ปิดรับบริจาค สำเร็จแล้ว... เชิญชมภาพศาลาหนุมาน วัดซับลำใยสามัคคีธรรม ลพบุรี (น.74)

ถ้ามีโอกาสคงได้ไปเจอท่านค่ะ...

 

รับทราบค่ะน้องโอ๋... ตั้งแต่มาถึงเมืองไทยพี่หนูได้พัก 2 วันแรกเท่านั้น... จากนะนมาก็เดินสายออกต่างจังหวัดยังไม่ได้หยุดเลยค่ะ... เหนื่อยแต่อิ่มบุญมากค่ะ

ขออนุโมทนาสาธุบุญกับน้องโอ๋ด้วยเช่นกันนะคะ

ปล.เด๋วจะสอบถามพี่ขมังเวทย์ให้นะคะ

 

สาธุ... สาธุ... สาธุ... แค่นี้ก็สุดคุ้มแล้ว...

 

ขอขอบคุณที่แวะเข้ามาร่วมอนุโมทนาและติดตามข่าวสารและขออภัยในความล่าช้ากับความคืบหน้าด้วยนะคะ... อย่างที่แจ้งในเม้นก่อนอ่ะค่ะว่าตั้งแต่มาถึงเมืองไทยยังไม่ว่างเลยค่ะ... ตอนแรกตั้งใจว่าจะทำพิธีบวงสรวงในวันนี้ (วันอังคารเป็นวันเกิดของท่านหนุมาน) เลข 16 เป็นเลขสวย (โสฬส) แต่มันฉุกละหุกเกินไปไม่สะดวกในหลายๆเรื่องเลยต้องเลื่อนออกไปอีกหน่อย... แต่อีกไม่นานเกินรอแน่นแนค่ะ...

 

ยังงัยพี่หนูก็จะทำต่อไป... ทำน้อมถวายเพื่อบูชาคุณครูบาอาจารย์ที่เรานับถือ... หลวงปู่เทพโลกอุดร... หลวงปู่ปาน... หลวงปู่กวย... หลวงปู่หมุน... หลวงปู่ฤาษีลิงดำ ฯลฯ

 

ต้องขอโทษด้วย... มีการเลื่อนกำหนดนิดหน่อยจ้า... แต่ยังงัยน้องหนึ่งต้องได้เป็นเจ้ามือเลี้ยงข้าวพี่หนูแน่

 

อเสวนา จ พาลานัง บัณฑิตานัญจ เสวนา ปูชา จ ปูชนียานัง เอตัมมังคลมุตตมัง

คนพาล แม้พูดดีๆ ก็โกรธ (จากวิธีสังเกตคนพาล ในมงคลสูตร)

เอ๊ะ ! เราควรสนับสนุนให้ชาวพุทธรู้จักวัตถุมงคลของพระพุทธเจ้า(มงคล38) หรือวัีตถุมงคลของเดียรถีร์ดีน๊อ???

ไม่ว่าเขาจะตักเตือนแนะนำทางที่ถูกที่ควรอย่างไรก็โกรธ แม้จะยกหลักฐานชี้ขาดทางธรรมวินัยมาให้พิจารณาอย่างไร ก็ไม่นำพา

เฮ่อ!

(บัวน่ะ มีแค่สามเหล่าในคัมภีร์ชั้นต้น แต่มามีสี่เหล่าในชั้นอรรถกถานะ อันนี้เป็นเกร็ดย่อยๆ เปล่ากระแนะกระแหนนา)

ส่วนเรื่องงานบุญนั้น เหล่าฮูได้ชี้ไปแล้ว และโมทนาสาธุด้วย แต่ก็พยายามให้ต้องตามธรรมวินัย ตรงไหนที่เห็นว่าคลาดเคลื่อน ก็จะช่วยชี้หลักฐานให้พิจารณา เพื่อเกื้อกูลจรรโลงศาสนาในทางที่เหมาะที่ควร เพราะเราเป็นพุทธมามกะ ไม่ใช่พรามณ์

เหมือนเราฉลองเทศกาลคริสต์มาสกันเอิกเกริก เขาล้างบาป เราก็จะล้างบาปแบบเขางั้นรึ

เขาบูชายัญ เราจะบูชายัญแบบเขารึ

เขาว่าพระพุทธเจ้ามาหลอกชาวพุทธเพื่อชวนให้พวกไม่บูชายัญตกนรกเสียให้หมด เราจะว่าตามเขาไม๊

