สติดีดออกจากสมาธิ

โมทนาสาทุธรรมที่นำมาอทิบายครับ

 

ท่านทดสอบ1 เป็นใครก็ตามคำตอบท่านที่มารับรองคนอื่นขออภัย แค่อ่านผมชักจะอ้วก...?

 

ขอกราบคารวะ ท่านทดสอบ1 ผู้มีภูมิรู้ ภูมิธรรมอันสูงส่ง ด้วยความจริงใจ

ขออนุญาติครับ
กราบนมัสการ ท่าน ทดสอบ1 ด้วยความเคารพ
ผมเพิ่งได้มีโอกาส ติดตาม อ่าน ข้อเขียนของท่านในเว็บนี้ ก่อนเดินทางไป ตจว
และเพิ่งกลับมา เสียดายมากๆ ที่เห็นข้อเขียนของท่าน ช้าไป ไม่งั้นผมก็คง ไม่บังอาจเข้ามาตอบปัญหาในที่นี้ ด้วยรู้ว่า มี ปราญย์ ผู้มีความสามารถสูงส่ง อยู่ในที่นี้ด้วย ได้รับรู้ภูมิรู้ ภูมิธรรมของท่านแล้ว ให้นึกถึงคำว่า ปราญย์ กับคำว่า ปรมาจารย์ ซะจริงๆ ผมยังเสียดายว่า รู้จักท่านช้าไป เสียดายจริงๆครับ

ผมเป็นศิษย์สายธรรมยุติครับ มันก็รู้แต่เรื่องที่ภาวนาไปรู้ไปเห็นไปเท่านั้นล่ะครับ ส่วนเรื่องธรรมอื่นๆ อ่านปุ๊บไม่รู้มันหายไปใหน ลองท่องแทบตาย ก็ยังจำไม่ได้อยู่ดี ส่วนเรื่องที่ว่าผมชอบอ้างคำของครูบาอาจารย์พระอรหันต์นั้น จริงครับ เพราะศิษย์สายนี้ ถือเอาการนังภาวนาไปฟังธรรมครูบาอาจารย์ไป เป็นภารกิจหลัก ความรู้ด้านสัญญา ความจำ เลยอาจจะล้ำหน้าภาคปฏิบัติไปบ้าง ก็ถือเสียว่าเป็นรื่องธรรมดา ขอได้โปรดเข้าใจและให้อภัยด้วยนะครับ

เหตุที่ผมเข้ามาตอบปัญหานี้ ด้วยความอัดอั้นตันใจที่ว่า ทำไมพระสายธรรมยุติ จำนวนหนึ่ง(ต้องขออภัยต่อท่าน ทดสอบ1 ที่ยังใช้คำนี้อยู่ เด็กที่เข้าวัดตั้งแต่ก่อนเข้าอนุบาลอย่างผมมันพูดได้แค่นี้จริงๆ) จึงเข้าไม่ถึงจุดที่ว่าซักที ครั้นจะไปแนะนำก็ไม่บังอาจ ด้วยความที่เป็นแค่คนธรรมดา

จึงมีความคิดจะรวบรวม หลัก วิธีการ เพื่อเป็นแนวทางให้เหล่าฆราวาสให้เข้าถึงจุดนี้ได้ง่ายแค่ประมาณ 5-6 ปี ผมไม่มีความคิดที่จะแนะนำไครมากไปกว่าจุดนี้

เพราะ แม้แต่ครูบาอาจารย์ ท่านก็บอกก็สอนแค่ว่า ต่อไปให้ทำอะไร ทำอย่างไรไปทีละขั้นๆ เท่านั้นจริงๆ เพราะพวกท่านต่างภาระมากจริงๆ

แม้แต่วันนี้ที่ไปกราบรับใช้ครูบาอาจารย์ ผมก็เป็น คนรองสุดท้าย ที่เข้าไปถามเพือขอความกระจ่างว่า ตอนนี้งานที่ผมรับใช้ท่านอยู่เป็นอย่างไร ต่อไปผมต้องทำอะไรต่อ เท่านั้นเอง

