ขี่จักรยานเสือหมอบแหกโค้งตาย..ได้ไปเกิดเป็นเทวดาชั้นดาวดึงส์

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย titapoonyo, 24 สิงหาคม 2010.

  1. titapoonyo

    titapoonyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,133
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +12,769
    พระธรรมเทศนา..ครูบาเจ้าเพชร วชิรมโน

    เนื่องในวันวิสาขบูชา 2553 ณ ศูนย์พุทธศรัทธ

    เมื่อวันวิสาขบูชาที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปถือศีลบวชเนกขัมมะที่ ศูนย์พุทธศรัทธา อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี ทางศูนย์ฯ ได้นิมนต์ครูบาฯ มาเทศน์ ท่านเทศน์สนุกสนานมาก คือ ได้หลักธรรมลึกซึ้งแต่คนเป็นร้อยไม่มีใครง่วงนอนเลย...
    มีเรื่องหนึ่งที่ผมรู้สึกประทับใจมากคือ ท่านเล่าเรื่องประสบการณ์การฝึกของท่าน ท่านเป็นลูกศิษย์ ท่านพ่อลี ธัมมธโร แห่งวัดอโศการาม(ว่ากันว่าท่านคือ พระเจ้าอโศกมหาราชกลับชาติมาเกิด)

    แต่ครูบาฯ ก็เคยฝึกมโนมยิทธิและสามารถถอดอทิสมานกาย ไปท่องเที่ยวยังภพภูมิต่างๆ ได้ ท่านเล่าว่า ประสบการณ์มโนมยิทธิ ของท่านจะไม่เหมือนใคร อย่างการไปดูเจดีย์จุฬามณีที่ดาวดึงส์ ตอนแรกท่านจะเห็นเป็นถ้ำ ไม่ได้เป็นเจดีย์เหมือนที่คนอื่นเห็น (ท่านอธิบายเหตุผล..แต่ผมจำไม่ได้แล้วว่าเพราะอะไร ต้องขออภัยความจำปลาทองจริงๆ)
    มีครั้งหนึ่งท่านเล่าว่าท่านก็ไปเที่ยวจุฬามณี พอไปถึง ปรากฎว่ามีคนขี่จักรยานเสือหมอบอยู่ที่หน้าจุฬามณี...แถมขี่ผ่านหน้าท่านเฟี้ยว
    ท่านก็คิดในใจว่า เฮ้ย!!! บ้ารึเปล่า ที่นี่มันจุฬามณีนะเฟ้ย มันมาขี่จักรยานซิ่งได้ไงฟ่ะเนี่ย...
    แล้วท่านก็เรียกคนที่ขี่จักรยานเสือหมอบมาถามว่า เป็นใคร ทำไมถึงมาขี่จักรยานอยู่แถวจุฬามณี ก็ได้ความว่า ท่านเป็นเทวดา อยู่ที่ดาวดึงส์ที่แหล่ะ พึ่งมาอยู่ได้ไม่นาน ที่มาให้หลวงพ่อเห็นรูปแบบนี้ ไม่ได้มีเจตนาจะลบหลู่แต่ประการใด แต่เพราะอยากให้หลวงพ่อรู้ว่า ที่ตนได้มาอยู่ที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์เป็นเพราะตายขณะขี่จักรยานเสือหมอบแหกโค้งบนภูเขา....

    หลวงพ่อก็สงสัยว่า ขี่จักรยานเสือหมอบตาย ทำไมถึงไ้ด้เป็นเทวดา ท่านเทวดาเสือหมอบก็บอกว่า เพราะตอนที่ขี่จักรยานนั้น เป็นการขี่เพื่อเฉลิมพระเกียรติให้กับในหลวง
    ท่านก็เลยสงสัยอีกว่า ทำไมขี่เฉลิมพระเกียรติให้ในหลวงถึงได้บุญขนาดนี้ ในเมื่อท่านก็เป็นคนธรรมดา.. เทวดาเสือหมอบก็เลยบอกว่า ในหลวงท่านไม่ใช่คนธรรมดาหรอกขอรับ แต่ท่านเป็น....(จุดจุดจุดจุด)

    หลวงพ่อท่านไม่บอกครับว่าเป็นอะไร แต่จริงๆ ผมก็รู้อยู่แล้ว ว่าไอ้จุด 4 จุดที่ท่านไม่ยอมบอกก็คือ ในหลวงของเราท่านเป็น พระโพธิสัตว์ นั่นเอง ดังนั้นการที่ท่านเทวดาเสือหมอบตายขณะที่ขี่จักรยานเทิดพระเกียรติให้กับในหลวงจึงทำให้ท่านได้ไปเกิดเป็นเทวดานั่นเอง....