ถ้าไม่ เราก็ไม่ควรรับสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้ เพราะถ้าเรารับ เราก็จะถูกกลืน เหมือนชาวคริสต์ทุกวันนี้ พยายามใช้คำในพุทธ เพื่อกลืนศาสนา(มีคำแบบนี้เยอะแยะ ลองค้นดู ) ยกเอาวาติกันเคาน์ซิลมาให้ศึกษา ไม่ทราบสนใจกันพิจารณาหรือไม่ เขามีพระสงฆ์ มีอัครมหาสังฆปรินายก ซึ่งของเราหมายถึงสมเด็จพระสังฆราช แต่ของเขาเทียบแค่เจ้าคณะอำเภอกระมัง มีสังฆราชเฉพาะที่ไทยบานตะเกียง เดินกันขวักไขว่ไม่มีราคา ไม่พิจารณาก็จะว่าใส่ร้าย ให้ดูหลักฐานก็ไม่เอา

เรื่องหลังคารั่ว เมรุสร้างไม่เสร็จนั้น ก็เป็นไปตามเหตุ-ปัจจัย หากจะสนับสนุนวัดที่พระแย่งบาตรหรือชกต่อยกันเพื่อโภคะ ก็ตามแต่

เหมือนพระที่ขาดโภคะ ลาภสักการ แล้วไม่สอนให้ถูกให้ตรง กลับเอาเรื่องนอกลัทธินอกศาสนามาล่อลวงแล้ว จูงใจให้พุทธบริษัทเลื่อมใสในสิ่งงมงาย หรือหวังพึ่งการดลบันดาลจากปัจจัยภายนอก
ตกลง ศาสนาพุทธเราสอนอะไร ไม่ได้สอนอะไร ?????

ไม่รู้

ด้วยเพราะการปลอมปน เกลื่อนกลืน โดยชาวพุทธนำเข้ามาเอง โดยพุทธบริษัทที่ไม่เท่าทัน โดยผู้ปลอมบวชที่หวังลาภสักการะเป็นผู้นำมายัดใส่หัวชาวพุทธ

หากเป็นเช่นนั้นแล้ว นับว่าเราออกนอกธรรมวินัยไปไกล กู่ไม่กลับ

ศาสนาพุทธเราไม่อะลุ้มอล่วยให้ความรู้ผิด เข้าใจผิดนา
เพราะเรามุ่งไตรสิกขา คือ ศีล สมาธิ ปัญญา
ให้ถึงปัญญาในที่สุด

แล้วไม่รู้สึกละอายใจกันหรือครับว่า เราเอาไฟมาเผาบ้านเราซะเอง หาใช่พวกฮินดูหรือคนนอกศาสนา
เรื่องนี้กราบขออภัยนะครับที่พูดตรงๆ

พระที่สอนต้องตามพระธรรมวินัย กับ
พระที่เอาวัตถุมงคลมาเป็นรางวัลล่อใจให้ทำบุญ
เราจะเลือกสนับสนุนทำบุญกับใคร

ถ้าสนับสนุนข้อหลัง มันก็จะปลูกฝังและเพาะพันธุ์ชาวพุทธให้ลุ่มหลงมัวเมา ศรัทธาตาบอดกันต่อไป จากรุ่นสู่รุ่น
(มันจะเป็นปัจจัยสืบทอดชั่วลูกหลานนา บ้านไหนพ่อแม่ชอบกินเหล้า สังเกตเส่ ลูกหลานก็กินเหล้านา)

เมื่อวัดขาดปัจจัยเหล่านี้เพื่อให้สืบทอดศาสนสถานยืนยาว ก็สมควรที่จะยิ่งสอนให้ถูกให้ตรง ไม่ใช่หารายได้จากที่เขานิยม บางวัดพอได้ตังค์ที่เขามาทำบุญนะ เอาไปสร้างวิหารราย เอารูปพระพุทธเจ้ามาตั้งเยอะแยะเลย สร้างวิมานให้ดู สร้างสิ่งฟุ่มเฟือไร้แก่นสาร นัียว่าเพื่อให้เป็นตัวอย่างว่า จะได้อยู่วิมานเฝสนั้นเฝสนี้ มีโภคภัณสมบูรณ์พร้อม
สตางค์ยิ่งหายากอยู่ กลับเอาเงินบริจาคไปสร้างถาวรวัตุเป็นเครื่องล่อให้ทำบุญ แต่ยิ่งล่อมันก็ยิ่งหลงผิดนา พระพุทธเจ้าท่านไม่สอนแบบนั้นนา ท่านสอนให้ทำบุญทำกุศล

