สารพันปัญหา ตอบโดยคุณ nopphakan

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย รูปติดบัตร, 26 พฤศจิกายน 2016.

  1. Kanittha12

    Kanittha12 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2017
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +22
    ขอบพระคุณมากเลยคะ
     
  2. Kanittha12

    Kanittha12 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2017
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +22
    ขอบพระคุณมากเลยคะ
     
  3. วงกรตน้ำ

    วงกรตน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2015
    โพสต์:
    810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    12
    ค่าพลัง:
    +2,432
    บางทีก็ถูกปิด แล้วก็ออกอัตโนมัติ ...
     
  4. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    สวัสดีค่าพี่นพ และทุกๆคน
    วันนี้ไม่มีอะไรมากในคำถาม
    แต่มันค้างแรงและคันยิบๆด้วยความข้องใจ
    พี่นพช่วยฟังคลิปนี้หน่อยค่ะ
    หนูรู้ว่าพี่รู้ว่าอิน้องคันเรื่องอะไร ไม่เข้าใจ๊เล๊ย

     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    ไม่ฟังหรอกแต่จะเล่าเลยแล้วกันเนาะ.......
    การกระทำอะไรก็ตาม ในเรื่องเกี่ยวกับนามธรรมต่างๆ
    ในระดับที่ทำให้เกิดการรู้เห็นพิเศษอะไรก็ตาม
    หรือบางทีก็เรียกว่า การเริ่มต้นของญานวิถีนั้น
    สามารถเกิดขึ้นได้กับมนุษย์ทุกคนครับ
    เพียงแต่ว่า จะต้องเกิดขึ้นหลังจากที่จิตได้เคย
    เกิดการคลายตัวมาบ้างแล้ว
    ไม่ว่าจากการเจริญสติ เดินปัญญา หรือมีสมาธิมาหนุนส่งบ้าง
    ซึ่งจะสร้างภูมิต้านทานทางจิต ภูมิต้านทานทางกาย
    และภูมิต้านทานพลังงานภายนอกที่เข้ามา จากการไปรับรู้ของจิต

    ไม่งั้นนอกจะไม่มีภูมิต้านทางสิ่งภายนอกที่มาเชื่อมที่จิต
    ซึ๋งจะส่งผลให้กระทบที่แสดงออกมาล้นทางกายแล้ว...
    แม้ว่า จะทำให้มีสัมผัสทางนามธรรมดีขึ้นอย่างประหลาด
    แต่หาใช่การรู้ด้วยจิตแห่งตนเองไม่..คือรู้แบบไม่เข้าใจอะไรนั่นหละ
    อธิบาย แนะ บอก สอนไม่ได้นั่นเอง..
    แต่เป็นรู้แบบการผุูกโยงจากภายนอกให้รู้เพียวๆ และถ้าไม่มีกำลังสติพอ
    ก็จะซึมหรือไปยึดสิ่งภายนอกเหล่านั้นจนกลายเป็นตัวเอง(ขาดปัญญา)
    ทำให้กลายเป็นบุคคลที่ ทำให้สังคมมองว่าตนเองแปลกๆ(คล้ายๆบ้า)

    สิ่งเหล่านี้มันเปิดได้ คือ ใจที่คลายตัวจากความยึดมั่นถือมัน
    ด้วยองค์ประกอบจาก กำลังสมาธิที่คอยหนุน กำลังสติที่เพียงพอ
    ปัญญาที่เดินมาบ้างแล้วเพื่อกันการยึดติด ภูมิต้านทานร่างกาย
    ที่เพียงพอต่อพลังงานภายนอก ร่วมทั้งภูมิต้านทานทางจิตที่ดีระดับหนึ่ง....
    ทางลัดนะมี แต่ต้องดูว่า ตัวเองแน่พอหรือเปล่า
    ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน สร้างตนเองให้พร้อมดีที่สุด..
    พวกนี้ยิ่งไปรับพลังงานภายนอกมา ถ้าเจอแบบฝั่งเข้าในความทรงจำ
    จะกลายเป็นคล้ายๆคนเพี้ยนได้นะ เพี้ยนแบบแก้เดี่ยวนั้นก็ไม่ได้ด้วย(เหมือนคนถูกผีเข้าทั่วไป)
    ต้องรอให้หมดวาระก่อนถึงแก้ได้ด้วยนะ จะบอกให้
    ไม่งั้น จะตายเอาได้ง่ายๆแบบไม่รู้ตัว...
     
