุณ Pink... นี่ไม่ธรรมดาครับ นับถือจริงๆ ปัญจสิริมีหลายพิมพ์ แต่พิมพ์นี้เป็นพิมพ์พิเศษ เอาไว้ผมนำภาพมาให้ชมพร้อมเทียบกับพระพิมพ์ให้ดูกัน จะเข้าใจที่มาเป็นอย่างดี...

 

วันนี้พระองค์ท่านดลใจให้ได้ไปพบโชคเรื่องหนึ่ง ผมคิดเอาเองว่าพระองค์ท่านกำนัลของชิ้นนี้ และเหมือนของเค้าตามหาคู่ของเค้าอยู่ เรื่องมีอยู่ว่า...

เมื่อวันจักรี(ศุกร์ที่ ๖ เม.ย. ๒๕๕๐) ก็เกือบ ๔ ปีก่อนที่ได้ไปซื้อหมากพลู และอื่นๆ เพื่อใช้ในวันรุ่งขึ้น คืองานพุทธาภิเษกเสาร์ ๕ วันเสาร์ที่ ๗ เม.ย. ๒๕๕๐ ที่บ้านอาจารย์ปู่ประถม ได้ไปพบท่านผู้หนึ่งมอบเหรียญตราลัญจกรประจำรัชกาล ๕ พระองค์เนื้อทองแคง ขนาดเท่าอุ้งมือ ได้นำไปให้อาจารย์ปู่เมตตาตรวจให้ ท่านก็ยิ้ม และบอกว่านี่...กระแสโลกอุดรแรงจริงๆ

วันนี้(๗ ม.ค. ๒๕๕๔) ตรงกับวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าอยู่หัว ผมก็ได้รับเหรียญตราลัญจกรประจำรัชกาล ๕ พระองค์เนื้อเงิน ขนาดเดียวกับทองแดง จากท่านเดิมมอบให้ ก็เป็นเรื่องที่แปลกครับ ได้รับมาจากต่างวาระที่มีความสำคัญทัดเทียมกัน

 

และที่ถือว่าได้รับโชคใหญ่คือ หลังเสร็จพิธีบวงสรวงในช่วง ๙.๐๐ น. (พิธีบวงสรวง ณ พระบรมราชานุสาวรีย์เริ่ม ๘.๐๐ น.) ผมได้รับดอกบานไม่รู้โรยจากพานบายศรีมา ๑ ดอก...

 

ส่วนตัวผมเองก็ชอบพระเนื้อปัญจสิริครับ เเม้ว่าบางคนจะหาว่าพระเก๊ก็ตาม ผมว่าองค์พระมีความเป็น cross-culture มี design ท่ีเป็นเอกลักษณ์ + ความลึกซึ้งในตัวครับ ท่ีสําคัญคือ เป็นพระของปู่ท่านเสกครับ
ปล. บางเนื้อหา-ข้อมูล อาจจะต้องใช้ pm ในกลุ่มเพื่อป้องกันความเส่ียงจากคนท่ีเอาข้อมูลไปทำพระเก๊ (ความเห็นผมนะครับ)

 

ปล. ผมพิมพ์ตกไปครับ พอดีจิ้มจากไอโฟนบนเตียงนอน พิมพ์ไทยเรยช้ามากอ่ะครับ
ไม่ธรรมดา น่ีผมว่าคุณเพชร น่ีเเหละ ครับ ผมเเค่เดา เเต่คุณเพชร เจอ clue นี้กับตัวเรย
ปล.2 ไม่ธรรมดา อีก 2 คน นี่ ผมยกให้คุณพ่ีหนุ่มกับ ตาลุงข้างบ้าน ครับ ส่วนผมไม่ธรรมดาอย่างเดียวคือตอนส่ังก๋วยเตี๋ยว เพราะสั่งพิเศษตลอดครับ
ปล. ขอตัวนอนเเล้วครับ พรุ่งนี้ไปไหว้พระท่ีพิดโลก+ พิจิตรครับ ราตรีสวัสดิ์ ทุกท่านครับ

 