ถ้า ธรรม (การปฏิบัติ) เหล่าใด
๑. เป็นไปเพื่อความกำหนัดย้อมใจ
๒. เป็นไปเพื่อความประกอบทุกข์ (คือทำให้ลำบาก)
๓. เป็นไปเพื่อสะสมกองกิเลส
๔. เป็นไปเพื่อความอยากใหญ่ (คือไม่เป็นการมักน้อย)
๕. เป็นไปเพื่อความไม่สันโดษ
๖. เป็นไปเพื่อความคลุกคลี
๗. เป็นไปเพื่อความเกียจคร้าน
๘. เป็นไปเพื่อความเลี้ยงยาก

เหมืนครั้งที่จตุคามรามเทพกำลังเฟื่อง ก็เกิดลัทธิเอาอย่าง ใครๆก็มี ใครๆก็สร้าง โดยเฉพาะหลวงหนุ่ยอลัชชี ไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเลย พูดธรรมมะผิดๆถูกๆ แล้วก็ไปเชื้อเชิญให้เขามาประกอบพิธีกรรม ทั้งที่มันไม่รู้เรื่องในปริยัติสักนิด ปฎิบัติรึเปล่าก็ไม่รู้ แต่มายืนเอามีดชี้ขึ้นฟ้า ถามว่าทำอะไร เค้าก็คงไม่รู้ ตอบไม่ได้ แต่ขลัง ขายได้ สหายที่ชอบเครื่องลางก็คงรู้อยู่แกใจ แล้วเราเอารายได้เหล่านี้ไปบูรณศาสนวัตถุ เพื่อความลุ่มหลงงมงายกันต่อไปหรือ บางวัดถึงกับสร้างคเนศวร์ สร้างศิวลึงค์ เต็มไปหมด

อ้อ เดิมทีนะ ศาสนาพราหมณ์เขามีแค่พระอินทร์นะ รู้เป่า ก่อนพทธกาล มันถูกนำเข้ามาชมพูทวีปโดยพวกอารยันน่ะ เผ่าพันธู์นี้ไม่แน่ใจว่าใช่พวกฮิตเล่อร์รึเป่า เค้าว่าแบบนั้น แต่รู้ว่าไปทางตะวันตกของชมพูทวีปน่ะ ผิวเค้าขาวกว่าชาวชมพูทวีป

พระพุทธเจ้าของเรา นัยว่ามีเชื้อสายอารยัน มีผิวดั่งทองทา น่าจะเพราะมีเชื้อสายอารยันนี่เองน่ะ ตอนนุ๊น ศาสนาพราหมณ์มีแต่พระอินทร์ใหญ่สุด มามีพระพรหมณ์ตอนก่อนพุทธกาล

แต่หลังจากพุทธกาลมาประมาณพ.ศ.500กว่าๆ ก็เป็นช่วงที่พราหมณ์กลับมายิ่งใหญ่ น่าจะโดยราชวงศ์โมกุลนี่แหละ(พูดจากความจำนา ไม่สามารถเอาไปอ้างอิง แต่หาหลักฐานได้ไม่ยากร๊อก) ที

นี้ คริสต์เกิดขึ้นเขาก็มีพระเยซู(พ.ศ.543) ท่านมาเตร็ดเตร่แถวชมพูทวีป หลายปีนะ ก่อนจะกลับไปเผยแผ่ศาสนาของเขา นัยว่ามาบวชเรียนในศาสนาพุทธด้วย พราหมณ์เองคงเห็นไม่ได้ที เกิดสร้างพระอิศวร พระนารายณ์ขึ้นมา สร้างเทพฮินดูออกมาอีกบานตะเกียง นัยว่าให้เลือกนับถือได้ พระเจ้าก็แข่งกันออกมาให้เลือกบูชา เลือกขอ สวดขอกันใหญ่ ให้ท่านเมตตา