    เรื่องในหลวงเป็นพระโพธิสัตว์ผมเองพึ่งรู้มาประมาณ 1 ปีก่อน ตอนนั้นไปอ่านเจอในหนังสือของ ดร.สนอง วรอุไร ตอนหลังมาค้นหาเพิ่มเติมก็พบคำยืนยันมากมาย โดยเฉพาะจากบรรดาพระอรหันต์หลายท่าน หนึ่งในคำยืนยันนั้นคือ หลวงพ่อฤาษีฯ วัดท่าซุง ท่านได้กล่าวถึงในหลวงไว้ดังนี้...


    อดีตชาติในหลวงของเรา
    [​IMG]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] (คัดลอกบางตอนจากหนังสือธัมมวิโมกข์ หน้า ๙๒-๙๕ ฉบับที่ ๒๑๒ พย. ๒๕๔๑)[/FONT]​


    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] [FONT=trebuchet ms,sans-serif]ในหลวงเคยเกิดเป็น พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า และ พระเจ้าเดือนแจ่มฟ้า และเคยเกิดเป็นพระราชโอรสของ พระเจ้าตวันอธิราช และ พระเจ้าพรหมมหาราช ("พระเจ้าตวันอธิราช" ไปเกิดเป็น "พระเจ้าพรหมมหาราช") ทั้ง ๒ ครั้ง ดังนี้[/FONT][/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] พ.ศ. ๒๔๖ สมัยสุวรรณภูมิ ในหลวงเกิดเป็นพระราชโอรส องค์แรก ของ พระเจ้าตวันอธิราช มีพระนามว่า [/FONT][FONT=trebuchet ms,sans-serif]พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า

    ต่อมา พ.ศ. ๙๐๐ สมัยเชียงแสน พระเจ้าตวันอธิราช เกิดเป็น "พระเจ้าพรหมมหาราช" ส่วน พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า ตามไปเกิดเป็นพระราชโอรสองค์แรกนามว่า "พระเจ้าเดือนแจ่มฟ้า" แต่สิ้นพระชนม์ในสมัยทรงพระเยาว์ พระราชสมบัติจึงตกแก่พระโอรสองค์รองคือ "พระเจ้าชัยสิริ" (หลวงปู่ธรรมชัย) ซึ่งเป็นต้นราชวงศ์จักรกรี สืบสันติวงศ์ถึงปัจจุบัน พระเจ้าพรหมมหาราช มีพระเชษฐาคือ "พระเจ้าทุกขิตะ" (หลวงปู่คำแสนเล็ก วัดดอนมูล)

    ย้อนกลับมาสมัยสุวรรณภูมิ พ.ศ.๒๔๖ พระโพธิสัตว์ทั้ง ๒ พระองค์นี้ได้บำเพ็ญบารมีร่วมกัน (พ่อ-ลูก) พระเจ้าตวันอธิราช กษัตริย์ผู้ครองกรุงสุวรรณภูมินี้ ได้วางรากฐานการสร้างพระบารมีไว้ให้พระราชโอรสของพระองค์ ในฐานะที่จะทรงเป็นกษัตริย์ต่อไปภายภาคหน้า อาทิ
    [/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] - การสร้างบ้านแปลงเมืองให้เจริญรุ่งเรือง ปรับปรุงกองทัพให้เข้มแข็ง ส่งเสริมอาชีพของราษฏร โรงพยาบาลเพื่อสงเคราะห์พสกนิกร ฯลฯ

    - ส่วนด้านพระพุทธศาสนา ได้โปรดสร้างวัด โรงเรียนปริยัติธรรมสำหรับพระภิกษุสามเณร โดยมี พระโสณะ กับ พระอุตตระ(หรือก็คือ หลวงปู่เทพโลกอุดร นั่นเอง..อ่านรายละเอียด) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มีการมอบ "พัศยศ" สำหรับผู้สอบบาลีได้

    - ต่อมาก็มีการแต่งตั้งพระสงฆ์ไทยขึ้นเป็น สมเด็จพระสังฆราช เป็นพระองค์แรกของเมืองไทย จนได้สืบต่อวัฒนธรรมประเพณีต่าง ๆ มาจนถึงบัดนี้

    - อีกทั้งพระองค์ได้เสด็จประพาสไปยังนานาประเทศ ทั้งประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง และที่อยู่ห่างไกลออกไป ส่วนภายในประเทศอาณาเขตของพระองค์ ก็เสด็จเยี่ยมเยือนไปตามหัวเมืองต่าง ๆ อีกด้วย