เริ่มแรก ผมสนใจศาสตร์การบำบัดด้วยสี(colour healing) มาก่อน ตามหา text book ตปท.มาอ่าน เข้า Asia Book หรือ Kino. แทบทุกอาทิตย์ จนเขาให้เป็นบัตรสมาชิกตลอดชีพกันเลย ต่อมาได้พบพระปัญจสิริ ก็ชอบใจ จนมาพบคุณหนุ่มในกระทู้พระวังหน้า จนได้ทราบความหมายแห่งปัญจสิริจากอาจารย์ปู่ประถมนั่นแหละครับ เรื่อง"คนไม่รู้เรื่อง" จะด้วยความเบาปัญญา หรือความไม่รู้ อันนี้สุดจะเข้าใจ ผมคิดว่าพระปัญจสิริมีน้อยคนจะเข้าใจ ไม่รู้เรื่อง ไม่อยากศึกษาก็พาลว่ากล่าวกลายเป็นพระลิเก พระเก๊ พระสายรุ้งไป ของปลอมเรียกพระลิเก พระเกี พระสายรุ้ง อันนี้จะเรียกอย่างไรก็เรียกไป หากเป็นของแท้ และมีความเข้าใจ ผมว่าแทบทุกท่านจะรักในศาสตร์นี้ครับ พระปัญจสิริพิมพ์พิเศษนี้ผมจึงตั้งการทำบุญเอาไว้สูง เรียกว่านับครั้งได้ แต่ละครั้งก็ ๑-๓ องค์

๑) เพื่อกันคนไม่รู้เรื่องอย่าได้เข้ามาเกี่ยวข้อง เรียกว่า เจอของถูกๆ ก้ยังไม่สนใจ ราคาสูงๆ เขาจะยิ่งเมิน s6..s6..

๒) เพื่อให้ผู้ที่มีความรู้ ความเข้าใจได้เห็นคุณค่าของพระพิมพ์พิเศษนี้ และได้พระพิมพ์ปัญจสิริที่ถูกต้องตามหลักของธาตุที่เหมาะกับตนเองเท่านั้น

ประสบการณ์ที่ผมพบเจอมา ดูเหมือนคล้ายบังเอิญไปเสียทุกครั้ง ก่อนอื่นผมอยากให้เพื่อนๆที่ไม่ค่อยได้พบกับ"ความบังเอิญที่บ่อยๆ" ได้มีโอกาสทำความเข้าใจกับ"ด่านความสงสัย"เสียก่อน หากสงสัยมาก ความบังเอิญจะเกิดไม่บ่อย หากทิ้งความสงสัยว่าบังเอิญไป เอาความเชื่อ ความศรัทธาในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้มาเป็นที่ตั้งก่อน สิ่งที่ได้รับมาทุกเรื่องจะไม่ค่อยมีเหตุมีผลในการได้มาเท่าไหร่ ไปถามหาเหตุผลมากๆ สิ่งที่เกิดขึ้นกับเราในชีวิตจริง เวลาได้รับอะไรมาแต่ละครั้งทำไมมันยากเย็นเสียจริงๆ ต้องใช้เหตุผลไปทุกเรื่อง ต้องตรากตรำไปทุกเรื่อง แบบนี้ไม่สนุกครับ...

ผมเป็นคนธรรมดาครับ ไม่รู้ก็บอกไม่รู้ จะไปกั๊กว่ารู้ทำไม ผมสอบถามคุณหนุ่ม คุณน้องนู๋เรื่องนั้น เรื่องนี้ออกจะบ่อย ทั้ง ๒ ท่านก็เมตตาอธิบายให้ผมได้เข้าใจจริงๆ ก็ตรงไปตรงมา สบายๆครับ หากไม่ถาม หรืออวดรู้ ก็จะ"ไม่รู้"จริงๆ

คุณหนุ่มนี่เขาเป็นสุดยอดของความใจกว้างมากๆ พระพิมพ์หนึ่งที่พวกเราได้รับกัน คุณหนุ่มเขาอาจจะได้รับมาในราคาไม่สูงมาก ก็นำมาแจก มาแถมพ่วงเป็นชุด แต่พวกพุทธพาณิชย์เขาตีค่าเป็นราคาให้หมื่นสอง s6..s6..ส่วนคุณน้องนู๋นี่หากเขาแนะว่าอย่างนั้นคืออย่างนั้นจริงๆ ไม่มีอย่างนี้เด็ดขาด และพูดไม่มากครับ เพียง ๒ ครั้ง เชื่อก็เชื่อ ไม่เชื่อ ก็ช่างเมิง s6...s6..

 

ผมคิดว่า การได้รับเหรียญลัญจกร ๕ รัชกาลเนื้อเงินมาในวันนี้ เป็นเพราะผมตั้งใจหาหมากพลูแบบนี้ไปถวายหลวงปู่ที่บ้าน เหมือนเมื่อ ๔ ปีก่อนก็ตั้งใจหาหมากพลูแบบนี้ไปถวายหลวงปู่ที่บ้านอาจารย์ปู่ประถมเพื่อพิธีพุทธาภิเษก ๗ เม.ย. ๒๕๕๐ ...

