เรื่องเด่น ประสบการณ์เรื่อง “ผี” ที่วังท่าพระ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย Specialized, 17 มิถุนายน 2020.

  1. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,155
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,359
    ประสบการณ์เรื่อง “ผี” ที่วังท่าพระ

    ?temp_hash=4cdc26077b5f5d2760643760298b6cc7.jpg


    “ผี มีจริงหรือไม่?” ใครที่ยังไม่เจอกับตัวเองก็ยากจะตอบว่ามีจริงหรือไม่

    แต่ถ้าจะพิสูจน์ให้แน่ชัดแล้วต้องเจอกับ “ผี” แบบจะๆ ก็ไม่แน่ใจว่าจะมีสักกี่คนที่อยากลอง เพราะในจำนวนคนที่อยากรู้ว่า “ผีมีจริงหรือเปล่า” บางก็เป็น “คนกลัวผี” ในเวลาเดียวกันด้วย

    เรื่องกลัวผีนี้ เชื่อว่าผู้ใหญ่หลายท่านสอนลูกหลานไม่ให้กลัวเกินกว่าเหตุ แต่จะได้ผลเมื่อเด็กๆ กลัว หรือยำเกรง ผู้ใหญ่ท่านนั้นมากกว่าผี

    เหมือนกับ หม่อมเจ้าหญิงดวงจิตร จิตรพงศ์ ทรงเขียนไว้ใน “ป้าป้อนหลาน” ที่ใช้อ้างอิงครั้งนี้ [จัดย่อหน้าใหม่และเน้นคำเพื่อสะดวกในการอ่าน โดยผู้เขียน]

    เมื่อลูกหลานของท่านถามว่า “ป้าเคยเห็นผีไหมคะ” ท่านก็ทรงรับว่ากลัวมากเหมือนเด็กอื่นๆ แต่ก็กลัวพระบิดา (สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์) มากกว่า ก่อนจะทรงเล่าให้หลานๆ ฟังว่า

    “เสด็จปู่ (สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์) ไม่โปรดให้ลูกกลัวผี ถ้าท่านจับได้ว่ากลัวก็จะถูกดัดสันดานเสียงอมจนชินเข้าก็กล้าไปเอง…”

    สถานที่ “ดัดสันดาน” ก็คือ ในวังท่าพระอยู่ที่ไหน ที่ใดมีชื่อเสียงเสียงเรื่อง “ผีดุ”

    หม่อมเจ้าหญิงดวงจิตร ทรงเล่าว่า “พวกพี่ๆ ของป้าเคยเล่าว่าในสมัยเด็ก ที่ดัดสันดานของเด็กรุ่นท่าน คือ ตำหนักในสวนที่วังท่าพระ ปลูกอยู่ติดกําแพงข้างต้นจันทน์แถวต้นสาเก…เป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องผีดุ เสด็จปู่ (สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์) จึงทรงลืมของไว้ที่ตำหนักนั้นบ่อยที่สุดไม่ซองบุหรี่ ก็ไม้ขีดไฟ และหนังสือที่ทางอ่านค้างอยู่เป็นต้น ใครมีท่าว่ากลัวผีถูกใช้ให้ลงไปหยิบ และมักต้องไปบ่อยๆ จนกว่าจะหายหน้าซีด…

    ที่เดือดร้อนมากที่สุดคือทรงใช้ให้ไปรินน้ำชามาถ้วยหนึ่ง ถ้ามีเสียงอะไรแกรกกรากก็วิ่งไม่ได้ ต้องเดินประคองไม่ให้กระฉอก กลัวสมเด็จมากกว่าผีก็ต้องแข็งใจทน แต่ก็ไม่เคยมีใครถูกผีหลอกสักที

    ครั้นถึงสมัยเด็กรุ่นป้าตําหนักสวนนั้นรื้อแล้ว สถานฝึกหัดเปลี่ยนเป็นในห้องบรรทมซึ่งมีตู้พระอัฐิเป็นตู้ไม้ทึบบานเป็นกระจกเงา เวลา เข้าไปมืดๆ เห็นเงาตัวเองวูบวาบในกระจกนึกว่าใครเดินมาจากในตู้นั้น หัวใจจะหยุดเสียให้ได้