  6. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    ว้าว

    คือเคยได้ยินเรื่องเขาสมโภชน์นะคะ
    โดยส่วนตัวเคยดูคลิปที่เขาเต้นเร่าๆร้องห่มร้องไห้แล้วรู้สึกกลัว (ข้าพเจ้าไม่พร้อมจะทำอะไรอย่างนั้น)
    เห็นว่าเขาเรียก พิธีเปิดกรรม อะไรทำนองนี้แหละคะ
    บางคนเขาก็ว่าเห็นนั่นนี่(เอิ่ม จะอยากเห็นเพื่อ?)
    บางคนไม่เห็นไรในกอไผ่
    บางคนกลับจากพิธีนี้ก็ว่ามีของแถมแบบพิเศษกลับ
    (ไม่เอาน่ะของแถม) บางคนว่าเขาแย่กว่าเดิม
    บ้างรู้สึกดีกว่าเดิม แต่อิน้องมิอาววววว

    ที่พี่นพพูดนี่นึกถึงหนังจีนกำลังภายในธาตุไฟแตกซ่านท่านจอมยุทธเลยสติแตก เย้ย ไม่ใช่แระ

    แต่อย่างนี้คนที่อยากฝึกอะไรนี้ต้องคิดดีๆซิน่ะ
    แต่คนบางคน(ได้ยินมากะหู)ใช้คำว่าถ้าชอบลองของให้ไปได้เลย

    แล้วคนที่อยากไปเส้นทางนี้ต้องประเมินตัวเองยังไงคะที่จะรู้ว่าเดินไปบนเส้นทางนี้อย่างปลอดภัย?
    ต้องเป็นคนประมาณไหนถึงโอเค
    คนแบบไหนควรอยู่ห่างๆ

    แล้วถ้าเกิดบ้าๆบวมๆไปแล้วต้องแก้ยังไงคะ?

    ขอบพระคุณค่าที่ช่วยตอบคำถาม
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    จริงๆไม่มีอะไรมากหรอก ควรมีองค์ประกอบ
    เพื่อความปลอดภัยทั้งกายและจิตในอนาคตด้วยการ
    เจริญสติให้ต่อเนื่อง จนถึงระดับที่จิตคลายตัวได้
    หรือจิตแยกรูปแยกนามได้
    และเดินปัญญาให้ได้ก่อนอีกซักระยะหนึ่ง
    จนกระทั่งเกิดกิริยาที่จิตคลายตัวเองได้แบบธรรมชาติ
    ในระหว่างวันบ้าง
    ตรงนี้เพื่อให้ความเข้าใจทางนามธรรมเราดีพอก่อน

    ที่นี้จะฝึกอะไรก็จะสำเร็จได้ไม่ยาก เพราะสภาวะ
    ระหว่างทางมันเป็นนามธรรมทั้งนั้น
    ดังนั้นสติทางธรรมจึงจำเป็นอย่างขาดไม่ได้
    เพราะมันจะเป็นตัวที่จะไปเข้าใจสภาวะนามธรรมต่างๆ

    แต่คนฝึกมักคิดว่าไม่หล่อไม่เทห์ ถ้าพูดเจริญสติ
    เพราะ ไรแว้ๆๆๆๆๆ กระผม ดิฉัน เดี้ยน
    เคยมีสัมผัสมามากมายก่ายกอง(แต่ไม่รู้หรอกว่าเห็นได้ไง
    หรือเพราะอะไร หรือวัถตุประสงค์ที่เห็นคืออะไร
    อยากรู้แค่สิ่งที่เห็นคืออะไร)
    บอกไปแล้วเหมือนคิดหาว่าไม่เก่ง ประมานนี้
    เลยฝึกสำเร๊จถึงระดับใช้งานได้ช้า
    แม้พอใช้ได้บางส่วน ผลก็ไม่ดี เหนื่อย
    มีลีลาท่าทางประกอบการใช้งาน มากมาย
    เผลอๆจะหลงตัวเองเอาง่ายๆ
    ทั้งๆที่ไม่มีความสามารถแสดงได้ ใช้งานได้จริงๆ

    ส่วนกรณีทางลัดที่ไปรับขันธ์มา ถ้า
    ถูกแทรก ต้องรอให้หมดวิบากก่อนค่อยแก้
    ไปแก้เลยเหมือนคนโดนผีเข้าไม่ได้นะ
    แก้แล้วก็มาเริ่มเจริญสติใหม่นั่นหละ ไม่มีไรหรอก