พวกเด็กๆที่ไม่รู้จักผมยังมาว๊ากเรื่องโน้นเรื่องนี้ ก็ว่ากันไป มันเรื่องของเขา

และขอกราบนมัสการเรียนเชิญ ท่านทดสอบ1 ได้โปรดเมตตาพี่น้องชาวเว็บบ้าง ท่านก็คงเข้าใจเหมือนผมว่า ผู้อานที่ไม่ได้เป็นสมาชิก ที่เป็น เนยยะ ยังมีอยู่เป็นจำนวนมาก

ส่วนท่านสมาชิกที่ภูมิรู้ ภูมิธรรมไม่ถึง ขอเรียนตามตรง แล้วอย่ามาโกรธผมซะละ เห็นแค่ชื่อ ผมก็ไม่เสียเวลาไปอ่าน

ด้วยความเคารพในภูมิรู้ ภูมิธรรมของท่าน ท่านทดสอบ1

ขอคารวะด้วยใจจริง

ขออนุโมทนาด้วยในกุศลผลบุญของท่าน

ขอบคุณครับ

ลุงมหา

ผมขอเรียนท่านผู้อ่านท่านอื่นๆ ด้วยความจริงใจว่า ผมไม่ได้มีภูมิรู้ ภูมิธรรม สูงกว่า ท่าน dangcarry & cartoon มากมายแต่อย่างไร อดีตวิศวกร ที่ผ่านงานมาแล้วอย่างโชกโชน ในบริษัทข้ามชาติที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการนั้น แม้แต่พิมพ์ดีดภาษาไทย ยังต้องจิ้มเอา มาได้ได้ขนาดนี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว ตอนนี้ขอพักรับใช้ครูบาอาจารย์ก่อน จะได้เบาแรงท่านบ้าง

 

ขอถามสั้นๆ สมาธิขั้นไหนหรือ ที่ไม่มีสติ

 

ลุงมหา..มาตีหัวเข้าบ้านผลุบๆโผล่ๆ มาทิ้งปัญหาผิดๆไว้แล้วถามไปก็ไม่ตอบ อ้างโน่นนนี่เฮ้อ

 

ถ้าท่านทั้งสามคนเป็นอริยะแล้วละก็..! ผมก็คงเป็น มหาโพธิสัตว์แล้ว แน่นอน !

 

คงไกล้จะได้รู้กันแล้วละครับคุณเกิด(kiss)
แต่เอ หรือคนอื่นเขารู้กันแล้วเหลือแต่ผมที่ยังไม่รู้อยู่คนเดียวนะ

 

ขอตอบเรื่อง สติ เร็วกว่าจิต ครับ

ขออนุญาติครับ
ต้องขอนำคำของครูบาอาจารย์มาตอบอีกที
ที่ท่านสอนว่า
สติ เป็น ผู้คุม จิต เป็น นักโทษ
ถ้าท่านใดไม่เข้าใจ คงต้องไปถามท่านเอง หรือไปถาม พัสดีเรือนจำว่า พัสดีนั้น ท่านเข้าใจนักโทษกระจ่างแจ้งหรือไม่ ท่านสามารถคาดการณ์ ว่านักโทษจะทำอะไรหรือไม่ ความคิดท่านมากกว่า เร็วกว่า นักโทษ หรือไม่
สติ เป็น หัวลาก จิต เป็น รถพ่วง
หรือ ท่านผู้ใดเคยเห็น รถพ่วง วิ่งนำหัวลาก หรือไม่ ถ้าเคยเห็น วิ่งนำอย่างไร ถ้านำแล้ว เครื่องยนต์ อยู่ที่ใหน พวงมาลัยอยู่ที่ใหน เบรคอยู่ที่ใหน
แล้ว อย่าตอบว่า ตอนถอยหลัง นะครับ
ต้องขออภัย ต่อ ทุกท่าน นิสัยผมก็เป็นอย่างนี้ ถ้ารู้ว่ามีท่านที่เก่ง กว่า ไม่นิยมเสนอหน้าครับ
แต่ความตั้งใจเดิม ยัง อยู่ ครบ ครับ
ขออนุโมทนาบุญครับ
ขอบคุณครับ
ลุงมหา
ผมเกิดความสว่างวาบ ที่ท่าน ทดสอบ1 บอกว่า อืกไม่เกิน 5 ปี พระโพธิสัตว์จะปรากฏ หรือ ท่านจะเป็น ท่านอาจารย์ผม ที่ผมเพิ่งไปหาท่านเมื่อวาน ต้องติดตามต่อไปครับ