    - พระราชจริยวัตรของ พระเจ้าตวันอธิราช นี้ มีลักษณะที่ทรงปฏิบัติคล้ายกับพระราชจริยวัตรของ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ของพระเจ้ากรุงสยาม ทุกประการ

    - ฉะนั้น ขนบธรรมเนียมประเพณีในด้านพระศาสนา เช่น พิธีกวนข้าวทิพย์ การสวดมนต์ หรือ พิธีการนิมนต์พระไปเจริญพระพุทธมนต์ที่บ้าน ตลอดถึงพิธีกรรมต่าง ๆ ตามโบราณราชประเพณี เรามีการสืบทอดวัฒนธรรมอันเป็น มรดก มานานนับพันปี

    (ทั้งหมดนี้เป็น รากฐาน ที่พระเจ้าตวันอธิราช วางไว้ให้ พระราชโอรสคือ พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า ทั้ง ๒ พระองค์ต่างก็เป็นพระโพธิสัตว์ที่บารมีเข้มข้น)
    [/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] ต่อมา หลังจากพระเจ้าเดือนเด่นฟ้า ได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติ ก็ทรงมีพระราชหฤทัยที่ดำเนินรอยตามพระยุคคลบาทของสมเด็จพระราชบิดา ในฐานะที่พระองค์ก็ทรงเป็น พระโพธิสัตว์ เช่น เดียวกัน และก่อนที่ พระโสณะ จะนิพพาน ก็ยังได้พยากรณ์ไว้อีกว่า

    "พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า จะมาเกิดที่ "กรุงเทพมหานคร" เมื่อนั้น "สุวรรณภูมิ" จะฟื้นชื่อมีคนรู้ทั่ว..."

    - สอดคล้องกับสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดม องค์ปัจจุบันที่ได้ทรงตรัสพยากรณ์ไว้ดังนี้

    "ดูก่อนอานนท์..ตถาคตสงสารสัตว์เป็นล้นพ้น ที่มีอายุขัยอยู่ใกล้ยุคกึ่งสมัย คือในหลังพุทธกาลนี้ แต่ในเวลานั้น จะมี "พระมหากษัตริย์ธรรมิกราช" ผู้เป็นพระโพธิสัตว์องค์หนึ่ง จะเกิดภายในอุปถัมภ์ของ
    [/FONT][FONT=trebuchet ms,sans-serif]"พระมหาเถระโพธิสัตว์"

    - พระโพธิสัตว์สองพระองค์นั้น จะเสด็จเข้ามาบำรุงพระพุทธศาสนาของตถาคต สมณชีพราหมณ์จะตามเสด็จเป็นอันมาก ในระยะนี้จะเป็นยุค "ชาวศรีวิไล" ดังนี้

    (หลักฐานหนึ่ง ทางด้านโบราณวัตถุได้แก่ กระเบื้องจาร ที่ขุดได้จาก ซากเมือง คูบัว จ.ราชบุรี ก็ได้ยืนยันว่า พ่อกับลูกคู่นี้ ทรงเป็นหน่อเนื้อพระบรมพงศ์พระโพธิสัตว์ทั้งสองพระองค์ ได้ตั้งความปรารถนา " พุทธภูมิ" ประเภท วิริยาธิกะ คือจะต้องบำเพ็ญบารมีเพื่อเป็นพระพุทธเจ้า ใช้เวลา ๑๖ อสงไขย กับแสนกัปล์ จึงจะบรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ)
    [/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]
    [/FONT]​
    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]
    [/FONT]
    บทสนธนาของหลวงพ่อกับในหลวง
    [​IMG]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif]นชาติปัจจุบัน ของ พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า (พระบาทสมเด็จภูมิพลอดุลยเดชมหาราช)

    หลวงพ่อเคยถวายพระพรไว้ ณ พระตำหนักภุพิงค์ราชนิเวศน์ เมื่อวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๒๐... ในตอนหนึ่งที่พระองค์ทรงตรัสถามหลวงพ่อว่า

    [/FONT][FONT=trebuchet ms,sans-serif]"เขาพูดกันว่าผมปรารถนาพุทธภูมิเป็นความจริงไหมครับ..?"
    [/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] หลวงพ่อถวายพระพรว่า...[/FONT][FONT=trebuchet ms,sans-serif]เรื่องปรารถนาพุทธภูมินี่ พระองค์ปรารถนามานาน..แต่เวลานี้บารมีเป็น "ปรมัตถบารมี" แล้ว ก็เหลืออีก ๕ ชาติ และที่พระองค์ปฏิบัติมามันเลยแล้ว..ไม่ใช่ไม่สำเร็จ..!