    แต่ถ้าเราพอมีสัมผัส มีอะไรได้บ้าง
    ก็ควรดูตัวเองตามองค์ประกอบที่กล่าวว่า
    แข็งพอหรือยัง
    ถ้ายัง ก็อยู่ห่างๆ สำนัก ตำหนัก ต่างๆที่มักหลอกว่า
    ถ้าไปรับ ไปฝึกแล้วเราจะวิเศษอย่างโน้นนี่นั้นไว้

    ธาตุไฟแตก คือมันร้อนที่ตัวจิตที่เป็นนามธรรม
    ร้อนออกมาจากภายในจิตเลย
    ไม่ใช่ร้อนกายที่น้ำดับได้
    ไม่ใช่ร้อนใจเพราะอารมย์
    ที่หาอะไรอย่างอื่นทำก็ลืมได้

    ส่วนมากที่ธาตุไฟแตกเพราะไปเพียวกสิณไฟ
    โดยที่ยังไม่เคยเอาน้ำมารวมให้ได้ก่อนที่จะใช้งาน
    ร้อนที่จิต ดับอย่างน้อยๆ ๓ วันเลยนะถึงเอาอยู่
    พอนึกออกยังทำไมถึงได้ธาตุไฟแตก
    เพราะดันทุรังใช้งานไฟเพียวๆนั้นหละ
     
  8. Nagamanee

    Nagamanee Manassa

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    526
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,581
    เล่าให้ฟังเล่นๆ แต่ชอบฟังมากๆค่ะ อิอิ

    ชอบ ลม กับ ไฟ ค่ะ แต่ไม่รู้หรอกค่ะฝึกกันยังไง 5555 แค่เข้ามาดูผู้รู้เขาฝึกฝนวิชากันค่ะ

    มาเล่าสู่กันฟังบ่อยๆนะคะ ขอบคุณค่ะ
     
  9. devotee57

    devotee57 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2014
    โพสต์:
    228
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +556
    ใครฝึกไรเหรอ คิๆๆ
    ที่อยู่ไม่มีไรดี ขี้เกียจที่1
    จะหลับเองทั้งทียังหลับไม่ค่อยได้เลย
    ต้องฟังเสียงหลวงพ่อเทศน์(ยังกะฟังเพลงกล่อมเด็ก หลับได้หลับดีซันแน็กซ์ยังสู้ไม่ได้)
    อนาคตดี๊ดีอยู่ยังไงชอบกล:confused:

    ที่ถามพี่นพนี่ไม่ใช่อะไรหรอกค่ะ
    เห็นคนสมัยนี้(พูดซะตัวเองดูแก่)ชอบลองนั่นนี่
    บางทีทำไรตามกระแสโดยไม่หาข้อมูลดูหน้าดูหลัง
    เป็นไรไปก็เป็นภาระคนรอบข้างเปล่าๆ
    คนรอบข้างเองก็อาจไม่เข้าใจ หรือเข้าใจแบบผิดๆ

    ที่อยู่โลกก็ยุ่งจะแย่อยู่แล้ว ลดภาระความยุ่งเหยิงให้โลกบ้างก็น่าจะดี เพื่อข้อความนี้จะไปสะกิดติ่งคันของบางคนให้ลดอาการคันลงได้บ้าง(ไม่ใช่ซีม่าโลชั่นก็หายคันได้ ตึ่งโป๊ะ):D

    ขอบพระคุณพี่นพและทุกคนค่า
    กู้ดไนท์หลับฝันดีฝันถึงผีตัวโต๊โต
     
  10. maxmi

    maxmi แม็กคับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2017
    โพสต์:
    479
    ค่าพลัง:
    +1,205
    ดีคับคุนนพ ถ้าเราโดนด่าแล้วเราโกรธเราควรทำยังไงดีคับ ทำยังไงจะไม่ต้องจองเวรจองกรรมกันอ่ะคับ
     
  11. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    โทสะโมหะ โลภะมีอยู่ในจิต
    มันแอบแทรกในที่ว่างของจิตเรา
    ตั้งแต่เราเกิดแระ เข้าใจไว้ก่อนนะ
    วิธีที่ดีคือ หาอุบายไม่ให้มันขึ้นมา
    ด้วยการทำให้จิตเห็นว่าการโกรธไม่ดี
    ต่อไปแม้ภายนอกเหมือนโกรธ แต่ใจ
    มันไม่โกรธด้วย เป็นเพียงกิริยาของกาย
    ด้วยการ

