เพราะอะไร

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย Chollada.Saowakarn, 17 กรกฎาคม 2017.

  1. Chollada.Saowakarn

    Chollada.Saowakarn สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +4
    รบกวนขอความคิดเห็นผู้ที่มีความรู้และชำนาญเรื่องกฎแห่งกรรมนะคะ อยากทราบว่า เพราะอะไร กรรมจึงไม่ส่งผลในชาติปัจจุบันที่กำลังดำเนินอยู่แต่ เรามักจะได้ยิน คำพูดอ้างอิงว่า นั่นเป็นเพราะกรรมเก่าที่เคยทำมาในอดีตชาติ หรือนี่เป็นเพราะกรรมที่ชาติที่แล้วทำไว้ ในเมื่อเราทุกคนเกิดมาไม่มีใครสามารถจดจำเรื่องราวอะไรได้ในชาติไหนๆ ถ้าแบบนั้นเพราะอะไร กฎแห่งกรรมถึงได้มีการกำหนดว่าสามารถข้ามภพข้ามชาติได้
     
  2. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    กฎแห่งกรรมมันซับซ้อนมากเลยครับ ลำพังเราต้องกินทุกวันต้องใช้หนี้สัตวไม่รู้เท่าไหร่ กรรมจากคนนี่ยิ่งไปกันใหญ่ พูดมากไม่ได้ สรุปเราต้องมีพลังจิตตามชื่อเวบครับเอาไปปราบมารให้หมด
     
  3. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    เขากำลังปฏิรูประบบวิญญาณอยู่อะ พูดมากไม่ได้ เพราะกรรมจากคนหนักจริงๆ จะเห็นข่าวคนตายทุกวันตามนิวเวริลออเดอร์ ผมก็เสี่ยงๆ เหมือนกัน อายุหลัก 40 ยัง ถ้ากรรมยังไม่ส่งผลแสดงว่าเริ่มหมดบุญ
     
  4. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    เพื่อนของอัสดงสอนว่า

    เริ่มให้ตักน้ำเกลือมาใส่ให้เต็มครึ่งแก้ว

    แล้วเติมน้ำเปล่า ลงไปอีกครึ่งแก้ว

    หากยังดื่มไม่ได้ เพราะเค็มอยู่

    ก็เติมน้ำเปล่าลงไปเรื่อยๆ

    จนกว่าจะดื่มได้

    น้ำเปล่าคือ บุญที่เราสร้าง
    ส่วนน้ำเค็มคือ สภาวะกรรมของเราเอง

    หากท่าน หนีกรรม ก็ให้ใช้วิธีนี้

    แต่หากจะเผชิญหน้าความจริงให้ได้
    ก็หยุดเติมน้ำเปล่า ลงในแก้วน้ำเค็ม
    แล้วดื่มแต่น้ำเค็มนั่นค่ะ
     
  5. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,426
    ค่าพลัง:
    +35,044
    จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
    หมวดหมู่ศาสนาพุทธ
    อจินไตย แปลว่า สิ่งที่ไม่ควรคิด อจินไตย มาจากคำว่า อะ + จินไตย (พึงคิดพิจารณา) แปลว่า ไม่พึงคิดหริอจำแนกตรรกะลงไปได้ หมายถึง สิ่งที่ไม่อาจเข้าใจได้ด้วยตรรกะสามัญของปุถุชน มี 4 อย่างได้แก่

    • พุทธวิสัย วิสัยแห่งความมหัศจรรย์ของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย
    • ฌานวิสัย วิสัยแห่งอิทธิฤทธิ์ของผู้มีฌาน ทั้งมนุษย์ และเทวดา
    • กรรมวิสัย วิสัยของกฎแห่งกรรม และวิบากกรรม คือการให้ผลของกรรมที่สามารถติดตามไปได้ทุกชาติ
    • โลกวิสัย วิสัยแห่งโลก คือการมีอยู่ของสวรรค์ นรก และสังสาระวัฏ[1]
    ในทางพระพุทธศาสนาไม่แนะนำให้คิดเรื่องอจินไตย เพราะวิสัยปุถุชนไม่อาจเข้าใจได้โดยถูกต้องถ่องแท้ ทั้งเพราะความเข้าใจไม่ได้ในฐานะที่เป็นของลึกซึ้ง เป็นเรื่องทางจิต หรือเป็นเรื่องที่ไม่สามารถหาคำตอบที่สิ้นสุดได้ ถ้าคิดมากจริงจังในการหาคำตอบเหล่านั้นจากการคิดเดาเอาด้วยตรรกะเองจึงอาจกลายเป็นคนบ้าได้ อจินไตยในเรื่องทางจิตจึงเป็นเรื่องที่รู้ได้ด้วยการบรรลุธรรมชั้นสูงเท่านั้น