 

ขอถามความเห็นในเรื่องการ "ขวางบุญ" ครับ ตัวอย่างเช่น นาย ก.อยากทำบุญวัดใหญ่วัดหนึ่งซึ่งร่ำรวยมหาศาล แต่ นาย ข.บอกว่า อย่าทำวัดนี้เลย วัดนี้รวยแล้ว ไปทำวัดอื่นที่จนๆ ดีกว่า ทำให้นาย ก.เปลี่ยนใจ แล้วไปทำบุญกับวัดที่นาย ข. บอก แบบนี้เรียกว่า นาย ข. ขวางบุญนาย ก.หรือเปล่าครับ

อีกตัวอย่างก็คือกระทู้นี้ต้องการรวบรวมปัจจัยเพื่อดำรงพระศาสนาโดยมีพระ พิมพ์มอบให้ในการทำบุญนี้ แต่ก็มีคนเข้ามาบอกว่าเป็นพระปลอม พระมือผี แต่คนเหล่านั้นก็ไม่ได้ห้ามคนอื่นที่อยากจะมอบปัจจัยในการทำบุญ แต่การป่าวประกาศว่ากระทู้นี้มอบพระเก๊ พระปลอม จะเป็นการ "ขวางบุญ" ใช่หรือไม่


ทั้งสองเรื่องในความเห็นผม เป็นการขวางบุญเช่นกัน รายละเอียดเรื่องบุญ และ กรรม รวมทั้งท่านผู้ที่เกี่ยวข้องมีมากมายเหลือเกินครับ เช่น ประเภทบุญที่จะทำ , ตัวผู้ทำบุญ (ทั้งกาย วาจา ใจ) วัดหรือสำนักสงฆ์ที่จะไปทำบุญ , พระสงฆ์ที่จะไปทำบุญ , เทวดาที่วัด , เทวดาที่อยู่กับเรา , เทวดาที่อยู่ที่พระพิมพ์ , เทวดาท่านผู้มีอำนาจในเรื่องต่างๆ , องค์พยามัจจุราชเจ้า รวมทั้งนายนิริยบาล , เทพเทวาต่างๆ เป็นต้น

เนื่องจากปัจจัยมีเยอะมาก กรรมในวาระต่างๆ จึงไม่เท่ากันครับ


.

 

หากมีโอกาสไปกราบพระพุทธชินราช หรือ หลวงพ่อเพชร(พิจิตร) ผมฝากกราบด้วยนะครับ

ผมเคยไปกราบ แต่นานมากแล้ว พระพุทธชินราช และ หลวงพ่อเพชร(พิจิตร) ทั้งสององค์ สวยมากครับ

ขอบคุณครับ

โมทนาบุญล่วงหน้าครับ

.

 

ผมเป็นคนธรรมดาเหมือนกัน ไม่ได้เก่งอะไรครับ

เรื่องพระวังหน้า ผมบอกได้ว่า ไม่คุ้มครับ สำหรับการนำไปขาย เพราะผมเห็นตัวอย่างมาแล้ว ครอบครัวพังครับ , บางที่ ติดการพนัน , บางที่ ติดยาบ้า เงินที่ได้มา ก็หมดลงอย่างรวดเร็ว

สำหรับท่านใดที่เชื่ออย่างอื่น ก็เชื่อกันไป แต่ผมเชื่อหลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ ที่พระองค์่ท่านที่มีพระเมตตามาบอกและมาเตือนผมในเรื่องของการนำพระวังหน้า ไปซื้อขาย ด้วยกายเนื้อของหลวงปู่กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญครับ


.

 

โมทนาบุญทุกประการครับ

.

 

อ้างอิง:
<table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ fightfor
ขอ อารธนาบารมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ พรหม เทพ เทพยดา อาจารย์ทั้งหลายๆสืบๆกันมา โดยมีหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด หลวงปู่โต หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงเป็นที่สุด

ขอ อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลจากการ บริจาคเงินสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ในวันนี้ แด่พระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ พรหม เทพ เทพดา อาจารย์ทั้งหลายสืบๆกันมาโดยมีหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร หลวงปู่ทวด หลวงปู่โต หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุงเป็นที่สุด พระยายมราช ท่านท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 เทพเทวาทั่วสากลพิภพ ขอพระยายมราช และท่านท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 จงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญกุศลของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด

ขอ อุทิศส่วนกุศลนี้แด่บูรพกษัตริย์ทุกๆพระองค์ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จพระศรีสุริโยทัย สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเอกาทศรถ และสมเด็จพระพี่นางสุพรรณกัลยา จวบจนถึงบูรพกษัตราธิราชในราชวงศ์จักรีอันมีสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ 1 จนถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราชรัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกๆพระองค์ กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนารทวังหน้าองค์ที่ 1 ในราชวงศ์จักรี จนถึงกรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ วังหน้าองค์ที่ 5 ในราชวงศ์จักรี