    และที่ท้องพระโรง ซึ่งถ้าเป็นเวลาที่ว่างอยู่เพียงแต่จะต้องเดินผ่านไปเฉย ๆ ก็ไม่สู้กระไร แต่ถ้าเป็นเวลาที่มีพระศพตั้งอยู่ด้วย พอลงบันไดหน้ามุขไปได้ 3-4 ขั้นก็ต้องนั่งลงร้องให้จนกว่าจะมีใครสงสารแอบเลี่ยงมาอาสาไปเป็นเพื่อน เสด็จปู่ท่านก็ทรงทราบ…แต่ท่านทรงเฉยเสีย ทําเหมือนไม่รู้เท่าเพราะไม่ได้ตั้งพระทัยจะเข้มงวดนัก หัดไปสอนไปโตขึ้นก็สามารถควบคุม จิตใจได้เอง”

    ?temp_hash=4cdc26077b5f5d2760643760298b6cc7.jpg


    หม่อมเจ้าหญิงดวงจิตรเองก็เคยทูลถามพระบิดาว่าเคยเห็นผีหรือไม่เช่นกัน

    ท่านรับสั่งว่า “พ่อไม่เคยเห็นผี แต่เคยมีเหตุการณ์เกิดขึ้นบางครั้งที่อธิบายไม่ได้ว่า เกิดขึ้น ได้อย่างไร เช่นครั้งหนึ่ง พ่อลืมตาตื่นขึ้นกลางดึกรู้สึกหนาว มองดูหน้าต่างข้างเตียงเห็น เปิดอยู่ทั้งสองบาน แสงเดือนส่องทอดเข้ามาที่พื้นห้องสว่างเป็นลํา พ่อลุกขึ้นนั่งบนเตียง คิดจะเดินไปปิดหน้าต่าง…จึงลุกไปปิดหน้าต่างเอื้อมมือออกไปเจอะหน้าต่างปิดลงกลอนเรียบร้อยแล้วทั้งสองบาน ไม่เข้าใจเลยว่าฝันหรือละเมอ หรืออะไร ทําไมจึงเป็นไปได้เช่นนั้น อธิบายไม่ได้จนบัดนี้

    อีกครั้งหนึ่งพ่อกําลังนั่งกินข้าวอยู่ข้างบน ได้ยินเสียงใครเคาะโลหะอะไรอย่างหนึ่งที่ในห้องใต้ชั้นต่ำ ดังรัวกังวานได้ยินถนัดหมดทุกคน (ห้องใต้ชั้นต่ำนี้อยู่ชั้นล่างตรงกับห้องเสวย เป็นที่ทรงเก็บศิลปวัตถุและเครื่องดนตรี มักจะปิดใส่กุญแจไว้ เปิดเป็นเวลาเช่น ลูกๆ ลงไปเล่นปิงปองกัน หรือครูมาสอนหนังสือ ในเวลามีงาน มีแขกเป็นต้น)

    จึงต่างก็โจษ กันแซ่ว่าเสียงใครเคาะอะไรในห้องนั้น จะมีใครเข้าไปเคาะได้อย่างไร ในเมื่อห้องก็ปิดใส่กุญแจไว้ พ่อออกความเห็นว่าอาจจะเป็นหนูขึ้นไปไต่บนฆ้องวง เหยียบไม้ตีฆ้องซึ่งวางพาดอยู่กระดกไปถูกลูกฆ้องเข้า จึงให้เด็กลองลงไปเปิดห้องเคาะพิสูจน์ดูก็ไม่ใช่ ทั้งไม่มีเครื่องดนตรีใด ๆ เกิดเสียงเหมือนเช่นนั้นเลย ครั้นลองเคาะเครื่องโลหะอื่นๆ ดูต่อไปอีกก็ปรากฏว่าดัง เหมือนเสียงที่เคาะพระพุทธรูปทรงเครื่อง ต่างพูดเถียงกันว่าทําไมดังขึ้นเองได้

    พ่อก็เอ่ยขึ้นว่า ‘ครูแรงรึ ถ้าครูแรงจะได้ไหว้ครู’ พอพูดขาดคําก็มีเสียงเคาะขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ดังรัวกังวานได้ยินชัดทุกคน

    นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หาเหตุผลมาอธิบายไม่ได้ว่าทําไมจึงเป็นเช่นนั้น จึงคิดไปเสียในทางดีว่าครูมาเตือนสติมิให้เป็นคนประมาทขาดความเคารพครูบาอาจารย์ พ่อก็เลยไหว้ครูตั้งแต่นั้นมาทุกปีจนบัดนี้”

    หม่อมเจ้าหญิงดวงจิตร ทรงเล่าถึงประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับองค์เองว่า