 

ความถือตัวถือตนไม่มีในสาวกภูมิหรือพุทธภูมิ มีแต่ในผู้ที่ยังไม่รู้ว่าตนคืออะไร และอะไรคือตน จึงเกิดความถือตัวถือตนเพราะยังไม่รู้ เพราะถูกครอบงำด้วยอวิชชา ปัญญาจึงไม่มีและไม่เกิด มันจะขัดแย้งในตัวของมันเอง ไม่ต้องมีใครไปทำอะไร เพราะจะเป็นไปตามเหตุปัจจัยที่สร้างขึ้นเอง และไม่ต้องไปคาดเดาอะไรเพราะเป็นไปตามกรรมของตนเอง และทีแน่ๆนั้นขัดแย้งกับธรรมที่มีในตนเองอย่างแน่นอน เป็นความกดดันระหว่างธรรมกับกิเลสโดยแท้ ขอให้พ้นผ่านไปให้ได้นะครับ ท่านผู้เป็นเช่นนั้นทั้งหลาย
สาธุกั๊บผม

 

เข้าเว็บไม่ได้ ยากจริงๆ

ขออนุญาติครับ
เมีื่อวานซืน ผม โทรเช็ค TOT เขาว่า เคเบิ้ลใยแก้วนำแสง เขต พัทยา ชำรุด ต้องหยุดซ่อมแซม หลังจากรวนมาล่วงหน้าหลายวัน ก็น่าจะเสร็จ ใกล้ๆเลิกงานโน่นละครับ
แต่โทรศัพท์บ้านใช้ได้ปรกติ
ขอบคุณครับ
ลุงมหา

 

