เห็นภาพคลื่นน้ำทะเลซัดท่วมภูเขามาเลย(พี่ที่ทำงานบอกนั่งสมาธิเห็น)

เราไม่มีทีเด็ดอะไรหรอก...แค่เราสามารถรับรู้อะไรในฝันได้...เคยถอดกายในแค่ครั้งเดียวเอง

 

ต้องมีอุบายให้จิตทรงอยู่ในความว่าง
จนมีกำลังพอ จะเกิดปัญญาเห็นเอง
ดังนั้น พันธกิจเร่งด่วนคือเฝ้ามอง
สภาวะที่จิตว่างเนืองๆ ทุกครั้งที่ระลึกได้
ไม่เพ่งไม่จดจ้อง ไม่เคร่งไม่หย่อน

 

เชิญท่านnilakarnเข้ามาตอบต่อจากเมื่อวานเลยนะ

 

ด้านมืด ของจิตใจ
อย่าปล่อยให้มันดำมืดในจิตใจ
ปลดปล่อยออกมาบ้าง
ทำตัวบ้าบอบ้าง แล้วก็กลับไปเป็นคนเดิม
เวปนี้เราให้โอกาศ ผู้อื่นแชร์ประสพการณ์แปลกของตน
เพื่อเป็นอุทาหรณ์เตือนใจ ให้แก่ผู้ศึกษาใหม่
อาจจะมีเพี้ยนๆ บ้าง แต่ก็ไม่ถึงขนาดที่จะสอนไม่ได้

 

ขี้ ลอยน้ำ จิฮับ

ธัมมจักกัปปวัตนสูตร ระบุชัด กุสลต้องหมั่นทำ
มือต้องชุ่มด้วยทาน จิตถึงจะ ผ่อง อล่างฉ่าง
ยังความบริสุทธิให้ syncronize....

นี้ มันด้นเด้า เดาไป

มายง มายา ทำโวหาร

มันถึงได้ ตกงาน มาเกาะพ่อแม่ กิน

กลับไปตัดแปะ นั่นแหละ ถึงจะ รอด ตุตา
แค่นี้ ก้เปน กุสล พอจับต้องได้

พูดธรรมเอง มี แต่เรื่อง เฮียๆ!

 

กางจะเริงปังยา เขามีแต่ ให้ชัดว่า จิตเหนความเปลี่ยนแปลง แม้นจิต แม้นธรรม แม้นกาย แม้น
เวทนา เนืองๆ ...มาว์กๆ

อายนี้ ไปทำตัวเปง กล้องวงจองปิก มะได้กิงหลอก

นกกระสาจ้องปลา ไหวๆ มันยังได้กิน บ้าง

นกเดรัจฉาน มังเก่งก่าเอ๋ง อีก ว่างๆ ว่างๆ จีองเข้าไป

 

คำว่า กรู หรือ มรึง นี่ตัดออกก่อนได้ไหมครับ
ถึงจะเป็นคนใต้ แต่ที่นี่เวปนี้ เราเป็น ภาคกลาง
คำพูดคำจา ก็ขอให้มันเป็น ภาษากลาง ก็แล้วกัน
เวลาคอมเมนต์ ก็ควรจะใช้ภาษาเขียน
ที่เป็น กลาง ไม่ควรใช้ภาษาพูด หรือ
ภาษาพื้นถิ่น หรือ ภาษาพื้นบ้าน แบบตรงๆ
จะทำให้คนอื่น เข้าใจในหลักธรรม คลาดเคลื่อน

 

ให้ท่านฝึกจิตตนเองให้ดีก่อน...แล้วท่านจะรู้เอง...ท่านจะเห็นเอง...อันนี้เราฝึกจิตแล้วจิตมันเห็นตามนี้...จิตมันยอมรับตามนี้...จิตมันเห็นมันรู้ตามจริงแค่ครั้งเดียวนั้นแหละ...จิตมันฉลาดมันรู้แล้ววาง

 

เอกัตคตาจิต ซ่งตี อะจิ ฮับ

โพธิสัตว์ พุกกะพุง เขาต้องได้ ปัญจมฌาณ

อายนี้ ไปตัดแปะ สาวกธรรม แล้ว ไม่ได้รู้เรื่อง
ว่า จิก สาวก มันไม่ได้เศษเสี้ยวของ จิตพุกกะพุง

เอกกัคตา ซ่งตี...!

