ปิดรับบริจาค สำเร็จแล้ว... เชิญชมภาพศาลาหนุมาน วัดซับลำใยสามัคคีธรรม ลพบุรี (น.74)

ขอบคุณค่ะน้องเบสท์... ตกลงตามที่ได้คุยกันทางโทรศัพท์นะคะ...

 

การเดินทางเพื่อทำพิธีบวงสรวงในครั้งนี้มีทั้งหมด 5 คนคือ "หนู ป้าอร พี่ขมังเวทย์ คุณเอ และพี่คนขับรถ" ตอนแรก "พี่อจินไตย" ตั้งใจจะไปด้วยแต่เกิดป่วยกระทันหันเลยไปด้วยไม่ได้

ทั้งหนูและป้าอร (หนูนับถือเป็นครูบาอาจารย์) ได้เตรียมตัวกันเป็นอย่างดี ออกจะตื่นเต้นพอสมควรเพราะเป็นครั้งแรกของทั้งคู่ ในช่วงเช้าก่อนออกจากบ้านองค์พ่อนารายณ์ (ป้าอร) ได้มาทำพิธีเสริมบารมีให้แล้วครั้งหนึ่ง

คณะเราเดินทางมาถึงวัดประมาณ 9 โมงกว่าๆ ทางวัดได้เตรียมของใช้ทั้งหมดไว้พร้อม (ยกเว้นบายศรี) รอจนถึงประมาณ 10 โมงกว่าจึงได้เริ่มพิธี ในการทำพิธีบวงสรวงในครั้งนี้มีการอธิษฐานจิตเสี่ยงทายโดยพี่ขมังเวทย์ด้วย



การเสี่ยงทายในครั้งนี้ทั้งหนูและป้าอรไม่รู้เรื่องเลย จนทำพิธีเสร็จเรียบร้อยพี่ขมังเวทย์จึงเฉลยให้ฟังในภายหลัง หากท่านสังเกตุที่รูปจะเห็นว่ามีมีดดาบปักอยู่ในถ้วยที่มีข้าวสารบรรจุอยู่ หากมองและพิจารณาตามความป็นจริงแล้วมีดดาบจะไม่สามารถปักอยู่ในลักษณะนั้นได้เนื่องจากมีดดาบมีน้ำหนักมากพอสมควรและถ้วยใส่ข้าวก็ไม่ลึกพอที่จะใส่ข้าวได้เยอะถึงขนาดรับน้ำหนักมีดดาบที่ปักไว้บนถ้วยได้ แต่ไฉนมีดดาบจึงปักอยู่ได้ในลักษณะนั้นแถมไม่มีการขยับโอนเอียงแต่ประการใด

พี่ขมังเวทย์ได้ปักมีดดาบเสี่ยงทายตั้งแต่พิธีบวงสรวงเริ่มจนธูปดับหมดทั้งดอก... หลังจากธูปดับหมดดอกแล้วพี่ขมังเวทย์ได้บอกให้หนูชักมีดดาบออก หนูก็ทำตามโดยไม่ได้เอะใจ หลังจากนั้นพี่ขมังเวทย์ก็ให้หนูลองปักมีดดาบลงบนถ้วยใหม่อีกครั้ง ปรากฏว่าหนูปักครั้งแรกก็ล้มไม่เป็นท่า พี่ขมังเวทย์ก็บอกว่าให้หนูอธิษฐานจิตให้ดีๆแล้วค่อยปักใหม่ หนูก็ทำอีกครั้งแต่ก็ล้มไม่เป็นท่าอีกตามเคย คราวนี้หนูหน้าเสียจนหน้าซีดป็นไก่ต้ม (มั้ง) แต่พี่ขมังเวทย์กับคุณเอกลับหัวใจชอบใจอย่างสบายอารมณ์ หนูก็งงจนพี่ขมังเวทย์พูดขึ้นมาประมาณว่า "ใครที่ไม่ได้เรียนวิชานี้มาก็จะไม่สามารถปักมีดดาบนี้ได้ ถ้าอยากได้วิชานี้ก็ให้จัดดอกไม้ธูปเทียนมาขอเรียนก็จะสอนให้" และได้เฉลยอีกต่อว่าวิชานี้เป็นวิชาการอธิษฐานเสี่ยงทาย พี่ขมังเวทย์ได้อธิษฐานเสี่ยงทายว่าถ้าพิธีบวงสรวงในครั้งนี้ศักดิ์สิทธิ์ เทพเทวดาทั้งหลายรับรู้และอนุโมทนากับการทำพิธีในครั้งนี้ก็ขอให้ช่วยกันพยุงจับไม่ให้มีดดาบล้มจนกว่าจะเสร็จพิธี ผลปรากฏว่าเทพเทวดาท่านก็ช่วยกันพยุงจับมีดดาบให้ตั้งตรงตลอดพิธีเลย นั่นแสดงว่าพิธีบวงสรวงในครั้งนี้ศักดิ์สิทธิ์และเทพเทวดาทั้งหลายก็มาร่วมอนุโมทนากันตามคำบอกกล่าวเชิญ