ขอ อุทิศส่วนกุศลนี้แด่เทพเทวาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ปกปักรักษาพระวังหน้า พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า ทุกๆองค์ ทุกๆพิมพ์ที่ข้าพเจ้ามีโอกาสได้ครอบครอง พระอริยสงฆ์ที่ได้เสกพระพิมพ์ทุกๆองค์ เจ้าของสถานที่ พระบรมมหาราชวัง วัดพระแก้ววังหน้า และวัดพระแก้ววังหลวงที่ใช้เป็นสถานที่ในการปลุกเสกองค์พระ ช่างสิบหมู่ทุกๆท่านที่มีส่วนร่วมในการสร้างพระวังหน้า และสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า

ขอ อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรที่เคยล่วงเกินมาแต่ชาติก่อนก้ดี ชาตินี้ก็ดี จะด้วยเจตนาก็ดี หรือไม่เจตนาก็ดี ใช่ญาติ หรือไม่ใช่ญาติก็ดี ขอจงได้อโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่วันนี้ตราบท้าวเข้าสู่พระนิพพาน

ผล บุญใดที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้วณ โอกาสนี้ ขอผลบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้า และคณะได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเทอญ หากยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงไร ขอความคล่องตัว และขอคำว่าไม่มี จงอย่าได้บังเกิดขึ้นกับข้าพเจ้าด้วยเทอญ
</td> </tr> </tbody></table>


<table style="width: 507px; height: 32px;" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="alt2" style="border: 1px inset;">ผมแนะนำน้อง fightfor และท่านผู้่อ่านว่า ในกรณีที่จะอุทิศบุญแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือ พระปัจเจกพุทธเจ้า หรือ พระอรหันต์ หรือ พระโพธิสัตว์ หรือพระผู้ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ ผมแนะนำให้เปลี่ยนคำจากคำว่า "อุทิศ" เป็น ข้าพเ้จ้า ขอ"น้อมถวาย"บุญ แทนครับ

. </td> </tr> </tbody></table>

 

หลังจากนี้ไป (ยกเว้น ท่านเดียวที่ทางชมรมพระวังหน้า กำัลังพิจารณาอยู่ในขณะนี้) สำหรับท่านใดที่สนใจสมัครสมาชิกชมรมพระวังหน้า ผมจะมีรายละเอียดให้ท่านได้กรอกข้อมูลของท่าน ซึ่้งมีบางคำถามที่ผมระบุให้ต้องเขียนหรือพิมพ์อธิบายไม่น้อยกว่า 5 บรรทัด

และ ต้องมีสมาชิกชมรมพระวังหน้า รับรองด้วยครับ

ในรายละเอียด ต้องมีการส่งรูปมาให้ผมด้วย ต้องส่ง 2 รูป

1.รูปตนเอง
2.รูปที่ถ่ายคู่กับสมาชิกชมรมพระวังหน้าครับ


จึงเรียนมาเพื่อทราบกันครับ



.

 

สำหรับการรับ หรือ ไม่รับ ขึ้นอยู่กับ การลงมติ ของ ประธาน , รองประธาน และเลขานุการ เป็นการลงมติ 2 ใน 3 เสียง

และผมเองจะส่งเรื่องการรับสมัครสมาชิกใหม่ ให้สมาชิกชมรมพระวังหน้าทุกๆท่านได้ทราบและแสดงความคิดเห็นกัน เนื่องจาก เราอยู่บ้านหลังเดียวกัน ต้องช่วยเหลือและดูแลกันครับ


.

 

<table class="tborder" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1" width="100%"><tbody><tr><td class="thead">ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 2 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 0 คน ) </td> <td class="thead" width="14%"> [ แนะนำเรื่องเด่น ] </td> </tr> <tr> <td class="alt1" colspan="2" width="100%"> sithiphong, :::เพชร:::+</td></tr></tbody></table>

อรุณสวัสดิ์ยามเช้า วันเสาร์สุขสันต์ครับ

.