เรียน คุณสับสนอยากขอความกรุณาให้ท่านสับสนได้อ่านข้อความนี้เราขอกล่าวด้วยความไม่ประมาท ด้วยประการทั้งปวง และไม่มีเจตนาจะกล่าวให้ท่านต้องขุ่นข้องหมองใจด้วยประการทั้งปวง ตัวเราเองได้อ่านความคิดเห็นของท่านก็อดยิ้มไม่ได้ ถ้าเป็นความคิดเห็นส่วนตัว คิดว่าท่านทดสอบ1เป็นผู้หนึ่งที่มีภูมิรู้ ภูมิธรรมสูงกว่าเรามาก เราเองคิดว่าท่านคงอยากให้กำลังใจ เพื่อให้เราได้ก้าวต่อไปเพื่อประโยชน์แก่ตัวเราเอง และบุคลอื่นๆ เพราะถ้าท่านอ่านข้อความให้ละเอียด ท่านยังบอกให้เราพิจารณาข้อความของท่านว่ามีครบหรือไม่ ถ้ามีครบนั่นก็ยังไม่ได้หมายถึงว่าใช่ การก้าวสู่อริยะมรรค อริยะผลไม่ใช้แค่ละสังโยชน์3 อย่างหยาบเท่านั้น สังโยชน์3คือประการสำคัญแต่ในสังโยชน์3 ยังมีธรรมอื่นๆต้องเจริญอีกมาก การละสังโยชน์3เป็นการที่ครูบาอาจารย์ท่านได้กล่าวไว้แต่ที่เหลือ นอกจากนั้นครูบาอาจารย์ท่านเอาไว้ทดสอบว่าจริงหรือเปล่า เพราะไม่ยังงั้นใครๆก็สมามรถละสังโยชน์3ด้วยวาจาได้เพราะครูบาอาจารย์ท่านเปิดทางไว้ให้พิจารณากันตรงๆ แต่ส่วนประกอบของสังโยชน์3ก็ยังมีอีก แม้แต่การเจริญพรหมวิหาร4 และยังกรรมบถ10ที่ต้องเจริญอีกและต้องให้มากด้วย ก็เป็นส่วนอยู่ในสังโยชน์3 แต่เป็นรายละเอียดที่แตกออกอีกเพราะก่อนที่จะเจริญผ่านแต่ละขั้นตอนก็ต้องเห็นธรรมกันมามาก เพราะแค่จะบอกว่าละสักกายทิฐิ วิจิกิจฉา สีลัพพตปรามาส มันง่ายเกินไป เพราะถ้าก้าวถึงอริยะบุคลการเกิดอีกแค่7 ชาติเป็นอย่างสูงคงมีอริยเต็มไปหมดแล้ว ตัวเราด้วยความสัตย์จริงเราไม่ปราถนาจะไปอบายภูมิจึงเร่งความเพียรเป็นอย่างมากยึดถือแนวทาง การไม่ประมาทเป็นที่ตั้ง คนเราเกิดมาหนีไม่พ้นความตายที่เป็นสิ่งที่แน่นอนจะเช้า สาย บ่าย ค่ำ ก็ต้องตายอันร่างกายนี้เหมือนบ้านเช่าหมดสัญญาก็ต้องย้ายกันไปถ้าเราสร้างบุญไว้มาก บ้านหลังใหม่ก็จะอำนวยให้เราได้มีโอกาสต่อยอดก้าวข้ามพ้นไปเรื่อยๆ ถ้าคุณได้ทำวัตรเย็นจะมีประโยคหนึ่งที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าด้วยประการนี้ บัดนี้ท่านผู้สร้างเรือนจะไม่มีโอกาสได้สร้างเรือนให้เราอีกแล้ว อันนี้คร่าวๆลองหาดู แต่ก่อนเราทำวัตรเย็น เราก็สงสัยมากเพราะตัวเราเองเป็นผู้หญิงจะบวชเรียนกับเค้าได้รับการอบรมอย่างใก้ลชิดก็เป็นเรื่องยากถึงจะไข้วขว้าอยากได้โอกาสนั้น ก็ด้วยบุญที่สร้างไว้ในชาติก่อนเป็นตัวกำหนดไว้ จึงอยากให้คุณสับสนลองพิจารณาว่า การที่ท่านทดสอบ1 ท่านให้กำลังใจ ก็เพื่อมรรคผลในวันข้างหน้าเหมือนเรียนหนังสืออาจารย์ก็ให้กำลังใจว่าถ้าเธอตั้งใจเรียนผลสอบที่1 ปีนี้จะต้องเป็นเธอแน่ นี่คือกำลังใจเท่านั้น อย่าคิดว่าเป็นการรับรองอะไรเลย และต้องกราบอ้างอิงคำกล่าวหลวงพ่อสงบ ท่านได้เคยเมตตาตอนที่เราไปกราบเมื่อไม่กี่ปีมานี้ เราได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับท่าน ท่านได้ให้ความรู้ให้ธรรมมาก ท่านก็กล่าวว่าภูมิธรรมเราเกิดแล้วอยู่ที่ว่าชาตินี้จะเอาหรือเปล่า ท่านก็ให้กำลังใจเรา... เราไม่อยากให้คุณสับสนยึดติดกับความพอใจ ไม่พอใจ เราแลกเปลี่ยนธรรมกันก็ให้มองว่าทุกอย่างเกิดขึ้นได้ มันอยู่ที่เรามีความเพรียรหรือเปล่า ตัวเราเองถ้าจะต้องมาเกิดอีกด้วยวัฏสงสารนี้ก็จะขอมาเพื่อสร้างบารมี สร้างคุณประโยชน์เพื่อพุทธศาสนาเท่านั้น ไม่อยากให้คุณสับสนอ๊วก เดี๋ยวจะเสียของที่อุตส่าห์หามา สุดท้ายเราขอให้คุณเจริญในทางธรรมยิ่งๆขึ้นไปสาธุ..