ใครใคร่จะบูชาเซ่นสรวงเทพองค์ใด ก็เลือกตามอัธยาศัย มีอ๊อปชั่นให้เลือกได้ ใครกระหายเลือด ชอบปล้น หรือตั้งบ่อนซ่อง ความมัวเมา นี่เลย กาลี บูชากาลี ถ้าหนักๆเข้า เขาจะเอาผู้หญิงพรหมณ์จรรย์มาบูชายัญ เชือดกันเห็นๆ

อ้อ ทุกวันนี้ เด็กสาวที่ถูกนำไปบูชายัญ ยังมีอยู่นะ จะบอกให้ สมัยก่อนเขาเอาแพะ500 แกะ500 ม้า500 และแต่ละอย่าง ต้องยิ่งอลังการ หากพระเจ้าไม่ประทานสิ่งที่ตนขอ ไม่สำเร็จ ซาแดงว่าพระเจ้าของเขายังไม่ถึงใจ เขาจะจับเด็กสาวพรหมณ์จรรย์ไปเซ่นสรวง จนกว่าพระเป็นเจ้าจะถูกใจ หนักๆเข้าก็สมสู่กันต่อหน้ากาลี

ช่างสรรหามาเอาใจทุกอย่างทีเดียว ไม่ให้ก็โกรธ เดี๋ยวหนีไปพึ่งเทพองค์อื่นละ ยุ่ง

อ้อ สมัยนั้นเอง เกิดลัทธิสวด-อ้อนวอนขึ้นดาษดื่น ขอกันใหญ่ละทีนี้
ของเราก็ไม่ให้น้อยหน้า ก็เกิดลัทธิมหายานขึ้นในเวลาเดียวกัน(สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช มีนิกายหินยาน12นิกาย มีมหายานหรือมหาสังฆิกะ6นิกายแล้ว) เกิดปิฎกอื่นๆขึ้นมา เกิดเทพยาดา พระโพธิสัตว์ เกิดพระพุทธเจ้าขึ้นหลายพระองค์ เง็กเซียนฮ่องเต้ เกิดเห้งเจีย-ตือโป๊ยก่าย อันหลังนี่ไม่เกี่ยวแท้ๆเล๊ย ปนๆกันเข้าไปทั้งๆที่เป็นนิยาย ตอนนี้ที่แถวหัวลำโพงยังมีศาลเห้งเจียอยู่เลย อีกหน่อยจะมีบุสก้า เทพโดเรมอน และเทพเคโระ ขืนมัวทำตามๆกันไป


ทั้งหมดนี้ เป็นเทรนด์ที่ยุคนั้น( การเซ่นสรวง สวด-อ้อนวอน บูชายัญ )กลับมานิยม หลังจากที่ชาวพุทธเลิกเชื่อเรื่องเหตุ-ปัจจัยภายนอก หันไปพึ่งตนเอง พอเสนาบดีพราหมณ์ล้มราชวงศ์ของพระเจ้าอโศกมหาราชได้ ทีนี้เลยฟื้นเรื่องบูชายัญกันยกใหญ่ ล้างผลาญชาวพุทธเสียสิ้น(เห็นแมะ พระเจ้าอโศกทรงชุบเลี้ยงไม่กีดกันพวกพราหมณ์ แต่พอมันล้มราชวงศ์ได้ มันจับพุทธฆ่าเหี้ยนนะ ไม่เหลือหลอ) ยกเรื่องวรรณขึ้นมาปัดฝุ่น กดให้คนโง่ลง พวกจันฑาลทั้งหลายกลับไปถูกกดหัว ใครสาธยายพระเวทย์ให้เอาตะกั่วเหลวกรอกปาก ใครฟังพระเวทย์ให้เอาตะกั่วเหลวหยอดหูมัน (พวกจันฑาลนี่ ถ้าเป็นพุทธก็จะไม่มีวรรณะ ไม่บ้าจี้ไปกะเค้า แต่ดันทะลึ่งไปให้เค้ากดหัว กู้ไม่ขึ้นจริงๆพวกมิจฉาทิฎฐิ)

แล้วพุทธมหายานของเรา ก็มีอ๊อปชั่นให้เลือกสวดอ้อนวอน เหมือนกับเดียรถีร์นอกศาสนา ก็ด้วยประการฉนี้