    "พุทธภูมิ" นี่ต้องบำเพ็ญกันมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งพระองค์เป็น "วิริยาธิกะ" วิริยาธิกะนี่..ต้องบำเพ็ญบารมีถึง ๑๖ อสงไขยกำไรแสนกัป นี่บำเพ็ญมาเกิน ๑๖ อสงไขยแล้ว "แสนกัป" อาจยังไม่ครบ จึงต้องเกิดอีก ๕ ชาติ"

    ในขณะนั้น สมเด็จพระนางเจ้าฯ ได้ตรัสถามหลวงพ่อว่า
    [/FONT][FONT=trebuchet ms,sans-serif]"พระ เจ้าอยู่หัวก็ดี หม่อมฉันก็ดี ก็มีความเคารพในพระคุณ พระราชวงศ์จักรี อยู่ตลอดเวลา ที่ท่านจะทรงสามารถจะทรงความเป็นเอกราชไว้ได้ ก็อยากจะทราบว่าทั้งสององค์นี่..จะทรงชาติกับศาสนาไว้ได้ไหม..? "

    หลวงพ่อถวายพระพรว่า "ก็ได้..ประเทศเราไม่มีเกณฑ์จะต้องตกเป็นเหยื่อคอมมิวนิสต์"
    [/FONT]

    [FONT=trebuchet ms,sans-serif] แล้วพระองค์ก็ตรัสถามอีกว่า [/FONT][FONT=trebuchet ms,sans-serif]"ฉันทั้งสององค์นี่ ทั้งพระเจ้าอยู่หัวด้วยและฉันด้วย จะต้องตายเพราะการที่เขามุ่งจะฆ่าไหม..? "

    พอตรัสถามตรงนี้ หลวงพ่อท่านบอกว่าพระดลใจให้ตอบว่าดังนี้..

    [/FONT][FONT=trebuchet ms,sans-serif]"ก็ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวนี่ เป็นนักรบฝีมือดีมาจากสุโขทัย และมาเกิดคราวนี้ ต้องการจะเกิดเพื่อจรรโลงให้คงอยู่ให้ชาติมีความร่มเย็นเป็นสุข แล้วเรื่องอะไร..ที่ต้องตายเพราะคมอาวุธล่ะ..ถ้าจะเจ็บตายเอง.งเป็นเรื่อง ธรรมดา และต้องตายด้วยเรื่อง "คมอาวุธ" อันนี้ไม่มี..!"

    สรุป..ในหลวงเกิดเป็น พระเจ้าเดือนเด่นฟ้า ในสมัยสุวรรณภูมิ และเกิดเป็น พระเจ้าเดือนแจ่มฟ้า ในสมัยเชียงแสน ปรารถนา พุทธภูมิ ประเภท วิริยาธิกะ ตอนนี้บารมีใกล้เต็ม และต้องเกิดสร้างบารมีอีก
    [/FONT][FONT=trebuchet ms,sans-serif] ๕ ชาติ[/FONT][FONT=trebuchet ms,sans-serif]....
    [/FONT]
    ที่มา : http://sites.google.com/site/sphrathewtheph/Home-31
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 สิงหาคม 2010
  2. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    ใช่ครับ ผมก็ได้ฟังจากครูบาเจ้าเพชรที่ศูนย์พุทธศรัทธา ด้วยเช่นกันครับ^^

    มีนางฟ้าขายขนมด้วยนะครับ^^
     
  3. titapoonyo

    titapoonyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    1,133
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +12,769
    ผมจำรายละเอียดเรื่องนางฟ้าขายขนมไม่ได้ ใครจำได้เล่าให้ฟังใหม่หน่อยจ้า
     
  4. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ขอบคุณที่นำมาเล่าให้ฟังค่ะ
     
  5. นายตถาตา

    นายตถาตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2010
    โพสต์:
    829
    ค่าพลัง:
    +705
    ผมติดตรงที่เล่าว่าเกิดที่กรุงเทพนี่สิ ท่านพระราชสมภพที่ต่างประเทศนี่ครับ
    พ.ศ. 2470 (ค.ศ. 1927) – พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เสด็จพระราชสมภพ ณ โรงพยาบาลเมาต์ออเบิร์น เมืองเคมบริดจ์ มลรัฐแมสซาชูเซตส์ สหรัฐอเมริกา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 สิงหาคม 2010
  6. Nok Nok