 

เมื่อไรหนอ ...อริยะจะเมตตาตอบคำถามเราเสียที สมาธิฌานขั้นไหนหนอ ที่ไม่มีสติ
ขอเชิญผู้ที่ท่านบอกว่ามีภูมิธรรมสูงกว่าท่าน ทั้งท่านลุงมหา และท่านทดสอบ1 ช่วยตอบด้วยก็ได้นะครับ
รับรองกันเอาไว้ ก็ช่วยๆกัน

 

สวัสดีครับ ผมขอตอบตามความเห็นของผม คนพึ่งปฏิบัติหัดภาวนาอย่างผมรู้จักสมาธิที่ไม่มีสติรู้ตัวอย่างเดียวครับ คือ สมาธิที่จิตมันตกภวังค์ พอจิตมันตกภวังค์นี้มันวูบไปเลยครับ รู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่สติกลับคืนมา เมื่อก่อนเป็นบ่อยครับนั่งสมาธิที่ไรตั้งใจจะลงภวังค์ทุกที ก็ได้หลวงพ่อสงบนี้ละครับท่านชี้แก้ให้

ผมเคยทำสมาธิภาวนาไปถึงอาการที่ความรู้สึกทางกายหายไป หูดับไป เหลือแต่สติรู้เหมือนเราลอยอยู่เคว้งๆ เวทนาทางกายหายไปหมดจริงๆเรื่องอารมณ์สุขนั้นไม่ต้องถามเลยครับบอกไม่ถูก อาการติดในสมาธิหรือสมาธิหินทับหญ้า ก็คือแบบนี้ละครับ
ผมไม่ได้สนใจว่าเป็นฌานอะไรแต่ก็พอจะรู้มาบ้างว่าครูบาอาจารย์ท่านเรียกฌาน4 แต่ผมไม่ได้ยินดีอะไร เพราะรู้ตัวดีว่าฟรุ๊คครับ

ขอบอกตามตรงเพื่อเตือนนะครับ ท่านที่คิดว่ามีสมาธิแบบไม่มีสติหรือฌานไม่มีสตินั้นท่านรู้จักสมาธิน้อย และคงจะไม่เคยเข้าถึงอัปนาสมาธิเลย
ส่วนพวกฤษีชีไพร หรือพวกทำสมาธิอัปนาหินทับหญ้าได้ ก็อย่าได้ไปคิดดูถูกสติท่านเหล่านั้นเลยครับ ท่านที่ทำอย่างน้นได้จิตท่านสงบมีกำลังมาก ถ้าออกพิจารณาทางปัญญาเมื่อไรละก็ทะลุถึงสิ้นภพสิ้นชาติได้เลย
ไม่เชื่อก็ลองไปถามหลวงพ่อสงบดูนะครับ

เวลาครูบาอาจารย์พูดชมหรือให้กำลังใจอะไรต้องระวังอย่าให้ค่าตนเองมากเกินไปจนเอาคำครูชมมารับรองตนเองให้คนอื่นฟัง ครูพูดให้10เราให้ค่าตนเองเสีย50
เจริญธรรมครับทุกท่าน

 