ถามสิ ปังจามาชาง คือไรฮัป

ฮิวววววส์

 

ผู้ฝึกจิตดีแล้ว...ผู้ฝึกจิตดำเนินถูกต้องและเข้าถึงแล้ว..จะรู้ได้ด้วยตนเอง...เอาเป็นว่าเราไม่ได้ลอกความคิดใครมา...เราเอาจากจิตเราที่มันเห็นตามนี้...เรายังเคยบอกแล้ว...จิตมี2ลักษณะ....จิตดวงธรรมของเรานั้นอยู่ชายฝั่งนั้น...ส่วนจิตสังขารยังต้องขัดเกลาให้ละเอียดสะอาดบริสุทธิ์

 

ผมอยากรู้ว่า การเกิดเป็นมนุษย์นั้นยากมากๆ นั้นจริงๆ หรอ งั้นถ้ายากขนาดนั้น แล้วชาติก่อนหน้านี้ ที่ทำให้เราได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้น เราไปทำบุญอะไรมากันเหรอ หรือว่าไม่ได้ทำบุญแต่ถึงวาระที่จะต้องเกิดมาเป็นมนุษย์ ผมสงสัยอะนะ

 

ท่านไปปฏิบัติดูก่อน...ฝึกจิตให้ดีก่อน..แล้วท่านจะรู้เอง...เราดำเนินจิตผ่านมาแล้ว...ถึงได้เอามาเล่าให้ฟัง...อย่ามัวแต่อ่านตำราสิ...ตำรามันแค่ลายแทง...แต่กายและจิตนี้เป็นขุมสมบัติที่แท้จริง

 

รักทุกคนนะครับ

 

ชาวญี่ปุ่น ศึกษาคำทำนาย ในยุคกึ่งพุทธกาล
แล้วรับรู้ได้ว่า มีแสงแห่งฟากฟ้า ในยามที่จิตใจสงบ
ส่องออกมาให้พวกเค้าเห็น อยู่ทั่วไปหมด
เค้าจึงขึ้นไปที่ ยอดเขาลูกหนึ่ง เพื่อบำเพ็ญเพียร
จึงสัมผัสกับ แสงแห่งมหาเมตตา นั้นได้
จึงได้ลองอธิษฐานของ พลังแห่งแสงทิพย์
ให้มารักษา ภรรยา ของตน ที่ป่วยกระเสาะกระแสะ
เพราะการแพทย์ในสมัยนั้น ยังไม่เจริญ
มีทำไปเรื่อยๆ ภรรยาก็ดีขึ้นไปเรื่อยๆ
จึงเรียกว่า การรักษาโรคทางวิญญานด้วยแสงทิพย์
หรือ การให้โยเรของพระศรีอาริย์ นั่นเอง
ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับ ศาสนา อะไรเลย
เป็นแค่การ รักษาโรค กับ โรคจิตใจ เท่านั้น

 

ใคร เขาให้ เชื่อ สิ่งที่ จิต เข้าไปอาสัย แสดง
ออกมาเปน ขันธ์ แต่ละ

เขาให้ เหนจิตมันย่อม หิวอารมณ์ เข้ากระทบ
ผัสสะ จิตจึงหมุนวน เปน ทุกขสัจจ

เหนจิตแสดงทุกข์

จน ก้าวข้าม จิต และ สิ่งที่จิตสัมปยุต

เข้าไปแจ้ง ธาตุ บางประการ ที่ พ้นขันธ์ พ้นจิต
โดยที่ ไม่ต้องบัญญัติ ว่า คืออะไร โดยที่ อยาตนะ ก้ยังมีอยู่

เพราะหาก บัญญัติได้ แปลว่า จิตมันส่งออก

พลัดตกจาก การสดับธรรมที่พ้นการแสดงจากขันธ์5

ปฐมฌาณพุทธ เปนอันไม่เคยสัมผัส

เอกกัคตา สาวก ซ่งตี เอามา ปะผุ

 

ตำราต้องทำเองครับ..สอนคนอื่นแต่ตัวเองไม่ทำเลย..เถียงกันอยู่ได้..เฮ้อ

 

คิดถึงจิตยิ้ม จิตเยิ้มก็มา555+

 

เมตไตรยโพธิสัตว์ สัจจอธิษฐานบารมี
คือเราเองจ้า

 

ร.8คือเรา เราคือร.8 อานันทมหิดล
อดีตชาติของเราเมื่อ2ชาติที่แล้วครับ

 

ท่านก็อิงตามตำราอยู่ดี...ท่านไม่ลองปฏิบัติดูก่อนล่ะ....พระพุทธเจ้าก็ตรัสไว้แล้วว่าอย่าเชื่อคำสอนของพระองค์...อย่าเชื่อคำสอนครูบาอาจารย์...ผู้มีปัญญาจะระลึกได้ว่า..ให้ปฏิบัติด้วยตนเอง..รู้ด้วยตนเอง...เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งด้วยตนเอง....คนโง่เท่านั้นที่ยกเอาตำรามาอ้างอิงแย้งคนอื่นแบบไม่เห็นตามจริงด้วยตนเอง