    ๑ รู้ว่าโกรธ(ความจริงนะดี กว่าไปข่ม ไปกด
    ไปบ๊องหูคืน) แต่แค่รู้แค่ส่วนฝ่ายอารมย์
    แล้วสังเกตุว่ามันส่งผลต่อกายอย่างไรร้อนไหม ตึงไหม คันไหม
    และส่งผลต่อจิตต่อใจอย่างไรหงุดหงิดไหม ของขึ้นไหม อยากกระทืบมันไหม แต่ให้รู้เฉยๆ
    ยังไม่ต้องไปคิดอะไรร่วม เช่น อยากกระทืบก็รู้เฉยๆไม่ต้องไปคิดว่าจะใช้เท้าไหนกระทืบก่อนเป็นต้น(ตัวอย่างๆ)
    และมาสังเกตุว่ามันดับไปตอนไหน
    (ต้องสังเกตุไม่งั้นไม่ทันและจะลืม เช่นมีคนโทรมา มีสาวสวยเดินผ่านฯลฯ)

    ๒ แล้วถ้าโดนด่าอีก
    ต่อมาก็รู้อารมย์โกรธอีก ก็รู้ไป จะส่งผลต่อกายต่อใจอย่างไรช่างมัน แล้วสังเกตุว่าโกรธเพราะอะไร(มันด่า มันเห่า มันข่วน มันกัด) และดับเพราะอะไร(จะรู้พร้อมดับตอนไหน)
    และ ๓ ต่อมามีเหตุโกรธอีก สังเกตุโกรธเพราะอะไร ดับเพราะอะไรที่รู้พร้อมดับตอนไหนและ้พิ่มระยะเวลานานเท่าใดไปอีก.

    แบบนี้ยังเป็นการไปสู่ปัญญาญานได้ ต่อไป
    โดยไม่ต้องมานั่งเกร็งกล้ามเข้าสมาธิระดับสูงให้เมื่อยก้น. เมื่อเจอเหตุนั้น จิตจะไม่ดึงความโกรธแล้ว เพราะจะรู้ว่ามันเป็นแค่โปรแกรมการปรุ่งแต่งอย่างหนึ่ง.

    แม้ต่อไป มันด่า ถ้าเราเดินไปบ๊องหูมัน
    ก็จะเป็นแค่กิริยาที่ใจเราไม่ได้เกิด ไม่ได้ปรุง
    ไม่ได้ดึงอารมย์โกรธขึ้นมาได้เองครับ

    ปล. แก้ที่ใจใช่ภายนอก อย่าตัดสินอะไรจากสิ่งที่เห็น ได้ยิน ได้ฟังมา(เท่ห์ไหม ๕๕)
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    เคร นี้คือเล่าให้ฟัง ผสมบ่นเนาะ๕๕
     
  13. maxmi

    maxmi แม็กคับ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2017
    โพสต์:
    479
    ค่าพลัง:
    +1,205
    ขอบคุณคับ
     
  14. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    สวัสดีครับท่านนพ
    ไม่ได้เข้ามาทักทายท่านนานเลย ตอนนี้ก็กำลัง ขุดบ่อ ปลูกต้นไม้ตามที่ท่านนพกล่าวไปเรื่อยๆครับ หลายๆส่วนก็ค่อยๆชัดเจนขึ้นทีละน้อยครับ เห็น รู้ ผู้รู้ ความคิด เราคิด ค่อยๆชัดเจนมากขึ้นครับแต่ก็ไม่ได้ตามเหมือนเมื่อก่อนยกเว้นบางเรื่องที่เราต้องการรู้ครับถึงเข้าไปร่วมด้วย ตอนตอบคำถามนี้เหมือนกับมันไม่มีผู้รู้ดูไม่มีอะไรเลยในหัว ยิ่งก่อนจะตอบคำถามนี้ผมยังลืมไปเลยว่าจิตคืออะไร ทำหน้าที่อะไร อยู่กับตัวเองแบบง่ายๆสบายๆ ตอนนี้ทุกเช้าตื่นมา เราก็จะวางความรู้สึกไว้ที่ปลายจมูกเสมอ และรู้สึกเหมือนพลังงานซึมออกมาจากร่างกายตลอดช่วงเช้าที่เรารู้ลมครับ
    เพิ่มเติม รู้สึกชัดที่แขน ขา เหมือนยุบยิบ แต่ไม่ได้คันหรือรำคาญนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 พฤศจิกายน 2017
  15. nakarith