    ข้างบนนำมาให้อ่านก่อนครับ
    เพราะว่า แม้ว่าจะอยู่ในพุทธศาสน ปัจจุบันนี้เรากลับพบ
    ในสังคมปัจจุบันนี้ กลับมีผู้ที่ได้พยายามกล่าวถึงเรื่องทำนองนี้อยู่
    โดยเฉพาะกรรมวิสัยและโลกวิสัย ทั้งๆที่ตนไม่ได้มีความ
    สามารถรับรู้และเข้าถึงด้วยตนเอง แถมยังเอาเรื่องแบบนี้
    มาในเชิงของ ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ
    ดังนั้นถ้า จขกท เจออย่างนี้ ก็ให้อย่าสนใจนะครับ

    แต่ในมุมที่ถาม
    ลองอ่านที่จะอธิบายให้ฟังก่อนนะครับ
    ให้เราลองเปลี่ยนคำว่า กฏแห่งกรรม เป็นคำว่า กระแสวิบากนะครับ
    เป็นเป็นนามธรรม เป็นคลื่นพลังงานอย่างหนึ่ง เรียกว่า กระแสคลื่นอย่างหนึ่ง
    นะครับจะง่ายดี ที่ปกติไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า
    และคำว่า วิบาก ในที่นี้ คือกระแสที่จรเข้ามาครับ
    จรก็คือ สามารถเข้ามาได้ ออกไปได้
    เรื่อยๆ คล้ายๆการเดินทางไปมาได้นั่นหละครับ

    และกระแสที่จรเข้ามา
    ก็แยกเป็นกระร้อน(พุทธเราว่าเป็นบาปหรือความรวมคือทุกเรื่องที่อกุศล
    เช่น ความคิดโกรธ เป็นกระแสร้อนอย่างหนึ่ง เป็นต้น)
    และกระแสเย็น(พุทธเราว่าเป็นบุญหรือความรวมคือทุกเรื่องที่เป็นกุศล
    เช่นมีเมตตาต่อผู้อยากไร้ เป็นต้น)

    ที่นี้ จิตก็เป็นนามธรรมเหมือนกัน เป็นแหล่งที่สามารถสร้าง เก็บ รวบรวม
    กระแสต่างๆ คลื่นต่าง ให้เกิดขึ้นได้ เป็นแหล่งเก็บรวบรวม
    พลังงานอย่างหนึ่งที่ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่า
    เก็บได้มากน้อยแค่ไหนครับ ไม่ว่าจะเป็นกระแส(เช่น โกรธ หรือ อกุศล)
    หรือกระแสเย็น(เช่น บุญหรือกุศลต่างๆ)

    ที่นี้ลองสังเกตุดูนะครับ ว่ากระแสเหล่านี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร
    หลักๆเลย ก็จาก ตา หู จมูก ลิ้น กาย และใจเรานี่หละครับ
    และต้องเข้าใจอย่างหนึ่งนะครับ จิตเราเวลาเกิดกระแส
    มันจะเกิดได้ทีละอย่างครับ เช่น ตอนนี้ร้อนก็ร้อน ตอนนี้เย็นก็เย็น
    มันจะไม่เกิดร้อนเย็นพร้อมกัน ดังที่เรารู้ว่า คนเราจะคิดได้ทีระเรื่องนั่นหละครับ

    เช่น ตาเห็น ดึงเข้ามา ปรุงแต่งจนเกิดเป็นกระแสร้อนหรือความโกรธ
    พอมองภาพออกไหมครับ.....

    ที่นี้ทำไมบางคน ที่ จขกท ว่าทำไมบาปที่เค้าเคยทำไมยังไม่ส่งผล
    ก็เพราะว่า จิตเค้าไม่ดึงเข้ามาและปรุงแต่ง กับสิ่งที่เค้าเคยกระทำไป
    ในสิ่งไม่ดีเรื่องนั่นเองครับ และถ้าตอนนี้จิตเค้า ยังกุศลอยู่ ก็แสดงว่า
    จิตเค้ามีกระร้อนอยู่ แต่ไม่มีการดึงมาปรุงกระแสร้อนที่ตนเคยทำมา
    จิตมันจึงยังไปในเรื่องที่ยังร้อน ณ ปัจจุบันอยู่ครับ