เล่าเป็นข้อมูลเบื้องต้นให้ทราบพอสังเขป แล้วแต่พิจารณาเถิด เหล่าฮูเองติดจะขี้เล่น พูดจาก็ชอบปนสนุกอยู่เสมอ ย่อมไม่ใช่ผู้ทรงคุณวุฒิอะไร ขอเพียงมีสักคนที่เฉลียวใจ อ่านแล้วสืบค้นว่า ไอ้บ้านี่มันพูดจริงรึป่าวฟระ แค่นั้น เขาก็อาจสืบค้นจนแจ้งประจักษ์ใจ ก็จะเป็นชนวนให้เกิดแสงสว่างทางปัญญาสืบๆไป แล้วก็ช่วยกัยออกไปแก้ความเข้าใจคลาดเคลื่อนนี้ได้ เป็นประโยช์ไม่รู้จบ ย่่อมเป็นบุญของเหล่าฮูอยู่อักโข เท่านี้ก็พอ

ส่วนสหายที่ต่อว่าต่อขานเหล่าฮู หาว่าเป็นบัวใต้น้ำ หรือมือไม่พายเอาเทาราน้ำ เหล่าฮูไม่ถือครับ ขอบใจที่มาช่วยต่อให้เหล่าฮูมีช่องพูด ไม่เหมือนคุณหนูหรือสหายJumbo A เค้าไม่ยอมพูดดื้อๆ เกรงจะเสียเรื่องเสียน้ำใจ เหล่าฮูต่อไม่ได้เลย ขอบคุณแท้ๆ ที่ทำให้สามารถมาโม้ต่อได้

 

ส่วนเรื่องงานบุญนั้น ถึงแม้เหล่าฮูดูเหมือนจะมาก่อกวน แต่ก็หาเป็นเช่นนั้นไม่ เพียงคันปากยิบๆ อยากขยายความเท่านั้น แต่ขอเป็นกำลังใจ สนับสนุนให้สร้างเสนาสนะอัฏฐะบริขาร ให้กลับมาใช้การได้ดีเหมือนเดิม
ครั้งต่อๆไปภายภาคหน้า คงจะได้ประชุมตกลงกันให้ดีน่ะ ว่าเราจะเลือกสนับสนุนวัดแบบไหน พระแบบไหน เหล่าฮูเองก็กลัวบาปนา พูดสอดตอนเขากำลังเรี่ยไรเพื่อช่วยกันนี่ ทำแล้วไม่ค่อยสบายใจนักหรอก แต่ที่ไม่สบายใจยิ่งกว่าก็เรื่องท่าทีของชาวพุทธนี่แหละ

เอาแค่นี้ละมัง

อยากชี้ชวนให้ช่วยกันทำนุบำรุงให้ถูกทาง เบื่้องต้นมีอะไรเป็นเครื่องน้อมใจให้ระลึกกถึงงานบุญ บุญกุศลที่เราได้ทำเอาไว้ ก็ย่อมได้ประโยชน์
แม้ก่อนตาย เพียงเห็นวัตถุมงคลที่เคยเช่าบูชาไว้ ก็จะระลึกถึงคุณงามความดีที่ตนเองเคยประกอบไว้ ก็ย่อมนำสติให้ระลึกรู้และยังปีติให้เกิดขึ้นได้ ก็จะได้ไปเกิดในสุคติภูมิได้เช่นกัน
ขออนุโมทนา สาธุครับ

 

วันนี้ผมได้เดินทางไปขอบารมีหลวงพ่อท่านหนึ่งที่ท่านเพิ่งกลับมาจากเขมร พักได้อีกไม่กี่