 

เวลาที่เข้าเว็บพลังจิตไม่ได้

คุยกันได้ที่เว็บใต้ร่มธรรม ครับ

ใต้ร่มธรรม - Index

 

เอฟเอ คัพ “เรด วอร์”

​

หลังจากเตะโหดติด ๆ กันไม่เว้นช่วงคริสต์ มาส และนิวเยียร์อันเป็นประเพณีเก่าแก่ สุดสัปดาห์นี้ฟุตบอลอังกฤษถึงคิว “เอฟเอ คัพ” รอบ 3 อันเป็นรอบแรกที่ทีมระดับพรีเมียร์ลีก มีคิวลงเตะ
ถึงคิวเอฟเอ คัพ ทีไร ผมอดไล่เช็กประวัติไม่ได้ครับว่าปีนี้เป็นปีที่เท่าไหร่แล้ว ซึ่งก็ปรากฏว่าปีนี้เป็นการแข่งขันปีที่ 130 แล้ว หลังจากที่เริ่มต้นแข่งขันครั้งแรกในปี ค.ศ.1871
ว่าถึงประวัติสั้น ๆ ให้พอทบทวนความจำกันของการแข่งขันรายการนี้คือ เอฟเอ คัพ เป็นฟุตบอลถ้วยระบบ “น็อกเอาต์” รายการแรกของโลกที่ยังคงทำการแข่งขันอยู่ถึงปัจจุบัน และถือเป็นหนึ่งในโทรฟี่ที่มีความ “ขลัง” มากที่สุดใบหนึ่งของโลก
เรียกว่าถ้านับความเก๋าอย่างเดียว ถ้วยฟุตบอลโลก หรือถ้วย อองรี เดอ โลเนต์ (ถ้วยบอลยูโร) ยังต้องชิดซ้ายครับ!
มีเกร็ดให้ติดตามกันอีกนิดสำหรับโทรฟี่เอฟเอ คัพ โดยโทรฟี่ใบแรกนั้นมีชื่อเล่นว่า “Little Tin Idol” ใช้ในการแข่งขันตั้งแต่ครั้งแรกมาจนถึงปี ค.ศ.1885 ก่อนจะถูกขโมยไปจากหน้าต่างโชว์ร้านค้าของ วิลเลียม ชิลค็อก ในเมืองเบอร์มิงแฮม ซึ่งปีนั้น แอสตัน วิลลา เป็นแชมป์จึงเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ครอบครองหนึ่งปี
โทรฟี่น้อยใบนั้นไม่ถูกค้นพบอีกเลย ทำให้ เอฟเอ ปรับเงินวิลลา เป็นจำนวน 25 ปอนด์สำหรับการทำถ้วยใบใหม่ โดยที่หลังจากนั้นอีก 60 ปี หัวขโมยได้ยอมรับว่าที่ถ้วยหายไปก็เพราะโดนเอาไปหลอมทำเหรียญ
จากนั้นโทรฟี่ใบที่สองก็ถูกทำขึ้นจำลองแบบจากใบแรก และใช้จนถึงปี ค.ศ.1910 ก่อนจะใช้โทรฟี่ใบที่ 3 ในปี ค.ศ.1911 ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น และได้รับการออกแบบโดยบริษัทฟัตโนรินี แห่งแบรดฟอร์ด และที่พิเศษก็คือในปีแรกที่ใช้โทรฟี่ใบนี้ ทีมแบรดฟอร์ด ซิตี บังเอิญซิวแชมป์ได้พอดีด้วย ก็เลยได้เฉลิมฉลองกันไปใหญ่
โทรฟี่ใบที่ 3 มีอายุยืนยาวครับ เพราะใช้มาจนถึงปี ค.ศ.1992 และด้วยอายุของมันทำให้เปราะเกินกว่าจะใช้งานได้ ทำให้ต้องทำโทรฟี่ใบใหม่ขึ้นมาซึ่งก็ใช้มาจนถึงปัจจุบัน โดยความลับที่หลายคนอาจไม่ทราบก็คือ โทรฟี่ใบปัจจุบันนั้นมีการทำใบสำรองขึ้นมาด้วยแต่ยังไม่เคยถูกใช้งานเลย
สำหรับเสน่ห์ของการแข่งขันเอฟเอ คัพ ก็อย่างที่ทราบกันครับว่า เป็นรายการที่พร้อมจะมีการ “พลิกล็อก” ได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะทีมยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ ที่อาจจะเสร็จทีมระดับดิวิชั่นล่าง ๆ ได้เสมอ
“แจ็คผู้ฆ่ายักษ์” หรือถ้าเป็นชาวอังกฤษ ก็จะเรียกว่า “Giant-killers” คือสิ่งที่แฟนบอลรอลุ้นในการแข่งขัน เอฟเอ คัพ และอาจจะลุ้นมากกว่าการได้เห็นทีมแชมป์ด้วยซ้ำไป
อย่างไรก็ตาม ปีนี้ดูเหมือนจะมีอะไรผิดรูปผิดรอยไปนิดหน่อยครับ เพราะ “ยักษ์” ดันมาเจอกันเองตั้งแต่รอบนี้ทันที
ผมจำไม่ได้นะครับว่าใครเป็นมือดีจับสลากขึ้นมา แต่การจับให้ “ผีแดง” มาจ๊ะเอ๋ “หงส์แดง” กันตั้งแต่รอบนี้ เป็นเรื่องที่พิเศษมาก เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ศึกเรด วอร์ในเอฟเอ คัพ ตามประวัติศาสตร์มี ขึ้น 9 ครั้ง โดยที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายที่กำชัยชนะได้มากกว่า เป็นผู้ชนะถึง 7 ครั้ง โดยเคยพบกันในนัดชิงชนะเลิศ 2 ครั้งในปี ค.ศ.1977 และค.ศ.1996 (ภาพเอริค คันโตนา วอลเลย์ลูกนั้นผ่านมือเดวิด เจมส์ ยังติดตาอยู่เลยครับ) และผีแดงคว้าแชมป์ทั้งสองครั้งครับ