ก่อนอื่นต้องออกตัวก่อนว่าความข้อความที่จะตอบต่อไปนี้เป็นเพียงแค่เศษความรู้ที่ได้จากปัญญาอันน้อยนิดเท่านั้น สติแบ่งออกเป็น3 ลักษณะ สติทางโลก คือสติอย่างเราๆท่านๆ เพื่อเอาไว้ใช้ในประโยชน์ของทางโลก จะเพื่อประโยขน์ของตัวเองซ่ะเป็นส่วนใหญ่ อันนี้ต้องพิจารณาเอาเองว่าวันหนึ่งใช้ไปกับอะไรบ้าง กำลังของ(ขณิกสมาธิน่าจะแน่นอน )สติทางธรรม คือสติที่เอาไว้ใช้ในประโยชน์การก้าวข้ามพ้นจากวัฏสงสาร เพื่อผู้แสวงหาทางธรรมอันมีค่ามหาศาล ต้องใช้(กำลังอุปจารสมาธิเป็นอย่างต่ำ ) สติทั้งทางโลกและทางธรรม เอาทั้ง2 ทางแต่ไม่ใช้ในการเอารัดเอาเปรียบผู้ใด สงเคราะผู้ที่ควร ตั้งแต่(อุปจารสมาธิจนถึงฌาน )ส่วนสติปุถุชนที่อ้างกันว่ามีสติเพราะเจริญสมาธิเล็กน้อยแล้วใช้สัญญา มาเป็นตัววัดผลจึงเข้าใจว่าคือสติ สมาธิต้องเจริญให้มาก สติต้องเจริญให้มากจนเป็นมาหาสติ เพื่อก่อปัญญาให้รู้แจ้งเห็นจริงหมดซึ่งความสงสัยไม่ข้องแวะกับกิเลสกองนั้นๆแล้ว เพราะฉะนั้นท่านคงน่าจะเข้าใจว่าสมาธิขั้นไหนถึงไม่มีสติถ้าพิจารณาจริงๆมองรอบข้างตัวท่านหรือในสังคมที่วุ่นวายที่เราต้องปะปนกันอยู่ นั่นแหละพวกที่อ้างว่าตัวเป็นผู้ที่ฝึกฝนทั้งนั้น อย่างนั้นมีสติหรือเปล่า! แต่สมาธิมีกันทุกคนที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวันก็ต้องใช้กันทั้งนั้นแหล่ะ แต่สติบางคนไม่ต้องใช้ เพราะตัวกู ของกูงั้ย หวังว่าความรู้อันน้อยนิดของข้าพเจ้าจะทำให้ท่านได้เห็นความเป็นจริงมากขึ้น เราไม่ต้องพูดเรื่องอวิชชาให้มันวุ่นวาย เพราะนักปฏิบัติเค้ามองข้ามเรื่องภาษาแบบนี้อยู่แล้ว ไม่ต้องถือตำรา ตำราก็มาใส่มือเอง ถ้าท่านลงมือ รอท่านอื่นมาขยายต่อให้กว้างกว่านี้ดีกว่าน่ะจ๊ะ

 

เรื่อภูมิรู้ ภูมิธรรม ท่านทั้งสองนี้ท่านมีมาก ทั้งปริยัติ ปฏิบัติ และปฏิเวช เราเองอ่านแล้วยังต้องน้อมพิจารณาให้มากแนวทางสำคัญต่อการเดินทาง จุดหมายสำคัญที่ความเพียร หรือว่าตัวเราจะมืดบอดด้วยอวิชชาหรือไม่ขึ้นอยู่กับวาสนาแล้วหล่ะ สาธุ...

 