    ที่นี้มันข้ามภพข้ามชาติอย่างไร อยากให้ตัดเรื่องชาติเรื่องภพออกไปก่อนครับ
    ให้มาดูในเรื่องของพลังงานแทนครับ
    จิตเป็นนามธรรม เป็นแหล่งพลังงานอย่างหนึ่ง
    แล้วมันก็เป็นคลื่นอย่างหนึ่ง ถ้าเป็นคลื่นมันก็ย่อม
    มีความถี่เฉพาะของมันเองครับ เหมือนคลื่นส่งสัญญาน
    วิทยุโทรทัศน์โทรศัพท์ที่เรามองไม่เห็น แต่มันมีอยู่ และเมื่อจิต
    หรือเสมือนเป็นเครื่องส่งยังคงอยู่ ก็เหมือนคลื่น
    วิทยุโทรทัศน์โทรศัพท์ที่ยังส่งสัญญานอยู่เรื่อยๆนั่นเองครับ
    พอเข้าใจกระบวณการทำงานของคลื่นหรือยังครับ

    ปล.จริงแล้วมันไม่ได้มีการกำหนดอะไรข้ามภพข้ามชาติอะไรเลยครับ
    เพียงแต่ว่า มันเป็นธรรมชาติของมันอย่างนั้นเองครับ มองเทียบ
    เป็นคลื่นนะครับ เราจึงเห็นได้ว่า ทั่วไปใครก็ตามที่เชื่อว่า
    กรรมกำลังส่งผลนั้น จึงให้ไปทำบุญเยอะๆ เพราะเอากระแสเย็น
    จากบุญตรงนี้ เข้าไปแทนกระแสร้อน ที่จรเข้ามานั่งเองครับ
    จริงๆมันมีเหตุมีผลในตัวมันเองอยู่ครับ เรื่องปกติไม่มีอะไรหรอกครับ
    พุทธเราถึงได้เน้นเรื่องปัญญา เพื่อให้รับรู้ตามความเป็นจริง
    ด้วยใจที่เป็นกลาง พอใจเราเป็นกลาง ไม่ยึดทั้งกระแสร้อน
    และกระแสเย็นได้ แล้ว จิตก็ถึงจะปล่อยวางยังไงหละครับ
    การปล่อยว่างนั้น ก็เหมือนการค่อยๆปิดตัวส่งคลื่นสัญญาน
    ที่ออกจากตัวจิตของเรา ที่จะส่งคลื่นต่างๆนั่นหละครับ....
    พอเข้าใจเนาะ....
     
  6. Amyadh

    Amyadh สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    สั้นๆ
    เพื่อให้รับกรรมได้เต็ม100%. เพราะถ้ารู้, จำได้ จะเกิดการเลี่ยง,ปัดพลังงานสะท้อนกลับ
    เมื่อเราได้กระทำอะไรกับใคร โดยที่เจ้าตัวไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าจะถูกกระทำ เราก็จะรับผลกลับสะท้อนเช่นนั้นเหมือนกัน
    ...
    ..
    .
    กฏแห่งกรรม หากเทียบกับกฏฟิสิกส์
    แรงซ้าย เท่ากับแรงขวา แน่นอนว่าแรงขวาย่อมเท่ากับแรงซ้ายเช่นกัน
    กฏพื้นฐานของแรง ฟิสิกส์หมายถึงธรรมชาติ
    ปล. มันก็เป็นของมันโดยปกติ ฝืนเท่าไหร่ พลังงานสะสมยิ่งเพิ่มเท่านั้น
    เพราะงั้น. ปลง และยอมรับมัน อยู่กับมันให้ได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กรกฎาคม 2017
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ฟังดีๆ หน่าคร้าบ

    กรรมที่กำลังส่งผลให้เปนไป ส่วนมากเปน เศษกรรม

    ส่วนการเสวยกรรม ตามผลใหญ่ๆ ส่วนใหญ่จะ
    รับกันไปแล้ว เช่น ไปเกิดเปนเทวดา พระพรหม
    มาแล้ว เสวยบุญบาปจนหมดแล้ว ก้หมดบุญ
    มาเกิดเปนคน

    เศษกรรม เท่านั้นที่ตามให้ผลต่อ และไม่มีหมด

    เน้นว่า เศษกรรม คือ การได้รับกรรมต่อไป
    ไม่มีวันหมด ตราบใดมีขันธ์ ตราบนั้นเสื่อม
    เจริญสลับกันไป


    ยกตัวอย่าง พระพุทธองค์ ครั้งยังเปนโพธสัตว์
    ได้ไปห้าม แม่โคท้องอ่อน ไม่ให้กินน้ำแก้
    กระหายจากการกินน้ำโคลนตม