    “เรื่องหนึ่งที่จะเล่าให้ฟัง เกิดขึ้นที่วังท่าพระในระหว่างที่มีงานศพคุณย่า… คืนวันหนึ่งเมื่อพระสวดเสร็จแล้วก็ขึ้นไปอยู่กันบนตําหนักในห้องโถงที่เคยเป็นห้องเสวยของเสด็จปู่ นั่งคุยกัน อยู่หลายต่อหลายเรื่องและในที่สุด ก็วกมาเรื่องผี ที่ใครเคยได้ยินได้พบมาอย่างไรก็เล่าสู่กันฟัง

    ป้าเล่าขึ้นมาว่า ‘ที่นี่มีผีที่ชอบกระเซ้าเด็กด้วยปิดไฟ พี่ๆ เคยโดน เห็นไฟเปิดทิ้งอยู่ ก็เดินไปปิดสวิทช์ ยังไม่ทันถึงไฟก็ดับพึ่บลงเสียก่อน มีทํานองนี้บ่อยๆ’

    วันหนึ่งคุยกันอยู่ ถึงเรื่องนี้ที่ตรงหน้ามุข มีคนพูดว่าไม่เชื่อว่าดับเองได้ เข้าใจว่า คงจะเป็นเพราะสวิทช์หลวมหรือมีใครแอบมาปิดเพื่อล้อเล่น หรือจิ้งจกไต่ไปโดนเข้า คนขี้กลัวก็เลยซัดว่าผีหลอก

    เขาอยากจะมีโอกาสได้พิสูจน์นัก พอพูดจบไฟที่หน้ามุขช่อนั้นก็ดับให้ดูทันที เดี๋ยวปิดดวง นั้นเปิดดวงนี้กลับไปกลับมาเหมือนมีคนมาปิดเปิดสวิทช์ไฟเล่นทั้งๆ ที่มองเห็นสวิทซ์ซึ่ง อยู่ห่างจากที่นั่งกันอยู่สัก 3 เมตรเท่านั้น คนอยากพิสูจน์นั่งตัวแข็งจ้องสวิทช์ไฟตาไม่กระพริบทีเดียว แม้จนเมื่อไฟกลับเปิดเป็นปกติแล้ว ก็ไม่กล้าลุกไปตรวจสอบดูสวิทช์ไฟตามลำพังดังที่โอ้อวดไว้”

    แล้วท่านผู้อ่านล่ะ เคยมีใครมาถามท่านบ้างไหมว่า “เคยเห็นผีไหม” แล้วท่านมีประสบการณ์เรื่องนี้อย่างไร

    อนึ่ง วังท่าพระ สร้างขึ้นในรัชกาลที่ 1 ได้พระราชทานแก่ สมเด็จพระเจ้าหลานเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนกษัตรานุชิต (เจ้าฟ้าเหม็น) ภายหลังเปลี่ยนเจ้านายผู้ครองวัง ดังนี้ ในรัชกาลที่ 2 เป็นที่ประทับของ พระเจ้าลูกเธอ กรมหมื่นเจษฎาบดินทร์ ภายหลังเสด็จขึ้นครองราชสมบัติเป็นรัชกาลที่ 3 จึงพระราชทานแด่ พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าลักขณานุคุณ และพระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าชุมสายในเวลาต่อมา ถึงรัชกาลที่ 5 พระราชทานให้กรมหมื่นอดุลยลักษณสมบัติ (พระเจ้าลูกยาเธอในรัชกาลที่ 3) และพระราชทานให้สมเด็จฯ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานัวิดติวงศ์ (พระราปนัดดาในรัชกาลที่ 3)ในเวลาต่อมา

    ข้อมูลจาก

    หม่อมเจ้าหญิง ดวงจิตร จิตรพงศ์. ป้าป้อนหลาน, สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กันยายน 2541

    ขอขอบคุณ https://www.silpa-mag.com/culture/article_51622
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 11-696x364.jpg
      11-696x364.jpg
      ขนาดไฟล์:
      30.7 KB
      เปิดดู:
      290
    • unnamed.jpg
      unnamed.jpg
      ขนาดไฟล์:
      51.6 KB
      เปิดดู:
      375
  2. hbrsjdat

    hbrsjdat สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 เมษายน 2020
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +46
    หึหึหึ เมื่อคืนก่อนโน้นผมก็เจอผีหลายตัวด้วย คุณว่าในโรงพยาบาลมีผีเยอะไหม? อิอิอิ
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    47,529
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,047
    มีเยอะค่ะ ที่ดีๆเขาจะมาปลุกเวลาเพื่อน(เวรดีก)นอนหลับ มาสกิดบอก"นี่ๆเธอตื่นได้แล้ว หัวหน้าตึกกําลังมา" พอลืมตาก็เห็นหัวหน้าเดินมาแต่ไกลๆเลย
     

แชร์หน้านี้

Loading...