วันท่านก็จะต้องเดินทางต่อไปที่ประเทศพม่า และลาว หลวงพระบาง

ท่านจะไปดูการสร้างกุฎิที่สร้างไว้หรืออะไรสักอย่างผมจำรายละเอียดไม่ได้มาก

นักไปขอบารมีท่านอธิฐานจิตให้ บอกเพื่อจุดประสงค์เพราะวัดซับลำใยนี้ท่านเคยได้ไป

ปลุกเสกวัตถุมงคลไว้เมื่อสมัยก่อน ท่านเป็นลูกศิษย์หลวงปู่สรวงบ้านละลมด้วย

มีหลายอย่างที่สนทนากับท่านจนค่ำมืดเพิ่งกลับถึงบ้าน...บอกแล้วว่าผมจะทำให้คุ้มกับ

ปัจจัยทุกบาทที่ท่านร่วมมาครั้งนี้

ท่านให้ผมจุดธูปเทียนบูชาพระ และอัญเชิญครูบาอาจารย์มอบให้ท่าน

ผมนั่งดูท่านอธิฐานจิตให้พร้อมถ่ายภาพมา1ภาพ การปลุกเสกท่านก็แปลกดี ท่านกล่าว

อัญเชิญครูบาอาจารย์และว่าพระคาถาเสียงดังฟังชัดแต่ผมฟังไม่ออกบางช่วง

แล้วท่านก็ทำตามกรรมวิธีของท่านแปลกมากๆผมไม่เคยเห็น ท่านว่าลงให้แบบสี่ทิศ คุ้มภัย

ได้สี่ทิศใหญ๋และทิศย่อยอื่นๆ.....ท่านพูดกับผมเหมือนหลวงพ่อเพี้ยน ว่าใช้ได้แล้ว

ลงให้ทุกอย่าทุกทางประมาณนี้ครับถ้อยคำผมอาจผิดพลาดแต่พยายามไม่ให้เกินเลย

ไปจากคำท่านครับ หลังปลุกเสกเสร้จก่อนกลับบ้านเมื่อหัวค่ำนี้ ท่านประพรหมน้ำมนต์และ

อวยใช้ให้พรในวัตถุมงคลนี้ด้วยครับ ท่านบอกว่าถ้ามีเวลามากกว่านี้ก้จะทำได้อีกเต็มที่

แต่นี้ท่านต้องเดินทาง ท่านว่าให้ไปเจอกันที่วัดวัดหนึ่งหรือให้ท่านกลับมาจากต่างประเทศ

ก่อนทิ้งไว้ที่ท่านจะทำให้อีกครั้ง คงต้องดูเวลาต่อไปถ้ามีเวลามากพอก็อาจนำมาขอบารมี

ท่านอีกครั้งครับขออนุญาติไม่เอ่ยนามท่านนะครับเพราะกลัวจะมีการเข้าไปรบกวนท่านมาก

เนื่องด้วยสังขารท่านไม่ค่อยสะดวกแข็งแรงมากนักแต่คงอีกไม่นานก็คงจะไดรู้จักท่านและ

เข้าไปกราบท่านกันอย่างทั่วถึงครับ

 

ยินดีและรับทราบครับ

แต่ไม่ทราบว่าคุณเห็นว่าเป็นการก่อกวนด้วยหรือไม่?

สำหรับผมก็เป็นการกล่าวแก้ปรัปวาท หรือคอยกล่าวคำขนาบเท่านั้น


ผมเพียงชี้ในส่วนที่เห็นว่ายังคลาดเคลื่อนเท่านั้น พร้อมยกหลักฐานอ้างอิงมาให้ ไม่ได้กล่าวหาลอยๆ

ท่านเป็นชาวพุทธ การสร้างวัตถุมงคลนอกศาสนาเพื่อเรี่ยไรเงินแสวงหาปัจจัยนั้น ก็เห็นว่าควรที่จะได้ช่วยกันติติงไม่ใช่หรือครับ


การที่ผมชี้ให้เห็นหลักพุทธรรมตรงๆ หากเห็นว่าไม่ถูกก็ไม่เป็นไรครับ แต่ก็อย่าลืมนะครับว่า เมื่อยอมให้เผยแพร่มิจฉาทิฎฐิและปกปิดผู้กล่าวคำขนาบ ก็ขอให้ไตร่ตรองถึงกรรมที่เราได้ทำไว้นะครับ

รู้ผิดเข้าใจผิด1คน ก็ชดใช้1เรื่อง
รู้ผิดเข้าใจผิดแสนคน ก็ชดใช้ไปแสนครั้ง

ผมไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับเจ้าของกระทู้ เขาจะเชื่ออย่างไรไม่ใช่ธุระของผม แต่คิดว่าผมในฐานะพุทธมามกะ ก็ช่วยกันชี้ให้เห็นปรัปวาท และกล่าวแก้ให้ตามสมควร ดังในมหาปรินิพานสูตรว่า