    Nok Nok เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    412
    ค่าพลัง:
    +3,297
    [​IMG]
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน...<!-- google_ad_section_end -->
     
  7. คนวิเชียร

    คนวิเชียร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +1,298
    อนุโมทนา สาธุ สาธุ ครับขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน...<!-- google_ad_section_end -->
     
  8. neverborn

    neverborn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +25
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
     
  9. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    สาธุ สาธุ สาธุ..เป็นบุญที่ได้ฟังค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    Numsai
     
  10. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637


    หลวงพ่อพระราชพรหมยาณ (หลวงพ่อฤษี) ธุดงอยู่ที่ป่าดงดิบศรีประจัน

    สุพรรณบุรีในสมัยนั้น หลวงพ่อฤษียังเป็นพระหนุ่มอยู่นะ

    มีเทวดามาบอกกับหลวงพ่อว่า (เรื่องนี้หลวงพ่อบอกว่าไห้ไปถามเทวดากันเอาเอง)

    ตอนนี้นะ สมเด็จพระนเรศวรมาเกิดแล้ว แต่ไม่ได้เกิดในดินแดนสยาม

    แต่เกิดที่ต่างประเทศอันไกลโพ้น ตอนนี้ก็อยู่ที่ต่างประเทศ

    อีกไม่นานหรอก ท่านจะกลับมาปกครอง แผ่นดินสยาม

    (ตอนที่เทวดาบอก หลวงพ่อท่านบอกว่าตอนนั้นรัชการที่๘ปกครองนะ)

    เทวดาบอกต่อว่า ชาติก่อน สมเด็จพระเรศวรมหาราช รบหนัก รบกับอริราช

    ศัตรูที่หมายจะยึดครอง ประเทศชาติ พระองค์ยอมเสียสละ ทั้งชีวิต

    เพื่อไห้ลูกหลาน เหลนไทย มีชาติ มีแผ่นดินที่อยู่ที่อาศัย

    พระองค์ ปากคาบดาบ นำหน้า เท้าปีนป่ายกำแพงค่ายพม่า ที่มารุกรานชาติไทย

    เพื่อขับไล่ ป้องกันเอกราชของชาติไทย ตัวพระองค์เองเหนื่อยทั้งชีวิต

    เพื่อความสุข ความร่มเย็นของชนชาติไทย

    เทวดากล่าวต่อ มาชาตินี้ พระองค์ก็ยังทรงต้องเหน็ดเหนื่อยต่อไป

    แต่ไม่ไช่เหนื่อยเพราะรบกับอริราชศัตรู

    แต่พระองค์รบกับความยากจน ของคนไทยทั้งชาติ

    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 กันยายน 2010
  11. ผู้มีสติ1

    ผู้มีสติ1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    750
    ค่าพลัง:
    +3,637
    ฟังแล้ว มันเอ้! อยู่นั่น ไม่หายสงสัย

    มีคำถามทำไมเกิดขึ้นตลอดเวลา ทำไงล่ะ

    จึงจะหายเคลือบแคลงใจ หายสงสัย

    ๑ ศีลต้องรักษาไห้เป็นปกติ

    ๒ สมาธิต้องตั่งมั่น อารมณ์ใจต้องทำไห้เป็นหนึ่งตลอด

    เป็นเอกคตารมณ์จริงๆ นึกปุ๊ป อารมณ์ทรงตัวทันที

    จิตเป็นสมาธิในฉับพลัน ผลที่ตามมาญาณทัศสนะ หรือตัวรู้

    จะค่อยๆมีเกิดขึ้นกับดวงจิตของตัวเราเอง ถ้าอย่างงี้แล้ว

    ความสงสัย จะหมดไป รู้เอง เห็นเอง เป็นการทดสอบ

    ญาณทัศนะของตัวเราเองด้วย (เป็นการค้นคว้า

    ตรวจสอบคำพูดของครูบาอาจารย์ ที่ได้กล่าวมาในอดีตได้ด้วย)

    สิ่งหล่านี้ หรือความรู้อย่างนี้ นึกไห้มี นึกไห้เป็น ไห้มีเกิดขึ้น

    กับตัวเราเองไม่ได้

    ต้องฝึก ต้องหมั่นทำความเพียร หม่ำบำเพ็ญตบะ ต้องสร้างขึ้น

    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 กันยายน 2010
  12. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    อ่านแล้วปลื้มแสนปลื้มในหัวใจ
    อนุโมทนาสาธุค่ะ
    ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...