ปิดรับบริจาค สำเร็จแล้ว... เชิญชมภาพศาลาหนุมาน วัดซับลำใยสามัคคีธรรม ลพบุรี (น.74)

ยินดีค่ะน้องเบสท์... มีโอกาสก็ทำไปเรื่อยๆ... บุญเป็นของที่จับต้องไม่ได้แต่สามารถสัมผัสถึงความสุขได้ค่ะ...

 

เขาเรียกกระจ่างใสจากภายในครับ กำปั้นทุบดินก็บอกว่าทำบุญมาดี

เรื่องนี้มีเหตุผลอยู่อย่างนี้ครับ คุณหนูเขาหลับง่ายหมายถึงไม่เอาเรื่องราวมา

เป็นกังวล คนเราถ้าหลับใด้ลึก ร่างกายจะใด้รับการพักผ่อนครับ ไม่ใด้หมายถึง

นอนนานเเบบขี้เกียจนะครับ สักไม่กี่นาทีก็เหมือนหลับหลายๆชั่วโมงครับ

การหลับในธรรมชาติเป็นการรีเซทของมนุษย์ครับ ภาวะหลับลึกจะใก้ลเคียง

ภวังคจิต หรือจิตเป็นอิสระ หรือเป็นการเข้าสมาธิโดยธรรมชาตฺของจิตครับ

ต่อให้มีตังค์มากขนาดใหนก็ซื้อของแบบนี้ไม่ใด้ครับ ต้องอบรมจิตสั่งสมกัน

มานะครับจึงจับภาวะ บอกตัวใด้ ใช้ตัวเป็น สาธุ สาธุ

 

ท่านผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มาเองเลยค้า ได้รับความรู้ใหม่ ๆ ด้วยค่ะ ดีจังเลย กระจ่างใสแบบภายใน ไร้เครื่องสำอางค์ เรียกว่าสวยจากภายในออกมาสู่ภายนอก แบบนี้เดี๋ยวคืนนี้รีบเข้านอนดีกว่าค่ะ 55++

เห็นว่าคุณพ่อคุณขมังเวทย์เป็นคนลำปาง แล้วคุณอู้เหนือได้หรือเปล่าค่ะ

______________________
เมื่อใจสบาย นั่นคือใจเสวยบุญ ยิ่งเบิกบานใจ บุญยิ่งเกิด

 

อู้ใด้พ่องสะเล็กสะน๋อย อู้ไทยบ่ใด้เลย

 

ฟังดูแล้วแหม่ง ๆ พิกลจะใดก็บ่ฮู้นะคะคุณขมังเวทย์ 55++ โอ๋ก็อู้เหนือได้บ้างค่ะ แต่ก็ไม่เก่งมาก อาศัยว่าไปเรียนที่เชียงใหม่หลายปี

 

สงสัยคงจะจริงอย่างที่พี่หนานพูดนะคะ (แอบเข้าข้างตัวเองซะหน่อย นานๆถี่คงไม่เป็นไรหรอกเนอะ) ในชีวิตนี้หนูมีความโชคดีหลายอย่างเช่นมีลาภอันประเสริฐคือมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวแต่อย่างใด เท่าที่จำได้เคยเข้าโรงพยาบาล 2 ครั้งเท่านั้น คือตอนเป็นเด็กกินอาหารเป็นพิษท้องเสียและเมื่อตอนคลอดลูก อีกอย่างคือเป็นคนกินง่ายนอนง่าย กินได้นอนหลับ (ทรวดทรงและใบหน้าอันอวบอูมคงบ่งบอกอย่างชัดเจน)

เรื่องที่มีให้คิดนั้นมีอยู่มากมาย แต่เรื่องไหนที่คิดแล้วทำให้จิตเศร้าหมอง (จิตตก) เมื่อจิตตามอารมณ์ทันก็จะพยายามเลิกคิดถึงเรื่องนั้นและคิดถึงเรื่องอื่นที่เป็นกุศลแทน เวลานอนจึงไม่ค่อยพะวักพะวง นอนหลับได้เต็มที่ หลับลึกอย่างที่พี่หนานกล่าวมา แต่ถึงจะนอนหลับลึกแต่ก็หลับอย่างมีสติ เป็นคนหูไวมาก ได้ยินเสียงอะไรแก๊กเดียวจะตื่นทันทีโดยไม่มีการงัวเงีย ถึงแม้ฝนตก ฟ้าร้อง หมาเห่า ชาวบ้านทะเลาะกันได้ยินหมดแต่ก็สามารถนอนหลับได้อย่างสบาย