ยังมีเรื่องราวอีกหลายประเด็นในพิธีวันนั้นแต่วันนี้หนูมีเวลาน้อย ขอติดไว้ก่อนนะคะ ว่างเมื่อไหร่จะมาอธิบายเล่าสู่กันฟังเพิ่มเติมอีกค่ะ

 

หนึ่ง1, Noo Norway
หวัดดีพี่ ถ้าผ่านสระบุรีอีก แวะเยี่ยมเจ้าน้องบุญบ้างเด้อ พรุ่งนี้มีโปรแกรมไปไหน เผื่อจะได้แจม

 

ตอนนี้พี่หนูกำลังจะเดินทางไปกราบ "หลวงปู่ดี วัดราษฏร์ประคองธรรม นนทบุรี"

พรุ่งนี้พี่หนูมีโปรแกมจะไปหลายที่

ช่วงเช้า... วัดพระแก้ว, วัดสระเกศ, ศาลพ่อหลักเมือง
ช่วงเที่ยง... หลวงปู่บุญฤทธิ์ ร้านอาหารสวนทิพย์ นนทบุรี
ช่วงเย็น... พระอริยสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัตชอบที่โรงพยาบาลวิชัยยุธ

สนมั้ย.......................

 

หลวงปู่บุญลือไปมาหรือยัง

รอของดีอยู่........

จริงๆวันนั้นได้พาคุณหนูไปกราบหลวงพ่อทองดำ ถ้ำตะเพียนทองด้วย

ไปทำบุญสร้า้งศาลาได้เข้าไปในถ้ำด้วย

อย่าลืมที่เคยบอกไว้ ไปทาสีก่อนจะได้เฮงๆๆๆๆก่อนกลับนอร์เวย์

แรงอธิฐานอย่างเดียวไม่พอต้องทำด้วย เดี่ยวโยมหนึ่งจะเป็นเจ้าภาพเอง

เอาหมากไปสักถลาย พลูบุหรี่ เอาเต็มที่เลย............ถวายท่าน

วันเดียวเสร็จ

 

วันนั้นแวะไปที่วัดประมาณจะ 3 ทุ่มแต่ไม่เจอท่านเพราะว่าท่านติดกิจนิมนต์ยังไม่กลับวัด :'''(

เรื่องทาสีถ้ามีเวลาจะรีบดำเนินการค่ะ... น้องหนึ่งจะสะดวกวันไหนล่ะคะ... จะได้เตรียมลุย...

 