ครั้งแรกที่ทั้งสองทีมพบกันเกิดขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1898 (ขณะนั้นยังใช้ชื่อเดิมว่านิวตัน ฮีธ อยู่เลย) ส่วนที่พบกันในรอบแรกจริง ๆ เกิดขึ้นในปี ค.ศ.1903 ที่สนามแบงค์ สตรีท โดยแมนฯยูไนเต็ด ก็เอาชนะได้เหมือนเคย
แต่ในครั้งสุดท้ายที่พบกันคือในปี ค.ศ.2006 เป็นการแข่งขันรอบที่ 5 โดยลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเฉือนเอาชนะได้ 1-0 (แฮ่ม!) จากการโหม่งของปีเตอร์ เคราช์ ซึ่งนัดนั้นมีเหตุสยองเมื่อ อลัน สมิธ ไปบล็อกลูกยิงของ ยอห์น อาร์เน่ ริเซ่ จนล้มผิดจังหวะข้อเท้าหัก
ดังนั้นเมื่อกางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะในประวัติศาสตร์ฟุตบอลยุคโพสต์โมเดิร์น ทั้งสองทีมไม่เคยพบกันในรอบที่ 3 ซึ่งเทียบเท่ากับรอบแรกของเอฟเอ คัพ มาก่อนครับ
เกมที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในวันอาทิตย์นี้จึงนับเป็นโอกาสที่มีความพิเศษอย่างมากจริง ๆ
ในส่วนของการแข่งขันนั้น เกมคู่นี้เป็นเกมที่ผลการแข่งขันออกได้ 3 หน้าอยู่แล้วครับ ขึ้นอยู่กับว่า ณ วันนั้น เวลานั้น ทีมไหนที่ควบคุมสถานการณ์ได้ดีกว่า ละเอียดกว่า และโชคจะเข้าข้างฝ่ายไหนเท่านั้น
แต่ก็ต้องยอมรับกันแบบตรงไปตรงมาว่า นาทีนี้หงส์สู้ลำบากอยู่เหมือนกัน
โดยองค์ประกอบของทีมแล้ว รอย ฮอดจ์สัน ยังไม่สามารถหลอมรวมทีมให้เป็นหนึ่งเดียวกันได้เลย การจัดทีม การวางแผน รูปแบบการเล่นยังไม่มีความลงตัว ซึ่งสวนทางกับแมนฯ ยูไนเต็ด ที่เป็นทีมเดียวในเวลานี้ที่ยังไม่แพ้ใครเลยตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา ซึ่งถือเป็นผลงานที่สุดยอดเอามาก ๆ
ความจริงผีแดงก็ไม่ได้ร้อนแรงอะไรนะครับ แต่เป็นการเล่นแบบเรื่อย ๆ มาเรียง ๆ เก็บชัยชนะมาเรื่อย 1-0 บ้าง 2-1 บ้าง ซึ่งคุณค่าของชัยชนะเหล่านี้มันสะท้อนให้เห็นถึงความเขี้ยว ประสบการณ์ที่ฝังลงในดีเอ็นเอของทีม
ถ้า ลิเวอร์พูล ต้องการจะกลับแอนฟิลด์อย่างผู้มีชัย หรืออย่างน้อยที่สุดคือการขอกลับไปรีเพลย์กันที่แอนฟิลด์ ก็จำเป็นต้อง “รีด” ทุกอย่างออกมาให้ได้มากที่สุด
โดยเฉพาะ ฮอดจ์สัน เองก็ต้องพยายามเต็มที่ทั้งในส่วนของการวางแผนรับมือ และส่วนของการซื้อใจลูกทีม โดยที่ต้องเลิกคำนึงถึงแฟนบอล (การออกมาบ่นน้อยใจเดอะ ค็อป ถือเป็นความผิดพลาดที่สุดของเขา) เพราะว่ากันว่าอาจเป็นโอกาสสุดท้ายที่จะรักษาตำแหน่งของตัวเองเอาไว้
คนรอเสียบเก้าอี้ตัวนี้เพียบครับ ไม่เฉพาะ “คิงเคนนี่”ดัลกลิช ตอนนี้ยังมีชื่อกุนซือฝีมือดีอีกหลายคนที่เข้าข่ายน่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น มาร์ติน โอนีล, แฟรงค์ ไรจ์การ์ด หรือ ราล์ฟ รังนิก ที่สไตล์ชวนให้นึกถึง อาร์เซน เวนเกอร์ อยู่ไม่น้อย ไม่นับระดับ กุส ฮิดดิงค์ หรือ เจอร์เก้น คล็อปป์ที่ติดโผมาด้วย
ตรงนี้ก็ต้องรอติดตามครับว่า ฮอดจ์สัน จะทำให้ทุกคนกลับมาคิดได้อีกครั้งหรือไม่ว่าเขาเคยเป็นผู้จัดการทีมยอด เยี่ยมมาเมื่อฤดูกาลที่แล้วเอง
สำหรับแฟนบอลบ้านเราก็สามารถติตตามศึกเรด วอร์ภาคพิเศษนี้ โดยเห็นว่าทรูวิชั่นส์ จะทำการถ่ายทอดสดรายการเอฟเอ คัพ ในระบบเอชดีคมชัดกว่าปกติ 5 เท่าเป็นครั้งแรกด้วยครับ วันที่ 9 ม.ค. ตั้งแต่เวลา 20.30 น. เป็นต้นไป และยังมีคู่อื่น ๆ อีกเพียบทั้งในระบบปกติ และเอชดี ซึ่งใครเป็นสมาชิกก็คงได้ดูกันเต็มอิ่มเหมือนเดิม
นอกจากนี้ก็ยังจะมีการถ่ายทอดสดทางฟรีทีวีด้วยเหมือนกันครับ
อ้อ! ส่งท้ายสัปดาห์นี้ ใครมีโอกาสมีเวลาก็อยากเชิญไปชมกอล์ฟรายการใหญ่ของบ้านเรา “เดอะ รอยัล โทรฟี” ที่หัวหินนะครับ ระหว่าง 7-9 ม.ค.นี้
ส่วนใครที่ไม่สะดวกจะเดินทางไป ติดตามชมทางหน้าจอ ทรูวิชั่นส์ เจ้าเก่าเขาก็ถ่ายทอดสดให้ดูตลอดรายการ เหมือนเดิมทางทรูสปอร์ต 4 (ช่อง 104)
ท้ายสุดของที่สุดจริง ๆ คือ ขอสุขสันต์วันเด็กแห่งชาติ 8 ม.ค. 2554 ด้วยคนครับ...