มีเรื่องแปลกอีกอย่างนึงคือเวลานั่งรถ นั่งเรือไปไหนก็แล้วแต่ ถ้าเกิดหลับขึ้นมาจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเองก่อนถึงจุดหมายปลายทองสักประมาณ 5 นาที ไม่เคยหลับเลยป้ายสักครั้ง หรือแม้แต่การตั้งนาฬิกาปลุก ส่วนใหญ่แล้วจะรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเองก่อนนาฬิกาปลุกดังประมาณ 5-10 นาทีเสมอค่ะ

 

น้องโอ๋ก็คงหน้าใสกระจ่างสว่างจากข้างในไม่แพ้พี่หนูหรอกค่ะ... มีจิตเป็นกุศลและปฏิบัติดีซะขนาดนี้... พี่หนูยินดีมากนะคะที่ได้มารู้จักกับน้องโอ๋ผู้มีสัมมาทิฐิคนนี้ ^^

 

สาวนอร์เวย์อย่างพี่หนูอู้เหนือไม่ได้เลยค่ะ... ได้แต่ไทย อังกฤษ นอร์เวย์ และ เยอรมัน

ไทย... คล่องมาก ลุยได้ทุกสถานการณ์ ทุกสถานที่ ทุกเวลา
อังกฤษ... งูๆปลาๆกบๆเขียดๆ แต่พูดให้หนุ่มๆเลี้ยงข้าวฟรีได้หลายมื้อแล้ว
นอร์เวย์... พอไหว พอเอาตัวรอดได้เวลาขึ้นโรงขึ้นศาล
เยอรมัน... นิดสสสสสสนึง ตอนนี้มีหนุ่มเยอรมันมาจีบอยู่ อีกหน่อยอาจจะพูดเก่งกว่าเดิม หุหุหุ

 

คุณโต้งเงียบหายไปนาน... หนูก็แอบคิดถึงแอบเป็นห่วงอยู่ว่าเจ็บไข้ได้ป่วยหรือเป็นอะไรไปหรือป่าว... แต่พอมาเห็นเม้นนี้แล้วก็สบายใจหายห่วงเพราะรู้ว่าคุณโต้งยังสบายดีอยู่... ยังมีอาการปกติเหมือนเดิม (ยียวนกวนประสาท) รู้อย่างนี้แล้วก็คงหายคิดถึงไปได้อีกหลายวันค่ะ

 

พี่สาวเราชมกันไปชมกันมา...งั้นขอร่วมชมรมหน้าใสด้วยคนได้ปล่าว555

 

โอเชค่ะน้องชาย... ไม่ต้องเสียค่าสมัครและไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมใดๆทั้งสิ้น... เพียงแต่ให้มีจิตเป็นกุศลอย่างนี้ตลอดไป... หน้าก็จะใสไม่เสื่อมคลายค่ะ... ถึงว่าสิภรรเมียถึงได้หวงนักหวงหนา อิอิอิ

 

เรื่องนี้แนะนำว่าไม่ต้องหัดพูดภาษาใหนๆครับ


ใช่พยักหน้าเอาครับ ง่ายกว่ากันเยอะ5555

 

โถ... พี่หนานแล้วถ้าเค้ามาชวนไปทำอะไรไม่ดีไม่งาม... แล้วเราดันไปพยักหน้าตอบรับขึ้นมา... งานเข้าเลยดิอย่างนี้... เสียวอ่ะ ^^"

 

ผมยังอ่อนต่อโลก หมายความว่าเขาชวนไปแต่งหน้าศพใช้ไหมครับ

ไม่ดีไม่งาม ...ผมคงต้องใช้เวลาศึกษาโลกอีกเยอะ

 

แหม... น่าเห็นใจคนอ่อนต่อโลกอย่างคุณเอจังที่ไม่เข้าใจความหมาย งั้นหนูช่วยขยายความให้นะคะ หนูหมายถึงถ้าเค้าชวนให้เราละเมิดศีลกับเค้าต่างหากค่ะ อย่างเช่นถ้าเค้ายุให้เราไปโขมยเงินคนอื่น (ผิดศีลข้อที่ 2) เพื่อไปซื้อเหล้ากิน (ผิดศีลข้อที่ 5) พอเมาได้ที่ก็ชวนเราไปฆ่าสัตว์เพื่อความสนุกคึกคะนอง (ผิดศีลข้อที่ 1) แล้วให้เราโกหกใส่ร้ายว่าคนอื่นทำ (ผิดศีลข้อที่ 4) และท้ายสุดก็ชวนเราขึ้นเตียงทั้งๆที่ตัวเค้าก็มีคนรักอยู่แล้ว (ผิดศีลข้อที่ 3) เป็นงัยคะตัวอย่างเรื่องนี้... เด๋วสาว Innocent อย่างหนูเผลอไม่ทันได้ใช้สติคิดตาม ปล่อยอารมณ์เตลิดตามไปกับเค้าด้วยก็งานเข้ายกใหญ่เลยละค่ะ คืนเดียวพยักหน้าตอบรับทีเดียวละเมิดศีลหมดทั้ง 5 ข้อเลย... อย่างที่บอกแหละค่ะว่าเสียวอ่ะ...<!-- google_ad_section_end -->