ขออนุโมนาบุญ........
กราบนมัสการ และขอเจริญพร...พระเถรานุเถระ,สหธรรมิกทุกๆท่าน และคุณโยมทั้งหลาย
ตามที่อาตมาได้ส่งข้อความ และ PM ไปบอกบุญนั้น เพราะเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์กระทู้ของข้าพเจ้าให้ได้ทราบถึงงานบุญที่ข้าพเจ้าและคณะจะทำการบูรณะปฏิสังขรณ์เสนาสนะวัดบางใหญ่ทั้งหมดทั้งวัด เช่น พระอุโบสถ,ศาลาการเปรียญ,ศาลาโรงฉัน,กุฏิใหญ่สร้างด้วยไม้เก่าทั้งหลัง(สมัย พ.ศ.2482),กุฏิอดีตเจ้าอาวาส (ปัจจุบันใช้เป็นสถานที่รับสังฆทานและพิธีกรรมทางศาสนาเล็กๆ และใช้เป็นกุฏิรับรอง,หมู่กุฏิสงฆ์,ศาลาบำเพ็ญกุศลศพ (มีเพียง 1 ศาลาเท่านั้นแต่จะทำการปรับปรุงใหม่และขยายเพิ่มเป็น 2 ศาลา),ศาลาริมน้ำ 2 หลัง(สร้างปี พ.ศ.2501)จะปรับปรุงเป็นศูนย์การเรียนรู้หรือห้องหนังสือธรรมะ 1 หลัง และอีก 1 หลัง จะปรับปรุงเป็น"พิพิธภัณฑ์ศิลปะท้องถิ่นคนในบาง"จะเน้นการเปลี่ยนหลังคาทุกหลังทั้งหมด ทาสีใหม่ทั้งหมด ติดฝ้าเพดานใหม่ทั้งหมด ซ่อมแซมส่วนที่ผุพัง และเพิ่มเติมส่วนที่สมควรเพิ่ม เพราะที่ผ่านมาข้าพเจ้าได้เรี่ยไรปัจจัยทำบุญจากญาติๆของข้าพเจ้าในการปูกระเบื้องกุฏิ 1 หลังและติดฝ้าเพดาน 1 หลังแล้ว ซึ่งทั้งนี้อย่างที่ข้าพเจ้าได้เกริ่นนำเรียนว่า ข้าพเจ้าไม่ได้เป็นคนพื้นเพตำบลลีเล็ดแห่งนี้ เพียงแต่คณะชาวบ้านได้ไปกราบนิมนต์ต่อเจ้าคณะอำเภอพุนพินเพื่อขอพระ 1 รูปมาอยู่ช่วยพัฒนาวัดกับท่านเจ้าอาวาส และเจ้าคณะอำเภอได้นำเรียนท่านเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งขณะนั้นข้าพเจ้าก็ได้จำพรรษาอยู่ ณ สำนักวัดเจ้าคณะจังหวัดสุราษฎร์ธานี และพระเดชพระคุณท่านจึงได้สอบถามกับข้าพเจ้าว่าจะมาอยู่ช่วย ณ วัดบางใหญ่ได้หรือไม่ ข้าพเจ้าจึงตอบตกลงว่า"ได้ครับ" เพราะข้าพเจ้าเล็งเห็นว่าการที่พระเดชพระคุณท่าน ได้เรียกมาไต่ถามถึงเพียงนี้แสดงว่าพระเดชพระคุณท่านไว้ใจในตัวข้าพเจ้าว่าจะสามารถมาอยู่ช่วยท่านเจ้าอาวาสวัดบางใหญ่พัฒนาวัดบางใหญ่ได้ไม่มากแต่ก็คงจะไม่น้อยจนเกินไป และพระเดชพระคุณท่านก็เล็งเห็นว่าข้าพเจ้าเรียนจบนักธรรมชั้นเอก,บาลีประโยค 1-2,และปริญญาตรี คณะพุทธศาสตร์ สาขาปรัชญา (เกียรตินิยมอันดับ 2) มจร. จึงได้รับการไว้วางใจจากพระเดชพระคุณท่าน เพราะจากที่ข้าพเจ้าได้สัมผัสด้วยตนเอง จากคณะสงฆ์และชาวบ้านบ้าง ได้ความว่าวัดแห่งนี้เคยเป็นวัดที่รุ่งเรืองสมัยอดีตท่านเจ้าอาวาส พระครูชลาทรธำรง และเคยรุ่งเรืองอีกครั้งสมัยที่พระครูวิลาศนวกิจ อดีตเจ้าคณะตำบลศรีวิชัย เป็นเจ้าอาวาส