“มารผู้มีบาป เราจะยังไม่ปรินิพพานตราบเท่าที่ภิกษุทั้งหลายผู้สาวกของเรายัง

1.ไม่เฉียบแหลม ไม่ได้รับการแนะนำ ไม่แกล้วกล้า ไม่เป็นพหูสูต ไม่ทรงธรรม ไม่ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ไม่ปฏิบัติชอบ ไม่ปฏิบัติ ตามธรรม

2. เรียนกับอาจารย์ของตนแล้ว แต่ก็ยังบอก แสดง บัญญัติ กำหนด เปิดเผย จำแนก ทำให้ง่ายไม่ได้

3.ยังแสดงธรรมมีปาฏิหาริย์ปราบปรัปวาท (วาทะ หรือลัทธิต่าง ๆ ของเจ้าลัทธิอื่นนอกพระพุทธศาสนา) ที่เกิดขึ้นให้เรียบร้อยโดยชอบธรรมไม่ได้”

จึงว่า หากเห็นว่าปฏิบัติแล้วไม่ถูกต้อง ก็ไม่เป็นไรครับ แต่หากปฏิบัติสมกับเป็นพุทธมามกะที่ดีแล้ว ก็ขอให้รับทราบถึงสิ่งที่ได้กล่าวเตือนด้วยนะครับ

ที่จริงผมว่าจะหยุดแล้ว แต่เมื่อมาเสนอเช่นนี้ จำเป็นที่จะต้องชี้แจงสักเล็กน้อยนะครับ ใครใคร่จะทำบุญอย่างไร ไม่ใช่เรื่องที่ผมใส่ใจ แต่ก็ช่วยติติงตามสมควรเท่านั้น เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าคุณมานขอให้ผมพิจารณษ แล้วแปลว่าสิ่งที่เตือนไปนั้นไม่ถูกต้องตามธรรมวินัย
มิฉะนั้นก็ช่วยแสดงให้ผมเห็นว่าผมกล่าวไม่ถูกต้องด้วยนะครับ จะขอบพระคุณอย่างสูง

ส่วนที่คุณยกมาอ้างอิง ในข้อความก็บอกแล้วว่า

"เอาแค่นี้ละมัง"

ก็ตามนั้นนะครับ

 

มาเมืองไทยยังไม่เห็นโทรหาเลย..โทรมาให้รู้เบอร์หน่อย เพื่อมีอะไรช่วยเหลือได้ จะได้ช่วย สำหรับงานบุญเต็มที่อยู่แล้ว ไม่มีอั้นครับ

 

มันน่าเขกหัวน้องชายคนนี้จัง... ไม่ได้สังเกตุที่ลายเซ็นต์ของพี่หนูเลยเหรอ... ได้แจกเบอร์ไว้ตั้งแต่มาถึงเมืองไทยแล้วจ้า "ติดต่อเรื่องงานบุญได้ตลอดเวลา 083-5898595"<!-- google_ad_section_end -->

 

ขอแจ้งให้น้องโอ๋ทราบค่ะ... พรุ่งนี้ถ้าพี่ขมังเวทย์ว่างพี่เค้าจะนำรูปมาให้ชมนะคะ

 

สาธุ... สาธุ... สาธุ... อีกไม่นานหนูคงได้พบเจอท่านค่ะ

 

พระศาสนาอุปมาดั่งตั้นไม้ให่ญ ย่อมต้องประกอบด้วย เปลือก กระพี้ แล แก่น อันปัณ

ญาของเวไนยะนั้นก็มิใด้เท่ากัน การเข้าถึงก็อยู่ที่การน้อมปฎิบัติใด้ปฎิบัติถึงของแต่ละ

บุคคลตามสติปัญญา ควรเคารพในธรรมของแต่ละผู้คน

ประเด็นหนุมาน จะเป็นพุทธหรือฮินดู ก็อยู่ที่ข้อมูลหรือผลการเข้าถึงเช่นกัน หากเชื่อตามรา

มายณะเป็นเรื่องแต่งขึ้นมาแน่นอนครับ ในกระทู้นี้บอกใว้แล้วว่าเป็นศาตรศิลป์แขนงหนึ่ง