.



.



.

Daily News Online > หน้ากีฬา > ฟรีสไตล์จากอังกฤษ > เอฟเอ คัพ “เรด วอร์”

.

 

อ้างอิง:
<table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ IT Man
ดูก็รู้ว่าขอความเห็นพี่หนุ่มตอบก่อน...โยนเผือกร้อนกันเห็นๆ หุหุ ... งั้นผมขอตอบแทนพี่หนุ่มละกันว่า เชื่ออาจารย์ปู่จะดีกว่า...ข้ามาคนเดียว เดี่ยวกันไปเลยทีละองค์ จะเห็นผลมากกว่า...
ผมมี short note สั้นๆ ตามนี้ ตามหาเองว่าใครเป็นคนพิมพ์ไว้ หุหุ
"พระ พิมพ์ที่สร้างขึ้นที่วังหน้า ,วังหลวง หรือวังหลังนั้น และเริ่มสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2400 โดยเริ่มต้นขึ้นที่วังหน้า ในช่วงต่อมาทางวังหลวงและวังหลังจึงเริ่มมีการสร้างพระพิมพ์ขึ้น โดยมีการแยกกันชัดเจนในปีพ.ศ.2415 อันเป็นปีที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านทิวงคตแล้ว โดยมีการใช้ตราครุฑ ประทับด้านหลังพระพิมพ์ เพราะฉะนั้น พระพิมพ์ที่สร้างขึ้นจากวังหน้า ที่สร้างก่อนปี พ.ศ.2415 โดยส่วนใหญ่แล้วสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีท่านจะเมตตามาเสกให้
การ ที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ท่านเสกพระพิมพ์และวัตถุมงคลให้นั้น หากทันท่านที่ยังมีขันธ์อยู่ พลังอิทธิคุณก็จะแตกต่างจากที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีทิวงคตแล้ว
ส่วน พระพิมพ์ที่สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2400 ถึง ปีพ.ศ.2428 อันเป็นปีที่ท่านเจ้า(กรมพระราชวังบวรวิชัยชาญ) ท่านทิวงคตนั้น คณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร) 4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน) หลวงปู่จะเมตตามาเสกพระพิมพ์ให้ เพียงแต่ว่า เป็นองค์ไหนมาเสกเท่านั้นเอง โดยปกติแล้ว หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร) ท่านจะเป็นผู้ที่เสกพระพิมพ์และวัตถุมงคลเป็นส่วนใหญ่ (ในความคิดเห็นส่วนตัวผมไม่น่าจะต่ำกว่าร้อยละ 95 ถ้าเป็นหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้าเสกนั้น ประมาณร้อยละ 3 ถ้าเป็นหลวงปู่พระโสณเถระเจ้า ประมาณร้อยละ 1 ถ้าหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 องค์เสกนั้น ไม่เกินร้อยละ 1)