ตัวสตินั้นมันไม่ได้บอกเลยว่ามันเป็นทางโลกหรือมันเป็นทางธรรม แต่เพราะตัวกู ของกูงั้ย ที่ทำให้มีอยู่หลายแบบและหลาประเภท เหมือนกันกับทำไมถึงมีนิกายที่แตกตัวออกไป ทำไมถึงมีสาวกบางท่านบัญญัติสรรพนามขึ้นใหม่ให้ดูเข้ากับยุคสมัย (ตามที่เขากล่าวอ้าง) ทั้งหมดนั้นเป็นไปตามสิ่งหนึ่งเท่านั้นที่ทำให้สิ่งเดียวกันกลายเป็นหลายสิ่ง เพราะความจริงก็คือหลายๆสิ่งที่ว่านั่นแหละคือสิ่งเดียวกัน สติ คือ สติ เมาแล้วเรียกว่าไม่มีสติ เพราะคนมีสตินั้นไม่เมา ทำไมไม่เมาก็ไม่กินไม่ไปดื่ม เพราะรู้ว่ากินแล้วต้องเมาเกิดเรื่องต่างๆมากมาย อย่างนี้ถึงเรียกว่า มีสติ ดังนั้นคนที่กินหรือดื่มเหล้าจึงไม่จัดอยู่ในพวกมีสติ นี่เป็นทางโลก แต่ที่จริงมันก็ไม่ได้หมายถึงทางโลกหรอกเพราะทางโลกกับทางธรรมมันเป็นเรื่องเดียวกันแต่ใช้หรือมองต่างกัน ทางโลกคือข้ออ้างของกิเลส ทางธรรมกิเลสไม่สามารถมาอ้างได้ มันก็เท่านั้น ลองพิจารณาดูอีกทีครับ เผื่อว่าปัญญาอันน้อยนิดอย่างที่ว่านั้นจะมีและเกิดขึ้นได้จริงๆ และจะได้ไม่รู้สึกว่าสตินั้นมีหลายประเภทตามที่คิดอยู่ พิจารณาดูดีๆครับ ผมมีสติอยู่สองประเภทครับ ประเภทที่กิเลสพาไป กับ ประเภทที่ธรรมอันมีพระศาสดาเป็นผู้สอนสั่งพาไป ครับ
สาธุคั๊บผม

 

ด้วยความเคารพอย่างสูงสุดยอด "ต่อสามอริยะ" พลีส ได้โปรด ตอบให้ตรงโตงหน่อย..!

 

"การสำรวม" ไม่อวยกันเองในสิ่งที่ไม่มีไม่ยกตนข่มท่านจะมีศิลซ่อนอยู่เสมอในการสำรวม!

 

<TABLE class=tborder id=post3677203 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">19-08-2010, 11:27 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#9 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->อริยบุตร<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3677203", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Jan 2010
ข้อความ: 626
Groans: 0
Groaned at 2 Times in 2 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 3,075
ได้รับอนุโมทนา 8,759 ครั้ง ใน 646 โพส
พลังการให้คะแนน: 510



</TD><TD class=alt1 id=td_post_3677203 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->ที่เล่ามา ไม่ละเอียด นะ ต้องลองเทียบ ที่องค์ฌาน ดู
และ ลองฟังคำ อธิบายของหลวงพ่อ ( ฤาษี ) อีกทีนะ จะแน่นอนกว่า

[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1024105/[/MUSIC]
[/QUOTE]​

<!-- google_ad_section_end -->

</TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> <SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("3677203")</SCRIPT> </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><THEAD><TR><TD background=images/gradients/bg_p.gif> สมาชิกที่กล่าว " ไม่เห็นด้วย " กับข้อความของ คุณ อริยบุตร ที่เขียนไว้ทางด้านบน </TD></TR></THEAD><TBODY id=collapseobj_post_groan_3677203><TR><TD class=alt1><TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1>ลุงมหา (26-08-2010)

</TD></TR><TR><TD class=alt2><CENTER></CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR></TBODY></TABLE>

ลูกผู้ชายกล้าทำ ต้องกล้ารับ ขอถาม ลุงมหา ว่าตรงนี้ คุณอริยบุตร ผิดตรงใหน ?
ผู้มีคุณธรรม ทีฝึกจิตมาดีแล้ว ลองตอบตามภูมิธรรม ของท่านซิ อย่าลืมเวปนี้ ออกไปทั่วประเทศ หรืออาจทั่วโลก ..ขอบคุณในคำตอบ

และจงอธิบาย ของผมด้วย เหอ ๆๆๆ

 

ลองอ่านดูให้ดีๆว่ากิเลสทั้ง2 ข้อที่เราตอบไว้มันไม่มีตรงไหน แค่ตอบอาจจะไม่ชัดเจนตามที่ท่านอยากให้เป็นหรือเปล่า น่าจะมีใครมาอ่านแล้วเข้าใจบ้าง รึเปล่า pig_cryy