ของสยามโบราณ มิใด้ยึดหลักการสร้างแบบของต่างศาสนาแต่ประการใด ชี้แจงใด้ว่าสมัย

ก่อนในสุวรรณภูมิก็มีศาสนาประจำถิ่นอยู่ก่อนแล้วมีการนับถือผีสางเทวดาอยู่ก่อนแล้วมี

ต่างศาสนาอยู่ก่อนแล้ว เลขยันต์ก็มีอยู่ก่อนแล้วจนกระทั่งพระศาสนาเข้ามาบรรพบุรุษก็ใด้

ย่อมรับนับถือน้อมนำมาปฏิบัติ แลนำมาประยุกใช้ให้เข้ากับชีวิตประจำวัน ด้วยความชาญ

ฉลาดของครูบาอาจารย์เจ้าสมัยก่อนที่นำความเชื่อของคนสมัยก่อนมาต่อยอดครับ เช่นใน

เนื้อมนต์เอาผีสางเทวดามาช่วยยังมีอิทธิคุณเพียงนี้ พระพุทธเจ้าประเสริฐกว่าย่อมดีกว่ามา

ถึงบัจจุบันนี้ตัดผีสางออกหมดแล้วครับนำพุทธคุณสอดแทรกใว้หมด หนุมานก็เช่นกัน นำ

อักขระเนื้อมนต์เป็อักขรย่อของพระพุทธศาสนามาบรรจุใว้ มิใด้สอนให้ภาวนาว่าหนุมาน

สรณังคัจฉามิแต่ประการใด หากสติดีย่อมพิจรณาใด้ตามนี้ครับ หากใผ่รู้ใผ่ศึกษาให้มากก็

จะรู้ใด้ตามข้อเท็จจริง

การสร้างของที่รฤกที่เป็นรูบสัตว์ โบราณจะมุ่งเน้น หรือบอกเล่าเรื่องราวของการเสวยชาติ

เมื่อครั้งเป็นพระโพธิสัตว์เจ้าถ้าเข้าใจตามนี้ ก็จักมีสติไม่ประมาทในภพชาติ หากไม่รู้จุดมุ่ง

หมายทึกทักว่าเป็น เดรฉาณวิชา บัณฑิตทั้งหลายจะตำหนิสติปัณญาเป็นดั่งเดรฉาณนั้น

ด้วยเหตุว่าธรรมวินัยสอนให้น้อมเข้ามาใส่ตัว พิจรณาแก้ไขตัวเองใด้เท่านั้น มิควรเทียว

แสดงภูมิน้อยนิดให้เกิดภพเกิดชาติ

 

ตะกรุดชุดแรก 50 ดอกถ้าท่านใดจิตตกต้องการสละสิทธิ์บูชา ก็ไม่ต้องเกรงใจกันครับ

ถ้าเห็นว่าการบุญนี้ไม่สมควรหรือเหตุผลประการใดก็ตาม

กรุณาแจ้งบอกผมจะให้ทางผู้ดูแลเรื่องปัจจัยส่งปัจจัยคืนท่านครับ แล้วถ้ามีการสละสิทธิ์ก็

ผมจะขอรับไว้บูชาเอง เพาะอย่างน้อยก็ระลึกถึงการครั้งนี้และความเมตตาของครูบา

อาจารย์ผมที่ท่านทำให้

ผมจะนำตะกรุดไปให้ครูบาอาจารย์ผมอีกท่านหนึ่งอธิฐานจิตให้ครับ แต่ช่วงนี้คงต้องพักสัก

ครู่ ปัจจัยเดินทางหมด .............

เมื่อพร้อมจะออกเดินทางต่อ วันเสาร์นี้ เป็นวันที่เหมาะสมที่สุด

ผมจะทำให้ดีที่สุดเท่าที่กำลังพอทำได้ เอาเป็นว่าตะกรุดนี้ คุ้มครองผู้บูชาได้แน่นอน

เพราะผมก็ตั้งใจว่าจะนำมาคู่กายเมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้ว

 

คุณ ่่่ Jumbo A ผมขอลงชื่อเป็นคนแรกครับ..............................................................................ที่ขอรับบูชาต่อจากคนจิตตกต้องการสละสิทธิ์บูชาตะกรุดครับ

 

ถูกต้องแล้ว... ชอบแล้ว... สาธุ...