    เศษกรรม ที่ต่อให้เปนมหาศาสดา ก้หนี
    กรรมให้ผลไม่ได้ ทำให้ตอนเสด็จปรินิพพาน
    พระองค์กนะหายน้ำ แต่ไม่ได้ทาน พระอานนท์
    ไม่ยอมตัก เพราะน้ำขุ่น ถีงสามรอบ

    ดังนั้น

    ทำความเข้าใจเรื่องกรรมใหม่ อย่าไปเสียเวลา
    นั่งนับเวลา จำนวนครั้ง

    พึงทราบว่า ไม่มีวันจบสิ้น เมื่อ ขันธ์ห้าโดยรอบ
    สมชีวตา กรรมก้ให้ผลทันที!!!

    พระโมคคัลลานะ มีฤทธิ์มาก ตายอนาถ ถูกทุบ
    จนร่างกายแหลกเหลว

    พระมหากัสสป ตายแล้วต้องรอ พระศรีอารย์
    มาเผา และพระสมณโดม ต้องรอท่านมาจุดไฟ
    เผา ฟังดูดีมีราชศักดิ์ แต่จริงๆ เปนเวรกรรมที่
    ผูกเอาไว้ ตอนที่ตนเกิดเปนช้าง แล้วพระศรีอารย์
    เกิดเปนควาญช้าง พระสมณโคดมเปนกษัตริย์
    แต่นึกอยากท้าแข่งบารมีกัน ให้ช้างจับแท่งเหล็ก
    เผาไฟ ห้ามปล่อยจนกว่าจะตาย

    ปล. เคสพระมหากัสสป มีผลต่อส่วนที่เปน ขันธ์
    ยาวนานข้ามพุทธันดร ไม่ได่ไปส่งผลต่อ
    วิมุตติขันธ์ที่ปรินิพพานไปแล้ว
     
  8. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    พระโมคคัลลนะ มีฤทธิมากแค่ไหน ก้แก้กรรมไม่ได้

    มารดาของตนไปเกินเปนเปรต ก้ไม่สามารสอน
    ธรรม หรือ แผ่กุสลใดๆให้ได้

    ต้องปรินิพพาน ด้วยอาการ คนอกตัญญูต่อบิดามารดา

    ไม่ใช่แค่ตายอนาถอย่างเดียว

    ยังได้ชื่อว่า ช่วยมารดาตน ไม่ได้ด้วย

    แม้นว่าจะเปนอรหันต์


    เจ้าของกระทู้ถามว่า เพราะอะไร

    ตอบว่า

    เพราะ "ไม่กำหนดรู้เรื่องขันธ์5"

    กำหนดรู้แล้วได้อะไร

    ขันธ์5 พึงทราบตามตัวอย่างว่า ตราบใด
    ขันธ์ยังปรากฏบนโลก กรรมก้ยังตามไป
    ให้ผล เศษกรรมที่เผ็ดร้อน ตราบนั้น

    ส่วนผู้ละอุปทานขันธ์ได้ ก้หมดสงสัย เม้มปาก แล้วนั่งลง มีจิตพรากจากขันธ์ มีปฐมฌาณ
    เพราะเหตุละกามฉันทะในขันธ์5 หมดความ
    เมาตามความเปนจริง เปนอาธิ ฯ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กรกฎาคม 2017
  9. Chollada.Saowakarn

    Chollada.Saowakarn สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +4
    แบมไม่มีพลังจิตอ่ะค่ะ พยายามตามล่าหาอาจารย์อยู่ แต่ยังหาไม่พบซักที
     
  10. Chollada.Saowakarn

    Chollada.Saowakarn สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +4
    ค่ะ เข้าใจที่เขียนเรื่องกฎที่ว่ามา แต่สุดท้าย คำเดียวที่ยังคาอยู่คือ ความยุติธรรมนะคะ
    ป.ล. เรื่องที่ถามไม่ได้เกี่ยวหรือเกิดกับตัวเพียงแต่คิดลอยๆขึ้นมาว่า เรามักได้ยินหมอดูหรือใครก็ตาม เวลาพูดอะไรไปมาสุดท้ายก็โยนให้เจ้าตัวที่เรียกว่า กรรมเก่า รับบทไปเต็มๆทุกที น่ะสิ
     
  11. Chollada.Saowakarn

    Chollada.Saowakarn สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +4
    แบมพยายามชวนเค้ามาเป็นเพื่อนกันอยู่ตลอดทุกวันนะคะ ไอ้เจ้ากรรมนายเวรเนี่ยะ แต่เค้ายังไม่ยอมตอบสักคำเลย ไม้รู้ต้องง้อยังงัย
     