เรื่อง ของพระปัญจศิรินั้น หากท่านใดที่มีหนังสือวิเคราะห์พระสมเด็จและพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่านั้น จะพอทราบเป็นเบื้องต้นว่า พระปัญจศิรินั้น ลักษณะเนื้อหา , สี นั้นในยุคแรกๆ (ที่ทันสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสียังมีชีวิตอยู่) จะมีลักษณะเป็นอย่างไร แต่หากสร้างพระปัญจศิริหลังที่สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ทิวงคตแล้ว จะมีการเชิญสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี โดยท่านเป็นอทิสมันกาย มาเสกให้ในบางพิธีเหมือนกัน แต่พลังอิทธิคุณที่อยู่ในองค์พระพิมพ์หรือวัตถุมงคลจะแตกต่างกัน"

เพราะฉะนั้นลองตามหาพระพิมพ์ที่ทันหลวงปู่เจ้าประคุณสมเด็จฯโต และร่วมเสกโดยหลวงปู่บรมครูพระเทพโลกอุดร อย่างน้อยสามองค์เสก ไว้อาราธนาขึ้นคอ จะเบาคอดีกว่านะครับ เช่น พระพิมพ์...รุ่นบางๆ แรกๆ,พระสมเด็จกลักไม้ขีด...,พระผงยา..., พระพิมพ์ที่บุ..., พระพิมพ์พิเศษ...2 พิมพ์ เป็นต้น
</td> </tr> </tbody></table>
ขอบพระคุณในวิทยาทานครับ ตอน ผมไปกราบปู่ประถมครั้งที่สาม ท่านก็ทักผมว่า "ทำไมใช้พระเยอะจัง หลาน" แล้วท่านก็ให้อาจิ๋วหยิบพระที่ท่านห้อยอยู่องค์เดียวให้ผมชม แล้วท่านก็เล่าประวัติพระองค์นั้นให้ผมฟัง ถึงอย่างนั้นแล้วปัจจุบันผมก็ยังห้อยพระหลายองค์อยู่ดีครับ (กิเลสล้วนๆ)
ส่วนพระพิมพ์...รุ่นบางๆ แรกๆ คุณปู่ประถมก็หยิบให้ชมเป็นบุญตาแล้วครับ จำติดหูติดตา และยังตามหาอยู่ครับ เพิ่งจะพบบ้างแล้วครับ ได้อัญเชิญมาไว้ที่บ้านและติดตัวบูชาเหมือนกันครับ


ของผมใช้วิธี ขอพระอาจารย์...ท่าน อธิษฐานจิตอาราธนา พระบารมี อุปปบารมี ปรมัตถบารมี ขององค์ผู้สร้างและผู้อธิษฐานจิตขององค์สุดยอดทุกๆองค์ มารวมอยู่ในองค์ที่เราชอบ หลังจากนั้นก่อนห้อยติดตัวผมจะสมาทานศีล 5 แล้วอธิษฐานจิตอาราธนา พระบารมี อุปปบารมี ปรมัตถบารมี ทั้งปวงประสิทธิที่กายเนื้อ กายทิพย์ จิตเนื้อจิตทิพย์ สี่ห้องหัวใจเนื้อ สี่ห้องหัวใจทิพย์ พร้อมทั้งเคลือบตั้งศีรษะจรดฝ่าเท้าทั่วสรรพสังขารของร่างกายของข้าพเจ้า
ท่านผู้รู้แนะนำผมมา ก็ขอเล่าสู่กันฟัง ท่านใดสนใจก็นำไปใช้บ้างก็ได้นะครับ