 

อืม..ลืมบอกไป พยักหน้าตามธรรมเนียมภารตะแปลว่า ปฎิเสธครับ หุหุห

 

นั่นก็มีสิทธิ์เสียโอกาสดีๆไปอีกเช่นกัน... ยกตัวอย่างเช่นถ้าหากเค้ามาชวนเราไปทำบุญหรือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ แต่เราฟังไม่เข้าใจดันไปพยักหน้า (ปฏิเสธ) เลยอดได้บุญไปเลย

 

ขอแจ้งให้ทราบค่ะ

อย่างที่หนูได้เคยแจ้งให้ทราบตั้งแต่เปิดกระทู้ใหม่ๆว่างานแรกที่ทางคณะเราจะดำเนินการทำกันนั้นคือจะซ่อมแซมองค์หนุมานรวมทั้งทำฐานปรับพื้นที่ให้ดูดีมีสง่าเป็นปฐมฤกษ์ และก่อนจะเริ่มลงมือทำอะไรทั้งสิ้นจะต้องมีการบวงสรวงบอกกล่าวกับองค์หนุมานท่านก่อน สำหรังานนี้โดยเฉพาะหนูได้บอกกล่าวอัญเชิญครูบาอาจารย์ "องค์พ่อนารายณ์" ขอให้ท่านโปรดมาเป็นประธานในพิธีและท่านก็ได้ตอบรับปากด้วยความยินดี เริ่มแีรกหลังจากที่หนูได้บอกกล่าวอัญเชิญครูบาอาจารย์ ท่านก็ได้บอกว่าทำไมไม่รอให้หนูไปเมืองไทยก่อนแล้วค่อยไปทำพิธีด้วยกัน ใจจริงลึกๆหนูก็อยากให้เป็นเช่นนั้นแต่หนูเกรงว่ามันจะนานเกินไป อาจทำให้งานบุญติดขัดล่าช้าเพราะจะเริ่มลงมือทำอะไรไม่ได้ก่อนที่จะได้ทำการบวงสรวงซะก่อน ทั้งๆที่ปัจจัยก็มีพร้อมอยู่แล้ว จึงได้ตัดสินใจให้ "พี่อจินไตย" รับผิดชอบทำธุระนี้แทนหนู

จากความตั้งใจเดิมที่ต้องการให้ทั้ง "พี่อจินไตย คุณ JumboA พี่ขมังเวทย์" ไปร่วมพิธีทั้ง 3 ท่านเพราะเป็นคนสำคัญหลักๆของกระทู้งานบุญนี้ แต่ด้วยความไม่ลงตัวเนื่องจากไม่สะดวกพร้อมกันจึงทำให้ไม่สามารถไปครบคนได้

คุณ JumboA ได้บอกว่าตัดคุณ JumboA ออกก็ได้เพราะไม่ค่อยถนัดเรื่องแบบนี้ด้วย จึงตัดออก หลังจากนั้นก็เหลือแต่พี่อจินไตยกับพี่ขมังเวทย์ แต่ทั้ง 2 ท่านก็สะดวกไม่พร้อมกัน พี่ขมังเวทย์จึงบอกว่าไม่เป็นไรให้ตัดพี่ขมังเวทย์ออกก็ได้ จะได้สะดวกขึ้น คราวนี้ก็เหลือแต่พี่อจินไตยคนเดียว ก็คิดว่าำไม่น่าจะมีปัญหาอะไร แต่ที่ไหนได้ทำไปทำมาก็มีเหตุทำให้พี่อจินไตยยังไม่สะดวกได้ไปซะที ว่าจะว่าจะก็มีเหตุทำให้ติดขัดทุกครั้งไป

จนมาไม่กี่วันนี้อยู่ดีๆหนูก็มีความรู้สึกขึ้นมาเองว่างานนี้เป็นงานใหญ่และเป็นหน้าที่ของหนูโดยตรง จะให้คนอื่นทำแทนก็ไม่สำเร็จต้องทำเองเท่านั้น เลยทำให้นึกถึงคำของครูบาอาจารย์ที่ท่านได้บอกกล่าวไว้ตั้งแต่เริ่มแรกว่า "ทำไมไม่รอให้หนูไปเมืองไทยก่อนแล้วค่อยไปทำพิธีด้วยกัน" ผลสุดท้ายสรุปว่าก็ต้องรอให้หนูไปดำเนินการเองจริงๆ

จึงเรียนมาเพื่อทราบอย่างทั่วถึงค่ะ

 

มั่นเป็นพั่นนั่นแล....................