  12. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    พาเขาไปซื้อทอง ทองกำลังลง แล้วเจ้ากรรมนายเวรเขารู้ว่า ต้องทำยังไงต่อ นี่เรียกว่า เงินหมุน
     
  13. Chollada.Saowakarn

    Chollada.Saowakarn สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +4
    งงเลยค่ะ ไม่เข้าใจประโยคที่ว่ามาเลยจริงๆค่ะ ไม่รู้จักเงินหมุน
     
  14. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    เวลาไปซื้อทอง เจ้ากรรมนายเวรจะตกลงกับวิญญานที่คุมร้านทองค่ะ ว่าจะจำนำทองที่ท่านซื้อในราคาเท่าไร เงินนี้หมุนได้กี่เดือน
    นี่คือวิธีการ จ่าย ให้วิญญานวิธีหนึ่งค่ะ

    แผ่เมตตา ไม่เท่ากับ ไปซื้อทองมาเก็บไว้ เพื่อให้วิญญานเจ้ากรรมนายเวรได้เงินสำรองเอาไปใช้ค่ะ
    เพราะวิญญานต้องใช้เงินเหมือนกันค่ะ
     
  15. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    หรือท่านจะลองซื้อประกันชีวิตสักฉบับก็ได้ค่ะ
    นี่คือวิธี จ่าย ค่ะ
     
  16. Chollada.Saowakarn

    Chollada.Saowakarn สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +4
    อันนี้คือเรื่องจริงเลยรึป่าวคะ เพิ่งเคยได้ยิน
     
  17. Atsadong

    Atsadong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    3,187
    ค่าพลัง:
    +2,751
    โกหกผิดนะคะและเสียดายเวลาด้วยค่ะ
     
  18. ธรรม-กาล

    ธรรม-กาล รอยต่อของลมหายใจ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 พฤศจิกายน 2014
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +65
    เรื่องของกรรม ในความเห็นส่วนตัวนะครับ ไม่ต้องอ้างอิงอะไรเลยเราก็เห็นผลได้ชัดอยู่ทุกวัน
    กรรม ความหมายคือผลของการกระทำ เอาเข้าจริงๆ มันก็ส่งผลให้เราทุกวันนั่นแหละครับ มีเพียงแต่ว่ามันจะออกผลช้าหรือเร็ว บางอันก็ช้ามากๆ บางอย่างก็เร็วมากๆจนเราไม่ทันสังเกตเห็น ทำให้หลายคนคิดไปแต่เชิงความเชื่อกันมากกว่าเลยสามารถยกอ้างออกมากันมากมาย หมอดูก็เอามาใช้ประโยชน์จนเกลื่อน
    ลองใคร่ครวญดูดีๆครับ กรรม หรือการกระทำของเรามีผลสะทะอ้อนอะไรออกมาบ้าง เหมือนเงากระทบแสงหลายดวงครับ ที่มีเงาชัด เงาจาง เงาไกล กรรมที่ออกผลช้าเร็ว ก็มีผลไม่ต่างกัน
    เหมือนเวลาเราทานข้าว ผลระยะสั้นคืออิ่มข้าว แต่ร่างกายก็ชวนหิวข้าว วนไปๆวนมาอีก เลยเป็นกรรมหมุนเวียนไม่รู้จบ
    ระยะกลางที่เรามองไม่เห็นคือกายย่อยสลายของอาหาร ส่งผลให้เกิดการรับพลังงาน และวิตามิน ถูกไหม
    ระยะไกล ก็เกิดโรคต่างๆ มีโรคอ้วนโรคกระดูกพรุน และอื่นๆถูกไหม
    นี่แค่ทานข้าวอย่างเดียวยังมีกรรมออกมามากมายขนาดนี้ แล้วอื่นๆที่เราทำละครับ ลองเทียบเคียงและนั่งพิจารณาดู จะเห็นเอง
    แบบนี้พอเข้าใจเนอะ ส่วนเจ้ากรรมนายเวรอะไรนี่ เรามองไม่เห็น เห็นแค่สิ่งที่ทำปัจจุบัน วิธีอุทิศก็เหมือนเราพยายามขอคืนดีนั่นแหละ แต่เขาจะคืนดีหรือไม่ นั่นอีกอย่าง ส่วนเจ้ากรรมนายเวรที่เป็นผลของการกระทำในอดีต ยังไงก็ต้องรับ เลี่ยงไม่ได้

    ธรรมรักษาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...