    nakarith สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2017
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +45
    สวัสดีครับ คุณนพ
    ผมอยากรู้ว่าผมควรปฏิบัติแบบไหน และใช้คำบริกรรมใด ตอนนี้ ใช้การวางจิตที่หน้าผาก และใช้พุทโธ

    และพระเครื่ององค์ไหนที่ผมควรบูชาเป็นหลัก ครับ
    ขอบคุณมาก
     
  16. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    อาปาฯครับ
    และองค์ที่สวมชฎาครับ
     
  17. nakarith

    nakarith สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ตุลาคม 2017
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +45
    upload_2017-11-9_7-5-42.png upload_2017-11-9_7-7-55.png
    องค์ไหนครับ หาเจอแค่ 2องค์
    ขอบคุณครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. คนโง่โง่

    คนโง่โง่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2012
    โพสต์:
    483
    ค่าพลัง:
    +302
    อ่าลืมไปท่านนพ สิ่งที่ผมกล่าวเป็นประโยค บอกเล่าสู่กันฟังมากไปหน่อย
    ตั้งเป็นคำถามท่านนพดีกว่า ช่วงที่เรารู้ลม(จริงแล้วไม่รู้สึกถึงลม)โดยวางสัมผัสที่ปลายจมูกอย่างที่ท่านนพกล่าว โดยปล่อยให้ทุกอย่างดำเนินไปตามรูปกาย ไม่ว่าจะกิน นั่งยืน เดิน เล่นเกม เราก็จะสัมผัสได้ว่า ตามร่างกายเหมือนมีอาการยุบยิบ แต่ไม่ได้เป็นที่ผิว ยิ่งต่อเนื่องนานๆก็จะชัดเจนมากยิ่งขึ้นครับ อาการแบบนี้คืออะไรเหรอครับท่านนพ
     
  19. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
  20. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,041
    ลักษณะของจิตที่เริ่มเข้าสู่การรับรู้สัมผัสได้ในด้านพลังงาน ถือว่าเป็นเรื่องปกตินะ...
    แต่ที่เป็น คือภายในไปรับรู้ภายนอก..แต่ว่าเราอาจจะยังไม่ถนัดในด้านการถ่ายเทพลังงาน..
    ผลมาจากวิธีการทำสมาธินั่นหละครับ ถือว่าดีนะครับ..ที่นี้การอยู่ต่อเครื่องใช้ไฟฟ้านานๆมันก็จะ
    มีกระแสที่จากเครื่องมาสู่ภายนอกเช่นกัน เมื่อก่อนเราอาจไม่รู้สึก แต่ปัจจุบันจะเริ่มส่งผลได้ก็เรื่องปกติอีกเช่นกัน..
    แต่ให้สังเกตุเพิ่มอีกอย่างคือ ถ้ามัน ยุบยิบบริเวณ หน่องลงไป และ ใต้ข้อศอกลงไป
    จะเป็นพลังงานที่มากจากฝ่ายที่ต้องการกำลังบุญ กรณีแบบนี้ ต้องใช้น้ำร่วมในการ
    อุทิศส่วนกุศลนะครับ เพราะจะได้มีตัวช่วยในการกำลังบุญและทำให้เค้ารับได้ง่ายด้วย...
    ส่วนการอยู่กับเครื่องใช้ไฟฟ้า นานๆ เราสามารถแก้ได้ ด้วยการไปยืนเท้าเปล่าบนดิน
    หรือหญ้าก็ได้ครับ เด่วถ้าสะสมนานๆ จะทำให้เรารู้สึกตึงๆศรีษะได้ครับ
    ซึ่งการเหยียบหญ้า เหยียบดินนั้นสามารถใช้ถ่ายเทพลังงานภายนอกส่วนเกิน
    ที่มาเกาะร่างกายเราได้อีกทางหนึ่งครับ...
    ปล.ไม่มีอะไรครับ ถ้าฝึกได้แล้วรับรู้อย่างนี้ได้ ถึงจะถือว่าดีครับ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...