แต่เมื่ออดีตท่านเจ้าอาวาสมรณภาพลง วัดได้ว่างเจ้าอาวาส ทางคณะชาวบ้านจึงนิมนต์เจ้าอาวาสรูปปัจจุบันมาเป็นเจ้าอาวาสแทน แต่ท่านเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันท่านเน้นของรางของขลัง จึงไม่นิยมการบูรณะพัฒนาวัด ระยะหลังๆ5-6 ปีที่ผ่านมาจึงมีพระจำพรรษาเพียง 1-2 รูปเท่านั้น แต่เมื่อปี 2552 ที่อาตมาได้รับนิมนต์ให้เข้ามาจำพรรษามีพระภิกษุ-สามเณร ถึง 8 รูป และข้าพเจ้าได้ทำโครงการบรรพชาสามเณรฤดูร้อน ปี 2552 ข้าพเจ้าได้ขอแรงผู้ใจบุญสนับสนุนจากคณะพระเถรานุเถระและญาติโยมจากเว็บพลังจิต จนได้รับการช่วยเหลือบริจาคสิ่งของต่างๆเข้าโครงการบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน จนสำเร็จลุล่วงด้วยดีซึ่งขณะนั้นข้าพเจ้าไม่ขอรับเป็นปัจจัยเพราะเกรงจะเป็นการไม่สมควร และในปี พ.ศ.2553 ได้มีพระภิกษุ-สามเณร จำพรรษา 12 รูป ข้าพเจ้าจึงได้ทำการปรับปรุงทัศนียภาพและบูรณะเสนาสนะตามอัตภาพไปแล้วบางส่วน ถ้าหากโครงการบูรณะเสนาสนะสำเร็จลุล่วงด้วยดี ต่อไปที่จำเป็นจะต้องทำอย่างเร่งด่วนมากๆ คือ การซ่อมแซมเพิ่มเติมตลิ่ง เพราะวัดบางใหญ่อยู่ติดกับแม่น้ำตาปี และคลองบางใหญ่ดังนั้นน้ำจะกัดเซาะตลิ่งอย่างเนืองๆ ทั้ง 2 ฝากฝั่งซึ่งการนี้จะต้องใช้กำลังกาย กำลังทรัพย์เป็นจำนวนมาก ซึ่งจะบอกบุญในโอกาสต่อไป...และที่ข้าพเจ้าได้เกริ่นมาซะยาวยืดเพราะอยากจะเล่าและอธิบายให้พระเถรานุเถระและคณะคุณโยมทั้งหลายได้รับทราบว่าอันที่จริงวัดบางใหญ่แห่งนี้มีความลำบากมาก เพราะเสนาสนะมีอยู่ไม่กี่หลัง แต่ก็ผุพังเป็นอย่างมากแล้วตามกาลเวลาที่ใช้งานและไม่ไดรับการบูรณะมาก่อนเลย ถ้าหากไม่รีบเร่งในการบูรณะปรับปรุงเกรงว่าจะไม่ทันการณ์ ศาสนสถานคงจะผุพังไปตามกาลเวลาอันรวดเร็ว และที่ข้าพเจ้าได้ส่งข้อความ และ PM ไปนั้นข้าพเจ้าก็คิดว่าคงจะเป็นการรบกวนพระเถรานุเถระและคณะคุณโยมทั้งหลาย แต่ข้าพเจ้ามีคิดเห็นส่วนตัวว่าหากไม่ทำเช่นนี้แล้ว ทางพระเถรานุเถระและคุณโยมทั้งหลายคงจะไม่ทราบว่ามีวัดบางใหญ่แห่งนี้ที่รอการบูรณะปรับปรุง ศาสนสถานเก่าๆ ให้กลับมาใหม่เช่นเดิม เพราะวัดแห่งนี้ไม่มีศาสนสถานที่ปลูกสร้างมาใหม่เลย มีแต่ของเก่าๆผุพังทั้งนั้น และด้วยยิ่งข้าพเจ้าเป็นพระที่มีอายุน้อย (26ปี) พรรษาน้อย (พรรษา5) จึงทำให้โดนเพ็งเล็งว่าจะสามารถทำการบูรณะเสนาสนะและทำโครงการฯใหญ่ได้สำเร็จลุล่วงหรือไม่ ข้าพเจ้าจึงขอฝากประชาสัมพันธ์และบอกบุญพระเถรานุเถระและคุณโยมทั้งหลาย มาด้วยประการฉะนี้.........

ข้าพเจ้าขอฝากกระทู้..."ร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่า1,000กองกองละ500บาทเพื่อบูรณะเสนาสนะ วัดบางใหญ่ จ.สุราษฎร์ธานี"

ตาม link : http://palungjit.org/threads/ร�...��.268183/

ขอขอบพระคุณ และขอเจริญพร พร้อมกับอนุโมทนาทุกๆท่าน
พระปลัดวิษณุ ฐานธมฺโม
เลขานุการ เจ้าอาวาสวัดบางใหญ่
ผู้ดำเนินงานโครงการฯ<!-- google_ad_section_end -->

 

สาธุ... ขอน้อมนมัสการและอนุโมทนาบุญกับท่านพระคุณเจ้าด้วยค่ะ...

 

วันที่ 4 5 ธันวา ว่างพี่เชิญได้เลย ขอเป็นเจ้าภาพเลี้ยงข้าวสักมื้อ

 

อยากรู้จักพี่ขมังเวทย์จังครับ...

 

คิดว่าวันนั้นน่าจะว่าง... เสียดายครั้งที่แล้วที่ไม่ได้เจอกัน...

 

ค่ะ พี่หนู เดี๋ยวหนูจะหาทางตามไปค่ะ

 

ไม่ใช่เรื่องยากค่ะพี่อั๋น... แค่ส่งกระแสจิตไปหาและบอกว่าอยากรู้จักก็หมดเรื่อง... ที่เหลือเด๋วพี่หนานเค้าจัดการเองแหละค่ะ อิอิอิ

ปล.พี่ขมังเวทย์ตัวจริงน่ารักกว่าที่คิดไว้เยอะเลย... เก่งจริงแต่ไม่โอ้อวด ไม่หวงวิชา เป็นกันเองไม่ถือตัว สนุกสนานร่าเริงและกินง่ายนอนง่าย คนอะไรก็ไม่รู้ดีไปหมด

 

พี่หนานท่านอยู่กรุงเทพหรือปล่าวครับ ขอเบอร์ติดต่อหน่อยได้ไหม...

 

ป่าวค่ะ... แต่อยู่ไม่ไกลเท่าไหร่หรอก... หนูได้แจ้งให้พี่ขมังเวทย์ทราบแล้วว่าพี่อั๋นอยากรู้จัก... เด๋วพี่ขมังเวทย์จะติดต่อไปเองนะคะ... อาจจะส่งกระแสจิตไปทักทายพี่อั๋นในเร็วๆนี้ค่ะ... เตรียมตัวให้ดีนะ หุหุหุ

 

ถ้าอย่างนั้นไปวันนั้นเลย หาแบบก่อสร้างศาลามาด้วยนะ

วันดีทำบุญวันพ่อ....

ไปทาสี เช้าไปเย็นกลับ ...จะได้เตรียมหมากพลู บุหรี่ ไปถวายท่าน

ว่าจะถอดจีวรท่านไปซักด้วย ให้ไปกันจริงๆนะ จะได้เตียมไปทำงานอื่นด้วย

 

ผมอยู่สำนักเร่ร่อนวนารามครับ ถ้ามีอะไรให้รับใช้ ขอให้เครื่องเซ่นถึง จุดธูป

เรียกดอกเดียวก็มาแว้ววว

หุหุล้อเล่นครับ ยินดีที่รู้จักครับ ใด้มาทำบุญร่วมกัน ใว้เจอกันในงานบุญนะครับ

 

จะพยายามทำตัวให้ว่างค่ะ...

 

หนูเชื่อค่ะว่าพี่หนานอยู่สำนักเร่ร่อนวนารามจริงๆ... วันที่ไปทำพิธีบวงสรวงก็เร่ร่อนกันตั้งแต่เช้าจนถึงเกือบเที่ยงคืน... เร่ร่อนตั้งแต่กรุงเทพ ปทุมธานี ลพบุรี สระบุรี จนถึงอ่างทอง... เรียกว่าที่ไหนมีวิชาดีพี่หนานจะไปหมด

 

ขอแจ้งให้ทราบค่ะ

พรุ่งนี้หนูจะเดินทางไปอ่างทองตั้งแต่เช้าและกว่าจะกลับก็คงจะดึก... การเดินทางในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อจะนำวัตถุมงคลที่จะมอบให้แด่ผู้ร่วมบุญในกระทู้นี้ไปขอความสงเคราะห์เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกให้ พระอริยสงฆ์ที่ได้กำหนดรายชื่อไว้นั้นมีทั้งหมด 5 องค์คือ

หลวงปู่บุญลือ วัดคำหยาด
หลวงปู่สม วัดโพธิ์ทอง
หลวงปู่ผาด วัดไร่
หลวงปู่ทองหยิบ วัดบ้านกลาง
หลวงพ่อเสียน วัดมะนาวหวาน

พรุ่งนี้ทั้งวันหนูอาจจะไม่ได้เข้ามา update กระทู้... หากท่านใดต้องการติดต่อหนูแบบด่วนก็สามารถโทรหาหนูได้ตามเบอร์นี้นะคะ 083-5898595<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->